ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1637 ไข่มุกสีดำมาแล้ว
เบิร์ดและนีลเซ็นเก็บไข่มุกของตัวเองไปอย่างมีความสุข ฉินสือโอวให้อีวิลสันมาเลือกไปสองตัว อีวิลสันที่กำลังกินอย่างอร่อยจนน้ำมันเลอะเต็มปาก เมื่อได้ยินฉินสือโอวพูดดังนั้นก็ส่ายหน้า พลางบอกว่าพอเปิดเปลือกหอยหมดแล้ว สองตัวไหนที่มีเนื้อชิ้นใหญ่ที่สุดก็เอาสองตัวนั้น แบบนั้นเขาถึงจะกินอิ่ม
ฉินสือโอวพูดออกมาแล้วบอกว่าจะให้ไข่มุกสีดำแก่เขา อีวิลสันถามกลับด้วยความสงสัยว่า “ไข่มุกก็กินได้เหรอ? พวกมันแข็งขนาดนั้น ย่อยไม่ได้ไม่ใช่เหรอ?”
สำหรับคำตอบของเขา ฉินสือโอวรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ในที่สุดอีวิลสันก็รู้เสียทีว่าของบางอย่างไม่สามารถกินได้
แต่ว่าไม่นานอีวิลสันก็ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกแย่ขึ้นมาอีกครั้ง “อ้อ ฉันนึกออกแล้ว มันไม่สามารถย่อยได้ กินแล้วก็ถ่ายออกมา แล้วก็สามารถกินได้อีก ใช่ไหม?”
เมื่อเห็นท่าทางดีใจของอีวิลสัน ฉินสือโอว เบิร์ดและนีลเซ็นก็มองไปยังเขาด้วยสายตาตกตะลึง ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้มีความคิดแปลกๆ อยู่เสมอนะ?
เขาทำได้เพียงบอกกับอีวิลสันว่าไข่มุกนี้ไม่สามารถกินได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ่ายออกมาแล้วก็ไม่สามารถกินได้
อีวิลสันถามกลับว่า “ไข่ล่ะ? ไข่ไก่ก็มาจากการถ่ายของไก่ไม่ใช่เหรอ ผมเห็นแบบนั้นนะ”
ฉินสือโอวถอนหายใจออกมา “เอาล่ะ มีเพียงของที่ออกมาจากไก่เท่านั้นที่สามารถกินได้ อย่างอื่นกินไม่ได้”
“นกจมูกหลอดหางสั้นล่ะ? ผมเห็นเหมือนกัน ว่ามันออกมาจากนกจมูกหลอดหางสั้น” อีวิลสันยังคงถามต่อไปเรื่อยๆ
ฉินสือโอวยอมแพ้แล้วพูดออกมาว่า “ทำงาน ไม่ได้รับหอยนางรมลอยเป็นรางวัลแล้ว!”
คนทั้งสี่คนเก็บหอยนางรมลอยจากทะเลขึ้นมาได้ทั้งหมดสองร้อยหกสิบหกตัว ส่วนใหญ่เป็นตัวที่อพยพมายังฟาร์มปลาเป็นกลุ่มแรก พวกมันถูกเลี้ยงมานาน ไข่มุกดำที่อยู่ข้างในมีจำนวนมากที่สุด มีไข่มุกขนาดเท่าเมล็ดถั่วเหลือจำนวนทั้งหมดสามพันสองร้อยเม็ด นอกจากนี้ยังมีไข่มุกดำขนาดจิ๋วอีกนับไม่ถ้วน ขนาดเท่านี้ไม่มีมีมูลค่าอะไรมากมาย แต่พวกมันสามารถทำไปบดแล้วทำเป็นผงไข่มุกได้
ในบรรดาไข่มุกดำขนาดใหญ่จำนวนสามพันสองร้อยเม็ดนั้น มีไข่มุกที่มีรูปร่างผิดแปลกไปอยู่ทั้งหมดจำนวนหนึ่งพันเม็ด เม็ดที่ค่อนข้างใหญ่ยังถือว่าใช้ได้ แต่ขนาดที่เล็กไม่สามารถใช้ไม่ได้
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่ระหว่างไข่มุกทะเลและไข่มุกน้ำจืดก็คือชั้นไข่มุกของพวกมัน ด้านนอกสุดของพวกมันคือเปลือกหอยมุก ชั้นในคือโปรตีนคอนไคโอลิน และตำแหน่งที่อยู่ตรงกลางคือหอยมุก
ส่วนชั้นด้านนอกไปจนถึงผิวของชั้นไข่มุกเรียกว่าลูกปัด ชั้นของลูกปัดประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต โปรตีนคอนไคโอลิน และจุลธาตุต่างๆ ชั้นศูนย์กลางหรือชั้นศูนย์กลางในแนวรัศมี เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับประเมินเนื้อไข่มุกทะเล เพราะว่าชั้นลูกปัดสามารถขัดเงาได้ หากรูปร่างของไข่มุกไม่ได้ผิดรูปไปมากนัก หลังจากที่ทำการขัดแล้วพวกมันก็จะยังคงเป็นทรงกลมอยู่ ด้วยวิธีก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าของมันได้
