ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1583 อ่าวสาหร่ายสีน้ำตาล
การปรากฏตัวของพวกมันทั้งสองตัวทำให้เคอร์มีความสุข เขาเดินเข้ามากอดพวกมันทั้งสองตัว แล้วพูดออกมาด้วยความรักว่า “สองสามวันนี้พวกนายต้องสู้ๆ นะ ต้องให้สาวสวยทั้งสี่นี้ตั้งท้องกับพวกนายให้ได้ล่ะ พอถึงเวลานั้นฉันจะพาพวกเขากลับมาหาพวกนายบ่อยๆ”
สุนัขสาวทั้งสี่ตัวไม่ได้คิดอะไรมากมาย เมื่อเห็นแลบราดอร์ทั้งสองตัวพวกเธอก็ขยับเข้าไปหาทันที
หู่จือและเป้าจือถือเป็นสุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ที่มีความสง่างาม ด้วยหัวที่มีขนาดใหญ่ เส้นโค้งของใบหน้าชัดเจนไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย ฟันขาวแข็งแรงเรียงตัวกันอย่างสวยงาม และใบหูทั้งสองข้างที่สะบัดไปมานั้นช่างน่ารักเหลือเกิน นอกจากนี้ พวกมันยังมีสายตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเฉียบคม ร่างกายเห็นส่วนโค้งได้ชัดเจน ขนสั้นตรงและหนานุ่ม ขาทั้งสี่ข้างแข็งแรงนับได้ว่าเป็นสุนัขหนุ่มหล่อเลยทีเดียว
ฉินสือโอวกวักมือเรียกพวกมันทั้งสองตัวให้มารับภรรยาของตัวเอง แต่ท่าทางของพวกมันที่ตื่นตัวเมื่อสองวันก่อนได้เปลี่ยนมาเป็นเขินอายซะได้ ไม่ว่าฉินสือโอวจะกวักมือเรียกเท่าไรพวกมันก็ไม่ยอมขยับตัว แม้ว่าสาวๆ จะชะโงกหน้าเข้าไปใกล้อย่างไร พวกมันก็จะหลบหัวลงและก้าวถอยหลังหนีไป
เคอร์ที่รู้สึกขบขัน พูดขึ้นมาอย่างมีความสุขว่า “ไปกันเถอะ ฉิน ที่นี่ปล่อยให้หนุ่มหล่อกับสาวๆ จัดการกันเองเถอะ พวกเราไม่ต้องชักจูงให้พวกมันสนิทกันหรอก พวกมันทำได้เองตามธรรมชาติ”
ฉินสือโอวตอบกลับว่า “บางทีหู่จือและเป้าจือก็รู้สึกเขิน ให้ฉันคอยอยู่เป็นเพื่อนพวกมันดีกว่าไหม?”
