ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1536 สายโทรศัพท์จากเจ้าของฟาร์มปลา
ฉินสือโอวกำลังพิจารณาอย่างรอบคอบ วอล์คกี้ ทอล์คกี้ก็ดังขึ้น บีบีซวงพูดว่า “บอส มีเรือลำใหญ่เข้ามาในน่านน้ำของฟาร์มปลา ดูแล้วไม่เหมือนเรือขโมยปลาเลย”
ถ้าเป็นตามปกติ ฉินสือโอวคงไม่ค่อยสนใจข้อมูลแบบนี้ และส่งคงไปดูก็พอ
แต่สองสามวันมานี้เขาเพิ่งได้โดรนพวกนั้นมา และความเสพติดของเขายังไม่ผ่านไป โดยไม่สนพวกชาวประมงที่กำลังคัดกรอง เขาวิ่งกลับไปที่ห้องเรดาร์ และสั่งให้พวกทหารบินโดรน ไปถ่ายสภาพของเรือลำนี้
โดรนพวกนี้มีกล้องเว็บแคม หลังจากที่ตั้งโปรแกรมเมื่อเจอเป้าหมายมันก็จะถ่ายภาพอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7 นาที
อย่าคิดว่า 7 นาทีไม่นาน สำหรับการถ่ายภาพด้วยโดรนนั้นถือว่าไม่สั้นเลย การถ่ายภาพของมันเว้นช่วงเพียงประมาณ 10 มิลลิวินาทีเท่านั้น 7 นาทีก็ถ่ายภาพได้ 4 พันกว่ารูปแล้ว!
โดรนบินออกไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไป 2 ชั่วโมงกว่ามันก็บินกลับมา แบล็คไนฟ์ถอดการ์ดหน่วยความจำออกและอ่านบนคอมพิวเตอร์ ข้อมูลทั้งหมดของเรือลำนี้ก็ปรากฏขึ้น
เมื่อเห็นภาพถ่ายที่ชัดเจนบนนั้น ฉินสือโอวก็เข้าใจเหตุผลที่ทุกประเทศแย่งกันศึกษาโดรน สิ่งนี้ว่องไวจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นค่าใช้จ่ายก็ถูกเป็นพิเศษ หากใช้เฮลิคอปเตอร์ออกไปตรวจสอบ รอบหนึ่งต้องเสียพันกว่าดอลลาร์แคนาดา แล้วถ้าใช้โดรนล่ะ? ก็แค่ไม่กี่สิบดอลลาร์แคนาดา!
เมื่อเห็นเรือบนภาพถ่าย ฉินสือโอวก็รู้ทันทีว่า นี่คือเรือเก็บกู้ทะเลลึกของบิลลี่ เป็นชีวิตจิตใจของเขา เขาเก็บกู้สมบัติในซากเรืออับปางโดยอาศัยเรือลำนี้ เขาเคยอยู่บนเรือลำนี้ระยะหนึ่งที่น่านน้ำโซมาเลียก่อนหน้านี้
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก บิลลี่คว้าโอกาสที่ฤดูใบไม้ผลิอุณหภูมิเพิ่มขึ้น เตรียมไปเก็บกู้ซากเรืออับปางของโจรสลัดขวานดำในทะเลเหนือที่น่านน้ำกรีนแลนด์
เมื่อมองดูข้างหลังดีๆ บนรูปถ่ายบางรูปจะเห็นร่างของบิลลี่ ชายคนนี้ถือแก้วไวน์หรูหรายืนพิงเสาตรงหัวเรือมองทิวทัศน์
เรือเก็บกู้ขับเข้ามาเทียบท่า ฉินสือโอวนั่งยองๆ เล่นโทรศัพท์มือถือไปพลางอ่านข่าวไปพลางอยู่ตรงนั้น บิลลี่กระโดดลงมาปิดตาของเขาจากด้านหลัง และจงใจใช้น้ำเสียงหวานถามว่า “ทายซิว่าฉันเป็นใคร?”
ฉินสือโอวตัวสั่น “นายต้องขอบคุณที่สภาพอากาศตอนนี้ยังหนาวอยู่ ไม่อย่างนั้นฉันหันกลับไปเตะนายลงน้ำด้วยลูกถีบบินแล้ว!”
บิลลี่ชักมือกลับและหัวเราะเสียงดัง “ทำไมจริงจังขนาดนี้? ฉิน นายไม่คิดว่าเป็นแบบนี้มันน่าเบื่อเหรอ?”
