ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1703 กลายเป็นเศรษฐีอีกครั้ง
การเปิดศาลครั้งหน้าก็คือครึ่งเดือนให้หลัง แน่นอนว่าช่วงนี้ฉินสือโอวก็ไม่ต้องอยู่ออตตาวา วันถัดไปก็เดินทางกลับฟาร์มปลา
ทิ้งช่วงไปช่วงหนึ่ง ความสนใจต่อคดีซากเรือโรบินฮู้ดในซิซิลีไม่ได้มากขนาดนั้นแล้ว ฉินสือโอวคิดว่าจวนได้เวลาแล้ว เลยเอาทองกับเหรียญใส่ลงในตู้นิรภัยและขนส่งไปสำนักงานประจำภูมิภาคของธนาคารมอนทรีออลในนิวฟันด์แลนด์
ตอนนี้แบรนดอนได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการระดับภูมิภาคของนิวฟันด์แลนด์ สาขาธนาคารมอนทรีออลทั้งรัฐล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
ฉินสือโอวติดต่อเขาล่วงหน้าแล้ว แบรนดอนรอจนรถเขามาถึงแล้วก็นำทางตรงไปยังลานจอดรถปิดใต้ดินและถาม “นายขนอะไรมา ลับๆล่อๆ ขนาดนี้?”
ฉินสือโอวขำไม่ได้ตอบอะไร แต่ถามกลับ “ทำไมนายไม่ได้หยุดพักผ่อน? ฉันนึกว่านายจะไปเที่ยวฮันนีมูนรอบโลกเสียอีก”
แบรนดอนยักไหล่แล้วพูดว่า “เลื่อนไปก่อนสักหน่อยดีกว่า ตอนนี้ไม่ได้หรอก งานยังเยอะอยู่ อีกอย่างยังมีเรื่องกลุ่มโจรสลัดขวานดำอีก ถ้าไม่ได้แลกสมบัติเรืออับปางพวกนั้นเป็นเงินแล้วโอนเข้าบัญชีเรา ฉันก็วางใจไปเที่ยวไม่ได้หรอก”
คุยเล่นไป ฉินสือโอวก็โบกมือเป็นสัญญาณให้อีวิลสันเปิดรถบรรทุกเผยให้เห็นตู้นิรภัยใบใหญ่สองใบในนั้น
แบรนดอนถามด้วยความประหลาดใจว่า “ในนั้นคืออะไร? โบราณวัตถุเหรอ? จะฝากไว้ในห้องนิรภัยของธนาคารหรือว่าอย่างไร?”
อีวิลสันเปิดประตูตู้นิรภัยทั้งสองตู้ ชั่วขณะนั้น เงินเหรียญที่วางเรียงซ้อนกันเป็นระเบียบกับทองแท่งที่ใส่เป็นกล่องๆ อย่างดีก็เผยออกมา ชั่วขณะนั้น ลานจอดรถปิดอันแสนกว้างขวางและเงียบสงบก็ถูกย้อมไปด้วยประกายแสงของสมบัติ!
แบรนดอนเห็นเงินและทองที่ธนาคารจนชินอย่างที่คิดไว้ แต่ตอนที่ฉินสือโอวได้ของพวกนี้มากลับตื่นเต้นไม่น้อย แบรนดอนแค่มองเขาอย่างตกใจ หลังจากนั้นก็เข้าไปหยิบเงินยูโรมาปึกหนึ่งแล้วนับอย่างรวดเร็วครั้งหนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “ให้ตาย นายไปเอาของพวกนี้มาจากไหน?”
ฉินสือโอวไม่พูดความจริงอยู่แล้ว เขายักไหล่แล้วพูดขึ้น “แน่นอนว่าได้มาจากการขายปลา”
แบรนดอนกลับไม่ได้หลอกง่าย เขามองทองและเงินอย่างแปลกใจ บนใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นก็พูดขึ้น “ฉันรู้แล้ว ดูท่าโจรขโมยสมบัติที่โดนตำรวจทะเลนิวฟันด์แลนด์จับไม่ได้พูดเหลวไหลใช่ไหม?”
