ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1662 ไปกู้เรืออย่างสบายใจ
เมื่อให้กำเนิดปลาโลมาน้อยออกมา อย่างไรมาริซ่าก็เหน็ดเหนื่อย นี่ยังดีว่ามีพลังโพไซดอนคอยช่วยไว้ ไม่เช่นนั้นคงเหนื่อยล้าจนขยับร่างกายไม่ไหว
ฉินสือโอวถามว่าอยากปิดเส้นทางการท่องเที่ยวนี้ไหม เพราะอย่างไรก็แล้วแต่ ลูกโลมาก็เพิ่งกำเนิด แม่โลมาก็เหนื่อยล้า ซึ่งทั้งสองจะตกใจได้ง่าย
วินนี่ถามเออร์บัก เออร์บักบอกว่าไม่จำเป็น นักท่องเที่ยวยังเข้ามาเยี่ยมชมได้ พวกปลาโลมาจะคอยปกป้องโลมาแม่และลูกเอง ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่พบเห็นโดยทั่วไป
เป็นจริงดั่งคาด เมื่อมีนักท่องเที่ยวพายเรือเล็กเข้ามาใกล้ฝูงปลาโลมา ปลาโลมาทุกตัวจะพยายามว่ายไปล้อมรอบมาริซ่าและลูกเอาไว้เป็นวงกลม หันหัวไปด้านนอก ส่วนหางหันเข้าด้านใน ปกป้องปลาโลมาแม่ลูกไว้ตรงกลางอย่างแน่นหนา ตราบใดที่มีเรือเล็กเข้าใกล้ พวกปลาโลมาจะชนหัวเรือด้วยหัวของมัน
เรื่องที่เหลือไม่เกี่ยวข้องกับฉินสือโอวและคนอื่นๆ แล้ว หลังจากขึ้นฝั่งเขาก็ถามเออร์บักด้วยความสงสัยว่า “ปู่ คุณเข้าใจนิสัยของปลาโลมาขนาดนี้เลยเหรอ? ผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ”
เออร์บักยิ้ม “เรื่องที่นายไม่รู้ยังอีกเยอะมาก เห็นได้ชัดว่านายไม่เคยสังเกต รูปบนกำแพงในห้องฉัน มีรูปคู่ที่ฉันถ่ายกับปลาโลมาตั้งหลายรูป”
ฉินสือโอวไม่เคยสังเกตจุดนี้ โดยปกติเขาไม่ไปห้องชายชรา ชายชราก็ไม่ไปห้องเขา ความสัมพันธ์ของทั้งสองแปลกเป็นพิเศษ รักกันเหมือนพ่อลูก แต่ก็คล้ายหัวหน้ากับผู้ช่วย ต่างช่วยเหลือกันและกัน แต่ก็เคารพในสิทธิส่วนตัวของอีกฝ่าย
หลังจากขึ้นฝั่ง เออร์บักไม่ต้องรอให้เขาเอ่ยปากด้วยซ้ำก็บอกเลยว่า “เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรืออับปางขวานดำ พวกนายไปกู้ขึ้นมาอย่างสบายใจได้เลย ชาวสเปนอย่าได้คิดแม้แต่จะเอาของของพวกนายไปเลย!”
ฉินสือโอวยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไร บิลลี่ก็ตื่นเต้นขึ้นมา ชูนิ้วโป้งแล้วร้องว่า “ปู่เด็ดเดี่ยวมาก! ทนายความของพวกเราตอนนั้นไม่ได้หยิ่งผยองแบบนี้ แม่ง พอคิดถึงเรื่องผมก็รู้สึกโกรธ! ไอ้พวกงี่เง่า ตอนที่ต่อกรกับคนสเปนในศาลต้องคุกเข่าลงไปพูด เป็นการดูถูกตัวเองจริงๆ!”
