ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1539 จุดที่ดีที่สุด
บริเวณน่านน้ำนี้มีเรือประมงจอดอยู่ทั้งหมดสี่ลำ พวกเขาน่าจะมาด้วยกัน เพราะเรือพวกนี้เป็นเรือเดินสมุทร และมีชื่อที่สอดคล้องกัน ได้แก่ เรืออัศวินออร์แลนโด เรือคนเถื่อนผู้ยิ่งใหญ่รินัลโด เรืออัครมุขนายกโทบิน และ เรือเจ้าชายออณีเย
ฉินสือโอวอาศัยอยู่ในแคนาดามาสักระยะหนึ่งแล้ว และเพราะว่าครอบครัวของวินนี่มีความสัมพันธ์กับชาวฝรั่งเศสอยู่…พี่เขยของเธอ อาร์ม็องเป็นชาวฝรั่งเศส ดังนั้นเธอจึงมีความเข้าใจในเรื่องของตำนานและเรื่องเล่าของชาวฝรั่งเศส และทำให้ฉินสือโอวเข้าใจในบางเรื่องด้วยเช่นกัน
ชื่อเรือทั้งสี่ลำนี้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกมันเชื่อมโยงกัน พวกเขาทั้งสี่คนเป็นนักรบที่มีชื่อเสียงที่สุดในสิบสองอัศวินแห่งฝรั่งเศส โดยมีการอ้างสิทธิ์มากมาย
คนเหล่านี้เคยติดตามจักรพรรดิชาร์เลอมาญผู้ยิ่งใหญ่ในสงครามทางตอนใต้และเหนือ ประมาณแปดร้อยปีฝีมือการทำสงครามระหว่างชาวคริสต์และชาวซาราเซ็นเป็นที่โดดเด่นมาก เหตุผลที่มีอัศวินเทพทั้ง 12 คนก็เพราะเลข 12 นี้ก็เป็นจำนวนสาวกขององค์พระเยซูเช่นกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วจำนวนทหารที่ใกล้ชิดและคนใกล้ชิดของจักรพรรดิชาร์เลอมาญนั้นไม่ได้มีจำนวนน้อยขนาดนี้
เมื่อฉินสือโอวคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ระวังตัวเพิ่มขึ้น ฝ่ายตรงข้ามทำงานอย่างเป็นระบบ แต่เรือปิศาจมาลาจิกิหรือเรือกษัตริย์บริตานีอย่ามาอีกเลย การที่ฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนมากอาจทำให้ผู้คนตกอกตกใจได้
เรือล่าประมงทั้งสี่ลำนี้มีพลังอย่างมากมายมหาศาล คนพวกนี้ไม่เคยได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์มาก่อน ทำให้เกิดความตื่นตระหนกจนเรือชนกันอย่างต่อเนื่อง และมันก็ยังคงเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะที่ใกล้ที่สุดอยู่เรื่อยๆ
ฉินสือโอวยังเห็นอีกว่า บนหัวเรืออัครมุขนายกโทบินมีกล่องใบหนึ่งวางอยู่ ในกล่องใบนั้นมีปืนไรเฟิลบรรจุอยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเล็งไปที่แมวน้ำบนเกาะ
เบิร์ดก็สังเกตเห็นเช่นกัน เขาพูดออกมาเสียงต่ำว่า “บอส ทำยังไงดีครับ? ”
กำลังหลักของพวกเขายังมาไม่ถึง พวกเขามีแค่เฮลิคอปเตอร์ลำเดียว ฉินสือโอวตัดสินใจที่จะแสดงความกล้าและความบ้าเลือดของเขาออกมา เขาหยิบปืนออกมาแล้วพูดว่า “ลงไปข้างล่าง เราจะใช้ปีกในการจัดการกับเจ้าลูกหมาพวกนี้เอง! ”
เบิร์ดดันคันโยกนำเครื่องลง เฮลิคอปเตอร์ค่อยๆ ลดระดับลงช้าๆ ปีกเฮลิคอปเตอร์หมุนไปมาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดกระแสลมแรง คนที่อยู่บนเรือต่างก้มตัวลงกับพื้นพลางกอดเสื้อผ้าของตัวเองไว้ จะยืนขึ้นก็ยืนไม่ได้ จึงไม่สามารถเล็งปืนได้
ฉินสือโอวมองลงมาจากหน้าต่าง คนที่อยู่บนเรือเงยหน้าขึ้นมามองเขาพร้อมก่นด่าออกมา เขาหัวเราะหึหึออกมา แต่อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้ยินเสียงด่าของพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย
เฮลิคอปเตอร์บินวนไปมารอบๆ เรืออยู่สักพัก คนบนเรือก็ค่อนข้างแข็งแรงเช่นกัน มีคนยกปืนขึ้นมา แล้วเหนี่ยวไกมายังเฮลิคอปเตอร์
‘ปังๆ ๆ ‘ เกิดเสียงดังกระทบขึ้นที่ใต้ท้องเฮลิคอปเตอร์ จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ก็สั่นไปมาหลายที ทันใดนั้นทีหน้าผากฉินสือโอว เบิร์ดและบีบีซวงก็มีเหงื่อไหลผุดออกมา
นี่ไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์ทหาร การกันกระสุนจึงค่อนข้างแย่มาก ด้านล่างของห้องโดยสารนั้นยังดี เนื่องจากเป็นสเตนเลส แต่ถ้าพวกมันยิงเข้ามาในประตู เป็นไปได้ว่ามันอาจจะทะลุเข้ามาข้างในได้!