เคอร์ส่ายหัว “ถ้าหากว่าฉันและนายอยู่ด้วย พวกมันก็ยิ่งเขินน่ะสิ เด็กสองตัวนี้มีความเคารพตัวเอง ไม่เหมือนกับสุนัขทั่วไป ดังนั้นฉันเลยชอบพวกมันยังไงล่ะ”
ท่านชายฉินไม่อยากไปจากตรงนี้ เขาอยากจะอยู่ที่นี่ ตอนนี้ท่าทีของหู่จือและเป้าจือเปลี่ยนไปนิดหน่อย ราวกับลูกชายที่พึ่งแต่งงาน ราวกับว่าหากเขาไปแล้ว หู่จือและเป้าจือจะไม่ได้เป็นของเขาอีกต่อไป
แต่ในที่สุดเขาก็ต้องจำใจเดินออกมา ที่เคอร์พูดไม่ผิดเลย พวกมันทั้งสองตัวอายเขา มันปฏิเสธที่จะอยู่ร่วมกับสาวๆ เมื่ออยู่ใกล้กับคนพวกมันก็จะวิ่งหนี แต่เมื่อพวกมันได้อยู่ด้วยกัน หากเทียบกับมนุษย์ ก็เรียกได้พวกมันกำลังตกหลุมรัก
ฉินสือโอวกลัวว่าพวกมันจะมีวิวัฒนาการเหมือนกับบีน ตอนนี้ยังดี มีช่วงหนึ่งที่บีนวันๆ เอาแค่ขึ้นขี่ไอซ์สเกตหรือไม่ก็คิดแต่จะขี่ไอซ์สเกตอย่างเดียว วันเหล่านั้นช่างมืดมนเสียจริง
หลังจากที่กลับมาที่วิลล่า ฉินสือโอวก็แอบมองดูพวกมันที่ประตู ปรากฏว่าเมื่อเขามองออกไป เขาก็เห็นว่าหู่จือและเป้าจือกำลังจ้องมองมายังประตูเขม็ง และแน่นอนว่าพวกมันมองมายังเขา
ไม่ได้การ เขาทำได้เพียงกลับไปพร้อมกับอารมณ์โมโห หลังจากนั้นเขาก็แอบมองผ่านหน้าต่างไป
ตรงนี้ก็ยังไม่ใช่ที่ที่ดี หู่จือและเป่าจือมองมายังหน้าต่างอย่างหวาดระแวง สายตาของพวกมันมองไปยังพื้นที่ของวิลล่าทุกส่วนที่สามารถมองเห็นพวกมันจากด้านในได้ นั่นทำฉินสือโอวหมดหนทาง
การที่เคอร์มาครั้งนี้เขาถือโอกาสมาพักผ่อนที่นี่ด้วย ฉินสือโอวเตรียมห้องไว้ให้เขาแล้ว พอดีกับที่เขาพึ่งตกปลาบรีมมาได้ เขาจึงได้ทำปลาย่างถ่านให้เคอร์ได้ลิ้มรส
สำหรับเบียร์แล้ว เคอร์ไม่ค่อยชินกับรสชาติของมันเท่าไร หลังจากที่เขาดื่มไปได้สองสามอึกเขาก็ส่ายหน้า แล้วพูดว่า “เพื่อน ไม่ว่าฟาร์มปลาของนายจะทำอะไรก็สุดยอดไปหมดเลยนะ อาหารอร่อย ผลไม้ก็อร่อย อาหารทะเลยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่ แต่ทำไมเบียร์กลับใช้ไม่ได้เลยล่ะ รสชาติแย่มาก”
เคอร์เป็นผู้เชี่ยวชาญ เพราะว่าเบียร์นี้ทำจากมอลต์ที่ซื้อจากด้านนนอกกลับมาหมัก ไม่ได้รับการปรับปรุงรสชาติโดยพลังโพไซดอน แต่การทำเบียร์ของเขาไม่ได้มีเทคนิคพิเศษอะไรทั้งสิ้น ปรากฏว่าเบียร์ต้มที่เมื่อเทียบกับเบียร์ที่เคอร์ดื่มบ่อยๆ แล้วถือว่ารสชาติแย่มาก
แต่ว่าฉินสือโอวนั้นดื่มจนชินแล้ว พวกชาวประมงชินยิ่งกว่าเขาเสียอีก ขอแค่มีเบียร์ให้ดื่มพวกเขาก็พอใจแล้ว
ฉินสือโอวทำได้เพียงเปลี่ยนจากเบียร์เป็นไอซ์ไวน์ให้เขา นี่เป็นไวน์ที่ตาแก่ฮิคสันทำขึ้น องุ่นที่นำมาหมักล้วนมาจากฟาร์มปลา เมื่อเคอร์ดื่มเข้าไปเขาก็พยักหน้า แล้วบอกว่าหากมีโอกาสจะขอไปเยี่ยมฮิคสันเสียหน่อย เขารู้สึกว่าชายแก่คนนี้เป็นอาจารย์ในด้านการทำเบียร์คนหนึ่ง
เย็นวันนั้น หู่จือและเป้าจือไม่ได้กลับมาบ้าน ก่อนที่ฉินสือโอวจะนอนเขาได้ตะโกนเรียกให้พวกมันกลับบ้าน วินนี่ถามออกมาอย่างงัวเงียว่า “คุณตะโกนเรียกอะไรน่ะ? วันนี้เป็นวันดี วันเข้าเรือนหอของเด็กๆ อย่าไปกวนพวกมันเลย”
ฉินสือโอวตอบกลับอย่างงงวยว่า “งั้นทำไมผมไม่เห็นพวกมันมาคำนับพ่อแม่เลยล่ะ”
วินนี่กลอกตาอันสวยงามใส่ฉินสือโอว จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเกียจคร้านว่า “แล้วเมื่อปีก่อน ตอนที่คุณอยู่ที่โรงแรมที่คอร์เนอร์ บรูค คุณได้คำนับพ่อแม่ก่อนที่จะทำอะไรไม่ดีกับฉันหรือเปล่าล่ะ?”
