ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1359 สวัสดี เจ้าสาว
ในที่สุดก็ทำให้บูลตื่นได้ โทรศัพท์ฉินสือโอวดังขึ้นมา เป็นพ่อของเขาที่ถามว่าเขาอยู่ไหน ทำไมยังไม่รีบกลับมา
ฉินสือโอวบอกว่าเขาจะกลับไปเดี๋ยวนี้ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้สะอาดและบินกลับด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่เบิร์ดเตรียมไว้ให้
กลุ่มคนที่เหลือเรียกรถมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือ เรือยอชต์ของฟาร์มปลายังจอดอยู่ตรงนั้น พวกเขาก็ต้องรีบกลับไปเช่นกัน
เมื่อเขากลับไปถึงฟาร์มปลา เครื่องบินที่ตกแต่งลวดลายด้วยตราสัญลักษณ์สหราชอาณาจักรก็ร่อนลงที่สนามบินอย่างช้าๆ เหนือเครื่องบินลำนี้ยังมีเครื่องบินรบประกบอยู่ด้วย เท่โคตรๆ
เครื่องบินรบลำนี้รุ่น CF-188B ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่หลักของกองทัพแคนาดา ถึงแม้ว่าเครื่องบินลำนี้จะถือว่าล้าสมัยแล้วในสนามรบปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นอาวุธของประเทศ ก็เป็นครั้งแรกที่ฉินสือโอวเห็นของเล่นชิ้นนี้ใกล้ขนาดนี้
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เครื่องบินรบลำนี้คอยคุ้มกันเจ้าชายน้อยแห่งอังกฤษอยู่ การปรากฏตัวของเจ้าชายเฮนรีก็เล่นใหญ่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ไม่ใช่แค่ฉินสือโอว คนส่วนมากที่นี่ต่างเห็นเครื่องบินรบเป็นครั้งแรก จึงออกมาเยี่ยมชมด้วยความสงสัยใคร่รู้ แต่เครื่องบินรบก็แค่บินอยู่ที่ระดับความสูงต่ำหมุนวนรอบไปสองรอบ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเสร็จภารกิจก็จากไปทันที
วันนี้เจ้าชายเฮนรีสวมสูทเรียบร้อย ดูสดชื่นและเปิดเผยไร้กังวล เขาเดินลงมาจากเครื่องบิน ฉินสือโอวรีบยื่นมือออกไปก่อน “ยินดีต้อนรับใต้ฝ่าพระบาท ยินดีต้อนรับครับ”
เจ้าชายน้อยพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ แล้วพูดติดตลกว่า “ผมมาแบบนี้ไม่ค่อยจะเหมาะสมหรือเปล่า? ดูเหมือนว่าผมจะกลายเป็นจุดสนใจหรือเปล่า? ซีนที่ควรจะเป็นของเจ้าบ่าวถ้าถูกผมแย่งไป คงไม่สู้ดี”
ฉินสือโอวหัวเราะ แล้วพูดขึ้น “พระองค์นับวันจะเริ่มหน้าหนาขึ้นเรื่อยๆ นะครับ ผมชื่นชมพระองค์จริงๆ พระองค์รู้ไหมว่าตอนนี้สถานการณ์การจ้างงานในแคนาดาไม่ดีเท่าไร ถ้าพระองค์หางานไม่ได้ ผมมีตำแหน่งชาวประมงมาเสนอให้ครับ”
เจ้าชายเฮนรีมองไปที่เรือที่มาจอดอยู่ตรงท่าเรือ แล้วพูดขึ้น “ถ้าเช่นนั้นผมคงต้องพิจารณาดีๆ แล้ว นี่เป็นข้อเสนอที่ดึงดูดมากเลย ไม่ใช่เหรอ?”
ทั้งคู่เดินพูดคุยไปหัวเราะไป เจ้าชายเฮนรีพาผู้ติดตามส่วนพระองค์มาด้วย ล้วนเป็นชายอังกฤษร่างกายแข็งแรงที่มีสายตาเฉียบคม มีคนกางร่มกันแดดให้กับเขาบนชายหาด ฉินสือโอวจึงให้เขาไปพักผ่อนก่อน เพราะงานแต่งงานเริ่มตอน 11 โมงตรง
ขณะนี้มีผู้คนหลายร้อยคนที่ฟาร์มปลา เพื่อนสมัยเรียนของเขา เพื่อนสมัยเรียนของวินนี่ ฝ่ายญาติของเขา ฝ่ายญาติของวินนี่ เจ้าหน้าที่สำคัญที่แฮมเล็ตพามา บุคลากรในเมือง รวมถึงแขกผู้มีเกียรติคนสำคัญที่ทั้งฉินสือโอวและวินนี่เชิญมา ยังดีว่าพื้นที่ในฟาร์มปลากว้างใหญ่ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถรองรับคนได้พอ
คนเหล่านี้ล้วนมีที่นั่ง และก็มีที่สำหรับสนุกสนาน บริษัทออแกไนเซอร์งานแต่งแบ่งบุคลากรของเขาได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ไวส์และกอร์ดอนกำลังเล่นกันอยู่ จอร์จมองฉากนี้ไปก็ยิ้มไป ฉินสือโอวเดินเข้าไปถาม “สวัสดีครับ จอร์จ ผมจะแนะนำเพื่อนสมัยเรียนผมสักหน่อย คุณสนใจไหม?”
