ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1408 รับสมัคร
“เจ็ดคน?” ฉินสือโอวสูดลมหายใจเข้าลึก ถ้าหากว่าเขาไม่ได้สนิทสนมกับเบิร์ดและนีลเซ็นทั้งสองคน เขาคงคิดว่าทั้งสองคงจะพาคนอื่นๆ หนีเขาไปแน่ๆ
นีลเซ็นรีบอธิบายออกมาว่า “พวกเราลาเพียงสองวันเท่านั้น หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้จะเป็นวันรำลึกถึงผู้เสียสละในสงคราม เนื่องจากว่าปีที่แล้วพวกเราจำเป็นต้องออกทะเล พวกเราเลยไม่ได้ไปร่วมงาน ปีนี้เลยอยากจะไปร่วมงาน”
หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้คือวันที่สิบเอ็ด เดือนพฤศจิกายน วันนี้ในประวัติศาสตร์เมื่อก่อนคือวันสงบสุขสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ต่อมาก็ได้ถูกกำหนดให้เป็นวันรำลึกถึงผู้เสียสละในสงครามแห่งชาติของอังกฤษ เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้แก่ทหารอังกฤษที่เสียชีวิตในสงครามโลกทั้งสองครั้งรวมถึงสงครามครั้งอื่นๆ ด้วย
จนมีการพัฒนามาถึงปัจจุบัน วันนี้เป็นวันที่เหล่าทหารและครอบครัวรำลึกถึงเพื่อนร่วมสนาม และคนสนิทที่ได้เสียชีวิตไป วันนี้จึงเป็นวันหยุดที่สำคัญมากสำหรับเหล่าทหารและครอบครัวของเขาที่อยู่ในดินแดนอังกฤษ
ฉินสือโอวเข้าใจพวกเขา แต่เขาก็ยังถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจว่า “มันเป็นวันหยุดของเครือจักรภพไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงไปกันเจ็ดคนล่ะ? พวกแบล็คไนฟ์ก็ต้องเข้าร่วมเหรอ? พวกเขาเป็นทหารของอเมริกาไม่ใช่เหรอ?”
เบิร์ดพูดเสียงเบาว่า “พวกแบล็คไนฟ์มาจากกองพลหุ้มเกราะนะครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้นฉินสือโอวก็นึกขึ้นมาได้ทันที ใช่แล้ว แบล็คไนฟ์และพวกทั้งห้าคนมาจากกองพลหุ้มเกราะ และองค์กรรับจ้างนี้ถูกก่อตั้งในปี 1981 โดยอลาสแตร์ มอร์ริสัน สุภาพบุรุษคนนี้คือวีรบุรุษจากหน่วยสืบราชการลับของกองกำลังพิเศษชั้นสูงโลกของอังกฤษ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาส่วนใหญ่เป็นทหารที่เกษียณอายุแล้วจากทั่วประเทศในเครือจักรภพ
เพราะแบบนี้ เมื่อตอนที่พวกเขาเป็นทหารรับจ้าง พวกเขาจะต้องมีเพื่อนทหารร่วมรบหลายคนที่เป็นชาวอังกฤษหรือไม่ก็แคนาดาจำนวนไม่น้อยอย่างแน่นอน
ฉินสือโอวรู้สึกยุ่งยากขึ้นมา เพราะว่าเดี๋ยวก็จะมีงานฮันนีมูนแล้ว จำนวนงานที่ต้องทำในฟาร์มปลาเดือนนี้เยอะมาก ไม่อย่างนั้นต้องรีบรับสมัครคนงานอย่างเร่งด่วนแล้ว ถ้าหากทั้งเจ็ดคนลาไปสองวัน ก็มีจะงานหลายอย่างที่ล่าช้าไปมาก
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉินสือโอวก็ถามออกมาอย่างระมัดระวังว่า “ทำไมถึงต้องไปทั้งสองวันล่ะ? มีกิจกรรมสำหรับวันรำลึกถึงผู้เสียสละในสงครามค่อนข้างเยอะใช่ไหม?”
นีลเซ็นอธิบายออกมาว่า “เบื้องต้นวันรำลึกถึงผู้เสียสละในสงครามของพวกเราจะเริ่มต้นจากเมืองออตโตวา จะมีการเดินทางระยะทางไกล ใช้เวลาค่อนข้างมากในการเดินไปกลับ ซึ่งอันที่จริงงานทหารรำลึกไม่ได้ใช้เวลานานมากเท่าไหร่”
ฉินสือโอวมุ่ยปากอย่างลำบากใจ แล้วถามออกมาอีกว่า “แล้วทำไมพวกนายถึงไปที่ออตโตวาล่ะ? อ้อ สุสานทหารแคนาดาแห่งชาติอยู่ที่นั่นใช่ไหม?”
