ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1325 ง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ
วันต่อมาในช่วงเวลาที่แทบจะเท่ากับเมื่อวาน หู่จือกับเป้าจือก็พากันเห่าร้องขึ้นมาอีกครั้ง พอฉินสือโอวออกไปดู ก็พบว่าคราวนี้เป็นคนของบริษัทเรนโบว์คอทเทจ พวกเขาจ้างรถขนสินค้าคันหนึ่งจากในเมืองเพื่อนำวัสดุมาส่ง
การสร้างคอกม้าต้องใช้วัสดุอุปกรณ์จำนวนมาก ฉินสือโอวจึงให้แบล็คไนฟ์กับชาร์คเช็กของที่ได้รับเทียบกับรายการสินค้าทีละรายการ เพราะนี่ไม่ใช่กระท่อมธรรมดาๆ ราคาของมันไม่ได้น้อยเลย คอกม้าหนึ่งคอกมีราคาถึงสามหมื่นแปดพันดอลลาร์ สำหรับครอบครัวคนธรรมดาแล้วนี่แทบจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับหนึ่งปีเลยด้วยซ้ำ
สินค้าราคาสูงย่อมได้รับการบริการคุณภาพสูงตามไปด้วย เมื่อก่อนตอนที่มาส่งกระท่อมแบบประกอบ พอคนงานมาส่งของเสร็จก็พากันกลับเลยทันที ทว่าคราวนี้มีวิศวกรคนหนึ่งติดตามมาด้วย ซึ่งเขารับปากกับฉินสือโอวว่าจะช่วยมุงคอกม้าด้วย
แต่บริษัทในแคนาดาก็ยึดถือหลักการในการทำงานเป็นอย่างมาก บริษัทเรนโบว์คอทเทจจะช่วยเขามุงคอกม้า แต่แท้ที่จริงแล้วพวกเขาแค่ส่งวิศวกรมาคอยควบคุมดูแลการทำงานเท่านั้น วิศวกรคนนี้พูดอย่างชัดเจนว่า เขาไม่ได้จะช่วยลงแรงทำงาน ถ้าเขาจะต้องลงแรง ก็ต้องเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ฉินสือโอวจึงแอบคิดในใจว่าแม่เอ็งสิ ในมือของฉันมีคนเก่งๆ อยู่ตั้งหลายคน จะให้แกช่วยทำงานทำซากอะไร?
ขณะที่กำลังเช็กรายการสินค้า หู่จือกับเป้าจือก็แหงนหน้าเห่าขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อฉินสือโอวมองตามแนวสายตาของสุนัขแลบราดอร์ เขาก็ได้พบกับเงาร่างของคนสองคนที่กำลังทำท่าทางหมดอาลัยตายอยาก สองคนนั้นคือคาปาไลกับซ่งชิงซานนั่นเอง
พอเห็นว่าที่ประตูทางเข้าของฟาร์มปลามีคนอยู่เยอะ ทั้งสองคนก็พูดเสียงเบาอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ไม่กี่ประโยค หลังจากนั้นค่อยย้ายไปยืนเบียดกันอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
ฉินสือโอวเห็นว่าเสื้อผ้าของพวกเขาทั้งคู่สกปรกเลอะเทอะไปหมด บนหน้าผากกับบนแขนมีแต่เม็ดเหงื่อที่ไหลออกมา ทำให้เขารู้ว่าทั้งสองคนกำลังเผชิญความทุกข์ยากอยู่ไม่น้อย เขาจึงถอนหายใจออกมาแล้วเข้าไปถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”
ซ่งชิงซานกลืนน้ำลายลงไปต่อจากนั้นก็ตอบเขาว่า “ขอบคุณนะครับที่ช่วยพวกเราเอาไว้เมื่อวาน คุณฉิน แต่พวกเราไปถึงที่นั่นช้าเกินไป บริษัทใจทรามนั่นพากันหนีไปแล้ว มีคนหลงเชื่อพวกมันอยู่หลายคน พวกเราไปแจ้งความแล้ว แต่ตำรวจไม่ได้รับปากว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะสะสางคดีได้สำเร็จ”
