ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1318 ฉงต้าเจ็บปวดหัวใจ
ตอนนี้ฉงต้าเป็นหมีโตเต็มวัยที่มีรูปร่างสูงใหญ่แล้ว พอมันวิ่งอยู่บนเกาะล่องแก่ง แล้วเกาะพลาสติกอันเล็กๆ จะไปรับไหวได้อย่างไรกัน? ทันใดนั้นเกาะพลาสติกทั้งอันก็สั่นไหวอย่างรุนแรง
กล้ามเนื้อของหลัวปอแข็งตึงไปทั่วทั้งร่างกาย ขนนุ่มละเอียดสีขาวราวกับหิมะเส้นยาวตั้งตรงขึ้น มันแหงนหน้าถลึงตาใส่ฉงต้าพร้อมกับส่งเสียงร้องคำรามอย่างเดือดดาล “โฮ่งๆ! โฮ่งๆๆๆ!”
ฉินสือโอวหยุดเจ็ทสกี เขาหันกลับไปมอง เขาเข้าใจความหมายจากเสียงเห่าร้องของหลัวปอได้ในทันที ไอ้เซ่อแกอยู่นิ่งๆ เดี๋ยวนี้เลยนะ! นั่งลง! ไม่อย่างนั้นก็ไสหัวออกไปซะ!
ฉงต้าเลือกทางสุดท้าย มันวิ่งบุกเข้าไปหาเรือของพวกชาร์ค พอวิ่งมาถึงริมเกาะล่องแก่งมันก็กระทืบเท้าอย่างแรงแล้วกระโดดลงไปในน้ำ ว่ายน้ำไปทางฟาร์มปลาเหมือนกับทุ่นลูกบอลลอยน้ำ
ราวกับว่าเกาะล่องแก่งกำลังประสบกับแผ่นดินไหว ครึ่งหนึ่งของเกาะจมลงไปในน้ำ เมื่อเป็นเช่นนี้แผ่นพลาสติกอีกครึ่งหนึ่งจึงกระดกขึ้นไปข้างบน พวกสัตว์เลี้ยงที่อยู่บนเกาะก็พากันลื่นจนตกลงไปในน้ำ
หู่จือเป้าจือไม่สนใจ พวกมันว่ายน้ำเป็นอยู่แล้ว ราชาเจ้าป่าซิมบ้าเองก็ไม่ใส่ใจเช่นกัน ก็แค่น้ำ ถ้าดื่มเข้าไป ก็แค่คายออกมา นี่มีอะไรน่ากลัวตรงไหนกัน?
หลัวปอตกใจกลัวจนแทบทนไม่ไหวแล้ว เดิมทีหน้าก็เป็นสีขาวเหมือนหิมะอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะขาวซีดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก…
แต่ว่าอุ้งเท้าของมันยังคงยึดติดอยู่ในร่องบนแผ่นพลาสติกอย่างเหนียวแน่น ทำให้มันไม่ได้ลื่นตกลงไปในน้ำ แต่ห้อยอยู่บนเกาะล่องแก่งแทน เมื่อเป็นแบบนี้พอเกาะล่องแก่งค่อยๆ ลอยขึ้นมามันก็เลยปลอดภัยไม่ตกลงไปในน้ำ
ปอหลัวก็ไม่กลัวน้ำเหมือนกัน หลังจากร่วงลงไปในน้ำมันก็เริ่มดำผุดดำว่ายทันที มันดำน้ำลงไปดูว่าพอจะมีสาหร่ายทะเลที่มันสามารถงมขึ้นมากินได้บ้างไหม
ราชาเจ้าป่าซิมบ้าเองก็ไม่ได้กลัวน้ำ หลังจากร่วงลงไปในน้ำ ซิมบ้าก็ขยับขาทั้งสี่ข้างว่ายน้ำอย่างสบายอกสบายใจ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที สีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนก็หายไปไม่เหลือไว้ให้เห็น ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว แล้วลูกแมวป่าก็ค่อยๆ จมลงไปในน้ำ
ฉินสือโอวหมุนตัวกลับไปมองดูสัตว์เลี้ยงที่กำลังสร้างความวุ่นวายอยู่ในน้ำ หลังจากนั้นเขาก็ถามชาร์คว่า “แมวป่าก็ว่ายน้ำเป็นเหรอ?”