นีลเซ็นส่ายหัว เขาตอบว่า “ไม่ใช่ครับ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนั้น พวกเราไม่ไปที่สุสาน ที่นั่นพวกเราจะไปกันในวันรำลึกแห่งชาติครับ พวกเรามีเพื่อนร่วมสงครามคนหนึ่งทำฟาร์มอยู่ที่ออตโตวา เขาสามารถที่จะหาสถานที่ในการจัดงานได้”
ฉินสือโอวรีบกางมือขึ้นแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ฟาร์มปลาของพวกเราก็สามารถจัดงานได้นะ นายว่าถ้าให้เพื่อนร่วมสงครามของพวกนายมาจัดงานที่นี่เป็นยังไง? ฉันสามารถทำอาหารทะเลรสเลิศให้พวกเขาได้ ยังมีเบียร์อีกด้วย เอ่อ ขอถามอีกหน่อยสิ ตอนจัดงานทหารรำลึก พวกนายดื่มเบียร์กันไหม?”
เบิร์ดยิ้มออกมาบางๆ ตอบว่า “ไม่ครับ พวกเราอาจจะเมาจนไม่ได้สติได้ครับ”
ฉินสือโอวเห็นภาพนั้นได้ชัดเจน หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นมาว่า “พวกนายว่าข้อเสนอของฉันเป็นไปได้หรือไม่?”
นีลเซ็นและเบิร์ดมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน “ไม่มีปัญหาครับ แต่ว่าเมื่อถึงเวลาจะต้องมีการเตรียมการบางอย่าง ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคในการทำงานในฟาร์มปลา แบบนั้นมันไม่ดีเท่าไรครับ”
ฉินสือโอวคิดในใจว่าตราบใดที่คนของตัวเองไม่ต้องออกไปนอกเมืองก็ใช้ได้แล้ว ไม่ได้สนอยู่แล้วว่าจะดีหรือไม่ดี? แต่ว่าเขาไม่เคยร่วมงานรำลึกแบบนี้มาก่อน เขาคิดว่ามันดูน่าสนใจดีที่จะได้สัมผัสกับมัน เขาลูบหน้าอกของตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า “โอเค ไม่มีปัญหา พวกนายเป็นมือซ้ายมือขวาของฉัน มือซ้ายและมือขวาจะได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนทั่วไปไม่ใช่เหรอ?”
ชายทั้งสองคนยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ก่อนที่พวกเขาจะเดินออกไป นีลเซ็นถามขึ้นมาว่า “งั้นบอสครับ คุณว่าปีนี้มือซ้ายและมือขวาของคุณจะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ครับ?”
ฉินสือโอวเบิกตากว้าง “เป็นเพราะว่าฉันดูแลพวกนายดีเกินไปหรือเปล่า พวกนายคิดว่าบอสของพวกนายน่าแกล้งงั้นเหรอ?”
“ไม่ครับ!” ทั้งสองคนตอบกลับอย่างขันแข็งทันที หลังจากนั้นก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ห้องประชุมกลับมาเงียบอีกครั้ง ฉินสือโอวหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเอี๋ยนตงเหล่ย “พี่เหล่ย ฟาร์มปลาของผมขาดคนงาน พี่สามารถติดต่อชาวจีนอย่างพวกเราที่เข้าใจงานด้านประมงให้ได้หรือไม่?”
เอี๋ยนตงเหล่ยแทบจะกระโดดตัวลอยขึ้นมาทันที เขาตะโกนออกมาเสียงดังว่า “เสี่ยวโอว นายคือผู้ช่วยชีวิตของฉันจริงๆ! ตอนนี้การจ้างงานในแคนาดาเป็นเรื่องที่โคตรยากเลย ฉันทางนี้ได้รวบรวมเพื่อนชาวจีนจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือในการจ้างงานไว้แล้ว นายสามารถรับได้กี่คน?”
“สิบห้าคน เป็นอย่างไร จำนวนพอได้ไหม?”
“เอ น้อยจัง ร้อยห้าสิบคนกำลังดีเลยนะ!”
“พระเจ้า พี่เหล่ย ผมเป็นแค่เจ้าของฟาร์มปลานะครับ ไม่ได้ทำโรงงาน!”
เอี๋ยนตงเหล่ยหัวเราะออกมาว่า “ล้อเล่นหรอกน่า สิบห้าคนก็พอแล้ว สามารถช่วยเรื่องที่เร่งด่วนของพี่ชายได้แล้ว นายต้องการเพียงคนที่รู้งานประมงใช่ไหม?”
ฉินสือโอวตอบกลับว่า “แบบนั้นแหละดีที่สุด ถ้าหากว่าไม่ได้มีประสบการณ์งานประมงมาก่อน ก็จำเป็นที่ต้องเป็นทหารมาก่อน อายุต่ำกว่าสามสิบห้าปี ร่างสูงใหญ่ นี่คือคุณสมบัติพื้นฐาน”
ถ้าหากไม่ใช่มืออาชีพ แบบนั้นก็ต้องลงทุนในการฝึกอบรม ฉินสือโอวต้องการคนที่ออกมาจากกองทัพ เพราะว่าคนพวกนั้นทำงานหนักและมีวินัยมาก สำหรับชาวประมงแล้ว ทั้งสองเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก
หากไม่สามารถทำงานหนักได้ งั้นก็ไม่มีทางที่จะใช้ชีวิตในท้องทะเลได้ หากไม่มีวินัย พวกเขาก็จะไม่สามารถเป็นผู้นำที่ดีได้ หากร่างกายไม่สูงใหญ่ ก็จะสามารถทำกำไรได้ก็เท่านั้น แต่ยังต้องมาคอยเป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนที่ออกทะเล
เอี๋ยนตงเหล่ยถามเขาเกี่ยวกับค่าตอบแทน ฉินสือโอวตอบกลับว่า “มีการจัดหาที่พักอาหารและประกันให้ เงินเดือนต่อสัปดาห์มากกว่าหนึ่งพันห้าร้อยดอลลาร์ ทุกไตรมาสมีโบนัสให้ ปลายปีมีอั่งเปาให้ ตราบใดที่พวกเขาขยันทำงานให้กับผม ผมรับประกันเลยว่าพวกเขาจะได้รับเงินไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนดอลลาร์ต่อปี!”