ที่แคนาดาไม่ว่าอะไรก็ดีไปหมด หน่วยงานที่รับผิดชอบก็สุจริตโปร่งใส เพียงแต่อัตราความสำเร็จต่ำ ซึ่งเห็นได้จากการทำงานตำรวจนั่นเอง อัตราความสำเร็จในการไขคดียังพอใช้ได้ แต่ติดตรงที่พวกเขาทำงานได้ช้าจนเกินไปนี่แหละ
ฉินสือโอวพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ทำไมพวกคุณถึงถูกหลอกได้ล่ะ? พอได้งานมาก็น่าจะรีบไปทำงานเลยใช่ไหม แล้วแบบนี้ถ้ามีปัญหาพวกคุณก็ต้องรู้ตั้งแต่ทีแรกแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ซ่งชิงซานพูดกับเขาอย่างเศร้าซึม “ตำรวจบอกว่าบริษัทนายหน้าผิดกฎหมายพวกนี้จงใจหลอกคนที่เพิ่งอพยพมาใหม่โดยเฉพาะ ตอนแรกผมหางานผ่านบริษัทนั้น ที่จริงเขาหางานร.ป.ภ ให้ผมแบบไม่คิดเงิน แต่นั่นมันเป็นแค่งานหลอกๆ ผมทำงานได้วันเดียวบริษัทนั้นก็ไล่ผมออกจากงาน”
“ต่อมาผมกลับไปหาบริษัทนายหน้าอีกครั้ง พวกเขาแนะนำงานที่ฟาร์มปลาให้ผม แต่ก็อ้างว่าเพราะผมมีประวัติไม่ดีมาก่อน จำเป็นต้องให้ผมต้องจ่ายเงินประกัน คาปาไลก็โดนหลอกแบบนี้เหมือนกัน หลังจากที่พวกเราจ่ายเงินประกันไปแล้ว จะยังไม่ได้เริ่มงานทันที พวกเขาหลอกเราว่าตอนนั้นฟาร์มปลาของคุณยังไม่ขาดคนงาน ต้องรอให้ชาวประมงลาออกก่อนสักสองสามวันถึงจะให้พวกเราไปทำงานแทนคนที่ลาออกไป”
เมื่อฟังที่ซ่งชิงซานเล่าจบ ฉินสือโอวก็เข้าใจแล้ว แท้ที่จริงแล้วพวกบริษัทนายหน้าผิดกฎหมายใช้วิธีหาเงินด่วนนั่นเอง พวกเขาจะเช่าสถานที่เป็นระยะเวลาสั้นๆ หลังจากเรียกเก็บเงินจากคนงานที่ตอบรับการว่าจ้างแล้ว พอผ่านไปเจ็ดวันหรือสิบวันก็จะให้พวกเขาไปที่บริษัทสักแห่งหนึ่ง
รอจนถึงวันที่คนงานเหล่านั้นไปทำงาน พอพวกเขาส่งจดหมายแนะนำเสร็จแล้วก็จะหอบเงินหนีไปทันที พอถึงตอนนั้นการซ่อนตัวในประเทศแคนาดาที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ บางพื้นที่ห่างไกลจากผู้คนหลายร้อยกิโลเมตร ก็เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ใช่เหรอ?
หลังจากพูดจบ ซ่งชิงซานก็มองไปที่ฉินสือโอว แล้วพูดกับเขาว่า “คุณฉิน พวกเราไปถามคนอื่นมา ได้ยินมาว่าคุณเป็นคนจีนใจบุญสุนทานที่ เป็นคนใหญ่คนโตในนครเซนต์จอห์น ทั้งยังเป็นคนที่มากความสามารถ คุณช่วยหางานให้พวกเราทำหน่อยได้ไหมครับ? คุณก็เห็นว่าฟาร์มปลาของคุณมีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้ แบบนั้นก็น่าจะยังขาดคนงานใช่ไหมละครับ? ผมกับพี่ใหญ่คาปาไลทนความลำบากได้ ไม่ว่างานอะไรพวกเราก็ยอมทำ”
ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนๆ ออกมา เขาเป็นคนใจบุญสุนทานมากความสามารถที่ไหนกันล่ะ ฟาร์มปลามีพื้นที่กว้างใหญ่จริงๆ แต่เขาไม่ได้ขาดแคลนคนงานสักหน่อย และต่อให้ขาดคนจริงๆ สองคนนี้ก็ทำงานในทะเลไม่เป็นอยู่ดี
แต่จะปฏิเสธเลยทันทีก็คงจะไม่ดี ฉินสือโอวจึงถามพวกเขาก่อนว่า “เสี่ยวซ่ง ในเมื่อนายยอมทนความลำบากได้ แล้วทำไมถึงได้อพยพมาที่แคนาดาล่ะ? ทำไมไม่อยู่ที่จีนต่อ?”