ฉินสือโอวไม่คิดว่าพวกมันจะกล้าหาญขนาดนี้ พวกมันกล้าที่จะยิงพวกเขาโดยตรง เขาสังเกตเห็นว่าทั้งสองฝ่ายมีความยับยั้งชั่งใจมากกว่าการปะทะกันก่อนหน้านี้ และเขาคิดว่าพวกเขาทุกคนเป็นมือปืนสมัครเล่น ไม่ได้คิดเลยว่าคนพวกนี้จะเป็นมือปืนอาชีพและมีความสามารถที่เก่งกาจ
แม้ว่าเบิร์ดจะตกใจ แต่เขาก็ยังมีสติมั่นคงเหมือนหินผา ในท้ายที่สุดเขาก็ปีนฝ่าห่ากระสุนออกมาได้ เบิร์ดเข้าไปควบคุมที่จอยบังคับอย่างรวดเร็ว พลางถามฉินสือโอวออกมาว่า “เจ้านาย จะให้ต่อสู้กลับหรือไม่ครับ? ”
ว่ากันตามตรง ฉินสือโอวกลัวตายมาก แต่เขาต้องการที่จะปกป้องแมวน้ำและสัตว์ทะเล เขาสามารถช่วยอารอนได้ แต่เขาไม่สามารถเสี่ยงชีวิตเพื่อทำสิ่งนี้ได้ เขายังมีเงินมากมายมหาศาล รวมถึงพ่อแม่และลูกเมียที่ต้องดูแลอยู่!
ดังนั้น เขาจึงจ้องมองไปยังเรือประมงด้วยความโกรธ และโบกมือไปมาอย่างเย็นชาพร้อมพูดว่า “บินขึ้น ให้ตายเถอะ พวกเราสังเกตการณ์พวกมันก่อนเถอะ ”
เฮลิคอปเตอร์กลับมาบินขึ้นสูง เหล่าผู้คนที่อยู่บนเรือยกนิ้วกลางขึ้นมาให้พวกเขาอย่างเย้ยหยัน และมีคนบางส่วนที่ยกปืนขึ้นแสดงออกถึงการต่อต้านพวกเขา
ฉินสือโอวไม่ได้เข้าต่อสู้กับคนพวกนั้น เขาเพียงมองลงมาด้วยสายตาเย็นชา
เรือประมงเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะที่มีแมวน้ำอาศัยอยู่ มีคนถือปืนขึ้นไปยิงแมวน้ำบนเกาะที่กำลังว่ายน้ำอยู่ในช่วงน้ำตื้น
เมื่อเห็นแบบนั้น ฉินสือโอวรู้สึกอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาหยิบปืนออกมา แล้วสั่งให้เบิร์ดลดระดับเฮลิคอปเตอร์ลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ให้บีบีซวงหยิบบาซูก้าออกมาจากกล่อง
เฮลิคอปเตอร์ลดระดับลงเรื่อยๆ คนที่อยู่บนเรือประมงเล็งปืนมาอีกครั้ง ตอนนั้นเองก็มีคนเห็นว่าบนไหล่ของบีบีซวงนั้นมีปืนอยู่ ทันใดนั้นพวกเขาก็ตกใจจนร้องอุทานออกมาว่า “พระเจ้า! อาร์พีจี! ”
บีบีซวงดึงสลักออก ลูกปืนที่ห่อหุ้มไปด้วยน้ำแข็งแห้งและฟองอากาศที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วส่งเสียงหวีดและพุ่งตัวออกไป ใช้เวลาเพียงสองวินาทีก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นที่ดาดฟ้าของเรือประมง เกิดควันหนาและเปลวไฟขึ้นที่เรือลำนั้นอย่างรวดเร็ว
เฮลิคอปเตอร์บินขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉินสือโอวให้บีบีซววงใส่กระสุนเข้าไปอีกลูก และรอให้เรือประมงลำอื่นเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้จากนั้นก็ยิงปืนใหญ่ออกไปอีกครั้ง
เรือที่ได้รับความเสียหายคือเรืออัครมุขนายกโทบิน ส่วนเรืออีกสามลำนั้นหยุดเคลื่อนตัวด้วยความตกใจ พวกมันตีโค้งออกจากเกาะไปทีละลำ และเคลื่อนตัวเข้าใกล้เรืออัครมุขนายกโทบินเพื่อช่วยเพื่อน