ฉินสือโอวยักไหล่อีกแล้วทำสีหน้าสับสนก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่านายหมายถึงอะไร”
เห็นแบบนั้นแบรนดอนก็เข้าใจถึงความหมายของเขา หัวเราะแบบกระอักกระอ่วนครู่หนึ่งก็หันกลับมาตบบ่าเขา “โอเค ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันพูดเหลวไหลอะไรอยู่ ฉันคงอึ้งกับของพวกนี้ไป งั้นนายจะแลกเปลี่ยนอย่างไรล่ะ? ฝากเป็นทองหรือเปลี่ยนเป็นเงินสด?”
ฉินสือโอวตอบ “ทั้งหมดแลกเป็นเงินฝากเข้าบัตรฉัน คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกใช่ไหม? จะมีฝ่ายสืบสวนมาตรวจเรื่องนี้อีกไหม?”
แบรนดอนดูใบหลักฐานการถือทองเสร็จก็เอ่ยว่า “วางใจเถอะ ให้ฉันจัดการ ธนาคารมอนทรีออลเราให้ความสำคัญกับการรักษาความลับของลูกค้า ขอแค่ไม่ใช่การฟอกเงินหรือพฤติกรรมผิดกฎหมายอย่างอื่น ทางเราก็จะรับรองให้”
ในเมื่อฉินสือโอวมาหาแบรนดอนก็หมายความว่าไว้ใจเขา ตอนอยู่ที่จีนสี่ความสัมพันธ์ในชีวิตคือเพื่อนมิตรแท้ เพื่อนที่ไว้ใจระวังหลังให้กันได้ เพื่อนแบบมีผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อนแบบที่รู้ไส้รู้พุงถึงเรื่องแย่ๆ ในสังคมทุนนิยมอย่างแคนาดา ที่เหนียวแน่นที่สุดคือเพื่อนทางธุรกิจ ขอแค่ให้พวกทำเงินได้ เขาก็จะเป็นเพื่อนพันธมิตรเหนียวแน่น
แต่แบรนดอนก็ไม่ได้รับปากส่งเดช เขาดูว่าทองมีใบรับรองเฟดถึงกล้าตกปากรับคำ ถ้าเป็นทองที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน อย่างมากเขาก็ช่วยจัดการให้ได้ไม่กี่พันกรัม จะให้ฝากสิบกว่าตัน เขาไม่กล้ารับเลยจริงๆ
แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัว เหรียญฝากเข้าธนาคารได้เลย ทองนี่เพราะมีใบรับรองจึงสามารถนำฝากเข้าธนาคารหรือแลกเปลี่ยนได้ตามราคาทอง แน่นอนว่าจู่ๆ มีเงินก้อนโตฝากเข้าธนาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารมอนทรีออลจะต้องให้ความสนใจอยู่แล้ว เพียงแต่ในเมื่อที่มาของเงินพวกนี้ไม่มีปัญหา ธนาคารไหนจะปฏิเสธเงินกองโตที่ฝากเข้ามา?
แบรนดอนพาฉินสือโอวกับอีวิลสันขึ้นไปที่ห้องทำงาน เขารู้นิสัยของอีวิลสันดีเลยเตรียมไก่ทอด เนื้อทอดและขนมไว้ข้างบนมากมาย พออีวิลสันเดินเข้าไปในห้องทำงานก็ไปนั่งหน้าโต๊ะแล้วเริ่มลงมือกินมูมมามคำโต ไม่ได้สนใจบทสนทนาระหว่างอีกสองคนสักนิด
บทสนทนาของทั้งสองจงใจเลี่ยงประเด็นทองและเหรียญชุดนี้ แบรนดอนถามถึงรายละเอียดเกี่ยวกับคดีพิพากษาซากเรือโจรสลัดขวานดำ ฉินสือโอวบอกเขาไปว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ก็แค่รอเปิดศาลสองสามครั้งกับพวกสเปนนอกเรื่องเหลวไหล สมบัติเรือจมชุดนี้จะต้องออกแสดงในงานประมงฤดูใบไม้ร่วงของบริษัทจัดประมูลริชชี่แน่นอน
ทองถูกชั่งและเอาเข้าคลัง เหรียญก็นับเสร็จเอาเข้าคลังไป แบรนดอนเรียกทีมทำงานเพื่อมารับผิดชอบดูแลเหรียญและทองคำเหล่านี้โดยเฉพาะอย่างเร่งด่วน ยุ่งกันตั้งแต่สิบโมงเช้าจนสี่โมงเย็นถึงจัดการเรียบร้อย การนับจำนวนเงินที่ถูกต้องใช้เวลาไม่มาก ที่เปลืองเวลาคือการเอาเหรียญกับทองพวกนี้เข้าคลังธนาคาร พอขั้นตอนนี้เสร็จก็ถือว่าฟอกเงินสำเร็จแล้ว
พอแลกเปลี่ยนตามราคาตลาดของทองคำในวันนั้นๆ ทองพวกนี้แลกเป็นเงินทั้งหมด 364 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนเงินเหรียญพวกนั้นทั้งหมดก็คือ 35 ล้านดอลลาร์ รวมกันแล้ว คราวนี้เขาได้มาเกือบ 400 ล้านเหรียญสหรัฐจากเรือโรบินฮู้ดซิซิลี!
