ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1364 นำทีมเข้าป่า
คำพูดที่ลอยๆ ของฉินสือโอว ทำให้พวกตัวใหญ่เหล่านี้จ้องมองมาที่เขา
ชากูนิสถามขึ้น “คุณไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม? ตัดสินใจร่วมลงทุนด้วยแล้วเหรอ?”
จอร์จก็เตือนด้วยความหวังดี “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ฉิน ทางที่ดีคุณกลับไปค่อยๆ คิด กลับไปดูเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้วค่อยตัดสินใจ เพราะเรื่องนี้ก็ไม่ได้รีบ อย่างน้อยก็มีอีก 2 เดือนก่อนที่บอมบาร์เดียร์จะจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา”
“อันที่จริงแล้วหลายปีก่อนมันยากที่จะทำขึ้นมาจริงๆ” ชากูนิสกล่าวเสริม
ฉินสือโอวยักไหล่อย่างเฉยเมย “ไม่ต้องคิดล่ะครับ เพราะก็แค่เงินทุน 400 ล้านเท่านั้น ตอนที่ผมเพิ่งมาถึงแคนาดาตอนผมไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท แถมยังติดหนี้กรมสรรพากรอีกหลายล้าน ต่อให้ลงทุนล้มเหลว แต่ผมก็ยังมีฟาร์มปลา ยังมีมากกว่าตอนที่ผมมาใหม่ๆ ด้วยซ้ำ ผมจะลังเลไปทำไมอีกกันล่ะครับ?”
เมื่อมองเห็นสีหน้าลังเลของชากูนิสและคนอื่นๆ เขาก็พูดต่อว่า “ที่ประเทศจีนมีสุภาษิตอยู่ประโยคหนึ่งว่า ‘ถ้าอยากจะร่ำรวยก็ต้องลองพนันดูสักตั้ง รถจักรยานก็อาจจะกลายเป็นมอเตอร์ไซค์ รถมอเตอร์ไซค์ก็อาจจะกลายเป็นรถจี๊ป’ ถ้าอย่างนั้นผมจึงอยากลองดูสักตั้ง”
“400 ล้าน คุณคิดดีแล้วนะ” ชวารซ์ไม่กล้าพูดเล่นแล้ว เพราะนี่เป็นเงินก้อนโตที่ทำให้พ่อลูกทะเลาะกันได้ พี่น้องก็เป็นคู่แค้นกันได้
ฉินสือโอวยิ้มแล้วพูด “เป็นคุณชากูนิสที่ต้องคิดให้ดีนะครับ เขาจะต้องรีบรับเงินลงทุนของผมก้อนนี้ ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้ผมหายเมาแล้วก็อาจจะเปลี่ยนใจได้นะครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดล้อเล่นของเขา ทุกคนก็หัวเราะขึ้นมา ชากูนิสยื่นมือไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “โอเคครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่วงการ ฉิน ผมอยากจะบอกว่าคุณเป็นหนุ่มที่โหดร้ายมาก ในบรรดาวัยรุ่นนี่ คุณเป็นหนุ่มที่โหดร้ายที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย!”
จอร์จกระซิบกับฉินสือโอวจากด้านหลัง “คุณทำถูกแล้ว ฉิน การลงทุนมีความเสี่ยงทั้งนั้น แต่ความเสี่ยงในเงินลงทุนครั้งนี้ยังน้อยกว่าที่มองเผินๆ นะ เพราะแน่นอนว่ารัฐบาลควิเบกจะไม่ยอมให้บริษัทต้องปิดตัวลง”
ฉินสือโอวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขาจับมือกับชากูนิสถือเป็นการตกลงกันเรียบร้อย ฝ่ายหนึ่งจึงกลับไปเตรียมสัญญาการลงทุน ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็เตรียมรวบรวมเงิน เมื่อถึงระดับอย่างพวกเขา บางครั้งการตกลงร่วมมือกันแค่พูดตกลงก็โอเคแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว หน้าตาและความเชื่อใจสำคัญกว่าเงินทองมากนัก