ฉินสือโอวไม่มีอุปกรณ์สำหรับขัดเงาอยู่ที่นี่ นี่เป็นงานที่ละเอียดอ่อน ไม่สามารถแก้ไขได้โดยการใช้เครื่องเจียหรือเครื่องขัด การทำงานนี้จะต้องทำโดยบริษัทเครื่องประดับชั้นนำที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เขาวางไข่มุกที่มีคุณสมบัติต่างกันแยกไว้ในกล่องแต่ละใบ ในกล่องนั้นมีเมือกอยู่หลายชั้น สำหรับป้องกันไม่ให้ผิวของไข่มุกนั้นชนกัน
ไข่มุกจำนวนมากขนาดนี้ เขาไม่สามารถทิ้งไว้ที่ฟาร์มปลาได้ หลังจากกลับมาเขาให้เบิร์ดและนีลเซ็นบินไปยังนิวยอร์กเพื่อที่จะไปหาเจ้าสำนักทิฟฟานี่ วินเซนต์ ทิฟฟานี่
การนำไข่มุกจำนวนมากเข้าออกด่านศุลกากร แม้ว่าแคนาดาและอเมริกาจะมีความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจกันอย่างใกล้ชิดแต่นั่นก็ไม่สามารถผ่านไปได้ง่ายๆ แต่อำนาจของตระกูลทิฟฟานี่นั้นน่าทึ่งมาก เขาทิ้งข้อความบางอย่างให้กับวินเซนต์ แล้ววินเซนต์ก็โทรหาเข้าทันที บอกเขาว่าเมื่อไปถึงสนามบินให้ติดต่อคนคนนี้โดยตรง ไม่ต้องสนใจคนอื่นๆ
เมื่อถึงสนามบิน ฉินสือโอวก็โทรหาคนคนนั้น เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรมารับเขาและพามายังเครื่องบินพิเศษที่วินเซนต์จัดเตรียมไว้ให้ เมื่อเครื่องบินขยับ มันก็บินตรงไปยังนิวยอร์กทันที
นอกจากขายไข่มุกแล้ว การที่ฉินสือโอวไปนิวยอร์กในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะไปจัดการเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง
ฉินสือโอวนอนเอนตัวอยู่บนโซฟา เขามองไปยังเมฆสีขาวที่ทอดตัวไปสุดลูกหูลูกตาที่นอกหน้าต่างพลางถอนหายใจออกมา หากไม่บอกว่าคำโฆษณาของอเมริกาเมืองหลวงของโลกคืออิสระ ประชาธิปไตย และยุติธรรมล่ะก็ ตราบใดที่คุณมีเงิน ไม่ว่าจะทำอะไรในอเมริกาก็เป็นเรื่องง่ายไปเสียหมด สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้อาจจะเป็นการลักลอบนำเข้า แต่ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือว่าแคนาดา กฎหมายของพวกเขาก็ไม่สามารถควบคุมเรื่องนี้ได้
เรื่องที่สำคัญอีกเรื่องคือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำเรื่องแบบนี้
ฉินสือโอวอธิบายกับวินเซนต์ทางโทรศัพท์ว่า ครั้งนี้เขานำไข่มุกดำที่มีคุณภาพสูงมาด้วยกว่าหนึ่งร้อยเม็ด วินเซนต์เข้าใจมูลค่าของไข่มุกดำที่อยู่ในมือเขาดี แม้ว่าไข่มุกดำจะมีเพียงร้อยเม็ดก็ตาม แต่มูลค่าของมันก็ไปถึงเกือบห้าร้อยล้านดอลลาร์ ดังนั้นเขาจึงมารับฉินสือโอวที่สนามบินด้วยตัวเอง
ครั้งนี้ฉินสือโอวมาอย่างเป็นทางการมาก เขาสวมชุดลำลอง ส่วนเบิร์ดและนีลเซ็นที่อยู่ด้านหลังของเขาสวมแว่นตากันแดด สูท รองเท้าหนังสีดำ และเนกไทสีดำ ทั้งสองถือกระเป๋าเดินทางคนละใบ กุญแจมือด้านหนึ่งล็อกอยู่ที่กระเป๋าและอีกด้านหนึ่งอยู่ที่ข้อมือของพวกเขา ภาพเหตุการณ์นี้ราวกับพวกเขากำลังอยู่ในภาพยนตร์ดังของฮอลลีวูด
