ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1758 การตอบโต้ของนากทะเล
พวกนากทะเลยืนอยู่บนมุมสูงของหาดทราย เขย่งเท้าบวกกับยืดคอมองลงมาทางข้างล่าง เจ้าพวกตัวขนอ้วนกลมมารวมตัวกันเคียงบ่าเคียงไหล่จ้องไปที่ทะเลอย่างจริงจังด้วยความจดจ่อ สายตาพูดได้เลยว่าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
ทัพแมวน้ำลายพิณคลานขึ้นมาตามชายหาด จำนวนพวกมันมีมาก เดิมทีก็มีถึงหลายร้อย บวกกับที่ผลิตทายาทเพิ่มในหนึ่งปีหลังมาที่ฟาร์มปลา ทั้งตัวใหญ่เล็กนับรวมๆ แล้วคงจะถึงพัน
แม่ทัพแมวน้ำที่อ้วนอย่างกับหมูขึ้นหาดมาก่อน มันมองไปรอบๆ ตัวพลางดูท่าทางลูกน้องแมวน้ำอ้วนทั้งตัวเล็กใหญ่ลากไขมันขึ้นเกยบนหาดทราย คงจะภูมิใจน่าดู มีความทะเยอทะยานสูงส่งเฉกเช่นเดียวกับจักรพรรดิฟู่เจี้ยนยุคก่อนฉิน ด้วยกำลังของข้า แค่อึลงทะเลก็ขวางทางน้ำได้แล้ว!
แมวน้ำพวกนี้แต่ล่ะตัวอ้วนๆ ทั้งนั้น ตัวใหญ่เอวหนา พอพวกมันออกมาพร้อมกันก็ดูน่ากลัวจริงๆ พวกนากทะเลถอยหลังโดยไม่รู้ตัว แถมยิ่งแมวน้ำรุกมากขึ้นก็ยิ่งถอยไปอีก
พวกนากทะเลตัวใหญ่ยืนอยู่แถวหน้า ส่วนนากทะเลตัวเล็กที่โดนกันไว้ข้างหลังก็ชะโงกหัวไปมาอยากจะมุดมาข้างหน้าไปดูสถานการณ์สักหน่อย
พอเห็นแบบนั้นนากทะเลตัวใหญ่เลยเอาก้นนั่งทับพวกนั้นไว้แล้วส่งสายตาพิฆาตสยบความอยากรู้อยากเห็นของพวกเด็กๆ ไม่รนหาที่ตายก็ไม่ตาย รีบถอยไป อีกเดี๋ยวต้องเตรียมหนี
ฝูงแมวน้ำดูเหมือนต้องการจะฆ่าล้างฝูงนากทะเล อย่างน้อยก็ไม่อยากให้พวกมันรุกล้ำเขตทะเลของตัวเองไปมากกว่านี้ ส่วนเรื่องเขตทะเลของตัวเองใหญ่เท่าไหน? ราชาแมวน้ำกล่าวไว้ว่า “ทั่วทั้งปฐพีล้วนเป็นของข้า มวลประชาต้องสยบที่แทบเท้าข้า!”
แน่นอนว่านี่ก็เป็นเพียงความคิดของราชาแมวน้ำ ยังไม่ต้องพูดถึงห้าราชาแห่งฟาร์มปลา ทัพฉลามขาวยักษ์ที่คราเคน เฮยป้าหวังนำ สามราชาแห่งแนวปะการัง กองกำลังทหารงูทะเล กองทัพกั้งตั๊กแตน ห้าราชานี้กุมอำนาจปกครองฟาร์มปลาอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีฝูงเต่ามะเฟืองยักษ์ใหญ่แต่อ่อนโยนใจดี พวกมันไม่อยากลดตัวไปถือสากับฝูงแมวน้ำ
พวกแมวน้ำขึ้นเกยบนหาดทรายแล้วเผยครีบหน้าออกมาตามด้วยหัวกับก้นโตๆ และครีบหลังอันสั้น ตอนคลานไปบนหาดแลดูช้าเงอะงะ ไม่มีท่าทางเกรงขามอย่างตอนว่ายโฉบอยู่ในทะเลเลยสักนิด
เหล่านากทะเลเบิกตาดวงเล็กสำรวจอยู่ครู่หนึ่ง ในสมองก็ผุดไอเดียวขึ้นได้ พวกมันเลยไม่คิดหนีแล้ว แต่ค่อยๆ เดินหน้าอย่างระมัดระวัง เดินไม่กี่ก้าวก็หยุดอีกเพื่อดูสถานการณ์
เห็นนากทะเลคู่กรณีไม่หนีไปทั้งๆ ที่ฝ่ายตัวเองน่าเกรงขามขนาดนี้แถมยังกล้าเดินหน้าเข้ามาอีก ราชาแมวน้ำโกรธสุดขีดจนยิ้มออกมา ดี จะเข้ามาตายกันใช่ไหม? อุ๋งๆๆ! เด็กๆ จัดการ!
