ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1626 อะลา พอเซลาน่า
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในห้องโดยสารแห่งนี้คือตู้กระจกขนาดเล็กใหญ่ ตู้พวกนี้เป็นตู้สุญญากาศ อากาศข้างในถูกดูดออกมาหมด ข้างในตู้มีของมากมาย ตั้งแต่เหรียญทองและเงินขนาดเท่าหัวแม่มือไปจนถึงจานและชาร์มพอร์ซเลน ตั้งแต่หมวกเหล็กธรรมดาไปจนถึงเครื่องประดับเพชรพลอยสวยงาม ในตู้นั้นมีของทุกประเภท แม้แต่คันธนูและลูกธนูขนาดยาวก็ยังมี
เมื่อเห็นของพวกนั้น ฉินสือโอวก็สูดลมหายใจเข้าลึก โจรสลัดพวกนี้ปล้นอะไรมา ทำไมถึงมีของพวกนี้หมดเลย
เขารู้ว่าโจรสลัดเฉินเป่ามีของมากมาย เมื่อเห็นถังไขมันวาฬจำนวนนับไม่ถ้วนพวกนั้นเขาก็รู้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะมีธนูและคันธนูที่ยาวมากกว่าคนอยู่ด้วย ถังไขมันวาฬกลมๆ พวกนั้นไม่ได้ใหญ่มาก แล้วทำไมถึงเก็บคันธนูและลูกธนูที่ยาวขนาดนี้ได้ล่ะ?
ฉินสือโอวไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเหรียญทองและเงินหรือเครื่องประดับพวกนั้น เขามองพวกมันผ่านๆ เมื่อเห็นว่าพวกมันถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีจึงละสายตาไป เขามองไปยังคันธนูและลูกธนูยาวนั้นอย่างสงสัย
แต่เบลคเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ในทางตรงข้าม แววตาของเขาเป็นประกายเมื่อเห็นธนูยาวคันนั้น เมื่อมองไปเรื่อยๆ จู่ๆเขาก็อุทานออกมาทันทีเมื่อเห็นเครื่องลายครามที่ถูกเคลือบด้วยไขมันวาฬที่ด้านนอก “ฟัค อะลา พอเซลาน่า!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา บิลลี่ก็ยิ้มออกมาทันที เขายังได้เรียนรู้อีกว่าชาวยุโรปในยุคกลางเป็นผู้ทำธนูนี้ขึ้นมา เขายิ้มพลางพูดออกมาว่า “ใช่แล้ว เพื่อน นายนี่ตาถึงจริงๆ นี่คืออะลา พอเซลาน่า!”
ฉินสือโอวกำลังมองไปยังธนูคันนั้นพอดี เมื่อได้ยินทั้งสองคนพูดเรื่องเดียวกัน ก็ถามออกมาด้วยความสงสัย “อะลา พอเซลาน่าคืออะไรเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินเลย ชื่อเครื่องลายครามชนิดพิเศษเหรอ?”
ข้อความภาษาอังกฤษนั้นแตกต่างกับภาษาจีน ตัวอักษรจีนดั้งเดิมในภาษาจีนสมัยใหม่มีไม่กี่ตัว ถ้าหากว่าเป็นภาษาเขียนที่เอามารวมๆ กัน อย่างนั้นไม่เรียกว่าคำ แต่ภาษาอังกฤษยังคงพัฒนาไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา ในแต่ละยุคสมัยมีการสร้างคำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ๆ ขึ้นมา ตัวอย่างเช่นหลังจากที่บรูซลีโด่งดังในฮอลลีวูด คำว่ากังฟูก็ถูกบัญญัติขึ้น นอกจากจะพบวัตถุชนิดใหม่ๆ แล้ว พวกมันก็สามารถนำคำมาปะติดปะต่อกันเพื่อสร้างคำใหม่ได้
ดังนั้น คำบางคำฉินสือโอวจึงไม่เข้าใจมันเลย เพราะว่าบางคำอาจจะเจอพวกมันในเฉพาะแต่ละอุตสาหกรรมเฉพาะของเรื่องนั้นๆ อย่าว่าแต่เขาเลย แม้จะเป็นคนอเมริกันโดยกำเนิดแต่ถ้าหากได้รับการศึกษาเพียงเรื่องทั่วไป ก็คงไม่เข้าใจคำพูดพวกนี้เหมือนกัน
