ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1522 จอมโจรเสี่ยวหู่เป้า
หลังจากบดข้าวมอลต์จนละเอียดแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับต่อมาก็คือกระบวนการเปลี่ยนข้าวมอลต์ให้กลายเป็นน้ำตาล อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ได้ว่าหลังจากนำข้าวมอลต์ไปผ่านการหมักจนน้ำกลายเป็นน้ำตาลมอลโทส ก็จะเกิดเป็นน้ำเชื่อมข้าวมอลต์
คาปาไลบอกว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องทำ เช่นเดียวกันกับที่นี่ ที่ไม่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสมก็ไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการนี้ก็ได้ พวกเขาสามารถนำข้าวมอลต์บดไปต้มให้เดือดได้เลย แบบนี้ก็สามารถหมักเบียร์ที่มีรสชาติสดใหม่ได้เช่นกัน
ขั้นตอนนี้ก็ไม่ยาก แค่เทข้าวมอลต์ลงไปในกล่องเก็บรักษาอุณหภูมิแล้วเทน้ำร้อนลงไปให้ได้ตามสัดส่วน ข้าวมอลต์ประมาณหนึ่งกิโลกรัมต้องใช้น้ำร้อนประมาณสี่ลิตร ดังนั้นเมื่อคำนวณจากปริมาณของมอลต์ที่คาปาไลนำมา ปริมาณน้ำที่ต้องเติมจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งร้อยลิตรกว่าๆ
กระท่อมโรงเบียร์เป็นโรงผลิตขนาดเล็ก กล่องเก็บรักษาอุณหภูมิสามารถบรรจุน้ำได้เพียง 50 ลิตร ซึ่งนี่นับว่าเป็นกล่องเบอร์ใหญ่แล้ว พวกเขาจึงต้องแบ่งทำสองรอบ
อุณหภูมิของน้ำร้อนจะต้องอยู่ที่ 75 องศาเซลเซียส หลังจากปรับความร้อนเสร็จแล้วฉินสือโอวก็เติมมันลงไปในกล่องเก็บรักษาอุณหภูมิ คาปาไลบอกว่าหลังจากนั้นจะต้องรอไปอีกหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้น้ำตาลมอลโตสผสมเข้ากันกับน้ำ หลังจากนั้นค่อยนำไปกรองอีกครั้ง
ชายชาวคิวบาเป็นคนที่ไม่ชอบรออยู่เฉยๆ เขาไปที่ชายหาดแล้วขึงตาข่ายขนาดเล็กเพื่อจับนกจมูกหลอดหางสั้น พอเห็นว่าฉินสือโอวกำลังติดตามดูอยู่ เขาจึงพูดด้วยความรู้สึกไม่สบายใจว่า “คุณฉิน คุณอย่าบอกนายกเทศมนตรีวินนี่ว่าผมใช้ตาข่ายจับนกนะครับ”
ฉินสือโอวกล่าวว่า “ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนี้หรอก ในห้องแช่เย็นของผมมีเนื้อนกที่หมักไว้แล้ว มันช่วยรักษาความสดไว้ได้ ถ้าจะเอาเดี๋ยวผมให้คนไปเอามาให้”
คาปาไลยิ้มแล้วพูดว่า “คุณใช้เครื่องปรุงหมักไว้แล้วใช่ไหมครับ? ผมอยากได้เนื้อนกเปล่าๆ แบบที่ยังไม่ผ่านการหมัก”
ถึงจะเอาแบบนี้แต่ก็ไม่จำเป็นต้องจับเองเช่นกัน ฉินสือโอวกวักมือเรียกราชาเจ้าป่าซิมบ้าให้เข้ามาหา พอชี้ไปที่นกจมูกหลอดหางสั้น มันก็เข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อได้ในทันที หลังจากนั้นจึงได้สะบัดหางอันใหญ่ที่มีขนนุ่มฟูวิ่งไปหานกอ้วนที่กำลังพักผ่อนอยู่บนชายหาย
