ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1640 รูปปั้น
ไม่รู้ว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร เครื่องตรวจกลับตรวจไม่พบเรื่องนี้ ฉินสือโอวไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อ เขาจึงบอกกับวินเซนต์ว่าพวกเราควรไปทานกาแฟกันดีไหม?
วินเซนต์พักหน้าและเดินนำไป หลังจากนั้นเขาก็หันมามองเบิร์ดและนีลเซ็นก่อนจะพูดกับฉินสือโอวว่า “ฉิน ที่นี่ปลอดภัย กระเป๋าที่อยู่ที่ข้อมือของลูกน้องคุณสองคนสามารถวางได้แล้วล่ะมั้ง?”
จนถึงตอนนี้ ในมือของเบิร์ดและนีลเซ็นก็ยังคงถือกระเป๋าไว้อยู่ กระเป๋าพวกนั้นใหญ่กว่ากระเป๋าเป้ของฉินสือโอวอยู่มาก
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วพูดว่า “ให้พวกเขาตัดสินใจเอาเองแล้วกัน คุณบอกว่าจะเลี้ยงกาแฟผมไม่ใช่เหรอ? ไปกันเถอะ ให้ผมได้ชิมกาแฟอันเป็นที่หวงแหนของตระกูลทิฟฟานี่หน่อยเถอะ”
วินเซนต์ยักไหล่ เบิร์ดและนีลเซ็นยังคงไม่ยอมวางกระเป๋า เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะ มีเพียงฉินสือโอวคนขี้แกล้ง และขี้เล่นคนนี้เท่านั้นที่จะสามารถสรุปเรื่องนี้ได้
แต่ว่าเขาไม่ได้ตรงไปยังห้องกาแฟเลย แต่เขาเดินออกไปนอกประตู จึงบอกกับฉินสือโอวว่ามีบางอย่างที่อยากจะให้ดู
ร้านค้าของทิฟฟานี่ในนิวยอร์กถือว่าเป็นร้านที่หรูหราอันดับต้นๆ ของโลก ฉินสือโอวมาที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งที่เขามา เขาก็ประทับใจในความหรูหราโอ่อ่าของร้านค้าแห่งนี้ทุกครั้ง
ร้านค้าแห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นจากการเช่าร้านค้าร้านหนึ่งที่อยู่ใต้ตึกที่สูงระฟ้า แต่พวกเขาสร้างพระราชวังแบบบาโรกด้วยตัวเอง ด้านนอกอาคารใช้หินอ่อนทั้งหลัง มีห้องโถงทั้งหมดสิบสองเสา เป็นสัญลักษณ์ของสาวกทั้งสิบสองของพระเยซู และแต่ละห้องก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน
ทางเข้าห้องโถงใหญ่ทั้งสองด้านมีน้ำพุขนาดเล็กตั้งอยู่มากมาย ที่ด้านหน้ามีจัตุรัสเล็กๆ บนจัตุรัสนั้นมีรูปปั้นประติมากรรมวางอยู่หลายชิ้น ประติมากรรมพวกนี้มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ พวกมันทำจากบรอนซ์ไปจนถึงหินแกรนิต รวมถึงการแกะสลักเครื่องประดับต่างๆ แม้ว่าจะเป็นเพราะเนื้อของชิ้นงาน แต่ความงดงามของเครื่องประดับพวกนี้ เกิดจากการตากแดดตากฝนมากกว่า ที่บางครั้งพวกมันก็ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศให้กับเครื่องประดับพวกนี้ เรื่องนี้สำคัญกว่าความสวยงามเสียอีก
บนโลกนี้มีแบรนด์หรูหราอยู่มากมาย แต่สิ่งที่ทิฟฟานี่ทำคือการเน้นย้ำประวัติศาสตร์อันยาวนานและสายเลือดอันสูงส่งของพวกเขา
นักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปอยู่กับจัตุรัสเล็กๆ มีเด็กผู้หญิงบางคนกำลังยืนถ่ายรูปอยู่ข้างเครื่องประดับที่ถูกนำมาขยายใหญ่หลายร้อยเท่าอย่างมีความสุข พวกเธอไม่สามารถซื้อเครื่องประดับพวกนี้ได้ อันที่จริงแล้วพวกเธอมีคุณสมบัติที่จะเข้ามาในจัตุรัสเล็กๆ แห่งนี้เพื่อชื่นชมประติมากรรมเครื่องประดับ เครื่องประดับพวกนี้เป็นของชั้นนำระดับต้นๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นของที่ถูกรวบรวมโดยนักสะสม หรือว่าจะอยู่ในร่างของนักธุรกิจที่ร่ำรวยหรือข้าราชการระดับสูง การที่คนธรรมดาจะเห็นพวกมันได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเย็นนัก
ในจัตุรัส ไม่ได้มีเพียงเครื่องประดับที่ขนาดใหญ่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีประติมากรรมรูปคนด้วย และประติมากรรมรูปคนพวกนั้นไม่มีใบหน้า ดังนั้นพอมองดูแล้วค่อนข้างน่ากลัวไปเสียหน่อย แต่ว่าร่างกายของพวกมันถูกประดับด้วยเพชรพลอยชั้นเยี่ยม นี่เป็นสิ่งที่ทิฟฟานี่ต้องการจะสื่อผ่านรูปปั้นหินอ่อนพวกนี้
ฉินสือโอวตามวินเซนต์ไปที่จัตุรัส เขายืนอยู่ข้างรูปปั้นอันสง่างามรูปปั้นหนึ่ง นี่คือจุดมุ่งหมายของวินเซนต์ บนรูปปั้นนี้มีชุดเครื่องประดับที่ทำจากไข่มุกสีดำครบชุด รูปทรงของพวกหรูหราสวยงามและสง่างามมาก แม้แต่รูปปั้นก็ยังสามารถแสดงถึงความงดงามของมันออกมาได้
“ว้าว งดงามมาก นี่คือรูปปั้นของราชินีแห่งรัตติกาลเหรอ?” ฉินสือโอวถาม
วินเซนต์พยักหน้า เขามองไปยังรูปปั้นแกะสลักตัวนี้ด้วยสายตาอ่อนโยน “ใช่ นี่คือราชินีแห่งรัตติกาล ผมคิดว่านี่คือเครื่องประดับที่ดีที่สุดตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานที่ทิฟฟานี่ รูปปั้นนี้ผมก็เป็นคนออกแบบเอง เครื่องประดับบนรูปปั้นคือแก้วสีดำ เป็นอย่างไร มีเค้าโครงความเป็นราชินีรัตติกาลอยู่บ้างไหม?”
สำหรับคำชมพวกนี้ ปกติแล้วฉินสือโอวจะไม่จริงจังกับมันนัก ราชินีรัตติกาลเป็นเครื่องประดับที่ยอดเยี่ยม แต่หากบอกว่านี่เป็นผลงานการผลิตของวินเซนต์ชิ้นแรกที่สร้างในราชอาณาจักรทิฟฟานี่ เรื่องนี้เขาไม่เชื่อ
แต่ว่า ทิฟฟานี่ทำงานอย่างหนักเพื่อราชินีรัตติกาล วัสดุที่ทำประติมากรรมนี้แตกต่างกับอันอื่นๆ แต่โดยพื้นฐานแล้วจะต้องเป็นหินหรือไม่ก็โลหะ มีเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้นที่ทำเคลือบแก้วและวัสดุอื่นๆ ราชินีรัตติกาลใช้หินเพียงสองชนิดและทำการเคลือบแก้วสีดำ
ฉินสือโอวชมประติมากรรมอยู่ครู่หนึ่ง เขาถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นสองสามรูป จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่เง่าเหลือเกิน ไม่สู้เปลี่ยนไปถ่ายรูปคู่กับวินนี่แทนราชินีรัตติกาลยังจะดีกว่า วินนี่เป็นของแท้ทั้งหมด
แต่ว่าวินนี่แทบจะไม่ได้สวมใส่ชุดราชินีรัตติกาลเลย น้อยครั้งมากแม้จะใส่ในงานที่เป็นทางการก็ตาม เธอมักจะเลือกชุดที่มีเครื่องประดับน้อยที่สุด เพราะชุดราชินีรัตติกาลแบบเต็มรูปแบบนั้นหนักเกินไป เพราะทั้งหมดนั้นเป็นทองคำขาว ทองคำ และไข่มุกดำ!