เออร์บักหัวเราะแล้วก็ตบไหล่เขา “ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน จริงๆ แล้วก็ไม่ได้โทษทีมทนายความอะไรของพวกนายหรอก ตอนนั้นพวกนายก็ไม่ได้เอาเปรียบจริงๆ”
ฉินสือโอวถามอย่างกังวลว่า “แม้ว่าเรือที่เรากู้มาได้ครั้งนี้จะเป็นเรือโจรสลัด แต่ถ้ายึดตามกฎหมายระหว่างประเทศในปัจจุบัน ของที่โจรสลัดปล้นสะดมมาได้ถือว่าเป็นของประเทศที่เป็นเจ้าของในตอนแรก”
ทั้งสามคุยไปเดินขึ้นรถไป หู่จือและเป้าจือวิ่งกระดิกหางไปด้านหน้าอีกครั้ง พวกมันแลบลิ้นออกมายาวมากแสดงว่าร้อนจนทนไม่ไหว แต่อย่างไรก็ยังชอบวิ่ง ถือได้ว่าเป็นเด็กน้อยน่ารักคู่หนึ่งที่รักการออกกำลังกาย
บนรถเอทีวี เออร์บักอธิบายให้ฉินสือโอวและบิลลี่เข้าใจความแตกต่างระหว่างสองสถานการณ์
ประการแรกจากคู่กรณีที่ทำการฟ้องร้อง การอ้างสิทธิ์ของสเปนชัดเจนมาก เรือเมอซี่เป็นเรือรบของประเทศสเปนที่จมโดยกองทัพเรืออังกฤษในปี 1804 สเปนไม่เคยสละสิทธิ์ในสิทธิอธิปไตยในตัวเรือที่จมเลย
ตามสนธิสัญญาทวิภาคีระหว่างสหรัฐอเมริกาและสเปน เรือรบของสเปนควรได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกับเรือรบของอเมริกาตาม “พระราชบัญญัติการป้องกันสิทธิอธิปไตยต่างประเทศ” ของสหรัฐ ศาลของสหรัฐฯไม่มีเขตอำนาจศาลใดๆ ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับสิ่งของที่อยู่บนเรือรบ ดังนั้นสิ่งของบนเรืออับปางที่กู้โดยบริษัท โอดิสซีย์ จำกัดควรถูกส่งคืนให้กับรัฐบาลสเปน
ซึ่งครั้งนี้สมบัติบนเรือขวานดำที่อับปางนี้ถูกปล้นมาจากดินแดนของสเปนจริง แต่สมบัติเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นของสเปน บางทีอาจเป็นเงินทองของผู้คนในสเปนจากประเทศอื่นๆ ดังนั้นคำขอดำเนินคดีของรัฐบาลสเปนในครั้งนี้จึงค่อนข้างคลุมเครือ โดยอ้างว่ามี “กรรมสิทธิ์ตามเงื่อนไข” ในตัวเครื่องเคลือบทองและเงินที่ผลิตจากทำเนียบรัฐบาล
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือครั้งนี้สเปนเลือกแคนาดาเป็นสถานที่ร้องเรียนแทนที่จะเป็นสหรัฐอเมริกา เมื่อเป็นเช่นนี้สองประเทศอธิปไตยที่แตกต่างกันจะจัดการกับคดีความที่คล้ายกันด้วยวิธีที่แตกต่างกัน
การดำเนินคดีทางแพ่งของอเมริกามีสิ่งที่เรียกว่า “เขตอำนาจศาลระยะไกล” กล่าวคือแม้ว่าจำเลยจะไม่ได้อาศัยอยู่ในรัฐใดรัฐหนึ่ง แต่ตราบใดที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐนี้อย่างน้อยที่สุด และข้อเรียกร้องนั้นเกี่ยวข้องกับความเชื่อมโยงนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ตามเท่าที่ข้อเรียกร้องนี้เกี่ยวข้อง รัฐมีเขตอำนาจศาลส่วนตัวเหนือจำเลยและสามารถออกหมายเรียกจำเลยนอกเขตรัฐได้
ในกรณีของซากเรือเมอซี่ แม้ว่าซากเรืออับปาง ของที่ติดมากับเรือและสินค้าของจำเลยจะได้รับการกู้จากพื้นที่ใต้ทะเลระหว่างประเทศ ซึ่งนั่นก็คือได้รับการกู้จากทะเลหลวง แต่เนื่องจากหน่วยงานที่กู้คืนเป็นบริษัท อเมริกันที่มีสำนักงานใหญ่ในรัฐฟลอริดา ดังนั้นศาลสหรัฐจึงถือได้ว่าคดีนี้มีความเชื่อมโยงอย่างน้อยที่สุดที่จำเป็นในการใช้อำนาจศาลระยะไกล
สิ่งที่ดีในครั้งนี้คือ บริษัทบริษัท กู้ซาก ดีพโอเชี่ยน ฟิช จำกัดตั้งอยู่ในแคนาดา ชาวสเปนจึงต้องย้ายศาลไปที่แคนาดา ซึ่งระบบกฎหมายของแคนาดาจะเหมือนกับของสหราชอาณาจักร แต่แตกต่างจากสหรัฐอเมริกา แม้ว่าสเปนจะยื่นคำร้องเพื่อดำเนินคดี แต่ศาลของแคนาดาจะไม่บังคับยึดเรือที่จม
เมื่อฟังถึงตรงนี้ บิลลี่ส่ายหน้า “แต่ศาลของรัฐบาลกลางได้ออกหมายศาลมาแล้วว่าให้ยึดเรือที่อับปาง”
เออร์บักยิ้ม “แน่ล่ะ ตราบใดที่ศาลรับทำคดี ถ้าอย่างนั้นสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องก็ต้องถูกยึดขึ้นมา เพราะนี่เป็นข้อกำหนดของกฎหมาย แต่ว่านายไม่เห็นเหรอว่า ศาลฎีกาไม่ได้มีกำหนดออกมาให้ยึด แต่ให้คุณใช้เขตอำนาจศาลของคุณเอง ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง”
ฉินสือโอวถอนใจด้วยความโล่งอกแล้วพูดขึ้นว่า “นั่นก็หมายความว่าสมบัติเหล่านี้จะไม่ถูกยึดโดยชาวสเปน?”