ฝูงนากทะเลที่เพิ่งหยุดลงได้ยินเสียงคำรามของพวกแมวน้ำก็ตกใจขี้หดตดหาย รีบหมุนตัววิ่งหนี วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดลงอีกแล้วจ้องพวกแมวน้ำด้วยดวงตากลมสีดำ พอเห็นว่าพวกนั้นไม่ได้ตามมาก็ลังเลเล็กน้อยก่อนจะเดินหน้าเข้าไปใกล้อีก
ลองเชิงแบบนี้ไปเรื่อยๆ ฝูงนากทะเลก็เข้าไปใกล้จุดที่ห่างฝูงแมวน้ำไม่ถึงสองเมตรพลางยื่นหัวมองดูพวกแมวน้ำแบบระแวดระวัง ส่วนฝูงแมวน้ำภายใต้การนำของราชาแมวน้ำก็ส่งเสียงคำรามน่าเกรงขามออกมาก่อนจะมองนากทะเลด้วยสายตาเย็นชาเหี้ยมโหด
คราวนี้เหล่านากทะเลไม่กลัว พวกมันลองเชิงมาตั้งนานจนพบว่าไอ้พวกนักเลงพวกนี้ไม่มีน้ำยาเมื่ออยู่บนบก ทำได้แค่คำรามให้พวกมันตกใจก็เท่านั้น หรือก็พูดได้ว่า เจ้าพวกนี้ที่ดูดุร้ายน่ากลัวก็มีแค่เปลือกเท่านั้นเอง
ตอนแรกฉินสือโอวเห็นพวกนากทะเลเข้าไปลองเชิงเขาก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น อีกอย่างเขาก็รู้ด้วยว่า พวกแมวน้ำซวยแล้ว!
และอย่างที่คิด หลังจากพวกนากทะเลรู้แล้วว่าแมวน้ำบนบกสู้ไม่ได้แม้แต่หมาก็ทำการตอบโต้ทันที สัตว์ป่าตามธรรมชาติไม่มีที่อ่อนแอตั้งแต่เกิด ต่อให้เป็นหนูก็ยังอยากหาโอกาสกัดเสือ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนากทะเลที่สามารถโจมตีจากทางไกล
เจ้าพวกขนแข็งเริ่มถูอุ้งมือ เหล่านากทะเลเงื้อขาหน้าขึ้นแล้วโยนหินลงไปยังหาดทรายด้านล่าง “ตึง”
‘ตึงๆ’ ก้อนหินเป็นพรวนต่างร่วงลงมา
เห็นภาพแบบนั้นเถียนกวาก็แปลกใจ มือหนึ่งดึงฉินสือโอวอีกมือก็ชี้ไปที่หินพวกนั้น เธอร้องว่า “ฮ่าๆๆ อึแล้ว!”
ฉินสือโอวลูบผมสั้นสลวยของลูกสาวแล้วพูดอย่างเนือยๆ “ไม่ใช่อึ จะตีกันแล้ว! ลูกลืมแล้วเหรอ? ตอนที่พวกมันเพิ่งมาก็โยนใส่หนูแบบนี้แหละ”
เถียนกวากะพริบตาโตคู่ใสราวกับนึกได้ถึงความกลัวตอนที่โดนนากทะเลใช้หินโยนใส่เลยรีบไปหลบหลังขาของฉินสือโอวแล้วกอดเข่าของเขาไว้ในขณะที่โผล่หัวออกมาแบบดูกล้าๆ กลัวๆ
ฉินสือโอวแปลกใจไม่น้อย โอ้โหลูกสาวสุดแสบของเขาก็กลัวเป็นด้วยเหรอ? เธอกล้าถึงขั้นตัวต่อตัวกับหมีขั้วโลกเลยนะ จนถึงตอนนี้ ฉงเอ้อก็โตจนใหญ่ครึ่งหนึ่งของหมีขั้วโลกแล้ว เถียนกวายังพาพวกแมวน้ำไปตีกับมันอยู่เป็นพักๆ เลย
ฝั่งฝูงนากทะเลเก็บก้อนหินที่ตกอยู่บนพื้นเอาขึ้นมาถือในอุ้งมือ ใช้เท้าหลังพยุงร่างกายเหมือนจิงโจ้แล้วกระโดดเหย็งๆ ไปที่ระยะหนึ่งเมตรจากแมวน้ำ สะบัดอุ้งมือแล้วเหวี่ยงก้อนหินออกไป!
