ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1752 กลัวจนฉี่ราด
เรือสปีดโบ๊ทของชาวเอธิโอเปียสองลำแล่นเข้ามาที่ท่าเรือทีละลำ จากนั้นพวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีตำรวจหลายสิบคนที่จับปืนอยู่บนเอวของพวกเขา กำลังเฝ้าดูพวกเขาอย่างระแวดระวัง
“รีบกลับลำ รีบไป!” ชายผิวดำที่แข็งแรงคนหนึ่งตะโกนขึ้น
เรือสปีดโบ๊ทสองลำหันหัวกลับทีละลำ ดังนั้นสิ่งที่ชาวเอธิโอเปียเห็นคือเรือลำใหญ่ที่เต็มไปด้วยหัวกะโหลกและมีคนตายห้อยอยู่ตรงหัวเรือขวางทางอยู่ มีกลุ่มชายที่แข็งแรงถือขวานและมีดยาวกำลังเฝ้ามองที่พวกเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
ชายผิวดำที่แข็งแกร่งบนเรือสปีดโบ๊ทคว้าชายหนุ่มที่สวมหมวกใบเล็กๆ อยู่ข้างๆ เขาอย่างหมดหวังและตะโกนว่า “ไอ้บ้าเอ๊ย นิกก้านี่มันเกิดอะไรขึ้น? นี่มันเรื่องอะไรกัน? นายไม่ได้บอกหรอกเหรอว่าที่เมืองนี้มีแต่คนผิวขาว? แล้วไอ้คนพวกนี้คืออะไร?!”
ชายหนุ่มตกตะลึง อ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “ไม่พี่คัมมิงส์ ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ เห็นชัดๆ อยู่ว่าที่นี่ควรจะมีแค่พวกผิวขาวที่อ่อนแออยู่ถึงจะถูกสิ พวกเขา พวกเรา ไม่ ฉันหมายถึง ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ!”
พอเป็นแบบนี้สถานการณ์รอบๆ ท่าเรือจึงแปลกไป ขอทานคนหนึ่งรีบวิ่งออกไปพร้อมกับชามแตกในมือและฝ่าแนวป้องกันของตำรวจออกไป เขาชี้นิ้วกลางไปที่เรือสปีดโบ๊ทเอธิโอเปียและตะโกนว่า “พวกเชี่ย มานี่สิ มาหาแดดดี้ฮิวจ์สิ แดดดี้จะให้พวกนายกินขี้!”
แบทแมนและฟอลคอนบินลอยมาจากท้องฟ้า และไล่ตามไปที่เรือเร็วอย่าวว่องไว ด้านหลังยังมีชายหนุ่มที่เหยียบดาบยาวยักษ์ ชาวเอธิโอเปียมองดูคนที่บินได้เหล่านี้ด้วยความสยดสยอง
ยังมีเด็กวัยรุ่นบางคนในชุดเกราะหรือเครื่องแบบทหารกระโดดขึ้นไปบนเรือสปีดโบ๊ท เรือสปีดโบ๊ทลำหนึ่งได้รับการตกแต่งเป็นเรือติดอาวุธในหนังเรื่อง 007 แล่นไปตามผิวน้ำท่ามกลางกระแสลมและคลื่นที่ซัดเข้าหาทะเล ร้องดังกระหึ่มใกล้เข้ามา
เรือโจรสลัดและเรือเดรดนอทล้อมปิดจากด้านหลัง บนเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่มีร่างกายแข็งแรงและยังมีคนที่ถือปืนคาบศิลาอยู่ในมือ เล็งไปที่พวกเขา
ชาวเอธิโอเปียคนหนึ่งบนเรือสปีดโบ๊ทตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “ไม่อนุญาตให้ใช้ปืนในที่สาธารณะไม่ใช่เหรอ? คนพวกนี้เอาปืนมาจากไหน? พวกเรารีบไปกันเถอะ รีบไปกันเร็ว!”
บนฝั่ง ผู้คนที่มาเข้าร่วมงานต่างสนอกสนใจกับสิ่งตรงหน้า พวกเขาเห็นคนในเมืองไปไล่ล่าเรือเร็วสองลำนั้นกันหมด จึงเริ่มพูดคุยกันด้วยความประหลาดใจ “เอ๋ เกิดอะไรขึ้นกับเรือลำนี้?” “ไม่ใช่แค่ลำเดียวนะ สองลำ เรือเร็วสีขาวสองลำนั้น พวกเขามาทำอะไรกัน?” “เป็นผู้รุกรานจากองค์กรในเมืองหรือ? ฉันได้ยินมาว่างานนี้มีช่วงรายการที่ร่วมกันปกป้องเกาะด้วย ตอนนี้เริ่มแล้วหรือเปล่า?”