ชาร์คพูดอย่างงงงันว่า “ไม่รู้สิครับ สัตว์ตระกูลแมวน่าจะว่ายน้ำไม่เป็นไม่ใช่เหรอครับ? เขาว่ากันว่าแมวเป็นสัตว์ที่ได้มาจากการฝึกสอนของคนอียิปต์ไม่ใช่เหรอ? อียิปต์ไม่มีทะเล แล้วพวกมันจะว่ายน้ำเป็นได้ยังไง?”
บูลเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “พูดจาไร้สาระ ทะเลแดงไม่ใช่ทะเลเหรอ? ในหนังสืออพยพ ศาสดาพยากรณ์โมเสสผ่านไปที่ไหนกันล่ะ? ไม่ใช่ทะเลแดงหรอกเหรอ?”
แซ็กเห็นด้วยกับบูล จึงพูดขึ้นมาว่า “ใช่ เพื่อน นายพูดถูกทุกอย่างเลย ‘เมื่อเวลานั้นมาถึง เมื่อโมเสสชี้ไม้เท้าไปที่ทะเล พระยโฮวาห์ก็บันดาลให้เกิดลมตะวันออก ทำให้น้ำทะเลถอยกลับอยู่หนึ่งคืน น้ำแยกออกจากกัน ทะเลที่เหือดแห้งกลายเป็นพื้นดิน ชาวอิสราเอลเดินลงสู่พื้นดินบนทะเลที่เหือดแห้ง น้ำกลายเป็นกำแพงขนาบข้างพวกเขาทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาแบบนั้นใช่ไหม?”
นีลเซ็นก็พูดว่า “แมวเบงกอลก็ว่ายน้ำได้นะ แต่ว่า ทำไมพวกเราต้องเถียงกันเรื่องนี้ด้วย? บอส แมวป่าว่ายน้ำไม่ได้นะ พวกมันอาศัยอยู่บนต้นไม้กับในพื้นหิมะ จะว่ายน้ำเป็นได้ยังไง?”
ฉินสือโอวชะงักงันไปทันที ต่อจากนั้นเขาก็สบถออกมาว่า ‘ชิท’ แล้วกระโดดจากเจ็ทสกีลงไปในทะเล จิตสำนึกแห่งโพไซดอนมองหาลูกแมวป่าจนเจอ เจ้าเด็กนี่ว่ายน้ำไม่เป็นจริงๆ ขาเล็กสั้นทั้งสี่ข้างปัดป่ายไปมาอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ตัวของมันก็ยังจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ
เขากลัวว่าลูกแมวป่าจะเป็นอะไรไป ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนม้วนเอามันขึ้นมา ส่งมันขึ้นมาให้พ้นผิวน้ำ หลังจากนั้นเขาก็ว่ายน้ำเข้าไปหาลูกแมวป่าอย่างรวดเร็ว แล้วพามันขึ้นไปอยู่บนเกาะล่องแก่ง
นีลเซ็นที่อยู่บนเรือพูดขึ้นมาว่า “ร่างกายของแมวป่าไม่เหมาะกับการว่ายน้ำ เพื่อให้อุ้งเท้าของพวกมันปรับตัวเข้ากับการเดินบนพื้นหิมะ มันเลยมีขนที่ยาวมาก เหมือนกับสวมรองเท้าบูตกันหิมะ ฉันขอถามพวกนายหน่อย มีตัวอะไรบ้างที่สวมรองเท้าบูตกันหิมะแล้วยังว่ายน้ำได้?”
ฉินสือโอวลองหันไปมองดู ขนเส้นบางละเอียดบนขาสั้นเล็กของราชาเจ้าป่าซิมบ้าเปียกจนกลายเป็นกลุ่มก้อน ถ้าให้มันสะบัดขาว่ายน้ำภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ก็นับว่ารังแกกันเกินไปแล้วจริงๆ
“แล้วทำไมนายไม่รีบบอกตั้งแต่แรก?” ฉินสือโอวถลึงตาใส่นีลเซ็นอย่างคนอารมณ์ไม่ดี
นีลเซ็นไหวไหล่ “ผมไม่ทันสังเกต ผมแค่อยากรู้ว่า ฉงต้าว่ายน้ำมาทางพวกเราทำไม?”
