ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1620 ฟาร์มปลาเบอร์สามที่แปลกประหลาด
ฉินสือโอวไม่ได้ใส่ใจสถานการณ์ของเรือโจรสลัดปล้นสมบัตินี้ เพราะว่าไม่นานหลังจากที่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนของเขามาถึง เรือลำนี้ก็เก็บกล้องแบบลากในน้ำได้ที่ปล่อยลงไปขึ้นมา แล้วก็ขับออกไปทางด้านนอกของอ่าว
กล้องแบบลากไปในน้ำได้แบบนี้เป็นของที่ใช้กันแพร่หลายมากในอุตสาหกรรมมหาสมุทร เรือขโมยปลาจะใช้เพื่อค้นหาการกระจายตัวอยู่ของปลาจำพวกสัตว์ทะเลหน้าดิน ส่วนเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาก็จะนำมาดูสถานการณ์การเติบโตของปลากุ้งในฟาร์มปลา
เขานึกว่าเรือโรบินฮู้ดจากซิซิลีนี้เป็นเพียงแค่เรือขโมยปลาลำหนึ่ง ที่ปล่อยกล้องลากในน้ำได้ลงไปเพื่อตรวจเช็กสถานการณ์ของปลาที่จะขโมย หลังจากพบว่าที่อ่าวนี้ไม่มีปลา จึงเตรียมจะจากไป
ในเมื่อเรือลำนี้ไม่ได้มาสร้างเรื่องที่นี่ งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องจับตามองจนเกินไป แม้ว่าจะแจ้งตำรวจน้ำไป พวกเขาเองก็ไม่แน่ว่าจะมาจัดการให้ เพราะมาแล้วก็ไม่สามารถแจ้งจับเรือที่ไม่ได้ขโมยปลาแบบนี้ได้
ความจริงสิ่งที่เขากังวลใจในตอนแรกก็เหมือนกับวิศวกรที่ทำการติดตั้งไลน์ผลิต หากว่าเรือลำนี้คิดจะขึ้นฝั่งเพื่อแย่งชิงหรือขโมยเครื่องผลิตอาหารปลาแล้วล่ะก็ นั่นสิถึงจะเป็นเรื่องยุ่งยาก
เรือโรบินฮู้ดจากซิซิลีค่อยๆ ขับไกลออกไป ฉินสือโอวดื่มเบียร์และกินไก่ย่างต่ออย่างสบายใจ แล้วนักวิศวกรคนนั้นก็โทรศัพท์มาอีก เขาทำเป็นไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พูดว่า “อย่ากังวลไปเลยเพื่อน ผมได้แจ้งตำรวจไปแล้ว แถมผมก็กำลังให้คนนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปหาคุณด้วย…”
“โอ้ ไม่ต้องครับ คุณฉิน น่าจะเป็นผมที่เข้าใจผิดไปเอง เรือลำนั้นได้จากไปแล้วครับ” วิศวกรหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “บางทีพวกเขาอาจจะแล่นเรือมาผิดที่ บางทีเรือของพวกเขาอาจเกิดปัญหาขึ้น แต่สรุปคือไม่มีอะไรแล้ว ขอบคุณพระเจ้าคุ้มครอง!”
หลายวันหลังจากนั้น ฟาร์มปลาเงียบสงบ ฉินสือโอวสอดแนมใต้น้ำผ่านจิตสำนึกแห่งโพไซดอน จำนวนปลาในฟาร์มปลาต้าฉิน กับสาหร่ายทะเลในฟาร์มปลาต้าฉินเบอร์สองล้วนกำลังขยายพันธุ์ได้ดีตามที่คาดไว้ สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ จำนวนปลาในฟาร์มปลาเบอร์สามกลับมากขึ้นมา
สถานการณ์ของฟาร์มปลาเบอร์สามดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉินสือโอวจำได้ว่าตอนนั้นที่คิดจะซื้อเขาได้ไปสำรวจมาก่อน พบว่าจำนวนปลาในฟาร์มปลาใช้ได้เลย มีร่องรอยของฝูงปลาค็อด ปลาแฮร์ริ่ง และปลาซาบะที่เป็นปลาสามชนิดที่พบได้ทั่วไปในนิวฟันด์แลนด์ แล้วก็ยังมีร่องรอยของปูหิมะ ปลาทะเลตัวแบนมหาสมุทรแอตแลนติก กับปลากะพงญี่ปุ่นด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมีทรัพยากรปลาของฟาร์มปลาคาร์เตอร์ที่อยู่ข้างๆ ว่ายเข้ามาในฟาร์มปลาของเขาด้วยจำนวนหนึ่ง
ที่ฉินสือโอวไม่ทำการลงทุนกับฟาร์มปลาเบอร์สามสักที ก็เพื่อรอทรัพยากรปลาของฟาร์มปลาคาร์เตอร์ว่ายลงมาทางตะวันออก จากนั้นเข้ามาที่ฟาร์มปลาของเขา