เบลคชะโงกหน้าเข้าไปใกล้กระจกเพื่อดูเครื่องลายครามเหล่านั้นอย่างละเอียด ในตู้พวกนั้นมีจาน ถ้วยชา ถ้วย แจกันและยังมีกาน้ำคอห่านด้วย พวกมันมีลักษณะและสีที่แตกต่างกัน เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เครื่องเคลือบดินเผา
ในขณะที่ฉินสือโอวกำลังมองดูพอซเลนพวกนั้นอย่างจริงจัง เบลคก็อธิบายให้ฉินสือโอวว่า “อะลา พอเซลาน่า นายจะคิดว่ามันเป็นชื่อของเครื่องเซรามิกก็ได้ พวกมันเหมือนถ้วยชามในสมัยราชวงศ์เถาและหยวนของพวกนาย แต่ว่านี่เป็นคำเรียกเฉพาะในวงการอุตสาหกรรมเซรามิก ความหมายจริงๆ ของพวกมันคือการเลียนแบบเครื่องปั้นดินเผาเคลือบดีบุก”
ฉินสือโอวมองดูไปเรื่อยๆ เครื่องปั้นดินเผาเหล่านี้ถูกเคลือบด้วยไขมันจากวาฬ แม้ว่าไขมันวาฬพวกนี้จะถูกเคลือบไปทั่วเครื่องปั้นเป็นชั้นบางๆ แต่เนื่องจากพวกมันถูกทิ้งไว้เป็นเวลานาน บวกกับอุณหภูมิที่ค่อนข้างร้อน ไขมันจึงแข็งตัวขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นความสดใสของเครื่องลายครามจึงยังคงซ่อนอยู่ภายใน
จากสายตา เขาสามารถมองเห็นโครงร่างของพอซเลนเหล่านี้ได้ เมื่อมองจากรูปร่างของมันแล้ว เครื่องปั้นดินเผาเหล่านี้ไม่เหมือนกับเครื่องปั้นดินเผาของจีน พวกมันมีลักษณะดูแข็งแกร่งตามแบบของเครื่องดินเผาตะวันตก ตั้งแต่ราชวงศ์ถังและซ่งเป็นต้นมา เครื่องลายครามของประเทศจีนขึ้นชื่อเรื่องความเรียบง่ายและมีอารยธรรม ส่วนเครื่องลายครามตะวันตกพึ่งจะได้รับการพัฒนาในช่วงใกล้ๆ นี้ โดยเน้นไปที่ความสวยงามโอ่อ่า สีสันสดใสและเงางาม
เครื่องลายครามพวกนี้มีสีสันสดใสสวยงามมาก มีทั้งสีแดงเข้ม น้ำเงิน สีทองและอื่นๆ บนเครื่องลายครามพวกนั้นมีการวาดลวดลายไว้ หลังจากที่ฉินสือโอวมองดูพวกมันอยู่พักหนึ่งเขาก็มีสีหน้าสงสัย เขาถามออกมาว่า “พวกนี้เป็นเครื่องลายครามของประเทศจีนหรือเปล่า? ฉันรู้สึกว่าลายที่อยู่ด้านบนเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนของพวกเรานะ?”
บนจานที่ใหญ่ที่สุดมีลวดลายมังกรตัวยาวอยู่บนนั้น นี่ไม่ใช่มังกรที่น่าเกลียดเหมือนกิ้งก่าของตะวันตกด้วย แต่เป็นเทพมังกรที่เป็นศิลปวัฒนธรรมของชาวจีนที่สืบทอดต่อกันมา นอกจากนี้ฉินสือโอวยังสังเกตเห็นว่ามังกรตัวนี้เป็นเทพมังกรห้ากรงเล็บอีกด้วย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งจักรพรรดิ
บนกาน้ำคอห่านสีทองก็มีรูปคนถูกวาดอยู่บนนั้น คนพวกนั้นเกล้าผมมวยขึ้น สวมเสื้อแขนกว้าง และมีเสื้อคลุมที่ยาวถึงพื้น บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่านี่เป็นการแต่งตัวแบบชาวจีนโบราณ
เมื่อได้ยินคำถามของฉินสือโอว เบลคก็ส่ายหน้าพลางตอบว่า “ไม่ใช่ เพื่อน นี่ไม่ใช่เครื่องปั้นดินเผาของพวกนาย ภาษาอังกฤษเรียกประเทศจีนว่า ไชน่า แต่นี่คือ อะลา พอเซลาน่า เป็นพอร์ซเลน อือ จะอธิบายให้นายเข้าใจไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าหากว่านายต้องการจะรู้จักมันอย่างละเอียด ฉันก็ต้องอธิบายตั้งแต่ต้น”