เบิร์ดขับเฮลิคอปเตอร์ออกไปไกล มีคนบนเรืออัศวินออร์แลนโดยิงปืนมาทางพวกเขาด้วยความโกรธ แต่เนื่องจากด้วยระยะที่ห่างไกลและมีลมรบกวน กระสุนจึงไม่สามารถปะทะเข้ากับเฮลิคอปเตอร์ได้เลย
ฉินสือโอวแน่ใจว่าคนพวกนี้จะไม่เข้าใกล้เกาะแห่งนี้ไปอีกสักพัก เขาจึงเคลื่อนตัวกลับมา
ในช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน เรือกกำปั่นทะเลตะวันออกและเรือกกำปั่นทะเลใต้ก็ได้เดินมาถึงฟาร์มปลา บนเรือทั้งสองลำเต็มไปด้วยทหารฝีมือเยี่ยม เกิงจุนเจี๋ยยืนตัวตรงถือปืนเรมิงตันอยู่ในมือทั้งสองข้าง สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความเงียบขรึม และสายตาอันแหลมคมกำลังมองมาข้างหน้า ท่าทางการยืนของเขาบนหัวเรือนั้นสง่างามจริงๆ
แอรอนตกใจกับภาพที่เห็น เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “พระเจ้า ท่านประธาน คุณไปหาลูกน้องแบบนี้มาจากที่ไหนกัน? พวกเขาเป็นบุคคลทรงพลังที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาโดยแท้! ”
ในตอนที่เกิงจุนเจี๋ยถอยออกไป ก็มีทหารอีกคนขึ้นมาส่งปืนให้เขา หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมา สายตามองไปข้างหน้าด้วยความเฉียบคม จากนั้นนายทหารคนนั้นก็นั่งยองๆ ลงกับพื้นและถ่ายรูปให้เขา…
คนแล้วคนเล่า ทุกคนขึ้นมาถ่ายภาพทีละภาพโดยมีพื้นหลังเป็นที่ตกปลาและท่าเรือเหมือนกันหมด
ฉินสือโอว “…”
โชคดีที่ทุกคนมารวมตัวกันแล้ว เรือกกำปั่นทะเลทั้งสองลำก็มาถึงแล้ว และยังมีเรืออีกลำขับเข้ามาอีก บนเรือมีชาวประมงร่างใหญ่อยู่ ผู้นำของเรือลำนั้นโพกผ้าสีแดงบนหัว เขาโบกมือให้พร้อมตะโกนออกมาว่า “อารอนหัวโล้น เราพี่น้องมาช่วยแล้ว! ”
อารอนกอดต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น และแนะนำเขาให้กับฉินสือโอว “ท่านประธาน นี่คือ…
“รูดี้ เคลลิสครับ แน่นอนว่าผมรู้ว่าเขาเป็นใคร เขาคือเจ้าของฟาร์มปลาผู้โด่งดังของพวกเราชาวแลบราดอร์ ” ฉินสือโอวจับมือกับชายร่างใหญ่ เขามีความจำที่ยอดเยี่ยม เขาจำชื่อลูกน้องที่อยู่ใต้บัญชาเขาได้หมดทุกคน
ตกกลางคืน รกกระบะทั้งสองคันขับจากฝั่งมายังท่าเรือทีละคัน เจ้าของฟาร์มปลาที่ชื่อเบอร์ตัน ไรซ์ มายังท่าเรือแฮร์ริงตันด้วยตัวเอง นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในสมาชิกของพันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์อีกด้วย
จากนั้นก็มีรถอีกสองสามคันขับตามเข้ามา พวกเขาต่างเป็นเจ้าของฟาร์มปลาในแลบราดอร์ทั้งหมด ไม่นานเจ้าของฟาร์มปลาและชาวประมงทั่วทั้งเมืองก็ออกมารวมตัวกัน
…………………….