จอร์จพูดขึ้น “ไม่ต้องแล้วฉิน คุณไปเคลียร์งานคุณเถอะ จริงๆ แล้วผมก็เคยเจอแล้ว”
ฉินสือโอวผงะ แต่ในเมื่อพูดแบบนี้แล้ว เขาก็ถือว่าจบไปหนึ่งเรื่อง แล้วถามต่ออย่างสุภาพว่า “โอ้ พวกเขาเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
จอร์จยิ้มแล้วตอบว่า “เป็นวัยรุ่นที่ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ว่าคุณไม่เหมือนกับพวกเขา”
ฉินสือโอวพูดล้อเล่นว่า “คุณจะคาดหวังสูงเกินไปไม่ได้ ฉินสือโอวที่ทั้งหนุ่มและหล่อมีหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ใครทุกคนจะมีความสามารถโดดเด่นเหมือนผม พอละ ผมโม้เรียบร้อยแล้ว ความหมายของผมก็คือ พวกเขาไม่มีฟาร์มปลาต้าฉิน ก็เลยอาจจะไม่มีโอกาสแสดงความสามารถของตัวเอง แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเก่งทุกคนเลยล่ะครับ”
จอร์จส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ใช่นะฉิน สิ่งที่พวกคุณมีไม่เหมือนกันไม่ใช่ความแตกต่างด้านความสามารถ แต่เป็นจิตใจ”
เขาคิดเล็กน้อยแล้วก็พูดต่อ “ฉิน ครั้งแรกที่เราเจอกัน คุณก็พูดคุยกับผมเหมือนเพื่อนธรรมดาคนหนึ่ง เมื่อกี้ที่คุณพูดคุยกับเจ้าชายเฮนรี ก็ให้ความรู้สึกแบบนั้นกับผมเหมือนกัน ในสายตาของคุณ ทุกคนในโลกเหมือนกันหมด ในสายตาของคุณ ตำแหน่งและเงินทองก็เหมือนกับเมฆที่ลอยอยู่ ซึ่งผมชื่นชมจิตใจแบบนี้ของคุณมากๆ แต่ต้องขอโทษด้วยนะที่พูดตรงๆ เพื่อนสมัยเรียนและเพื่อนของคุณน่ะไม่มีหัวใจแบบนี้”
ฉินสือโอวยิ้ม เขาเข้าใจความหมายของจอร์จ ราชาแห่งเหล็กกล้าค่อนข้างจะพูดอ้อมๆ ความหมายจริงๆ แล้วก็คือ เขาเจอใครก็เย่อหยิ่งไม่กลัวใคร
แต่นี่แปลกอะไรตรงไหนล่ะ? ฉันคือโพไซดอน ฉันเป็นเพื่อนกับพวกคุณนี่ก็นับว่าให้เกียรติมากแล้วรู้หรือไม่? เจ้าชายน้อยอะไรนั่นก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเหรอ? ในสายตาของโพไซดอน มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกันหมด เท่าเทียมตลอดชีวิต…
จากนั้นเรือยอชต์สีขาวเรียบๆ ก็ขับเข้ามา แมทธิว จินลงมาจากเรือ ข้างกายเขามีผู้คุ้มกัน 4 นายในชุดเครื่องแบบตำรวจ ตอนที่เขาลงจากเรือ เขากระซิบอยู่คำสองคำ ผู้คุ้มกันทั้งสี่ก็จับกระบอกปืนแล้วยืนอยู่รอบๆ
ในขณะที่ฉินสือโอวที่กำลังจัดหาที่ทางให้แมทธิว จินอยู่ ก็มีเครื่องบินลำหนึ่งบินมา ค่อยๆ ร่อนลงอย่างช้าๆ หัวของเครื่องบินลำนี้ใหญ่มาก ดัดแปลงมาจากแอร์บัส เกือบจะจอดลงบนสนามบินของฟาร์มปลาต้าฉินไม่ได้
แน่นอนว่า เครื่องบินที่ดูโอเวอร์ขนาดนี้เป็นได้แค่ของเศรษฐีทางตะวันออกกลางเท่านั้น เจ้าชายฮามานแดนและเจ้าหญิงซาลามาห์มาถึงแล้ว
เมื่อลงจากเครื่อง เจ้าชายน้อยก็ประทับรอยจูบบนหลังฝ่ามือของวินนี่ก่อนตามธรรมเนียม เมื่อเห็นแววตาของเจ้าชายที่ยังดูมึนๆ ฉินสือโอวก็คิดว่าเขาเหมือนยังสะลึมสะลืออยู่
การแสดงออกของเจ้าชายน้อยมันช่างน่าทรมานใจจริงๆ ฉินเอ๊ย นี่เป็นแววตาที่อกหักของเจ้าชาย โอเคไหม?