เรื่องนี้ฉินสือโอวก็เพิ่งรู้ว่าเมื่อสักครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้น เขากล่าวว่า “ใครเป็นคนแขวนปลาไว้บนเรือ? นี่คือปลาอะไร? ทำไมถึงได้แขวนไว้เยอะขนาดนี้?”
ด้านนอกตรงด้านข้างเรือที่ขับมามีปลาตัวอ้วนหลายสิบตัวที่ถูกร้อยเข้าไว้กับเส้นเอ็นตกปลา ปลาพวกนี้มีสีแดงทั่วทั้งตัว กำลังแกว่งไปแกว่งมาอาบแสงแดดอยู่ตรงนั้น คิดว่าฉงต้าน่าจะเห็นแล้วเกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นมา
ชาร์คชี้ไปที่ปลาที่แขวนไว้ข้างนอกพวกนั้นแล้วพูดอย่างยิ้มๆ ว่า “นั่นคือปลากะพงแดงครับ เรียกอีกอย่างว่าปลาแดง เหมาะกับการนำมาทำเป็นปลาตากแห้งมากๆ เพราะพวกมันไม่ดึงดูดแมลงวัน”
ฉินสือโอวพยักหน้ารับ นีลเซ็นบอกให้บูลขับเรือเข้าไปใกล้ๆ แล้วส่งผ้าขนหนูที่ยังแห้งอยู่ให้กับเขาหนึ่งผืนพร้อมกับบอกว่า “รีบเช็ดตัวลูกแมวป่าให้แห้งเถอะครับ สัตว์ตระกูลแมวนอกจากเสือดาว แมวเบงกอลกับพวกที่เหลืออีกไม่กี่ชนิด พวกสัตว์ชนิดอื่นในตระกูลแมวถ้ามีน้ำเกาะอยู่บนตัวนานๆ ต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่”
ฉินสือโอวปีนขึ้นไปบนเกาะล่องแก่ง แล้วย้ายแมวป่ามาอยู่ตรงกลาง
หลัวปอคลานไปข้างหน้าอย่างผู้มีประสบการณ์ มันเคลื่อนที่ทีละก้าวไปจนถึงตรงกลาง หลังจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา แล้วมุดหัวเข้าไปในอ้อมกอดของฉินสือโอว ไม่ยอมแม้กระทั่งจะหันไปมองดูทะเล ไม่มองก็ไม่เห็นจะได้ไม่ต้องกลัว
หลังจากเล่นกันอยู่ในน้ำได้สักพักหู่จือก็อยากปีนขึ้นมาบ้าง ฉินสือโอวเข้าไปผลักมันลงน้ำอีกครั้ง พอเป้าจือจะปีนขึ้นมาจากอีกฝั่ง เขาก็วิ่งไปผลักมันลงน้ำอีกรอบ
หู่จือกับเป้าจือรู้สึกกระปรี้กระเปร่าคึกคักขึ้นมาทันที พวกมันชอบเล่นมากจริงๆ พอเห็นว่าฉินสือโอวยอมเล่นเป็นเพื่อน พวกมันก็ไม่เหน็ดไม่เหนื่อยอีกต่อไป พากันว่ายน้ำรอบเกาะล่องแก่ง แล้วหลังจากนั้นก็ปีนขึ้นมา
ฉินสือโอววิ่งไปผลักพวกมันให้ลงไปจากเกาะ ปอหลัวมองดูอยู่สักพักแล้ว มันก็รีบว่ายน้ำเข้ามาหาเพราะอยากเล่นเกมด้วยเหมือนกัน ในตอนนี้ฉงต้าที่กินปลาแดงไปสองตัวก็กำลังกลับมาหาอย่างอืดอาดเชื่องช้า แน่นอนว่า ฉินสือโอวก็ไม่ยอมปล่อยให้มันขึ้นมาบนเกาะล่องแก่งเหมือนกัน
ฉงต้ากระวนกระวายใจขึ้นมาแล้ว มันยื่นอุ้งเท้าใหญ่ออกไปตบเกาะล่องแก่งอย่างแรง อีกนิดเดียวก็จะทำให้เกาะล่องแก่งคว่ำแล้ว
ซิมบ้ากับหลัวปอตกใจกลัวจนฉี่แทบราด จนพากันขู่คำรามใส่ฉงต้าไม่หยุด