เออร์บักตอบ “ไม่แน่นอน แต่อัญมณีพวกนี้คงไม่สามารถนำไปขายได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ดูท่าแล้วคงมีการสู้คดีเกิดขึ้น”
เมื่อนึกถึงการดำเนินคดีอันยาวนานถึงห้าปีระหว่างรัฐบาลสเปนและบริษัทโอดิสซีย์ จำกัด เหงื่อเย็นๆ ของฉินสือโอวก็ไหลย้อยออกมา “คงไม่สู้กันถึง 5 ปีใช่ไหม?”
เออร์บักยักไหล่ “อันนี้ก็ตอบยาก คงต้องดูความแน่วแน่ของชาวสเปน แน่ล่ะฉันคิดว่าคดีนี้คงไม่ได้ยืดเยื้อไปยาวนานมาก เพราะตอนนั้นชาวสเปนมีความมั่นใจว่าต้องชนะคดีเรือเมอซี่ ดังนั้นจึงยอมที่จะจ่ายเงินมหาศาลมาดำเนินคดี แต่สำหรับเรือขวานดำ พวกเขาน่าจะรู้ว่าอาจจะไม่สามารถเอาชนะคดีได้ เพราะฉะนั้นเสียเวลาไปก็ไม่มีประโยชน์”
บิลลี่ถอนใจแล้วพูดขึ้น “ขอแค่สามารถระบุความเป็นเจ้าของเรืออับปางได้ เพราะอย่างไรก็ตามพวกเราก็ไม่ได้รีบใช้เงินก้อนนี้ แล้วทำไมจะไม่ลองสู้คดีกับชาวสเปนดูสักตั้งล่ะ? แถมยังเพิ่มชื่อเสียงให้กับเรืออับปางด้วย เป็นโอกาสที่จะโฆษณาได้ฟรีๆ จึงปล่อยพลาดไปไม่ได้”
แต่ฉินสือโอวกลับไม่อยากรอ แต่ก็ไม่มีความคิดที่ดีกว่านี้ จึงคงต้องเอาแบบนี้ไปก่อน
หลังจากกลับไปที่ฟาร์มปลา เบลคและแบรนดอนรอจนกระวนกระวายใจไม่น้อย เบลคกำลังคุยโทรศัพท์กับทนายความเรื่องการประมูลของพวกเขา ดูท่าแล้วไม่น่าจะราบรื่นสักเท่าไร พอเบลควางสายสีหน้าก็ไม่สู้ดีนัก
ฉินสือโอวเล่าสิ่งที่เออร์บักต้องการให้เบลคฟัง ให้เขาปล่อยให้เออร์บักเป็นคนนำทีมในส่วนของทีมทนายความงานประมูลเอง ให้ชายชราเป็นคนออกหน้าแก้ปัญหาตรงจุดนี้
เบลคพอได้ยินก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วพูดว่า “ถ้าได้แบบนี้ก็เจ๋งเลย หัวหน้าทนายของเราบอกว่าเรื่องนี้หกสิบสี่สิบ เรามีโอกาสชนะได้ 60% แต่แน่นอนว่าเขาไม่เก่งเท่าพ่อเออร์บัก ถ้ามีพ่อเออร์บักออกโรงด้วยตนเอง เรือโจรสลัดขวานดำต้องเป็นของพวกเราแน่”
ในฐานะประเทศที่ใช้กฎหมายทั่วไป จึงเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีเรื่องขึ้นศาลในแคนาดา ในกรณีนี้ผลของการจ้างทนายความธรรมดาและทนายความที่ยอดเยี่ยมแน่นอนว่าผลที่ออกมาย่อมแตกต่างกัน
ยิ่งถ้ามาถึงระดับของเออร์บัก ก็ยิ่งสุดยอด เขาสามารถทำเรื่องให้พลิกผันได้ในศาล!
……………………….