เงินเดือนดังกล่าวเทียบเท่ากับเงินเดือนของคนชนชั้นกลางในแคนาดา เท่ากับฐานเงินเดือนของระดับผู้จัดการในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย แต่ว่าสำหรับชาวประมงแล้ว เงินเดือนขนาดนี้ถือว่าเป็นเงินระดับกลางขึ้นไป ถือว่าเยอะมากด้วยซ้ำ เงินเดือนประจำปีเริ่มต้นที่หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ แต่ว่าคนเหล่านี้เป็นนักเดินเรือในทะเลเกือบทั้งหมด เป็นการเอาชีวิตมาหาเงินที่แท้จริง
ปัจจุบันงานลูกเรือถือเป็นงานที่เสี่ยงตายเป็นอันดับหนึ่งในแคนาดา!
เอี๋ยนตงเหล่ยเข้าใจในเรื่องนี้ เขาพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “เงินเดือนไม่เลวเลย ฉันเข้าใจนายนะ การทำงานในฟาร์มปลาของนายก็คือการไปหาเลี้ยงชีพ เงินเดือนของนายในปีนี้ทำให้การจ้างคนเป็นเรื่องง่าย รอฟังข่าวดีจากฉันได้เลย”
หลังจากทุกอย่างเริ่มขึ้น ฟาร์มปลาก็เปลี่ยนมาคึกคักทันที
เมื่อรู้ว่าฟาร์มปลาต้าฉินรับสมัครคน ชาวเมืองก็พากันคึกคักขึ้นมา ชาวประมงเกือบทุกคนอยากที่จะเข้ามาที่นี่
ใช่แล้ว ตอนนี้ในเมืองมีธุรกิจการท่องเที่ยวให้ทำงานได้ แต่ว่าทุกคนรู้ดีว่าธุรกิจนี้ใครๆ ก็สามารถทำได้ ดังนั้นการแข่งขันจึงค่อนข้างดุเดือด สิ่งที่เมืองต้องทำการพัฒนาคือจีดีพีโดยรวม สำหรับคนทั่วไป รายได้ที่ได้รับไม่ได้ถือว่ามากมายนัก หนึ่งปีได้เงินทั้งหมดแปดหมื่นก็ถือว่าดีแล้ว การจะได้ถึงหนึ่งแสนดอลลาร์นั้นค่อนข้างยาก
สำหรับชาวประมงอย่างบลูที่ฟาร์มปลาต้าฉินน่ะเหรอ? รายได้ประจำปีที่รวมถึงเงินและโบนัสของพวกเขาที่ได้นั้น สูงถึงสองแสนดอลลาร์! และถ้าหากว่าพวกเขาทำงานได้ดี จับปลาทูน่าครีบน้ำเงินพวกนั้นได้อีก รายได้ที่ได้รับก็จะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า!
เงินเดือนของชาร์คและซีมอนสเตอร์นั้นนับไม่ได้แล้ว พวกเขาและเบิร์ด นีลเซ็นทั้งสี่คนเป็นคนสนิทของฉินสือโอว เป็นมือซ้ายมือขวาที่แท้จริง ในทุกไตรมาสฉินสือโอวให้โบนัสและเงินเดือนพวกเขาสูงอยู่แล้ว
นอกจากเหตุผลทางด้านการเงินแล้ว เหล่าชาวประมงอยากเข้าทำงานที่ฟาร์มปลาแห่งนี้ ก็เพราะว่าบรรยากาศในการทำงานของฟาร์มปลานั้นดีที่สุด พวกเขาสามารถสัมผัสได้ เหล่าชาวประมงมักจะมีกิจกรรมภายในกัน หลังจากนั้นฉินสือโอวว่างงานเขาก็จะเลี้ยงข้าวดื่มเบียร์ร่วมกัน รวมถึงตั้งแคมป์ด้วยกัน
ทั้งได้เงินและได้พักผ่อน ด้วยงานที่เป็นแบบนี้ ทำไมถึงจะไม่แข่งขันกันเข้าล่ะ?
เมื่อเห็นใบสมัครของเหล่าชาวประมงที่ส่งมา ฉินสือโอวก็เริ่มคิดถึงเรื่องอื่น นั่นก็คือการสร้างระบบพนักงานของฟาร์มปลา
……………………………………………..