ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 149 ผู้ติดตามของฉงต้า
สิ่งที่ปลอบใจฉงต้าได้อย่างแท้จริง คือกลิ่นหอมของไก่เฮเซลตุ๋น ฟืนต้นสนแห้งนั้นเผาไหม้ง่ายเป็นอย่างมาก เปลวไฟโชติช่วงลามเลียไปทั่วหม้ออัดความดัน ผ่านไปชั่วครู่รูระบายความร้อนของฝาหม้อก็เริ่มสั่นแล้วส่งเสียง ‘หึ่ง หึ่ง’ กลิ่นหอมของไก่ตุ๋นฟุ้งกระจายตามไอน้ำไปทั่วทุกสารทิศ กระตุ้นความอยากอาหารของผู้คน
ฉงต้าสะบัดขนบนหัวให้แห้ง ก่อนจะวิ่งไปที่หน้าหม้ออัดความดันนั้นอย่างรวดเร็ว แล้วรอฝาหม้อเปิดออกด้วยความกระวนกระวายใจ
แต่ว่าตอนนี้ยังกินไม่ได้
นีลเซ็นนำกระต่ายอ้วนกลับมาหกตัว ล้วนแต่เป็นกระต่ายสโนว์ชู กระต่ายพันธุ์นี้เป็นอาหารประจำถิ่นอเมริกาเหนือ ขนของมันหนึ่งปีจะผลัดสีถึงสองครั้ง ในฤดูร้อนขนของมันจะเป็นสีน้ำตาลอมเทา แต่เมื่อถึงฤดูหนาวขนของมันจะกลายเป็นสีขาวได้อย่างน่าอัศจรรย์
เพราะว่าขาหลังของกระต่ายป่าพันธุ์นี้นั้นใหญ่มาก ชื่อของมันจึงเรียกว่าสโนว์ชู หนึ่งปีให้กำเนิดได้เจ็ดถึงแปดตัว คุณภาพเนื้อก็ถือว่าไม่เลว
นำกระต่ายสโนว์ชูมาถลกหนังแล้วควักเครื่องในออก แล้วนีลเซ็นก็เอ่ยอธิบาย “ตอนแรกฉันลองหาพวกกวางปักกิ่ง แพะภูเขาอะไรพวกนั้น ผลคือที่นี่ยังสูงไม่พอ จึงไม่มีพวกสัตว์ใหญ่แบบนั้น แต่กระต่ายป่านั้นกลับมีเยอะมาก ดูท่าว่าถ้าอยากล่ากวางหรือหมูป่าคงต้องเดินลึกเข้าไปข้างใน”
ฉินสือโอวนำข้าวไปหุง ตอนนี้ปลาสเมลท์ทอดจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาเริ่มจัดการกับปลาที่เหมาเหว่ยหลงตกมา ถึงอย่างไรก็นำซอสวัตถุดิบมาแล้ว เลยเอามาทำรวมกันกลายเป็นปลาตุ๋นซอสน้ำแดง
หู่จือและเป้าจือนอนกันอยู่ที่ใต้เงาร่มไม้ ฉงต้านั่งลงแล้วแหงนหน้าขึ้นอย่างห้าวหาญมีสง่า ฉินสือโอวหัวเราะออกมา เข้าใจในความคิดของฉงต้า เจ้าเด็กน้อยนี้เห็นว่าทุกคนมัวแต่ทำนู่นทำนี่ คาดว่าคงรู้สึกอึดอัดไม่น้อย เลยตั้งใจที่จะวิ่งเข้าไปในป่าแล้วล่าสัตว์กลับมา
เพียงแต่ ที่มันล่ามาดันเป็นโอพอสซัมเวอร์จิเนีย ของสิ่งนี้ไม่มีทางที่จะกินเข้าไปได้
แม้จะก้าวเท้าผิดไปเสียหน่อย แต่อย่างไรฉงต้าก็ยังเล็กนัก ฉินสือโอวจึงรู้สึกว่าตัวเองต้องปลอบใจมันเสียหน่อย ในระหว่างทางนีลเซ็นยังขุดเอาผักป่ากลับมาไม่น้อย ทั้งยังเก็บผลเบอร์รีกลับมามากมาย เขาจึงกำแบล็กเบอร์รีจำนวนหนึ่งส่งให้ฉงต้า ให้มันกอบไว้ในมือทั้งสองข้างแล้วกิน