ฉินสือโอวหัวเราะหึหึออกมา เขามองไปร่างที่อวบอิ่มของวินนี่และท่าทางอ่อนโยนของเธอ เขามีความรู้สึกต้องการที่จะมีลูกเพิ่ม
วินนี่ผลักเขาออกแล้วบอกไม่ให้เข้ามายุ่ง ฉินสือโอวบอกว่าเขาไม่ได้เข้าไปยุ่มย่ามเสียหน่อย ตอนที่คุณอยู่บนเครื่องบินคุณยังบอกเลยว่าคุณอยากมีลูกสามสี่ห้าคน
เมื่อทำกิจกรรมของสามีภรรยาเสร็จสิ้น จนเมื่อวินนี่หลับไป ฉินสือโอวก็ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงไปในทะเลด้วยความเคยชิน
ตอนนี้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างรวดเร็ว เขาสามารถลาดตระเวนฟาร์มปลาได้ไม่เพียงแต่ฟาร์มปลาของเขาเองเท่านั้น แน่นอนว่าจุดสำคัญไม่ได้อยู่ที่ฟาร์มปลาของเขา เมื่อฟาร์มปลาต้าฉินถูกสำรวจจนหมดแล้ว เขาก็ไปสำรวจฟาร์มปลาแห่งที่สองและแห่งที่สาม
ฟาร์มปลาแห่งที่สามไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะว่าหลังจากที่ซื้อมาเขายังไม่ได้ลงทุนอะไรเลย ส่วนฟาร์มปลาแห่งที่สองเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก มีสาหร่ายจำนวนนับไม่ถ้วนเกิดขึ้นที่อ่าว สาหร่ายที่นี่ได้ดูดซับพลังโพไซดอนและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พวกมันจึงเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากปลูกสาหร่ายสีน้ำตาลได้ไม่นาน รูปร่างขนาดใหญ่ของพวกมันก็ได้ปรากฏขึ้น ความยาวของสาหร่ายมีมากกว่าสามสิบเมตร บางต้นยาวไปถึงห้าสิบเมตรด้วยซ้ำ!
เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก และขนาดของมันก็น่าตกใจเช่นกัน!
ต้องรู้ก่อนว่า หากพวกมันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สาหร่ายสีน้ำตาลสามารถโตได้ตั้งแต่สามสิบเมตรถึงหกสิบเมตร พวกมันสามารถยาวได้มากที่สุดถึงสี่ร้อยเมตร ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ขอเพียงแค่น้ำอยู่ในอุณหภูมิที่อุ่นพอเหมาะ มีสารอาหารเพียงพอ พวกมันสามารถโตเพิ่มขึ้นได้วันละประมาณสองเมตร และสามารถเติบโตได้ตลอดทั้งปี!