ฟาร์มปลาทั้งสองเป็นเพื่อนบ้านกัน ฟาร์มปลาเบอร์สามมีทรัพยากรปลาน้อยแต่พื้นที่กว้าง ฟาร์มปลาคาร์เตอร์มีพื้นที่กว้างกว่าทรัพยากรก็อุดมสมบูรณ์กว่า จึงต้องมีปลาจำนวนหนึ่งที่หากินในฟาร์มปลาคาร์เตอร์ไม่ได้แน่นอน ถึงตอนนั้นก็จะว่ายมาที่ฟาร์มปลาของเขาแทน
การทำแบบนี้ของเขาไม่ค่อยมีคุณธรรมนัก แต่ว่าในการแก่งแย่งระหว่างฟาร์มปลา นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างที่สุด ตอนแรกที่เขาทำการลงทุนกับฟาร์มปลาต้าฉินอย่างหนัก ฟาร์มปลารอบๆ ก็พากันรอกินของฟรีไม่ใช่เหรอ? แต่ว่าเขาลงมือเร็ว ก่อนที่อาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินจะเข้าตลาดเขาก็ได้กว้านซื้อฟาร์มปลารอบๆ ไปก่อนแล้ว
หากว่ารอจนอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินตีตลาดแล้ว งั้นการที่เขาจะซื้อฟาร์มปลาพวกนี้ก็จะยากมาก การที่มูลค่าฟาร์มปลาจะเพิ่มขึ้นสองเท่าถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว เพราะสามารถสูงขึ้นได้ถึงสี่ห้าเท่าเลย
ดังนั้น การที่เขารอเก็บปลาฟรีนั้นถือว่าไม่เลวแล้ว หากว่าเขาไม่มีคุณธรรมจริงๆ ล่ะก็ เขาจะใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปล่อทรัพยากรของฟาร์มปลามาให้หมด หรือไม่ก็ทำการเพาะพันธุ์สาหร่ายกับพืชน้ำในฟาร์มปลาเบอร์สาม ใส่อาหารปลาที่มีส่วนผสมของพลังโพไซดอนเข้าไป ถึงตอนนั้นฟาร์มปลาคาร์เตอร์ทั้งฟาร์มต้องกลายมาเป็นของเขาแน่นอน
ตอนนี้เขากำลังใช้ความนิ่งเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงอยู่ จิตสำนึกแห่งโพไซดอนได้ทะลุผ่านฟาร์มปลาเบอร์สามอย่างรวดเร็ว และรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยมากมาย
กลิ่นอายพวกนี้มาจากปลาค็อดที่มีพลังโพไซดอนในตัว ตอนนั้นฟาร์มปลาคาร์เตอร์ได้มาซื้อปลาค็อดจากฟาร์มปลาเขาไปจำนวนหนึ่ง แต่เสียดายที่เขาก็ยังเหมือนพยายามให้คนอื่นอยู่ดี เพราะตอนนี้ได้กลายเป็นของตระกูลมอร์รี่ไปแล้ว
ไปต่ออีกสักพัก เขายังได้กับเจอกุ้งกุลาดำจำนวนหนึ่งตรงใต้ท้องทะเลอีกด้วย กุ้งตัวใหญ่พวกนี้ได้เปลี่ยนจากลูกกุ้งไปเป็นกุ้งโตกึ่งเต็มตัวแล้ว ฟาร์มปลาต้าฉินก็มี นี่เป็นกุ้งที่คาร์เตอร์ซื้อมาจากงานประมูลในราคาสูง ทำไมถึงมาโผล่ในฟาร์มปลาเบอร์สามได้ล่ะ?
กุ้งกุลาดำชอบเคลื่อนที่ไปมา แต่ว่ากุ้งไม่ใช่ปลา พวกมันจะไม่เปลี่ยนที่ไปไกลเด็ดขาด และก็ไม่มีความสามารถที่จะทำแบบนั้นด้วย ดังนั้นปกติในการเพาะกุ้ง ล้วนจะเลี้ยงกันในน่านน้ำแห่งใดแห่งหนึ่ง และโดยมากแล้วก็จะอาศัยอยู่ที่นั่นไปตลอดชีวิตเลย
ฉินสือโอวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ทว่าจำนวนกุ้งที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้มาก แถมเรือหาปลาสองลำก็ใกล้กันขนาดนี้ หากจะว่ายมาจากฟาร์มข้างๆ ก็ไม่ถือว่าแปลก
เรื่องนี้ทำให้เขาค่อนข้างทำอะไรไม่ถูก ถึงขนาดว่ากุ้งกุลาดำก็ว่ายมาแล้ว งั้นก็บอกได้ว่าฟาร์มปลาคาร์เตอร์กับฟาร์มปลาเบอร์สามมีเส้นแบ่งเขตที่ไม่ค่อยชัดเจน ต่อไปจะเกิดเรื่องขัดแย้งกันได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่นการจับกุ้งกุลาดำ หากตระกูลมอร์รี่พบว่ากุ้งขาวของพวกเขาได้เข้ามาในเขตฟาร์มปลาเบอร์สามแล้ว งั้นก็ต้องเข้ามาจับอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นฉินสือโอวควรจะปฏิเสธหรือว่าอนุญาตล่ะ?