ผักป่าที่เยอะที่สุดในเทือกเขาเคอร์บัลคือผักกูด ผักอองดีฟและขึ้นฉ่ายป่า ใบกระเทียมป่า สองอย่างแรกนั้นคนแคนาดาไม่กิน เลยทำให้มีอยู่เต็มเขาทั้งหมด มีเพียงสองอย่างหลังที่คนแคนาดาค่อนข้างชอบ
ฉินสือโอวเด็ดผักป่าจนสะอาด ก่อนเอ่ย “ช่วงบ่ายตอนที่พวกเราลงเขา อย่าลืมว่าต้องเก็บผักป่ามาในระหว่างทาง เย็นวันนี้มากินมื้อใหญ่ดีๆ กันเถอะ”
เหมาเหว่ยหลงหัวเราะก่อนเอ่ย “อย่างนั้นมื้อกลางวันของเรานี้ก็ไม่ใช่มื้อใหญ่น่ะสิ”
ฉินสือโอวส่ายหัวไปมาก่อนเอ่ย “ไม่มีหมูป่า ไม่มีกวาง นี่จะนับว่าเป็นมื้อใหญ่ได้อย่างไร?”
ได้ยินอย่างนี้ เหมาเหว่ยหลงก็รู้สึกอดไม่ได้ที่จะถาม “บนเขามีหมูป่าและฝูงกวางจริงๆ เหรอ?”
คำถามประเภทนี้ฉินสือโอวไม่เสียเวลาตอบ เอาไว้ให้เห็นกับตาด้วยตัวเองในตอนเย็นเถอะ
หลังจากกระต่ายถูกล้างจนสะอาด นีลเซ็นใช้กิ่งไม้เสียบแล้วย่างบนกองไฟ ฝีมือของเขานั้นยอดเยี่ยม ทั้งกระต่ายสโนว์ชูยังอ้วนท้วนสมบูรณ์ แค่เพิ่งเริ่มย่างน้ำมันก็ไหลซึมออกมา นีลเซ็นพลิกกระต่ายไปมาไม่หยุด ย่างช้าๆ จนมีสีเหลืองทองอร่าม
ฉงต้า หู่จือ เป้าจือ ต่างพากันนั่งไม่ติดแล้ว พวกมันวิ่งไปอยู่ข้างๆ ฉินสือโอวแล้วเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาระยิบระยับ
ของที่พวกมันกินไม่จำเป็นต้องสุกมาก ฉินสือโอวจึงหยิบกระต่ายอ้วนตัวหนึ่งลงมา มันสุกถึงแปดส่วนแล้ว หู่จือและเป้าจือได้ขาหลังอ้วนพีตัวละอัน ส่วนที่เหลือเป็นของฉงต้า
ฉงต้าเอาแบล็กเบอร์รีที่ยังกินไม่หมดวางไว้ใต้ต้นไม้ มันคาบกระต่ายของตัวเองแล้ววิ่งกลับไป ก่อนจะอ้าปากแล้วเริ่มฉีกกิน
ข้าวหุงจนสุกแล้ว ฉินสือโอวและคนอื่นๆ จึงเริ่มทานข้าว โดยเริ่มจากซุปไก่เฮเซลตุ๋นคนละชาม หลังจากที่ของสิ่งนี้โรยด้วยใบขึ้นฉ่ายป่าและเกลือแล้ว กลิ่นจึงไม่ต้องหอมมากนัก
น้ำมันไก่ที่ลอยอยู่หนึ่งชั้นช่างยั่วยวนผู้คน ในแต่ละชามล้วนมีซุปไก่อยู่ครึ่งชามและเนื้อไก่อีกครึ่งชาม ยกเว้นชามของอีวิลสัน ที่ล้วนเป็นเนื้อไก่ เขาดมแล้วดมอีก รอยยิ้มแห่งความสุขปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้า คว้าทั้งหมดเข้าไปในปาก เคี้ยวดังกรุบกรับแม้แต่กระดูกยังเคี้ยวเข้าไปด้วย
ฉินสือโอว นีลเซ็นและเหมาเหว่ยหลงดื่มน้ำซุปไก่กันก่อน ของบำรุงและรสชาติของไก่เฮเซลนี้แท้จริงล้วนอยู่ในน้ำซุป
ซุปไก่ทั้งหอมทั้งสดใหม่ เหมาเหว่ยหลงสูดซดน้ำซุป ซดจนหมดชามแล้วถอนหายใจ “ทำไมถึงได้หอมอย่างนี้ อร่อยจริงๆ! ไก่บ้านและซุปไก่ที่เคยดื่มเมื่อก่อนแทบจะตกอันดับไปเลย! หลังจากดื่มเจ้าสิ่งนี้ คาดว่าหลังฉันกลับไปคงไม่สามารถดื่มพวกซุปไก่โง่ๆ นั่นได้อีก มันแตกต่างกันเกินไปแล้ว”