มอร์แกน ฟริตซ์และคนอื่นๆ เห็นทั้งสองคนจับมือกัน ต่างก็ลอบถอนใจในความกล้าเสี่ยงของฉินสือโอว พวกเขาเริ่มนึกย้อนไปตอนที่พวกเขาอายุสามสิบ พวกเขามีหยอกล้อกันเองบ้าง หรือไม่พอใจกันเองบ้าง แต่ทุกคนต่างยอมรับว่าตอนอายุสามสิบไม่มีใครมีเสน่ห์เท่าฉินสือโอวแบบนี้
ฉินสือโอวยิ้ม นี่เกี่ยวอะไรกับการมีเสน่ห์ ก็แค่ 400 ล้านซึ่งก็คือเรือจมอยู่ในมหาสมุทร 4 ลำ เพราะถ้าเขาอยากจะลงทุนจริงๆ ต่อให้รัฐบาลควิเบกไม่ลงเงิน ตัวเขาเองก็จะหาอีกพันล้านมาให้ได้
พวกผู้ประกอบการจึงเป็นกลุ่มที่สองที่ออกเดินทางจากไป ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ฉินสือโอวต้อนรับพวกเขาด้วยการจัดอาหารเช้าที่ทำจากผักในฟาร์มปลา แต่ละคนก็ทยอยกันกลับไป
คู่สามีภรรยาบรูซยังอยู่ ไวส์จะเปิดเทอมแล้ว แน่นอนว่าเขาจะกลับไปชิคาโกกับพวกเขาไม่ได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงอาศัยโอกาสนี้อยู่กับลูกให้มากขึ้นอีกหน่อย อีกอย่างทั้งสองคนก็อยากจะเรียนรู้เพิ่มเติมจากฉินสือโอวด้วย
“อาจารย์ฉิน เทคนิคการหายใจที่คุณสอนมันน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ หลังจากที่ฉันกับจอร์จฝึกฝนมา รู้สึกได้เลยว่าร่างกายและจิตใจดีมากขึ้นเรื่อยๆ” วิเวียนพูดด้วยความชื่นชม
จอร์จพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี งานที่ผมต้องทำจึงมีเยอะมาก เมื่อก่อนทำงานเหนื่อยมาก ผมต้องนอนให้ได้ 7 ชั่วโมงและออกกำลังกายอีก 2 ชั่วโมงถึงจะโอเค แต่หลังจากที่ฝึกฝนเทคนิคการหายใจของคุณแล้ว เวลาพักผ่อนของผมก็ลดลงเหลือ 5 ชั่วโมงแถมยังเต็มไปด้วยพลัง!”
พอได้ยินคำพูดของพ่อและแม่ ไวส์ก็ถามขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นพ่อแม่รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของสวรรค์และโลกได้หรือยังครับ? ตอนที่หายใจกลิ่นอายของสวรรค์และโลกจะไหลหมุนเวียนไปตามช่องลมปราณทั้งแปดช่อง”
ฉินสือโอวเกือบพ่นชาที่อยู่ในปากออกมา เจ้าลูกศิษย์น้อยคนนี้นับวันจะมีศักยภาพในการโปรโมทขายต่อแล้วเหรอ? มีกลิ่นอายสวรรค์และโลกบ้าบออะไร บางครั้งเขาแค่ถ่ายพลังโพไซดอนให้สองคนนั้นเพื่อปรับร่างกายภายในเท่านั้นเอง จริงๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเทคนิคการหายใจเลย
บรูซและภรรยาของเขาเป็นที่พึ่งพิงหลักให้เขาในสังคมระดับสูง สองคนนี้ดีเขาก็จะยิ่งดีตาม
ตำแหน่งและฐานะของเจ้าชายน้อยสององค์และแมทธิว จินมีอิทธิพลเหนือกว่าสามีภรรยาคู่นี้ได้ แต่ความสัมพันธ์ของเขากับคนพวกนี้เป็นแค่ความสัมพันธ์แบบพยักหน้าให้กัน แต่กับบรูซและภรรยา ตอนนี้เขาและทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นดีมาก นั่นก็เป็นเพราะไวส์ ทั้งสองฝ่ายจึงต่างไว้ใจและเชื่อใจกัน
หลังจากที่สอนศิลปะการต่อสู้ให้ทั้งครอบครัวไปแล้ว ฉินสือโอวก็เริ่มวางแผนฮันนีมูนของเขา เขากับวินนี่ไม่เคยออกเดินทางไปไหนด้วยกันมาก่อนเลย ครั้งนี้อาศัยโอกาสในการฮันนีมูนจะต้องไปเที่ยวสักรอบจะได้มีช่วงเวลาที่ดี