อย่างไรก็ตาม นี่คือขนาดของมันภายใต้เงื่อนไขที่เป็นปกติ แต่ที่ฟาร์มปลาต้าฉิน เมื่อพวกมันดูดซับพลังโพไซดอนเข้าไปเกรงว่าพวกมันจะสามารถโตได้ถึงหลายพันเมตร น่านน้ำบางแห่งที่มีความลึกหนึ่งกิโลเมตร รากของสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลจะหยั่งลึกลงไปในดิน และยอดปลายของมันจะโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำได้!
ณ ตอนนี้ที่ฟาร์มปลาแห่งที่สอง สาหร่ายทะเลสีน้ำตาลจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังทอดยาวไปทั่ว ราวกับว่านี่คืออาณาจักรใต้น้ำขนาดใหญ่ตามตำนานที่เล่าขานกันมา เช่นเดียวกับพืชชนิดอื่นๆ สาหร่ายขนาดใหญ่มหึมานี้เริ่มโตจากราก มายังลำต้นและใบ รากของพวกมันมีชื่อเรียกพิเศษว่า เครื่องยึดเหนี่ยว เครื่องยึดเหนี่ยวที่มีความยาวมากกว่าหนึ่งเมตรสามารถยึดสาหร่ายเข้ากับโขดหินโสโครกได้ และรากของพวกมันฝังแน่นมาก
กระดูกสันหลังของสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลก็คือก้าน ลำต้นหนึ่งต้นมีการเกิดใหม่นับร้อย เหมือนกับการแตกกิ่งใบ กิ่งก้านหนึ่งกิ่งก็มีใบออกมาเหมือนกัน ใบบนกิ่งก้านพวกนี้จะมีความยาวมากกว่าหนึ่ง และมีความหนาที่หนามาก
ใบทุกใบมีถุงลมอยู่ ถุงลมพวกนั้นสามารถสร้างแรงลอยตัวได้ หลังจากนั้นใบของสาหร่ายสีน้ำตาลหรือแม้แต่ลำต้นก็มันก็จะลอยตัวขึ้น สาหร่ายสีน้ำตาลเคลื่อนไหวไปมาใต้น้ำ ก็เพราะว่าอาศัยอวัยวะนี้
ถุงลมจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเรียงกันอย่างสวยงามทั้งสองข้างของกิ่งก้านสาหร่าย การมีอยู่ของพวกมันทำให้ใบและลำต้นของสาหร่ายบางส่วนลอยขึ้นไปใกล้ผิวน้ำ ทำให้พวกมันกำลังลอยอยู่บนผืนน้ำหลายร้อยตารางกิโลเมตร พวกมันคือสาหร่ายสีน้ำตาล ฉินสือโอวเชื่อว่า หากตอนนี้มองลงมาจากท้องฟ้าในเวลานี้ มันจะต้องเป็นภาพที่อลังการมากแน่ๆ!
สาหร่ายทะเลเป็นผู้ที่สร้างฟาร์มปลาได้ดีที่สุดและเป็นแบบนั้นเสมอมา สาหร่ายสีน้ำตาลพวกนี้ปรากฏตัวออกมาได้ไม่กี่สิบวัน น้ำที่ฟาร์มปลาแห่งที่สองก็ถูกทำให้เป็นน้ำบริสุทธิ์ ทะเลแห่งนี้ไม่ได้เป็นสีดำเขียวอันมืดมนเหมือนตอนที่เขาซื้อมันมาครั้งแรกอีกต่อไป ตอนนี้น้ำทะเลเป็นสีเขียวใสสวยงาม
นอกจากนี้ สารที่ลอยอยู่ในน้ำทะเลก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด พวกมันถูกสาหร่ายสีน้ำตาลดูดซับเข้าไป ทำให้ฟาร์มปลาแห่งนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ นอกจากนี้การเก็บเกี่ยวทรัพยากรประมงก็อุดมสมบูรณ์ไม่น้อยเลยเช่นกัน
…………………………