“มีช่วงแบบนี้ด้วยเหรอ? พวกเราทุกคนช่วยกันปกป้องเกาะจากการรุกรานของคนเหล่านั้นอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่น่าหรอก เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมถึงมีแค่เรือเร็วสองลำล่ะ?”
“โถเพื่อน มันก็แค่การแสดงไง อีกอย่าง พวกเขาอาจจะประเมินจำนวนผู้คนที่มาร่วมงานต่ำไป หรือไม่พวกเขาก็จัดให้ตัวเอง”
“ถ้าอย่างนั้นจะต้องพูดอะไรอีก? ก็แค่เรือสองลำนี้ พวกเราก็ไปเข้าร่วมด้วยเถอะ เดี๋ยวสักพักพวกเขาถูกโจมตี พวกเราก็อดร่วมด้วยหรอก”
จากนั้น ข่าวนี้ก็แพร่กระจายออกไป กลุ่มคนที่แต่งตัวในรูปแบบต่างๆ ขึ้นเรือของตัวเอง เร่งไล่ล่าเรือสปีดโบ๊ทของชาวเอธิโอเปียไปทีละลำ
หลังจากเห็นเครื่องแต่งกายของคนเหล่านี้ชาวเอธิโอเปียก็เข้าใจ ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนว่า “อ๋อ ฉันเข้าใจแล้วพวกโง่พวกนี้กำลังเล่นคอสเพลย์อยู่ พวกคุณรู้หรือเปล่า? เป็นที่นิยมมากตอนนี้ แล้วที่พวกเขาถืออยู่ก็เป็นแค่อุปกรณ์ประกอบ แค่ขู่พวกเราให้กลัวเฉยๆ!”
ด้วยความนิยมของโลกการ์ตูนอะนิเมะที่มีไปทั่วโลก กิจกรรมที่เกี่ยวกับคอสเพลย์จึงเริ่มแพร่หลายมากขึ้น พวกชาวเอธิโอเปียพวกนี้ค่อนข้างอนุรักษนิยม จึงไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมแนวนี้ ดังนั้นตอนแรกพวกเขาถึงตกใจกลัว ตอนนี้พอเริ่มมีสติกลับมาจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ในเวลานี้ เรือโจรสลัดได้ทิ้งเรือเร็วยาวลำหนึ่งออกมา บนเรือเร็วลำนั้นมีชายวัยกลางคนหนวดเฟิ้มใส่ชุดคลุมยาวสีขาวเทาถือมีดอยู่แล้วตะโกนขึ้นว่า “หลีกไป ไม่อย่างนั้น…รีบหลีกไป อย่าขวางทาง อย่าวิ่งเข้ามาชนมีดของเรา!”
เดิมทีเขาอยากจะข่มขู่คนบนเรือ อยากจะพูดว่าแทงพวกแกตาย แต่ก็นึกถึงสาเหตุที่เขาเคยติดคุกได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็คือการที่เข้าเอาความตายมาข่มขู่คนอื่น ดังนั้นจึงทำได้เพียงเปลี่ยนคำพูดอย่างไม่เต็มใจ
เรือประมงมีขนาดใหญ่กว่าเรือเร็วมาก บูลใช้โอกาสที่ได้เปรียบ เอาโซ่ค้อนมาจากเพื่อนที่อยู่ข้างๆ เขา โซ่ค้อนก็คือแท่งเหล็กที่เชื่อมต่อด้วยโซ่และค้อนขนาดใหญ่ที่หนามแหลมเต็มไปหมด ซึ่งของเล่นนี้ก็คล้ายๆ กันกับกระบองสองท่อน เป็นตัวละครเอกในสนามรบในยุคกลางของยุโรป ครั้งหนึ่งพวกมันเคยเป็นอาวุธหลักในสนามรบที่อัศวินและพวกทหารใช้กัน ทรงพลังมหาศาล
บูลหยิบค้อนโซ่ขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มแสยะบนใบหน้า จากนั้นหมุนไปสองสามครั้งแล้วโยนมันออกไป ค้อนเหล็กขนาดใหญ่กระแทกเข้าไปในห้องคนขับของเรือสปีดโบ๊ทพร้อมกับเสียงโหยหวนราวกับดาวตก เสียงดังขึ้น ‘เพล้ง’ ทุบส่วนห้องโดยสารด้านหน้าแตกกระจาย
ชายหนุ่มสองคนที่เบียดกันในห้องคนขับถูกตีด้วยค้อน พวกเขาได้รับบาดเจ็บเลือดออกในทันที กอดแขนที่ได้รับบาดเจ็บพร้อมร้องไห้ระงมด้วยความเจ็บปวดอยู่ตรงนั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ชาวเอธิโอเปียคนอื่นๆ ก็ตกใจกลัว มีคนร้องตะโกนเหมือน…”โอ้ว พระอัลเลาะห์ นี่ไม่ใช่คอสเพลย์หรอกเหรอ? อาวุธของพวกเขาเป็นของจริง ไม่ใช่ของปลอม!”