ตอนที่มองดูบิลอันแสนสวยงามจู่ๆ ฉินสือโอวก็เกิดความคิดขึ้นมา ให้ตาย ถ้ารู้ว่าการปล้นเงินจากโจรขโมยสมบัติแล้วจะสะใจขนาดนี้ เขาจะเริ่มเลี้ยงปลาทำไม ไปเป็นโจรสลัดล่องมหาสมุทรทั้งเจ็ดดีกว่า ไม่ปล้นอย่างอื่น ปล้นแค่เรือโจรขโมยสมบัตินี่แหละ!
แต่ว่าพวกนี้ก็แค่ความคิดเล่นๆ ถ้าจะทำจริงก็เป็นไปได้ยาก พวกโจรขโมยสมบัติรอบคอบกว่าขโมยทั่วไปมาก แต่ล่ะคนปกติก็ไม่กระโตกกระตาก ทำตัวเรียบร้อยอยู่ในกรอบมาก ให้ความสำคัญกับการป้องกันความเป็นส่วนตัวสุดๆ แม้แต่ตำรวจทะเลแต่ล่ะประเทศยังหาตัวตนพวกมันไม่ได้เลย
คราวนี้ถ้าไม่ใช่แจ็ค จูเลียโน่ซวยมาเจอยักษ์ใหญ่อย่างฟาร์มปลาต้าฉิน ดีไม่ดีจนเขาเกษียณจากสายงานนี้ก็ไม่มีใครรู้ถึงตัวตนเขา
400 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าบัญชี เงินที่ฉินสือโอวกู้ยืมธนาคารมอนทรีออลไปก่อนหน้านี้ก็กลบได้หมดแล้ว
ตั้งแต่ลงหุ้นบริษัทบอมบาร์เดียร์ ซี แอร์ไลน์เนอร์ โฮลดิ้ง เขาก็เริ่มพยายามผ่อนเงิน เงินทั้งหมดที่ได้จากอาหารทะเลต้าฉินถูกเอาไปใช้คืนเงินกู้ทั้งหมด ที่จริงช่วงนี้ตัวเขาไม่ค่อยมีเงิน ไม่อย่างนั้นก็เอาไปซื้อเครื่องบิน แลกเรือยอชต์แล้ว
คราวนี้ได้ทรัพย์มาก้อนโต พอเขาคืนเงินกู้ทั้งหมด เขาก็ยังเหลืออีก 250 ล้าน เงินพวกนี้ยังไม่รีบใช้ เก็บก็เก็บไว้เฉยๆ ไม่สู้ไปซื้อเครื่องบินเรือยอชต์เป็นการบริโภคสักหน่อย การบริโภคก็หักภาษีได้ เพียงแต่การหักภาษีของสินค้าฟุ่มเฟือยจะน้อยกว่าหน่อย
หลังจากบอกลาแบรนดอน ฉินสือโอวกลับฟาร์มปลาก็เริ่มเตรียมเรื่องซื้อเรือยอชต์กับเครื่องบิน เขาเตรียมจะซื้อเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวแบบหลายเครื่องยนต์ก่อน ตอนนี้ของที่ฟาร์มปลาเป็นเฮลิคอปเตอร์เครื่องยนต์เดียว ความเร็วช้า เสถียรภาพไม่ดี น้ำหนักบรรทุกน้อย ที่สำคัญคือมันไม่หรูหราเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการในการทำงานและวิถีชีวิตของเขา
……………………