ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1753 จับกุ้งกุลาดำ
เรือสปีดโบ๊ทของชาวเอธิโอเปียอีกลำหนึ่งคิดจะหลบหนี แต่น่าเสียดายที่มีเรือจำนวนมากมาที่เกาะแฟร์เวลในช่วงสองวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะจำนวนเรือสปีดโบ๊ทประเภทต่างๆ ที่มีมากกว่า มีแม้แต่เฮลิคอปเตอร์ที่จอดอยู่บนฝั่ง ดังนั้นเรือสปีดโบ๊ทจึงหลบหนีไปไหนไม่ได้
อย่างไรก็ตามคนผิวดำเหล่านี้ฉลาดมาก เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี พวกเขารีบโยนอาวุธบนเรือลงทะเลทันที จากนั้นยกมือขึ้นมองผู้คนรอบข้างอย่างไร้เดียงสา สวัสดีทุกคน เรามาท่องเที่ยวที่นี่ พวกคุณอย่าโหดร้ายแบบนี้เลยได้ไหม?
นักท่องเที่ยวและผู้เล่นที่เข้าร่วมในรอบนี้ต่างรู้สึกหดหู่ พวกเขาคิดว่านี่เป็นเกมโจมตีที่ทางเมืองจัดขึ้น ปรากฏว่าเมืองนี้ประสบปัญหาการรุกรานจากคนนอกจริงๆ
“ทำไมพวกคุณไม่รวบรวมความกล้าแล้วขึ้นฝั่งล่ะ?” ชายคนหนึ่งที่แต่งตัวเหมือนนักฆ่ากล่าวอย่างเสียดาย “คุณควรลองดู พระอัลเลาะห์จะคุ้มครองคุณ พวกคุณสู้เลย ถ้าไม่มีอาวุธ ทางผมนี่มีกริชอยู่ให้คุณยืมได้”
“ใช่ จริงด้วย เห็นแก่พระเจ้า อย่าทำให้พระอัลเลาะห์ต้องขายหน้าเลย รวบรวมความกล้าสิ แล้วให้บทเรียนกับคนบ้านนอกพวกนี้ซะ!”
ชาวเอธิโอเปียกลุ่มหนึ่งเหงื่อเย็นไหลท่วมไปทั้งร่างกาย พวกเขามองไปรอบๆ ด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่รู้ว่ามีกี่คนที่จ้องมองพวกเขาด้วยสายตามุ่งร้าย ในสายตาของพวกเขาผู้คนเหล่านี้ก็คือคนบ้า
คาดกันว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบกับใครบางคนที่ร้องขอให้โจมตีอย่างรุนแรง แต่พวกเขาก็รู้ชัดอยู่ว่า หากพวกเขากล้าต่อกรอย่างรุนแรงกับทางเมือง ถ้าเช่นนั้นแม้แต่ศพของพวกเขาวันนี้ก็คงไม่เหลือไว้!
เรือสปีดโบ๊ทสองลำถูกลากกลับไปในเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจยกปืนขึ้นและจับกุมชาวเอธิโอเปียมีคนตะโกนด้วยสีหน้าเหมือนโดนใส่ร้าย “จับพวกเราทำไม? พวกเราไม่ได้ทำผิดอะไร พวกเราก็แค่อยากมาท่องเที่ยวเท่านั้น”
โรเบิร์ตพูดขึ้นด้วยความรำคาญ “แม่ง อย่ามาเจ้าเล่ห์ซะให้ยากเลย พวกนายคิดว่าทิ้งอาวุธแล้วเรื่องจะจบเหรอ? บอกตรงๆ เลย ที่นี่มีกล้องและวิดีโออัดไม่รู้ตั้งกี่เครื่อง ภาพที่พวกนายถืออาวุธไว้ถูกถ่ายไว้หมดแล้ว!”
ชายหนุ่มชาวเอธิโอเปียชี้ไปที่ผู้คนที่แต่งตัวเป็นโจรสลัดที่อยู่รอบๆ ตัวเขาและตะโกนว่า “พวกคุณดูพวกเขาสิ พวกเขาก็ถืออาวุธด้วยและอาวุธของพวกเขาก็อันตรายกว่า! นี่คือการเลือกปฏิบัติ คุณไม่สามารถจับกุมพวกเราได้ นี่คือการเลือกปฏิบัติ ผมต้องการฟ้องคุณในข้อหาเหยียดสีผิว!”