แค่แป๊บเดียวซิมบ้าก็จับนกได้แล้วสองตัว หู่จือกับเป้าจือที่เห็นมันเอานกจมูกหลอดหางสั้นมาให้ฉินสือโอว ก็ไม่ยอมแพ้ลูกแมวป่าพากันวิ่งออกไปจับนกแล้วเช่นกัน
หลังจากได้พักผ่อนและกินอาหารอย่างเพียงพอมาหลายวัน ตอนนี้ฝูงนกจมูกหลอดหางสั้นจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังพร้อมกับสัมผัสที่ว่องไว พอหู่จือกับเป้าจือเข้าไปใกล้ พวกมันที่สามารถสัมผัสได้ถึงศัตรูก็ตีปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที
หู่จือกับเป้าจือโผเข้าโจมตีอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ทันใดนั้นจึงเกิดความท้อแท้ขึ้นมาขนานหนัก พวกมันจ้องมองซิมบ้าด้วยความไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดพวกอ่อนหัดอย่างซิมบ้าถึงจับนกได้แต่พวกมันกลับจับไม่ได้
เหตุผลง่ายๆ ก็เพราะซิมบ้ามีอุ้งเท้าใหญ่ที่อ่อนนุ่ม ขณะที่มันกำลังหมอบตัวต่ำและย่างเท้าเดินอยู่บนชายหาดจึงไม่มีเสียงฝีเท้าเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อยนิด หากพวกนกจมูกหลอดหางสั้นมองไม่เห็นมันนั่นก็เท่ากับว่าไม่สามารถสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายแล้ว
สุนัขแลบราดอร์เกิดมาเพื่อทำงานหนัก พวกมันเป็นเหมือนคนเถื่อน จึงไม่สามารถเป็นนักฆ่าได้ พวกมันวิ่งไปบนชายหาดด้วยความเร็วดุจดั่งสายฟ้า ปากที่เหมือนกับคาบแตรเอาไว้ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนบอกว่า ‘ฉันมาแล้ว’ เพราะอย่างนี้พวกมันถึงจับนกไม่ได้
แต่พวกมันมีความเชื่อมั่นในตัวเองที่สูงมาก พวกมันเชื่อว่าตัวเองต่างหากที่เป็นลูกชายแท้ๆ ของฉินสือโอว ดังนั้นพวกมันจึงกลอกตามองไปรอบๆ เพื่อคิดหาวิธีที่จะจับนกจมูกหลอดหางสั้น มองไปมองมา ในที่สุดพวกมันก็นึกวิธีดีๆ ได้แล้ว นกจมูกหลอดหางสั้น พวกมันจะออกไปขโมยมา!
ปรมาจารย์อันดับหนึ่งในด้านการจับนกของฟาร์มปลาก็คือซิมบ้า ส่วนปรมาจารย์อันดับสองที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ก็คือแมวน้ำกรีนแลนด์นั่นเอง
ตอนอยู่บนบกแมวน้ำพวกนี้อาจจะดูโง่งุ่มง่าม แต่เมื่อมุดลงไปในน้ำพวกมันจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วเกินกว่าใคร พวกมันจะซ่อนตัวอยู่ในน้ำ หลังจากนั้นพอนกจมูกหลอดหางสั้นบินลงมาใกล้กับผิวน้ำก็จะสามารถจับไว้ได้อย่างแม่นยำ
นกจมูกหลอดหางสั้นแทบจะไม่สามารถต้านทานแมวน้ำได้เลย ขณะอยู่เหนือผิวน้ำพวกมันจะเคลื่อนไหวตัวได้อย่างเชื่องช้า ต้องกระพือปีกอยู่หลายครั้งถึงจะบินขึ้น ดังนั้นต่อให้พวกแมวน้ำโผล่พ้นน้ำแล้วอ้าปากหาวก่อนสักรอบก็ยังสามารถจับพวกมันเอาไว้ได้