ในตอนที่พวกเขากำลังจะออกจากจัตุรัส คู่รักคู่หนึ่งก็คอยมองสังเกตอยู่ที่จัตุรัสหลังจากที่พวกเขาเห็นวินเซนต์ สาวผมแดงจากคู่รักคู่นั่นตะโกนออกมาว่า “ว้าว คุณทิฟฟานี่ใช่ไหมคะ? นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอคุณที่นี่”
นอกเหนือจากจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแล้ว วินเซนต์ ทิฟฟานี่ยังเป็นศิลปินและนักออกแบบเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก แม้แต่บนปกของนิตยสารไทม์ และนิตยสารเกี่ยวกับแฟชั่นบางฉบับอย่าง โว้ก อเมริกันเทรน และอื่นๆ ก็ลงข่าวเกี่ยวกับเขา
วินเซนต์ยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย สาวผมแดงวิ่งมาหาเขาด้วยความตื่นเต้นพลางดึงเขาไว้ และถามออกมาว่า “คุณทิฟฟานี่ ฉันชอบอัญมณีที่คุณออกแบบมาก หลังจากที่คุณสร้างเธอ พวกเธอก็มีจิตวิญญาณจริงๆ แต่ว่าฉันขอถามหน่อยได้ไหมคะ ชุดเครื่องประดับราชินีรัตติกาลนี้เกิดขึ้นเมื่อไรเหรอคะ? ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นมันที่ไหนเลยล่ะ?”
สาวๆ มักจะเรียกอัญมณีว่าเธอหรือพวกเธอ แทนการใช้คำว่ามันหรือพวกมัน นี่เป็นการเรียกเพื่อให้เกียรติงานศิลปะ เมื่อวินเซนต์ฟังคำร้องขอของเธอ เขาก็ตอบกลับด้วยความอดทนว่า “เด็กคนนี้เกิดมาในช่วงเวลาสั้นๆ แต่เธอลิขิตให้เป็นเจ้าหญิง เจ้าชายผู้ปกป้องเธอไม่ต้องการให้เธอปรากฏตัว พวกเราเหล่าอัศวินจึงไม่มีทางเห็นเธอ”
“มันมีอยู่จริงเหรอ?” แฟนหนุ่มของสาวผมแดงถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดว่า ท่าทางของสาวผมแดงที่มีต่อวินเซนต์ทำให้เขาหึง
วินเซนต์พูดกลั้วหัวเราะว่า “แน่นอนสิ และผมรับรองได้เลยว่า พวกคุณได้เจอกับเจ้าของของเธอแล้ว”
เขาไม่ได้สนใจแฟนสาวของชายหนุ่มคนนี้ เขาจึงพยักหน้าขอตัวเป็นมารยาทแล้วพาฉินสือโอวออกมา
เมื่อคู่รักได้ฟังสิ่งที่วินเซนต์พูดพวกเขาก็ตกตะลึงไปทันที พวกเขาเริ่มเดาว่าคนดังหรือนักธุรกิจหรือนักการเมืองคนไหนที่ครอบครองเครื่องประดับชุดนี้ ชื่อที่คุ้นหูถูกเอ่ยขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่พวกเขาเดาผิดทั้งหมด และไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด
กาแฟที่วินเซนต์เชิญฉินสือโอวมาดื่มคือกาแฟบลูเมาท์เทน ด้วยเหตุนี้ฉินสือโอวจึงไม่มีท่าทีสนใจมากนัก กาแฟบลูเมาท์เทนมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่แล้ว ร้านกาแฟทุกแห่งมีกาแฟชนิดนี้ ก็เหมือนกับไวน์ชาโต้ ลาฟีตปีแปดสอง ไม่ว่าฉินสือโอวจะไปร้านอาหารหรือไนต์คลับที่ไหนในประเทศ ในรายการอาหารก็จะมีชื่อไวน์ชนิดนี้อยู่
กาแฟบลูเมาท์เทนและไวน์ชาโต้ ลาฟีตปีแปดสองไม่ได้แตกต่างกัน ฉินสือโอวเคยดื่มมาก่อน แก้วละสี่สิบดอลลาร์แคนาดา แต่วินเซนต์เป็นคนรู้จักของเขาและยังเติมกาแฟฟรีได้อีกด้วย
“มีกาแฟชนิดอื่นอีกไหม? หรือว่าน้ำผลไม้ ผมชอบน้ำผลไม้มากกว่า” ฉินสือโอวกล่าว
วินเซนต์ถามออกมาด้วยความแปลกใจวาทำไม คุณชายฉินเป็นคนพูดตรงๆ เขาไม่ค่อยมั่นใจว่ากาแฟในมือของวินเซนต์จะเป็นกาแฟบลูเมาท์เทนจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาประเมินความสามารถของวินเซนต์ต่ำเกินไป แต่เพราะกาแฟบลูเมาท์เทนดั้งเดิมแทบจะไม่มีการนำออกมาขายเลย นั่นก็เพราะเหตุการณ์ความวุ่นวายในเขตบลูเมาท์เทนที่จาไมกา
………………………