ตำรวจจับกุมชาวเอธิโอเปียเกือบสี่สิบคนเข้าไว้ด้วยกันอย่างรำคาญใจ แต่สิ่งที่ต้องทำต่อไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะพวกเขาไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าคนเหล่านี้เข้ามาเพื่อทำการก่อการร้ายเลย
ฉินสือโอวขึ้นฝั่ง โรเบิร์ตเดินเข้ามาหาแล้วพูดว่า “ตอนนี้จับกุมได้ในนามของการช่วยเหลือในการสอบสวนเท่านั้น หากไม่มีหลักฐานก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ และยิ่งขังพวกเขาไว้ไม่ได้”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าเรื่องราวจัดการได้ยากหน่อย เขาถามว่า “ถ้ามีอาวุธเป็นหลักฐานได้ไหม? ผมให้พวกเพื่อนๆ ลงไปงมอาวุธที่พวกเขาทิ้งลงไปในทะเลขึ้นมาได้ ตรงนั้นน้ำไม่ลึก และน้ำก็คงไม่ได้ทำให้รอยนิ้วมือจางหายไป ถ้างมขึ้นมาแล้วตรวจสอบรอยนิ้วมือก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าอาวุธเป็นของพวกเขา”
โรเบิร์ตชี้ไปยังผู้คนที่มาร่วมงานรอบๆ แล้วพูดว่า “นี่ไม่มีประโยชน์หรอก ลองดูคนพวกนี้สิ อาวุธของพวกเขาน่ากลัวยิ่งกว่า ตราบใดที่พวกคนผิวดำยืนยันหนักแน่นว่ามาเข้าร่วมกิจกรรม ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็หมดหนทาง”
วินนี่อุ้มเถียนกวาแล้วเดินมาทางนี้ เธอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พวกเขาพูดอะไรแล้วจะเป็นแบบนั้นก็คงไม่ใช่ล่ะมั้งคะ? คนทุกคนที่มาร่วมงานกิจกรรมได้ลงทะเบียนออนไลน์เรียบร้อยแล้ว ทั้งฐานะ อาชีพ อุปกรณ์การแต่งกายและอาวุธของพวกเขาพวกเรามีบันทึกไว้หมดแล้ว และคนที่มาร่วมในวันที่จัดงานเลย พวกเราทุกคนก็ปฏิเสธที่จะให้ถืออาวุธเข้ามาที่เกาะหมด”
โรเบิร์ตพูดอย่างลำบากใจ “ผมเข้าใจครับ ผมเข้าใจนายกเทศมนตรี แต่นี่เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยภาคเอกชน พวกเขาอย่างมากก็ถือว่าละเมิดกฎ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือพวกเขาไม่นับว่าละเมิดกฎด้วยซ้ำ คุณดูสิ เห็นไหมพวกเขาไม่ได้นำอาวุธเข้ามาในเมืองของเรา ดังนั้นกฎของเราจึงไร้ประโยชน์สำหรับพวกเขา”
ตำรวจนายหนึ่งได้ยินที่พวกเขาถกเถียงกัน ก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ใช้แล้วล่ะ เพื่อนผอง กฎเกณฑ์ของพวกคุณไม่มีผลตามกฎหมาย สิ่งเดียวที่สามารถฟ้องร้องได้ในตอนนี้คือพวกเขาจงใจตอบโต้ มีกฎหมายที่จะสามารถอ้างอิงได้ ส่วนอื่นๆ พวกเราอยากช่วยแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ใครให้คุณจัดกิจกรรมแบบนี้ล่ะ? ถ้าไม่มีกิจกรรมนี้ ก็จะสามารถจับกุมพวกเขาได้แน่ๆ!”
ฉินสือโอวได้ยินว่าน้ำเสียงของตำรวจผู้นี้ออกเชิงมีสุขเมื่อเห็นคนอื่นเป็นทุกข์ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะตั้งแต่เมื่อวานนี้ตำรวจต่างเครียดเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องมาตลอด กิจกรรมนี้ทำให้พวกเขาเหนื่อยมาก จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีความคิดเห็นใดๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็พูดอย่างไม่พึงพอใจว่า “แต่ว่า คุณเคยคิดไหมว่า หากไม่มีกิจกรรมนี้ เราก็คงจะไม่พบพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะลงมือ จับกุมพวกเขาไม่ได้ก็ยังดีกว่าชาวบ้านถูกพวกเขาทำร้ายไม่ใช่เหรอครับ?”