ฉินสือโอวลากฉงต้าให้ว่ายน้ำออกไปไกลๆ หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นไปบนเจ็ทสกี แล้วเร่งคันเร่งลากเกาะล่องแก่งออกไป
ฉงต้าร้อนใจจะแย่แล้ว มันปัดป่ายอุ้งเท้าที่ทั้งใหญ่ทั้งหนาอย่างแรง พยายามยื่นคอออกมาให้พ้นผิวน้ำ พร้อมกับร้องสะอึกสะอื้นครวญครางเรียกหาฉินสือโอว
ฉินสือโอวขับห่างออกไปอีกนิด เขายิ้มแล้วหันหลังกลับมามองดู ทันใดนั้นเขาก็พบว่าฉงต้าไม่ได้ตามมาด้วยแล้ว แต่ลอยตัวอยู่บนผิวน้ำแล้วจ้องมองเขาอยู่อย่างนั้น
พอเห็นว่าฉงต้าไม่เล่นด้วย ฉินสือโอวเลยต้องขับกลับไปหามัน แต่ปรากฏว่าพอเข้าไปใกล้ๆ เขาก็ถึงกับตกใจอย่างหนัก ดวงตาของฉงต้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ถึงแม้ว่าบนตัวบนหัวของมันจะมีแต่น้ำทะเล แต่ฉินสือโอวก็แยกได้ว่าอันไหนคือน้ำทะเลแล้วอันไหนคือน้ำตาของมัน
เกาะล่องแก่งกลับมาแล้ว แต่ฉงต้าก็ไม่ได้ปีนขึ้นไป มันเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองมาที่ฉินสือโอว หยาดน้ำตาไหลออกมาจากดวงตากลมโตของมันอยู่เนืองๆ
ฉินสือโอวรีบลงน้ำเพื่อไปกอดมัน เขายื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้มัน หลังจากนั้นก็ดันมันขึ้นไปบนเกาะล่องแก่ง ในตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกเสียใจแล้ว เมื่อกี้เขาเล่นแรงเกินไป ทำให้ฉงต้าตกใจจนแทบแย่แล้ว
เขาตามมันขึ้นมาบนเกาะล่องแก่ง หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดขนให้ฉงต้า แต่ฉงต้าก็ไม่สนใจเขา มันฟุบอยู่บนเกาะล่องแก่งมุดหัวเข้าไปในอุ้งเท้าหน้าทั้งสองข้าง เหมือนกับว่ากำลังนอนหลับอยู่ ไม่ว่าใครจะผ่านเข้ามามันก็ไม่สนใจทั้งนั้น
รอจนกลับมาถึงฝั่ง ฉงต้าก็ลุกขึ้นมา แล้วเดินกลับไปที่วิลล่าด้วยความหดหู่ไม่มีชีวิตชีวา ฉินสือโอวเข้าไปสางขนบนหลังให้มัน ปกติเวลาที่เขาทำแบบนี้ ฉงต้าจะให้ความร่วมมือด้วยการพลิกตัวปล่อยให้เขาแกล้งจั๊กจี้มันเล่น
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว ฉงต้าเดินก้มหน้าอยู่ตัวเดียว มันเดินเข้าไปในวิลล่าพร้อมกับสูดจมูกสะอึกสะอื้น แล้วมุดตัวเข้าไปในอ้อมกอดของวินนี่ทันที
หลัวปอกับราชาเจ้าป่าซิมบ้าก็อยากให้ปลอบใจพวกมันเหมือนกัน เดิมทีพวกมันก็อยากวิ่งเข้าไปแย่งชิงอ้อมกอดของวินนี่จากฉงต้า แต่เมื่อเห็นท่าทางของฉงต้าแล้ว สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวก็ยอมหยุดอยู่อีกฝั่ง นั่งมองมันตาปริบๆ อยู่ทางด้านข้างอย่างช่วยอะไรไม่ได้
……………………………………………..