แน่นอนว่ามันเป็นของจริง ห้องคนขับถูกทำลาย ไม่สามารถขับเรือสปีดโบ๊ทลำนี้ได้แล้ว ชาวเอธิโอเปียหลายสิบคนได้แต่นิ่งงันอยู่ในทะเลด้วยความงุนงง
บูลและคนอื่นๆ ปีนบันไดลงไป และขึ้นไปที่เรือสปีดโบ๊ทอย่างระมัดระวัง
เรือสปีดโบ๊ทลำเล็กๆ ทำไมถึงจุคนได้เยอะขนาดนี้? เดิมทีแค่ชาวเอธิโอเปียหลายสิบคนบนเรือก็เบียดเสียดกันมากพอแล้ว เมื่อชาวประมงขึ้นไปอีกก็กลายเป็นเหมือนปลากระป๋อง
ชายผิวดำบนเรือตื่นตระหนกและหยิบอาวุธจำพวกมีดและแท่งเหล็กออกมา บูลยิ้มเย็นและยกโล่ขึ้นในมือซ้าย ขณะที่มือขวาถือขวานสองคมไว้ อาวุธของชาวประมงคนอื่นๆ ก็ดูทรงพลังมากเช่นกัน และมีคนเสียบขวานสั้นเป็นแถวไว้อยู่ที่เอว ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นขวานขว้างในกลุ่มโจรสลัดไวกิ้ง เป็นอาวุธขว้างที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
อาวุธของโจรสลัดไวกิ้งส่วนใหญ่จะเน้นขวานเป็นหลัก ได้แก่ ขวานโทมาฮอว์ค ขวานด้ามยาว ขวานสองคม ขวานสั้น และขวานยาวที่รวมกับหอก ขวานชนิดนี้ก้านจะยื่นออกมาส่วนหนึ่งและส่วนขยายที่ยื่นออกมาคือหอกยาว
เมื่อเทียบกับพวกเขา อาวุธในมือของคนผิวดำก็ดูจะไม่เพียงพอ ฉินสือโอวยืนมองอยู่บนเรือ ในใจรู้สึกทนไม่ได้เล็กน้อย บ้าเอ๊ย นี่มันมาเฟียเจอองค์กรก่อการร้ายหรืออย่างไร ทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะด้วยอาวุธหรือขนาดร่างกายก็แตกต่างกันมาก
มีชาวประมงเพียงสี่คนที่ขึ้นไปบนเรือสปีดโบ๊ท แต่มีอย่างน้อยสี่สิบคนบนเรือโจรสลัด ผู้คนจำนวนมากจากที่สูงมองลงไปที่ชาวเอธิโอเปีย ถ้าพวกเขายังกล้าลงมืออีกพวกเขาก็เทวดาแล้ว
มีเรือมากมายจากด้านหลังล้อมเอาไว้ พวกคนเหล่านี้คิดว่ามันเป็นกิจกรรม พอวิ่งขึ้นมาก็ตะโกนว่า “เพื่อความรุ่งเรืองของอาณาจักร! ฆ่าพวกมัน! ฆ่าพวกมัน!”
“หลบไป มีดเล่มใหญ่ของฉันกระหายเลือดมานานแล้ว!”
“พระเจ้าลงโทษพวกมัน! พวกครูเสด ตามฉันมาและขับไล่พวกมันลงนรกไปซะ!”
เมื่อเห็นฝูงชนที่แสดงออกอย่างบ้าคลั่งล้อมรอบพวกเขา บวกกับเรือและเรือลำเล็กๆ ที่ยังเขยิบใกล้เข้ามาทางนี้อีกมากมาย ในที่สุดชาวเอธิโอเปียก็ยอมแพ้ พวกเขาโยนอาวุธออกไปอย่างรวดเร็วและตะโกนด้วยความสิ้นหวัง “พวกเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อสู้! สันติภาพ! สันติภาพ! สันติภาพ!”
…………………………………