ตำรวจยักไหล่แล้วพูดว่าที่คุณพูดก็มีส่วนถูก หลังจากนั้นก็จากไป อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านพ้นวันนี้แล้ว การรักษาความปลอดภัยของเมืองก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขาแล้ว
พวกเราปรึกษาเรื่องนี้กันคร่าวๆ วินนี่ฟ้องชาวเอธิโอเปียเหล่านี้ในข้อหาการตอบโต้โดยเจตนา มิฉะนั้นตำรวจประจำเมืองจะไม่สามารถจับกุมพวกเขาได้
ในตอนท้ายของกิจกรรมสองวัน ฉินสือโอวนำตรีศูล ชุดเกราะและรถม้าของเขาเก็บไว้บนหิ้ง พวกชาวประมงก็ถอดชุดเกราะและอาวุธของพวกเขาออกและเริ่มการผลิตรอบใหม่
ปลายเดือนสิงหาคม แสงอาทิตย์ส่องสว่าง ที่ฟาร์มปลาเริ่มจับกุ้งกุลาดำแล้ว บัตเลอร์วิ่งมาดูงานที่ฟาร์มปลาด้วยตนเอง เขายังพากลุ่มตากล้องมาถ่ายภาพในขณะที่จับกุ้งด้วย หลังจากนั้นจะนำไปเผยแพร่ในร้านอาหารทะเล
ตอนนี้ร้านอาหารทะเลต้าฉินกำลังจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทุกวันจะมีวิดีโอของชาวประมงจับปลาและแปรรูปอาหารทะเลเผยแพร่อยู่เสมอ บัตเลอร์หยิบยกคำพูดที่ติดปากว่าให้ผู้บริโภครู้จักอาหารทะเลทุกขั้นตอนตั้งแต่งมจากทะเลจนกินเข้าในปาก
การจับกุ้งกุลาดำไม่ใช่เรื่องง่าย ฟาร์มทั่วไปจะนำมันไปไว้ในบ่อเพาะพันธุ์หรือวางไว้ในตาข่ายที่ล้อมไว้ในพื้นที่ทะเลเพื่อผสมพันธุ์ซึ่งโดยธรรมชาติจะเก็บเกี่ยวได้ง่าย
ฟาร์มปลาต้าฉินจะปล่อยกุ้งโตตามธรรมชาติทั้งหมด ดังนั้นกุ้งที่ออกมาจึงเป็นกุ้งกุลาดำที่เกิดในธรรมชาติอย่างแท้จริง และต้องทำอย่างนี้ถึงจะรู้สึกได้ถึงความเหมาะสมของราคาอาหารทะเลต้าฉินที่สูงลิบลิ่ว
ตามปกติแล้วฉินสือโอวจะเป็นคนสำรวจพื้นที่ทางทะเลเอง ชาวประมงมีความมั่นใจในห้าธาตุพิชิตมังกรของเขามาก ตอนนี้เมื่อเขาบอกว่าจะต้องไปตกปลาที่ไหน ชาวประมงก็จะไปตกที่นั่น
เนื่องจากกุ้งกุลาดำชอบอาศัยอยู่ที่ก้นทะเล จึงเป็นเรื่องยากที่จะจับพวกมันขึ้นมา ดังนั้นต้องดึงดูดพวกมันก่อน จากนั้นเรือประมงจะจับพวกมันทั้งหมดด้วยอวนลากขึ้นมา
ขั้นตอนในการจับกุ้งกุลาดำนั้นยุ่งยากและต้องใช้อวนหลายชนิด เช่น อวนช้อน อวนตาข่ายอวนลาก อวนก้นถุง เป็นต้น อวนบางชนิดใช้ในการจับกุ้งกุลาดำโดยเฉพาะ เมื่อก่อนฉินสือโอวไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ
ลำแรกเป็นเรือประมงขนาดเล็ก มีติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอยู่ด้านบนและมีอวนลากแผ่นตะเฆ่ติดท้ายเรือ ที่อวนติดตั้งขั้วไฟฟ้าไว้จำนวนมาก หลังจากที่เรือสตาร์ทแล้วขั้วไฟฟ้าจะได้รับพลังงาน จากนั้นอวนลากแผ่นตะเฆ่จะเคลื่อนที่ไปที่ก้นทะเลและใช้ไฟฟ้ากระตุ้นเพื่อบังคับให้กุ้งกุลาดำออกจากก้นทะเลและลอยขึ้นมา
จากนั้นมีอวนช้อนที่ด้านหลัง ชื่อของอวนนี้เกี่ยวข้องกับเครื่องแต่งกายของอุปรากรจีนซึ่งเหมือนแขนเสื้อขนาดใหญ่ของเสื้อผ้าโบราณ แขนเสื้อมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แล้วเก็บตะเข็บที่ด้านหลัง ด้วยวิธีนี้อาศัยแรงภายนอกในการผลักดัน กุ้งที่ลอยอยู่จะถูกรวบรวมในน่านน้ำที่มันไหลผ่าน
…………………………