เมื่อแขกมากันครบแล้ว ฉินสือโอวและวินนี่ก็จัดให้คนมาดูแลต้อนรับแขก หลังจากนั้นพวกเขาก็ไปเปลี่ยนชุด เตรียมงานแต่งที่จะจัดในโบสถ์ก่อน
ขั้นตอนงานแต่งงานแสนเรียบง่าย ฉินสือโอวมาถึงโบสถ์ที่รอบๆ ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สด ยืนอยู่บนพรมแดงหน้าประตูทางเข้า ด้านหน้าเป็นซุ้มประตูประดับประดาด้วยดอกไม้และเถาวัลย์เป็นซุ้มๆ ไล่ไป ด้านข้างของแต่ละซุ้มก็จะมีเพื่อนเจ้าบ่าวหรือเพื่อนเจ้าสาวยืนอยู่ ด้านซ้ายเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ด้านขวาเป็นเพื่อนเจ้าสาว
จากนั้นขบวนรถยี่ห้อต่างๆ ก็ขับเป็นขบวนๆ ตามกันมา ซึ่งจุดนี้ต่างจากงานแต่งงานที่ประเทศจีน ประเพณีของเมืองเซนต์จอห์น รถของเจ้าสาวจะถูกจัดหาให้โดยเพื่อนบ้านหรือญาติ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องหรูหรา สง่างาม แต่กลับยิ่งเป็นรถเก่ายิ่งดี
ขบวนรถพวกนี้ต่างเป็นรถของพวกชาวประมง รถนำหน้าสุดของเจ้าสาวหรูหราที่สุด เป็นรถพอร์ช 918 แต่ไม่ใช่รถของฟาร์มปลา แต่เป็นรถที่เบลคขับมาจากโทรอนโต
เชอร์ลี่ย์ที่สวมชุดราตรียาวลากพื้นสีชมพูถือหางกระโปรง เดินอย่างสง่างามไปเปิดประตูรถ วินนี่ลงจากรถ เธอสวมชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาด นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินสือโอวเห็นวินนี่ในชุดเจ้าสาว เพราะก่อนหน้านั้นจะถูกเก็บเป็นความลับมาโดยตลอด
ชุดแต่งงานนี้เป็นสีขาวราวกับหิมะ เนื้อผ้าเป็นผ้าไหมซาตินที่มีลวดลายลูกไม้สวยงาม ทั้งกุหลาบ ดอกแดฟโฟดิล ดอกลิลลี่ ดอกรักเร่ เป็นต้น เนื่องด้วยดอกไม้พวกนี้ถูกถักทอด้วยมือก่อนแล้วค่อยเย็บเข้ากับชุดแต่งงาน จึงรู้สึกได้ถึงความมีมิติมาก ขณะที่วินนี่เดินชุดแต่งงานก็แกว่งไปมา ดอกไม้พวกนี้จึงราวกับขยับพลิ้วไหวไปมาท่ามกลางสายลม
นอกจากนี้แล้ว ชุดแต่งงานนี้มีความอนุรักษนิยมอยู่ แขนเสื้อปักด้วยผ้าไหมแท้ วินนี่ยังสวมถุงมือแบบยาวอีกด้วย ซึ่งการใส่แบบนี้ก็เป็นการแสดงความเคารพต่อพระเจ้า เมื่อเข้าไปในโบสถ์แล้ว ไม่ควรจะเผยให้เห็นเนื้อตัวมากเกินไป
หลังจากที่วินนี่ลงจากรถ ฉงต้าก็ถือช่อดอกไม้เข้าไปอย่างว่าง่าย ในที่สุดมันก็ได้ใส่เสื้อกั๊กเหมือนกับหู่จือและเป้าจือสมดั่งใจ แถมยังมีสวมหูกระต่ายด้วย ถึงแม้ว่ารูปร่างจะดูแข็งแรง แต่สีหน้าที่แสดงออกดูทึ่มๆ น่ารักมาก
เมื่อรับดอกไม้จากฉงต้า วินนี่ก็สวมกอดฉงต้า และจูบบนหน้าผากของมัน ฉงต้ากอดวินนี่ตอบ ร้องเสียงเอ๋งๆ ออกมา
สีหน้ามีความสุขของวินนี่พลันหายไป “พระเจ้า ตอนเช้าลืมให้อาหารฉงต้าเหรอ?”
……………………………………….