ฉินสือโอวดื่มซุปจนหมด ก็ตักข้าวมาหนึ่งชามกินด้วยกันกับปลาตุ๋นน้ำแดงและปลาสเมลท์ทอดแห้ง
ปลาสเมลท์สามารถพบเห็นได้บ่อยในประเทศ มันก็คือปลาไข่นั่นเอง ปลาประเภทนี้เมื่อกินด้วยกันกับไข่ปลาจะมีกลิ่นที่หอมเป็นอย่างมาก หอมกว่าปลาทะเลราคาแพงอย่างแซลมอนพวกนั้นอีก โดยเฉพาะเมื่อจุ่มลงในผงยี่หร่าหรือผงปรุงรส ยิ่งมีรสชาติมากยิ่งขึ้น
ฉงต้าและหู่จือเป้าจือกินกระต่ายย่างสองสามคำหมดไปก็วิ่งมา กระต่ายย่างที่เหลือห้าตัวล้วนสุกหมดแล้ว ฉินสือโอวให้อีวิลสันสองตัว ให้เจ้าเด็กน้อยทั้งสามแบ่งกันกินหนึ่งตัว ที่เหลือสองตัวเขาและนีลเซ็นเหมาเหว่ยหลงแบ่งกันกิน
กินข้าวไปได้ครึ่งหนึ่ง ทันใดนั้นหู่จือเป้าจือก็เงยหน้าขึ้นมา ฉงต้าเองก็สูดจมูกก่อนจะหันไปมองยังด้านข้าง ที่แท้เจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียที่โดนหู่จือชนล้มนั้นตื่นขึ้นมาแล้ว คาดว่าเมื่อครู่เจ้าตัวนี้คงแค่โดนชนจนล้มแล้วหมดสติไป ตอนนี้พอตื่นขึ้นมาแล้วก็ตั้งใจปีนป่าย มันก้มหัวเดินโซซัดโซเซไปสองสามก้าว ฉินสือโอวและคนอื่นๆ ต่างมองดูมันกันเงียบๆ ตอนแรกแค่อยากจะปล่อยให้มันเดินออกไปก็พอแล้ว
แต่สุดท้าย ไม่รู้ว่ามันโดนชนจนมึนหัวไปแล้วหรืออย่างไร ถึงได้เดินเบนเข็มไปตรงด้านหน้าของฉงต้า
เมื่อเดินไปแล้ว เจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียก็ขยับจมูกยาวๆ ของตัวเองไปมา แล้วเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ ตอนนี้เองมันจึงเพิ่งเห็นฉงต้าที่อยู่ด้านหน้า มันตกใจยกเท้าอยากจะวิ่งหนี แต่คาดว่าสมองมันน่าจะยังคงมึนงงอยู่ พอหมุนตัวด้วยความรวดเร็วจึงล้มลงไปอีกครั้ง
มันคลานขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียนอนหมอบตัวสั่นอยู่บนพื้น มองไปที่ฉงต้าด้วยความหวาดกลัว
ฉงต้าตอนนี้กินอิ่มดื่มอิ่ม ไม่ได้สนใจเจ้าสิ่งของตัวเล็กนี้ มันสะบัดตัวหนีแล้วไปเล่นกับหู่จือเป้าจือ
เจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ดวงตาจ้องมองผลแบล็กเบอร์รีที่ฉงต้าวางไว้ใต้ต้นไม้ อดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปากตัวเองไปมา
ฉินสือโอวถึงเพิ่งเข้าใจ เจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียคงถูกกลิ่นหอมของผลแบล็กเบอร์รีดึงดูดเข้าให้แล้ว