หลังจากที่เห็นพวกเขาทั้งสามคน วินเซนต์ก็รู้เหมือนตกตะลึง แต่ว่าเขาก็อายเกินกว่าที่จะพูดอะไรออกมา เขาลุกขึ้นมากอดต้อนรับฉินสือโอวอย่างอบอุ่นและพูดออกมาว่ายินดีว่า “เฮ้ ฉิน ไม่เจอกันตั้งนาน ครั้งสุดท้ายคือตอนที่ผมไปร่วมงานแต่งงานของคุณ ผมไม่เคยลืมฟาร์มปลาของคุณเลย เสียดายที่งานของผมยุ่งมาก เลยไม่ได้มีโอกาสบินไปเยี่ยมคุณ อ้อ ผมพูดแบบนี้ก็ออกจะเกินไปเสียหน่อย เพราะว่าผมไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสได้ไปฟาร์มปลาของคุณหรือเปล่า”
ฉินสือโอวตอบกลับว่า “คุณทิฟฟานี่ คุณก็รู้ว่าผมนั้นยินดีต้อนรับคุณทุกเวลา ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ส่งไข่มุกสีดำคุณภาพสูงพวกนี้มาให้คุณอย่างแน่นอน”
ทุกคนต่างเป็นคนที่สามารถทำเงินได้หลายแสนดอลลาร์ต่อหนึ่งนาที จะมาพูดอะไรไร้สาระอยู่ได้ ต้องเข้าเรื่องเสียที
วินเซนต์ก็ชื่นชอบการพูดเรื่องธุรกิจในแบบนี้เหมือนกัน เขามองไปยังนีลเซ็นและเบิร์ดด้วยสายเคร่งขรึมแล้วพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ไข่มุกดำอยู่ในกระเป๋าในมือพวกเขาใช่ไหม?”
ฉินสือโอวหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ใต้เท้าออกมา เมื่อเปิดกระเป๋าออกก็เผยให้เห็นกล่องเหล็กอยู่ด้านใน เมื่อใส่รหัสเปิดกล่องนั้น ไข่มุกดำที่ถูกวางเรียงตามขนาดบนเมือกก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็น
วินเซนต์ตะลึงงัน เขาถามออกมาว่า “ที่แท้ไข่มุกก็อยู่ในมือคุณนี่เอง งั้นในกระเป๋าที่ทั้งสองคนนั้นถืออยู่คืออะไรล่ะ?”
ฉินสือโอวหัวเราะหึหึออกมา “พวกเราชาวจีนมีคำโบราณที่กล่าวต่อๆ กันมาที่เรียกว่ากลยุทธ์สร้างความสับสน ไม่ทราบว่าคุณทิฟฟานี่เคยได้ยินหรือไม่? ในมือของผม ก็คือของจริง ส่วนในมือของทั้งสองคนนั้นเป็นเพียงตัวล่อเท่านั้น คุณเข้าใจความหมายของผมไหม?”
วินเซนต์หัวเราะออกมาด้วยความถูกใจ เขาพยักหน้าพลางพูดว่า “เข้าใจสิ เข้าใจอยู่แล้ว นี่เรียกว่าสับขาหลอกใช่ไหม? อย่าประเมินผมต่ำไปสิ แน่นอนว่าผมเข้าใจวัฒนธรรมของแต่ละประเทศทั่วโลกเลยล่ะ”
รถยนต์ส่วนตัวขับมาถึงร้านทิฟฟานี่ที่อยู่ในนิวยอร์ก ลิฟกำลังรอพวกเขาอยู่ หลังจากที่ฉินสือโอวลงจากรถลิฟก็เข้ามาจับมือเขาอย่างสุภาพ หลังจากนั้นก็หันไปพูดกับวินเซนต์ “เจ้านายครับ คนของพวกเราเตรียมพร้อมแล้วครับ คุณและคุณฉินวางแผนที่จะประเมินไข่มุกเมื่อไรครับ?”
วินเซนต์หันมามองฉินสือโอว ฉินสือโอวยกมือขึ้นโบกปัดพลางพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร ผมเวลาไหนก็ได้ อย่างไรไข่มุกดำก็มาถึงแล้วนี่ใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินดังนั้น วินเซนต์ก็พยักหน้าแล้วพูดออกมาพร้อมยิ้มแห่งความสุขว่า “งั้นส่งลูกรักของคุณให้กับลิฟก่อน แล้วคุณมากับผม เพื่อนยาก ช่วงนี้ผมพึ่งจะได้ทำกาแฟได้ออกมารสชาติไม่เลวเลย วันนี้ผมจะให้คุณได้ชิม แล้วให้คุณแนะนำเสียหน่อย”
…………………………