ฉินสือโอวยักไหล่ “ฉันกับผู้ชายทำอย่างไรก็น่าเบื่อ เอาล่ะ นายเตรียมตัวไปเก็บกู้ซากเรืออับปางเสร็จแล้วใช่ไหม? ฉันจะได้ให้พิกัดนาย นายพาคนไปก็พอ ครั้งนี้สถานที่คือทะเลหลวง น่าจะเก็บของได้ไม่น้อย”
บิลลี่ถาม “นายไม่ไปเหรอ?”
ฉินสือโอวชี้บ่อเพาะพันธุ์ที่อยู่ไกลๆ “ไปทางเหนืออีก 15 กิโลเมตร นายจะเห็นว่าตอนนี้ฉันยุ่งแค่ไหน เวลามีค่านะ ฤดูใบไม้ผลิรอบนี้ฉันคงไปไหนไม่ได้”
ทั้ง 2 คนเดินลงจากท่าเรือ แม่ของฉินสือโอวยกเก้าอี้มาให้พวกเขาที่สนามหญ้าหน้าวิลล่า ด้านนอกมีแสงแดดส่อง เป็นสภาพอากาศที่ดีในการอาบแดด แม้แต่เสี่ยวเถียนกวาก็อาบแดดอยู่บนสนามหญ้า
บิลลี่ถามข่าวที่เกี่ยวข้องกับซากเรืออับปาง จากนั้นก็พูดว่า “จริงสิ ฉันได้ยินเบลคพูดว่า นายซื้อฟาร์มปลา? แล้วด้านในมีไม้พาโลซานโตเหรอ? เป็นอย่างไรบ้าง ฉันช่วยนายจัดการได้นะ”
ฉินสือโอวใจสั่น ตอนนี้เขากำลังขาดแคลนเงิน เดี๋ยวฟาร์มปลาหมายเลข 2 ก็ต้องเริ่มทำโรงงานอาหารสัตว์ แล้วยังต้องโยนเงินทุนก้อนหนึ่งเข้าไปอีก แต่ความคิดของเบลคคือเดี๋ยวก็ถึงงานประมูลฤดูใบไม้ผลิของบริษัทจัดประมูลริชชี่แล้ว หากส่งไม้พาโลซานโตเข้าประมูลก็จะทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น
เขาพูดว่า “ไม่ใช่แค่ต้นเดียว คาดว่ามี 20 กว่าต้น…”
นี่คือเหตุผลที่เขาอยากขายล่วงหน้า จำนวนเยอะเกินไป ถึงส่งเข้างานประมูลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ
“ฟัค!” บิลลี่ตกตะลึง
ฉินสือโอวลูบจมูก และอธิบายก่อนว่า “ฉันก็ไม่ได้คิดว่าจะโชคดีขนาดนี้เหมือนกัน ฟาร์มปลาแห่งนั้นมีโกดังร้าง ด้านในมีของจำพวกไม้เยอะมาก ฉันก็ไปเจอเข้าตอนที่กำลังทำความสะอาด”
บิลลี่ยังคงตกตะลึง “ชิท! นายจ่ายเงินซื้อฟาร์มปลานั่นมาเท่าไร?”
“4 ล้านกว่า”
“ฟัค! นายนี่มันไม่ใช่ความโชคดีที่อธิบายได้แล้ว! ทำไม พระเจ้าไม่ยุติธรรม!” ใบหน้าของบิลลี่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความขุ่นเคือง ดูเหมือนจะอารมณ์เสียจริงๆ
ฉินสือโอวใช้วิธีย่างไก่แบบคิวบาย่างนกจมูกหลอดหางสั้นเพื่อสร้างความบันเทิงให้บิลลี่กับพรรคพวก น่าเสียดายที่เบียร์ที่เขาหมักเองยังหมักไม่เสร็จ จึงไม่สามารถนำออกมาดื่มได้
บิลลี่ไม่ได้หยุดพักที่ฟาร์มปลานานนัก เขายุ่งอยู่กับการเก็บกู้สมบัติในซากเรืออับปาง ต้องรู้ว่าตั้งแต่รู้ว่ามีซากเรืออับปางมากขนาดนี้ เขาก็ตั้งตารอคอยฤดูกาลนี้มาโดยตลอด สภาพอากาศในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือช่วงฤดูหนาวนั้นแย่มาก และอาจเจอกับภูเขาน้ำแข็ง ดังนั้นจึงไม่สามารถเก็บกู้ได้
ตอนนี้ฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว เขาจึงรีบมาทันที ความกระตือรือร้นในด้านนี้ของเขาไม่มีใครเทียบได้