หากลองขยายขอบเขตของการยกตัวอย่างนี้ออก หากว่าเขาทำการเพาะเลี้ยงปลาที่มีค่าอย่างเช่นปลาเทราต์ ปลาไส้ตันฟลอริดา แล้วตระกูลมอร์รี่เข้ามาฟาร์มปลาของเขาโดยให้เหตุผลว่าจะมาจับกุ้งขาวของเขาแล้วจับปลาของเขาไปด้วยจะทำอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว หากว่าเส้นแบ่งเขตของฟาร์มปลาที่อยู่ติดกันไม่ได้ใช้แหจับปลามากั้นไว้ งั้นเหล่าเจ้าของฟาร์มปลาก็จะไม่เลี้ยงผลิตภัณฑ์ทะเลจำพวกเดียวกัน แต่จะหารือกันเพื่อผลัดกันเลี้ยงผลิตภัณฑ์ทะเล ปีนี้นายเลี้ยงปลาค็อดแอตแลนติกฉันเลี้ยงปลาคาพีลิน นายเลี้ยงกุ้งขาวฉันเลี้ยงกุ้งมังกร เมื่อเป็นแบบนี้ พอถึงเวลาหากจับผลิตภัณฑ์ทะเลอีกชนิดได้ ก็จะทำการส่งคืนให้อีกฝ่าย
ชัดเจนมาก เขากับตระกูลมอร์รี่ไม่มีทางหารือแบบนี้กันได้ ทั้งสองฝ่ายเป็นคู่แข่งกัน การไม่มาแอบขัดขากันลับๆ ก็ถือว่าพวกเขาโปร่งใสมากแล้ว เรื่องจะให้ปรองดองกันน่ะเหรอ? ไม่มีทาง
หากไม่ใช่เพราะฉินสือโอวซื้อฟาร์มปลาเบอร์สามทีหลัง เขาคงจะสงสัยเจตนาในการประมูลฟาร์มปลาคาร์เตอร์ของมอร์รี่แล้ว ไม่แน่ว่าเจ้าพวกนี้อาจจะคิดว่าเก๋งที่ใกล้น้ำย่อมได้จันทร์ก่อน หาโอกาสเก็บเกี่ยวผลิตภัณฑ์ทะเลของเขาไปขายก็ได้
ตอนแรกเขาคิดจะถ่ายพลังโพไซดอนให้ปลาในฟาร์มปลาเบอร์สาม พอเรื่องเป็นแบบนี้งั้นเขาก็จะยังไม่ทำ สงบนิ่งเพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงไปก่อน
ฟาร์มปลาไม่มีงานอะไร ฉินสือโอวจึงให้วันหยุดกับตัวเอง แต่ว่าหลายวันมานี้อากาศไม่ค่อยดี น้ำฝนเยอะขึ้นมามาก บางครั้งเป็นฝนปรอยบางครั้งเป็นฝนปานกลาง และแม้ว่าฝนไม่ตกท้องฟ้าก็มืดครึ้ม เขาจึงทำได้แต่นั่งดูลูกสาวแกล้งหมาแกล้งหมีแกล้งเฟอเรทอยู่ในบ้านเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน หลายวันมานี้เขาได้ดูแลต้าป๋ายมาตลอด แม้ว่าต้าป๋ายจะกินแมลงยักษ์สีดำไปทำให้ร่างกายเหมือนมีเกราะป้องกันการแก่ของเซลล์อยู่ แต่เหมือนว่าอายุขัยของมันจะถึงขีดสุดแล้ว มันยิ่งอยู่ยิ่งไม่อยากขยับตัว เวลานอนหลับก็ยิ่งอยู่ยิ่งนานขึ้น
ฉินสือโอวทำที่นอนให้ต้าป๋ายตรงมุมที่เงียบสงบในห้องรับแขก ให้มันอยู่ที่นี่ กลางวันตอนออกไปรับลมที่สนามหญ้า จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขึ้นลงบันได
กลางเดือนมิถุนายน หลังจากกินมื้อกลางวันแล้วฉินสือโอวกำลังเตรียมจะออกไปเดินเล่นในวันที่ท้องฟ้าสดใสที่มีนานๆ ที พลันฉงต้าได้ลุกลี้ลุกลนขึ้นมา เดินไปเดินมาบริเวณที่นอนของต้าป๋ายอย่างร้อนรน หมีโลลิเข้าใกล้มัน มันไม่แม้แต่จะมอง ยังคงเดินวนไปมาอยู่ตรงนั้นอย่างร้อนรน
ฉินสือโอวมองไปอย่างแปลกใจ แล้วมองเข้าไปในที่นอนของต้าป๋าย ก็เห็นว่ามันอยู่ข้างในไม่กระดิกตัวเลย…
เห็นภาพนี้แล้ว ในใจเขาก็เต้นแรงขึ้นมา บอกไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน ฉินสือโอวรู้สึกแค่ว่าในใจหนักอึ้งมาก หนังหัวค่อยๆ ชา เหมือนกับว่ามีของมีค่าอะไรสักอย่างที่กำลังจากเขาไปไกล…
……………………………