ฉินสือโอวพยักหน้าบ่งบอกว่าเขาจะฟัง ความรู้เป็นทรัพย์สินที่มีค่า การเรียนรู้เรื่องราวของของโบราณมากขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แน่นอนว่า การพูดแบบนี้เป็นเพียงคำพูดสวยงามเท่านั้น เขารู้สึกว่าของที่ล้ำค่าที่สุดก็คือหัวใจโพไซดอน ที่เขาใช้ทำมาหากินมาตลอดชีวิต
เบลคเลื่อนสายตาออกมาจากเครื่องลายครามพวกนั้นอย่างไม่เต็มใจ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มบรรยาย “ที่นายรู้ก็คือ เทคนิคการพัฒนาเครื่องปั้นดินเผาที่เกิดขึ้นเป็นที่แรกของโลกคือประเทศจีนและอียิปต์ แต่เรื่องที่นายไม่รู้คือ ในสมัยช่วงยุคหินใหม่ การทำเครื่องปั้นดินเผาของทั้งสองประเทศได้แพร่กระจายไปทั่วหมู่เกาะยุโรปอย่างในกรีซและทะเลอีเจียน”
“นานขนาดไหนเหรอ? แล้วมันแพร่กระจายไปได้อย่างไร? ในตอนนั้นคงไม่ได้มีแบบคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสหรอกมั้ง?” ฉินสือโอวถามขัดจังหวะออกมา เขาไม่เข้าใจในเรื่องนี้
เบลคกลอกตาแล้วพูดว่า “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ? ฉันเรียนเรื่องการชื่นชมงานมา ไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์มา อย่าขัดจังหวะสิเพื่อน ฟังฉันต่อนะ”
“ประมาณสามพันปีก่อนคริสตกาล ที่เขตเทสซาลีในเซนทรัลกรีซและเกาะครีตในทะเลอีเจียนได้รับเทคนิคการทำเครื่องปั้นดินเผาและได้พัฒนางานเหล่านี้ และที่พวกนั้นก็ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของเครื่องปั้นดินเผาในยุโรป”
“เครื่องปั้นดินเผาของยุโรปในยุคนั้นเป็นตัวกำหนดศิลปะเครื่องเคลือบดินเผาในยุคหลังจากนั้น นั่นก็คือสีสันสวยงามพวกนี้ ในตอนนั้นเครื่องปั้นดินเผาของเทสซาลีเป็นสีแดงสีเดียว ส่วนเครื่องปั้นดินเผาของครีตเป็นแบบถูกขัดเงา เพื่อให้ความรู้สึกสวยงาม จึงได้มีการแกะสลักลวดลายบนเครื่องปั้นดินเผา เป็นลายที่ชาวจีนอย่างพวกนายเรียกว่าลายเมฆ”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การพูดของเบลคนั้นดีมาก เขาบรรยายความรู้ทางวิชาการเหล่านี้ได้แบบน้ำไหลไฟดับ ฉินสือโอวฟังแล้วรู้สึกสบายเป็นอย่างมาก แต่ว่า เขาแค่อยากจะเรียนรู้การชื่นชมงานเครื่องปั้นดินเผาแบบตะวันตกสมัยใหม่ เขาไม่อยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์ศิลปะเซรามิกตะวันตกทั้งหมด!
“พูดอย่างตรงไปตรงมานะเพื่อน ถ้าหากฉันอยากจะเรียน ฉันคงจะไปลงเรียนแล้ว ตอนนี้ฉันแค่อยากรู้ว่า อะลา พอเซลาน่าเกิดขึ้นได้อย่างไร? เป็นเครื่องเคลือบดินเผายุคไหนกันแน่? มูลค่าเท่าไหร่?” ฉินสือโอวพยายามอดทนอย่างที่สุด
เบลคมุ่ยปากพลางพูดออกมาว่า “ไม่รู้จักหวงแหน แล้วจะไปลงเรียนเรื่องพวกนี้ นายคิดว่าสิ่งที่นายเรียนจะเทียบกับฉันได้เหรอ? แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องไร้สาระ ถ้าหากว่านายต้องการแค่ใบเสนอราคาง่ายๆ ตามการประเมินของฉัน อะลา พอเซลาน่าพวกนี้แต่ละอันสามารถขายได้มากกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์!”
…………………