ในฝูงแมวน้ำมีลูกแมวน้ำอยู่จำนวนหนึ่ง พวกมันยังไม่สามารถหาอาหารเองได้ ทั้งยังไม่สามารถดำน้ำเป็นเวลานานๆ ได้อีกด้วย บรรดาแม่ๆ และป้าๆ แมวน้ำจึงต้องหาอาหารมาให้พวกมัน
กลุ่มแมวน้ำกรีนแลนด์มีความสัมพันธ์ที่น่าสนใจมาก โดยที่แมวน้ำตัวเมียทุกตัวจะมีเพื่อนสนิท หลังจากคลอดลูกแล้วเพื่อนสนิทของพวกมันก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นแม่ทูนหัว ซึ่งแม่ทูนหัวจะต้องรับภาระที่หนักกว่าแม่แท้ๆ ด้วยซ้ำ พวกมันต้องรับภาระเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้ลูกแมวน้ำและยังต้องหาอาหารมาให้กินอีกด้วย
ที่ขั้วโลกเหนือ หากหมีขั้วโลกต้องการจะจับลูกแมวน้ำ ผู้ที่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับพวกมันที่สุดก็คือแม่ทูนหัวของลูกแมวน้ำ โดยจะต่อสู้อย่างกล้าหาญจนสุดชีวิต
ขณะที่บรรดาแม่ทูนหัวกำลังคาบนกจมูกหลอดหางสั้นปีนขึ้นมาบนชายหาดให้ลูกแมวน้ำอย่างมีความสุข หู่จือกับเป้าจือที่ซ่อนตัวอยู่อีกฝั่งหนึ่งก็ส่งเสียงขู่ร้องแล้วกระโจนเข้าไปแย่งนกจมูกหลอดหางสั้นมา หลังจากนั้นจึงวิ่งเอาไปให้ฉินสือโอว
พวกแมวน้ำถึงกับตะลึงงัน ให้ตายเถอะมีใครหน้าไม่อายกว่าพวกนี้อีกไหม? นี่มันปล้นกันชัดๆ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรก็เห็นกันอยู่ว่าพวกมันถูกรังแก!
หู่จือกับเป้าจือติดใจกับการแย่งชิง พวกมันแย่งนกมาจากแมวน้ำได้หกเจ็ดตัวติดกันต่อกันแต่ก็ยังไม่หยุด แถมพวกมันยังซนมากๆ จนคิดว่าการรังแกแมวน้ำเป็นเรื่องที่น่าสนุก ทำอะไรไม่ได้แล้ว บนชายหาดบรรดาแมวน้ำไม่สามารถต่อกรกับสุนัขแลบราดอร์ได้เลย ต่อให้พวกมันขับรถก็ตามหู่จือกับเป้าจือไม่ทันอยู่ดี
แต่แมวน้ำกรีนแลนด์ฉลาดมาก พวกมันรู้จักการดักซุ่ม หลังจากพบว่าหู่จือกับเป้าจือเอาแต่แย่งชิงนกจมูกหลอดหางสั้น เมื่อราชาแมวน้ำส่งเสียงร้องต่ำออกมาจากลำคอ แมวน้ำแต่ละตัวก็พากันปีนขึ้นมานอนแกล้งตายบนชายหาด โดยมีแมวน้ำตัวเมียไปจับนกจมูกหลอดหางสั้นมาส่งให้
หู่จือกับเป้าจือจึงวิ่งเข้าไปแย่งนกจมูกหลอดหางสั้นมาอย่างมีความสุข แต่พอหันหลังกลับไปก็พบว่าพวกแมวน้ำที่นอนอาบแดดอย่างเอื่อยเฉื่อยอยู่เมื่อสักครู่ในตอนนี้กลับพากันลุกขึ้นมา แล้วใช้ดวงตากลมโตจดจ้องพวกมันทั้งสองด้วยสายตาแปลกประหลาด
สองพี่น้องเห็นว่าท่าจะไม่ดีแล้ว จึงทิ้งนกจมูกหลอดหางสั้นแล้วคิดจะวิ่งหนี ทว่าพวกมันจะวิ่งไหนไปไหนได้ล่ะ? ในเมื่อพวกแมวน้ำปิดล้อมที่ตรงนี้ไว้แล้ว พวกมันใช้วิธีเดียวกันกับที่ใช้จัดการเหมาเหว่ยหลงในตอนนั้น โดยการบุกประชิดไปข้างหน้าแล้วบีบบังคับให้หู่จือกับเป้าจือต้องกระโดดลงไปในน้ำ