นีลเซ็นอธิบาย “อาหารอย่างแรกที่เจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียเลือกกินคือผลแบล็กเบอร์รี พวกมันเป็นสัตว์กินพืช ถ้าไม่มีผลแบล็กเบอร์รีพวกมันก็จะกินหญ้า”
ฉงต้าที่กินอิ่มดื่มอิ่มจนรู้สึกสบายตัวมาก มันหันไปสังเกตเจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียที่น่าสงสารกำลังจ้องมองผลแบล็กเบอร์รี มันจึงใช้อุ้งมือปัดผลแบล็กเบอร์รีกลิ้งไปตรงหน้าเจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนีย
เหมาเหว่ยหลงเอ่ยอย่างตะลึง “โอ้ สรรพสิ่งทั้งหลาย เจ้าหมีบ้านนายตัวนี้ ดูท่าแล้วแม่มันคงฉลาดมากใช่หรือไม่? พฤติกรรมการแบ่งอาหารแบบนี้ ดูเป็นมนุษย์เกินไปหน่อยไหม?”
ฉินสือโอวหัวเราะเอ่ย “เพราะว่าฉันสอนมาดี”
คาดว่าเจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียก็คงหิวแย่แล้ว มันรีบใช้อุ้งเท้าเล็กจับผลนั้นไว้ ก่อนกัดกินไม่กี่คำก็หมดแล้ว
ฉงต้าเอียงคอมองเจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียกินของ รอจนมันกินหมด มันก็เขี่ยอีกสองอันไปใหม่ แล้วก็ให้อาหารเจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียมันอยู่อย่างนั้น
เจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียกินผลแบล็กเบอร์รีไปสิบกว่าผล ก็ไม่กินต่อแล้ว ไปนอนข้างๆ ฉงต้าอย่างเรียบร้อย ราวกับน้องชายผู้สวามิภักดิ์อย่างไรอย่างนั้น
ฉินสือโอวและคนอื่นๆ ก็ไม่ได้สนใจอีก ทั้งหมดนั่งพูดคุยกัน อีวิลสันทำลายล้างจนหมดสิ้น เอาเนื้อไก่น้ำซุปไก่ กระต่ายย่างปลาเผาและข้าวที่เหลือทั้งหมดกินจนสะอาดหมดเกลี้ยง หลังจากนั้นก็วิ่งไปล้างหม้อล้างชามอย่างรู้หน้าที่
ในช่วงบ่ายระหว่างเดินทาง ฉินสือโอวหันกลับไปมอง เห็นว่าด้านหลังฉงต้ามีหางเล็กๆ ยื่นออกมา ที่แท้แล้วเป็นขนสีขาวหิมะของเจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียนั่นเอง
เจ้าโอพอสซัมเวอร์จิเนียกระโดดดึ๋งตามมาอยู่ด้านหลัง ฉงต้าจึงหยุดแล้วหันกลับไปมอง มันก็ส่ายหางไปมา และคาดว่าฉงต้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันกะพริบตาปริบๆ แล้วเดินไปข้างหน้าต่อ
ฉินสือโอวพยายามทำให้เจ้าพอสซัมน้อยตกใจ อยากให้มันตกใจจนวิ่งหนีไป แต่ปรากฏว่ามันดันวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังฉงต้าเสียอย่างนั้น ราวกับว่ายึดเอาฉงต้าเป็นเกราะป้องกัน
“โอ้ นี่คงไม่ใช่ว่าในระหว่างสัตว์ด้วยกันก็มีโรคอย่างสตอกโฮล์ม ซินโดรมด้วยหรอกนะ?” ฉินสือโอวถลึงตา
.. ………………………………………………………