ฉินสือโอวไปให้ความสนใจกับปัญหาการเพาะพันธุ์แม่พันธุ์หอยต่อ เมื่อแม่พันธุ์หอยพวกนี้เข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โภชนาการอุดมสมบูรณ์และอุณหภูมิน้ำเหมาะสม พวกมันก็เริ่มปล่อยอสุจิกับไข่เพื่อสืบพันธุ์ทันที
อสุจิของหอยกับไข่ของหอยจะรวมกันในน้ำและก่อตัวเป็นไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว จากนั้นเซลล์จะแบ่งตัว ไม่กี่วันต่อมาจะเกิดเป็นหอยเชลล์ช่วงต้นซึ่งก็คือตัวอ่อนระยะเวลิเกอร์ของพวกมัน
หอยเชลล์บางตัวกินสาหร่ายทะเลมากขึ้นตอนอยู่ในน้ำ พลังแห่งโพไซดอนที่สะสมอยู่ในตัวก็เยอะขึ้น ดังนั้นจึงเกิดการสืบพันธุ์ล่วงหน้า และบนเปลือกหอยของพวกมันก็จะมีตัวอ่อนระยะเวลิเกอร์ติดอยู่
ตัวอ่อนระยะเวลิเกอร์จะมีซิเลีย ซิเลียพวกนี้จะขดตัวทำให้ว่ายน้ำในน้ำได้ แล้วก็สามารถเกาะบนเปลือกของแม่พันธุ์หอย และย้ายตามแม่พันธุ์หอยได้ ดังนั้นฉินสือโอวจึงปล่อยพลังแห่งโพไซดอนเข้าไปในตัวพวกมัน เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพวกมัน ทำให้จุดเริ่มต้นของพวกมันสูงกว่าพี่น้องของพวกมัน
หลังจากผ่านการเจริญเติบโตไปอีก 7 ถึง 10 วัน ตัวอ่อนระยะเวลิเกอร์จะก่อตัวเป็นตัวอ่อนจุดตา เวลานี้จะต้องคัดตัวอ่อน แต่นี่คือเรื่องหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ และตอนนี้ก็ไม่เป็นไร
ฉินสือโอวคิดว่าเขาจะได้พักผ่อน ผลคือไม่ถึง 2 วัน มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรมาหาเขาที่นี่ เป็นเจ้าของฟาร์มปลาที่ชื่ออารอน บอนญานี่ เขาบอกว่าฟาร์มปลาของเขาเจอการรุกล้ำ ให้เขาช่วยเรียกพวกเจ้าของฟาร์มปลามาเพื่อจัดการความยุติธรรมให้เขาที
เมื่อได้ยินคำนี้ ฉินสือโอวก็รู้ว่าในมือเขามีงานอีกแล้ว หัวของเขานึกย้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็นึกถึงไข่ตุ๋นลูกใหญ่ขึ้นมาได้ เจ้าของฟาร์มปลาอารอนคนนี้คือชายวัยกลางคนลูกครึ่งที่หัวล้าน มีผิวสีน้ำตาลอ่อน ฟาร์มปลาอยู่ที่น่านน้ำลาบราดอร์ เป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ
เขาถามอารอนว่าเจอการรุกล้ำอะไร อารอนตอบอย่างอเนจอนาถว่า “เมื่อวานไม่ใช่เทศกาลล่าแมวน้ำบ้านั่นเหรอ? ในฟาร์มปลาของผมมีเกาะเล็กๆ หลายเกาะ และบนเกาะเหล่านั้นมีแมวน้ำอาศัยอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงมีเรือประมงเข้ามาในฟาร์มปลาของผม พวกเขาติดป้ายจับแมวน้ำ แต่ความจริงคือมาที่ฟาร์มปลาของผมเพื่อขโมย ผมแจ้งตำรวจทะเลแล้ว ผลคือตำรวจทะเลไม่สนใจความขัดแย้งนี้ ให้ตายเถอะ ท่านประธาน ผมควรทำอย่างไรดี?”
ทำอย่างไรเหรอ แน่นอนว่าก็ต้องถือปืนจัดการ ฉินสือโอวบอกเขาว่า “พวกนายป้องกันตัวเองก่อน วันนี้ฉันจะพาเหล่าพี่น้องออกไปช่วยนาย! ไอ้เพชฌฆาต ฉันจะทำให้พวกมันได้รับผลกรรมที่ทำไว้!”
…………………………………………