ท้องทะเลเป็นสนามเจ้าถิ่นของแมวน้ำ สมญานามเสือดาวแห่งท้องทะเลไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย ในตอนนี้มีแมวน้ำตัวอ้วนหนึ่งฝูงกำลังรออยู่ที่ด้านล่าง หลังจากหู่จือกับเป้าจือตกลงมาในน้ำ พวกมันก็เริ่มตบตีลูกหมาตกน้ำทั้งสองตัวทันที
ฉินสือโอวเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะไม่ดีแล้ว โชคดีที่แก๊งสามเกลอของบอลหิมะกำลังว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆ ละแวกนี้ เขาจึงรีบเรียกระดมพลสามเกลอให้มาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตสุนัขทั้งสองตัว
บีนเป็นโลมาปากขวดซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงในท้องทะเลขนานแท้จึงมีกำลังสู้รบระดับกลาง ทว่าไอซ์สเกตกับบอลหิมะไม่ได้มีระดับกำลังการต่อสู้ธรรมดาๆ วาฬเบลูกายังไม่เท่าไร ต้องฉลามเสือทรายสิถึงจะนับว่าเป็นนักฆ่าแห่งมหาสมุทร อย่างมากที่สุดพวกมันถึงขั้นที่ว่าสามารถฉีกทึ้งวาฬที่ยังมีชีวิตอยู่แล้วกินเป็นอาหารได้เลย ส่วนเหยื่อที่มีขนาดเล็กที่สุดก็คือปลาซาร์ดีน แมวน้ำก็นับว่าเป็นหนึ่งในอาหารของพวกมันเช่นกัน
ไอซ์สเกตว่ายน้ำบุกเข้ามาพร้อมกับอ้าปากโชว์ซี่ฟันแหลมคมเหมือนมีดกริช ลักษณะท่าทางดูดุร้ายเป็นอย่างยิ่งพร้อมกับขนาดตัวที่ใหญ่ถึงสิบกว่าเมตร ทำให้บรรดาแมวน้ำกลัวจนพากันหนีไป หู่จือกับเป้าจือถึงมีโอกาสกลับขึ้นมาบนชายหาด แล้วรีบวิ่งหนีจนหางจุกตูด
หลังจากวิ่งมาได้ครึ่งทาง สุนัขแลบราดอร์ทั้งสองตัวก็รู้สึกว่าถ้าทำแบบนี้พวกมันจะเสียหน้า เลยวิ่งกลับไปแย่งนกจมูกหลอดหางสั้นมาหนึ่งตัว ซึ่งนี่ทำให้พวกแมวน้ำโมโหสุดขีด จนพากันคลานขึ้นมาแล้วส่งเสียงขู่ด้วยความโกรธเคือง
พอลูกแมวน้ำสองตัวที่กำลังเล่นกันอยู่กับเสี่ยวเถียนกวาได้ยินสมาชิกในครอบครัวส่งเสียงขู่ก็เริ่มอ้าปากส่งเสียงร้องตาม เถียนกวากำลังเล่นอยู่กับเพื่อนๆ ด้วยความสนุกสนาน เมื่อเห็นว่าอยู่ๆ พวกเพื่อนๆ ก็ไม่เล่นต่อแล้ว เธอจึงตีมือลงไปบนหัวของพวกมัน เป็นเด็กเป็นเล็กจะร้องอะไรกัน อยากหัดต่อยตีแบบผู้ใหญ่อย่างนั้นเหรอ? ยังไม่รีบเล่นต่ออีก!
สำหรับเด็กอย่างเสี่ยวเถียนกวาที่กล้าเผชิญหน้ากับหมีขั้วโลกที่เป็นศัตรูทางธรรมชาติของพวกมัน ลูกแมวน้ำรู้สึกเคารพและเสื่อมใส่เธออย่างสุดหัวใจ พอโดนเสี่ยวเถียนกวาตีหน้าผาก พวกมันก็รีบหุบปากแล้วกลับมาใช้หน้าผากตั้งลูกบอลไว้บนหัวต่อทันที
คาปาไลที่ได้เห็นภาพนี้ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า “คุณฉิน ลูกสาวของคุณมีเพื่อนสนิทถึงสองตัวเลยนะครับ ผมขอถ่ายรูปตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันได้ไหม? ลูกสาวของผมก็ชอบแมวน้ำเหมือนกัน แต่ที่ประเทศคิวบาของเรา มีแค่เมืองใหญ่ถึงจะมีสวนสัตว์ เธอเลยไม่เคยได้เห็นแมวน้ำด้วยตาของตัวเองมาก่อน”
……………………