ก้อนหินพวกนี้เป็นอุปกรณ์กินอาหารของพวกนากทะเล พวกมันชินกับการลอยบนผิวน้ำแล้วเอาหินวางไว้ที่อก เอากุ้ง ปู หอยเม่น ดาวทะเลทุบกับหินให้ละเอียดแล้วค่อยกิน
ดังนั้น ก้อนหินที่พวกมันเลือกพวกนี้ล้วนแข็งเป็นพิเศษแถมยังผ่านการใช้งานมาจนมีขอบคมขึ้นชัดเจน ตอนนั้นมีแค่นากทะเลตัวเดียวโยนหินก้อนเดียวมาเสี่ยวเถียนกวาก็ร้องไห้แล้ว แล้วตอนนี้ที่นากทั้งฝูงโยนล่ะ?
อีกอย่างที่พวกนากทะเลโยนหินใส่เถียนกวาก็ต่างกับตอนนี้ พวกมันโยนใส่เถียนกวาแค่เพราะตกใจเลยป้องกันตัวเองตามสัญชาตญาณ ตอนโยนก็ไม่ได้ตั้งใจโยน แรงไม่เยอะ แต่คราวนี้พวกมันต้องการแก้แค้น ต้องการแย่งอาณาเขต นั่นมันเป็นการโยนสุดแรง ทุ่มสุดตัว!
หินแต่ล่ะก้อนถูกโยนออกไปต่อเนื่อง เหล่าแมวน้ำแม้จะหนังหนาเนื้อด้านแถมด้วยชั้นไขมัน แต่โดนหินโยนใส่หัวก็ยังหัวแตกเลือดออกเจ็บไม่มีอะไรเทียบ
ดังนั้นพวกแมวน้ำเลยส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความโกรธปนเจ็บ ร้องไปก็พยายามเคลื่อนตัวไปข้างหน้าด้วย อ้าปากเผยฟันซี่ใหญ่น่ากลัวสองซี่หวังจะทำให้นากทะเลตกใจ
เหล่านากทะเลชินกับภาพแบบนั้นแล้ว พวกมันไม่กลัวการขู่จากแมวน้ำหรอก คราวนี้ที่งัดมาใช้ก็มุกเก่าเล่าใหม่ ก็แค่เปลี่ยนตัวเล่น พวกแมวน้ำกลายเป็นลาโง่ ส่วนนากทะเลกลายเป็นเสือ
ก้อนหินรอบแรกโยนเสร็จแล้ว นากทะเลก็ไม่มีอาวุธ เหล่าแมวน้ำก็วางใจไปเปลาะหนึ่ง แต่ว่าทรัพยากรที่หาดทรายอุดมสมบูรณ์ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีหิน แต่ด้านล่างมีสัตว์ทะเลเปลือกแข็งอย่างปูก้ามดาบ ปูเสฉวนบกมากมาย
พวกนากทะเลโดนไล่ขึ้นบกมาวันสองวันแล้ว ช่วงนี้พวกมันก็อาศัยขุดปูจากในทรายมาเป็นอาหาร ส่วนเรื่องจะขุดปูจากหาดที่ดูราบเรียบเงียบสงบอย่างไรก็มีประสบการณ์มากอยู่ พวกมันแค่ใช้อุ้งมือขุดทรายอย่างรวดเร็ว สิบกว่าวินาทีก็ขุดปูที่แยกเขี้ยวเงี้ยก้ามออกมาได้แล้ว จากนั้นก็หยิบปูขึ้นมาโยนใส่แมวน้ำ
เพราะได้พลังโพไซดอนพัฒนา ปูพวกนี้เลยไม่ได้อ่อนแอเหมือนปูทั่วไป พอพวกมันถูกขุดออกมาก็ตกใจเลยเงี้ยก้ามขึ้นเพื่อปกป้องตัวเอง
แบบนี้ปูเลยสร้างความเสียหายได้มากกว่าหินอีก!
……………………