ซ่งชิงซานจึงพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดกลัดกลุ้มใจว่า “ผมไม่ได้อพยพมา ผมมีปัญญาทำแบบนั้นที่ไหนกัน? ผมเป็นแรงงานส่งออก ที่แคนาดาได้รายรับสูงผมเลยอยากมาที่นี่เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว”
เขาลองคำนวณเงินให้ฉินสือโอวดู ขอแค่ยอมทำงานสกปรกงานเหนื่อยงานหนัก รายได้เดือนหนึ่งที่แคนาดานับว่าไม่น้อยเลย พวกเขาจะหาเงินได้มากถึงหกพันดอลลาร์ และหากเป็นแรงงานมีฝีมือจะสามารถหาเงินได้มากตั้งแต่แปดพันดอลลาร์ไปจนถึงหนึ่งหมื่นดอลลาร์
และถ้าประหยัดหน่อยหนึ่งเดือนใช้เงินแค่ประมาณพันสองพันดอลลาร์ก็เพียงพอแล้ว ไม่ว่ายังไงก็สามารถเก็บเงินได้ถึงห้าพันดอลลาร์ อีกทั้งเงินห้าพันดอลลาร์เมื่อแปลงเป็นเงินหยวนจะเท่ากับสองหมื่นห้าพันหยวน ผู้ใช้แรงงานธรรมดาๆ ในประเทศจีนจะหาเงินมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
คาปาไลเป็นชาวคิวบา ที่บ้านเก่าของเขามีรายได้ที่ต่ำยิ่งกว่า เพื่อจะมาทำงานที่แคนาดาครอบครัวของเขาต้องเป็นหนี้ต่างประเทศถึงจะส่งเขามาที่นี่ได้ แต่ปรากฏว่าพอเขามาถึงแคนาดากลับโดนคนหลอกเอาเงินไปแปดร้อยดอลลาร์ ซ่งชิงซานเล่าให้ฟังว่าเขาเจ็บปวดใจมากจนนอนไม่หลับเลยทั้งคืน
ฉินสือโอวส่ายหัวไปมา พวกนักต้มตุ๋นนี่น่าขยะแขยงเหลือเกิน แคนาดาต้องเพิ่มการควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยของสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วจริงๆ นักต้มตุ๋นประเภทนี้ต้องถูกจับมาทั้งหมด แล้วลงโทษขั้นรุนแรง ในความคิดของเขาพฤติกรรมรังแกเอารัดเอาเปรียบคนที่อ่อนแอกว่าแบบนี้ เป็นเรื่องที่สร้างความเดือดดาลให้กับผู้คนอย่างแท้จริง
ฟาร์มปลาไม่มีงานที่เหมาะกับพวกเขา ฉินสือโอวเห็นคนทั้งคู่เหงื่อออกจนท่วมตัว เขาจึงให้ทั้งสองเข้ามาพักผ่อนก่อนสักครู่ เขาจะลองคิดดูว่ามีงานที่อะไรที่พอจะเหมาะกับพวกเขาทั้งสองคนบ้าง
คิดอยู่สักครู่ เขาก็โทรศัพท์ไปหาวินนี่ แล้วเล่าสถานการณ์ในตอนนี้ให้เธอฟังอย่างคร่าวๆ
วินนี่พูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม “คุณอยากช่วยพวกเขาเหรอคะ คุณฉินคนใจบุญ?”