ฉินสือโอวถามวินนี่ว่าอยากไปที่ไหน วินนี่บอกว่า “เรื่องนี้ไม่รีบค่ะ ที่รัก ถ้าจะต้องไปฮันนีมูน ฉันจะต้องส่งงานต่อ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาครึ่งเดือนนะคะ”
ไม่รีบจริงๆ เพราะตัวฉินสือโอวเองก็ยังต้องต้อนรับญาติและเพื่อนสมัยเรียนที่มาจากบ้านเขา พวกญาติๆ ยังดีหน่อย เพราะมีพ่อแม่ พี่สาวและพี่เขยช่วยกันต้อนรับ คนพวกนี้อยู่ด้วยกันก็จะมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่า แต่พวกเพื่อนสมัยเรียนก็เป็นเขาที่ต้อนรับเอง
ฉินสือโอวถามว่าอยากเล่นอะไร พวกเขาก็ถกกันเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็บอกแบบใจกว้างว่าให้เขาเป็นคนจัดการ พวกเขาเล่นอะไรก็ได้ทั้งนั้น
“ถ้าอย่างนั้นไปตกปลาที่ทะเลกัน ไปตกปลาตอนกลางคืน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ปลาอวบอ้วนเป็นพิเศษด้วย” ฉินสือโอวเสนอขึ้นมา
“เอ่อ คืออย่างนี้ ตกปลาเนี่ยก็ไม่รีบนะ”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันพาพวกนายไปยิงปลาดีไหม? กิจกรรมแบบนี้ไม่มีในประเทศจีนด้วย ที่นี่เขานิยมกันมาก แล้วเดี๋ยวพวกเราก็มาย่างปลากินกัน” ฉินสือโอวรู้สึกว่าข้อเสนอนี้ไม่เลวเลย
“เอ่อ อันนี้ ยิงปลาคืออะไร? ใช้ปืนไหม? ถ้าใช้ปืนก็โอเค”
“ใช่ๆๆ เล่นปืนกัน ครั้งที่แล้วมาที่โคโกโร่แล้วไม่ได้เล่นปืนกัน น่าเสียดายมาก”
พอเป็นแบบนี้ฉินสือโอวก็รู้จุดประสงค์ของพวกเขาแล้ว เพื่อนสมัยเรียนของเขาอยากสัมผัสถึงปืนจริงกระสุนจริง แน่นอนว่าสิ่งนี้เขาเข้าใจดี เพราะตอนที่เขาเพิ่งมาแคนาดาก็ซื้อปืนมาเล่นสนุกก่อนเลย
ฉินสือโอวโทรหาหวงเฮ่าเจีย ให้เขามาพากลุ่มเพื่อนเขาไปร้านปืน หลังจากนั้นก็บอกพวกเพื่อนๆ ว่า “ฉันเข้าใจความหมายของพวกนายตัวแสบละ พวกนายอยากเล่นปืนออกล่าสัตว์จำพวกนี้ใช่ไหม? ไม่มีปัญหา แต่ต้องฝึกก่อน 1 วัน อย่างน้อยก็เพื่อรู้ว่าจะป้องกันตัวเองอย่างไร”
ทุกคนในกลุ่มเต็มไปด้วยความโหยหา พอได้ยินคำพูดของเขาก็รีบพยักหน้า เช่นเดียวกับลูกสุนัขกลุ่มหนึ่งตามหวงเฮ่าเจียอย่างว่านอนสอนง่ายไปที่สนามยิงปืนในร้านขายปืน
ฉินสือโอวรีบตามหลังไป พิงผนังรถมองกลุ่มคนเดินไปเข้าสู่โลกใบใหม่
เนื่องด้วยธุรกิจกำลังมาแรง เคาเตอร์ สไตรก์จึงขยายตัว กลายเป็นร้านค้าด้านนอก ล้อมรอบไปด้วยอาวุธปืนและอาวุธเย็น มีสินค้าประเภทต่างๆ มากมายให้เลือกครบครัน
ฉินสือโอวเป็นเจ้าของ ครั้งนี้เขาจึงใจสปอร์ตเต็มที่ เขาให้เสื้อแจ็กเกตลายพราง H55 คนละหนึ่งชุดก่อน ทั้งให้ความอบอุ่น กันลมกันฝน และยังมีความพรางตัวได้ดีด้วย เป็นแจ็กเกตที่กำลังได้รับความนิยมมากในตลาดขณะนี้ ราคาที่ขายตอนนี้คือ 400 ดอลลาร์แคนาดา
นอกจากนี้แล้ว เขายังแจกชุดล่าสัตว์แบบครบชุดทั้งหมวกแก๊ป ถุงมือ อุปกรณ์พยุงเข่า รองเท้าปีนเขา เป็นต้น ทั้งชุดเมื่อบวกรวมกัน คนหนึ่งก็ตกประมาณ 1,000 กว่าดอลลาร์แคนาดา
แต่ทว่าสิ่งนี้สำหรับเขาถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เพราะในอาหารทะเลต้าฉิน 1,000 ดอลลาร์แคนาดาซื้อปลาตัวใหญ่หน่อยยังไม่ได้ด้วยซ้ำ
……………………………………….