ฉินสือโอวก็ตอบเธอกลับไปด้วยความขุ่นเคือง “อย่าล้อเล่นนะครับ ในความคิดของผมพวกเขาไม่มีอะไรเลย แต่วินนี่คุณไม่ได้เห็นพวกเขาอย่างที่ผมเห็น สองคนนี้น่าสงสารมากจริงๆ ถ้าช่วยได้เราก็ช่วยพวกเขาสักหน่อยเถอะ เป็นลูกมีพ่อมีแม่ มีครอบครัวให้เลี้ยงดูด้วยกันทั้งนั้น เอาใจเขามาใส่ใจเราเถอะ”
วินนี่กล่าวว่า “โอเคค่ะ คุณลองถามหน่อยว่าพวกเขายินดีที่จะทำงานทำความสะอาดไหม บริษัทท่องเที่ยวของเมืองนี้เจริญเติบโตขึ้นทุกวัน เริ่มมีปัญหาเรื่องความสะอาดแล้ว ฉันกำลังวางแผนว่าจะขยายแผนกทำความสะอาดอยู่พอดี”
ที่แคนาดางานทำความสะอาดมีเงินเดือนและสวัสดิการที่สูงมาก งานทำความสะอาดกับบรรณารักษ์และพนักงานบริการเทศบาลเมืองเป็นของ “สมาคมแรงงานเทศบาลเมือง” ซึ่งมีเงินเดือนและสวัสดิการที่ดีมาก พนักงานทำความสะอาดธรรมดาๆ คนหนึ่งจะมีรายได้ประมาณชั่วโมงละ 30 ดอลลาร์ ค่าจ้างรายปีอยู่ที่ราวๆ หนึ่งหมื่นสองพันดอลลาร์แคนาดา
แต่นี่สำหรับพนักงานทำความสะอาดที่ ‘มีการจัดสรรตำแหน่ง’ เท่านั้น การจัดสรรตำแหน่งในที่นี้หมายถึงถูกรับเข้ามาอยู่ในสมาคมแรงงานเทศบาลเมือง ไม่ใช่พนักงานทำความสะอาดทุกคนที่จะมีรายรับสูงถึงขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นวัยรุ่นหนุ่มสาวจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยไปทำไมกัน?
เมืองแถบชนบทอย่างเมืองแฟร์เวล พนักงานทำความสะอาดไม่มีทางได้เงินเดือนและสวัสดิการแบบนั้นแน่ เงินเดือนที่ได้จะน้อยลงครึ่งหนึ่ง ประมาณห้าพันดอลลาร์และงานที่ทำก็ยากลำบาก
ฉินสือโอวลองพูดให้ซ่งชิงซานกับคาปาไลฟังดูคร่าวๆ ทั้งสองคนยังไม่ทันฟังจบก็รีบพากันพยักหน้าแล้ว ทั้งยังพูดอย่างดีใจว่า “ทำ พวกเราจะทำครับ! คุณฉิน ขอบคุณคุณจริงๆ!”
ฉินสือโอวมอบนามบัตรของตัวเองให้พวกเขาเก็บเอาไว้ พร้อมกับพูดว่า “พวกคุณไปที่เทศบาลเมืองได้เลยนะ เอานามบัตรของผมไปให้นายกเทศมนตรี เธอจะช่วยจัดการให้พวกคุณเอง”
ทั้งสองคนแสดงความซาบซึ้งที่มีต่อเขาอย่างล้นเหลือแล้วจึงจากไป ในตอนนี้นีลเซ็นและคนอื่นๆ ที่ยืนดูอยู่ทางด้านข้างก็เข้ามาถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
พอฉินสือโอวเล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟังจนจบ นีลเซ็นก็ยกนิ้วโป้งให้พร้อมกับพูดว่า “บอส คุณเป็นคนดีจริงๆ แถมยังมีเสน่ห์เหลือล้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย”
พอแล้วล่ะ ได้รับบัตรคนดีมาหนึ่งใบฉินสือโอวจึงยิ้มแล้วผลักเขาไปหนึ่งที “เอาล่ะๆ ฉันก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ นี่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องความมีเสน่ห์? เตรียมตัวทำงานได้แล้ว ลองดูหน่อยว่าบ่ายวันนี้จะประกอบคอกมาได้หรือเปล่า”
……………………………………………….