ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1759 ความกล้าหาญของเถียนกวา
ถึงแม้ปูจะไม่ได้แข็งเท่าก้อนหิน แต่ปูก้ามดาบพวกนี้มีก้ามอันแข็งแกร่ง พอพวกมันโดนขุดออกมาแล้วตกใจเลยเริ่มทำการโจมตี รอจนโดนโยนลงบนหัวของแมวน้ำกับคอ แน่นอนว่าก็ต้องพยายามใช้ก้ามโจมตีพวกแมวน้ำ
แบบนี้ทั้งโดนหินโยนใส่ ทั้งโดนปูหนีบ พวกแมวน้ำก็ซวยกันถ้วนหน้า แต่ล่ะตัวโก่งคอร้องโหยหวนระงม ราชาแมวน้ำที่อยู่หน้าสุดสภาพแย่ที่สุด ข้างๆ มันก็มีก้อนหินยี่สิบกว่าก้อนร่วงลงมา บนจมูกบนหน้ายังมีปูก้ามดาบยี่สิบกว่าตัวหนีบอยู่ บนหัวมีเลือดไหลพราก ทำไงได้ ใครใช้ให้มันตัวใหญ่แถมยังอยู่ข้างหน้า? พวกนากทะเลไม่เล่นมันจะไปเล่นใคร?
ตอนนี้ราชาแมวน้ำกลายเป็นฟู่เจี้ยนไปแล้ว เมื่อกี้ยังกองพลก่ายกองอยู่เลย ตอนนี้โดนกองทัพนากเป่ยฝู่ที่นำโดยราชานากเซี่ยเสวียนโจมตีด้วยวิธีแปลกประหลาด ครู่เดียวก็โดนโจมตีจนน่วม อีกอย่างพอโดนปูก้ามดาบตกใส่ไม่หยุดแบบนี้ราชาแมวน้ำก็เริ่มกลัว ให้ตายเถอะ สรุปว่ามีนากกี่ตัวกันแน่? ทำไมมีปูลอยมาเยอะขนาดนี้เนี่ย?
สถานการณ์ไม่สู้ดี ราชาแมวน้ำพยายามเปลี่ยนทิศทาง ดั้นด้นรุดหนีไปทางทะเล พอพวกแมวน้ำเห็นลูกพี่หนีก็ตกใจจนรีบหนีตาม ถ้าไม่หนีจะอยู่ทำไมล่ะ? จะอยู่บนหาดรอปีใหม่หรือไง? ถ้ารอจนปีใหม่จริง หินที่พวกนากทะเลโยนมาคงสามารถเอามาทำสุสานพวกมันได้เลย แถมสาหร่ายบนสุสานก็ยาวได้สองเมตร!
พวกนากทะเลไม่รู้จักหลักการไม่ไล่ต้อนศัตรูที่ไม่มีทางสู้ พวกมันแค่รู้ว่าต้องฉวยโอกาสดีนี้ไว้ พอเห็นไอ้พวกอันธพาลที่รังแกพวกมันตอนอยู่ในทะเลจนน่วมแถมไล่พวกมันจากบ้านในเขตทะเลอุ่นมาบนบกอันแสนน่ากลัวเสียเปรียบจึงรีบฉวยโอกาสที่จะเอาชนะ รีบวิ่งก้าวเล็กๆ ตามกันไปข้างหน้า หาอะไรได้ก็โยน
พวกแมวน้ำก็เป็นประเภทรังแกพวกที่อ่อนแอกว่าแต่กลัวพวกที่แกร่งกว่า แล้วพวกมันยังไม่มีสมองด้วย โดนโยนไปสองสามที แมวน้ำบางส่วนที่หนีไปทางทะเลก็เปลี่ยนทิศทางอีก พวกมันนึกว่าตัวเองหนีผิดทาง หมุนตัวได้ก็วิ่งกลับขึ้นหาดอีกครั้ง
แบบนี้ แมวน้ำฝูงใหญ่ยังพอว่า พวกมันหาทางที่ถูกเจอสุดท้ายก็ค่อยๆ กลับลงไปในทะเล ส่วนอีกสองสามตัวที่ยังบื้ออยู่บนหาดก็กลายเป็นเป้าให้นากทะเลล้อมโจมตีไปโดยปริยาย พวกมันลนลานจนหาทางหนีไม่เจอ ได้แต่วนไปมาบนหาด แต่กลับสลัดฝูงนากไม่หลุดเสียทีไม่ว่าจะทำอย่างไร
เถียนกวาดูอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ดึงขากางเกงของฉินสือโอวแล้วกระตุกซ้ำๆ อย่างร้อนใจ ฉินสือโอวไม่ได้ตั้งตัวเกือบจะโดนดึงกางเกงลงเลยรีบดึงไว้แล้วถามแบบเขินๆ “ลูกทำอะไรน่ะ? ทำตัวดีๆ หน่อยได้ไหมลูก?”
สาวน้อยชี้ไปที่การต่อสู้ระหว่างนากทะเลกับแมวน้ำบนชายหาดแล้วพูดอย่างร้อนใจ “นั่นพ่างพ่าง ไปช่วยๆ…”
ฉินสือโอวมองตามนิ้วของลูกสาวถึงพบว่าแมวน้ำที่โดนล้อมไว้มีตัวหนึ่งที่อ้วนเป็นพิเศษ เห็นได้ชัดว่าเป็นหนึ่งในสองแมวน้ำเพื่อนเล่นของเถียนกวา
แม้ว่าพวกแมวน้ำจะโดนเล่นงานจนอ่วม แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่เป็นไร พวกนากไม่กล้าโจมตีระยะประชิด แค่โยนปูไปหนีบพวกแมวน้ำ พวกมันกลัวเสียมากกว่าแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แม้ว่าบนบกพวกมันจะไร้ซึ่งความสามารถในการจู่โจมแต่ก็ยังมีความสามารถในการป้องกันตัวสูง ขอแค่ไม่ได้เอาระเบิดมือให้พวกนาก ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงอะไร
เพราะฉะนั้นฉินสือโอวก็เลยขี้เกียจจะสนใจเรื่องนี้ ในสายตาเขาพวกแมวน้ำรนหาที่เอง ไปแกล้งนากทะเลในน้ำทำไมล่ะ? ถือว่าแน่ใช่ไหม? ในเมื่อสู้ได้ งั้นก็ตีกันต่อไปสิ อย่ามาทำน่าสงสารบนหาด
เพียงแต่เขาเห็นเถียนกวาร้อนใจขนาดนี้เลยรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสอันดีในการฝึกความกล้าหาญและคุณธรรมให้เด็ก ดังนั้นเลยนั่งยองลงแล้วมองหน้าลูกสาวก่อนจะพูดว่า “ลูกรัก เพื่อนของลูกกำลังถูกรังแก หนูควรจะทำอย่างไรคะ?”
เถียนกวายืนน่ารักอยู่ตรงหน้า นิ้วมือขวาอมอยู่ในปากแล้วพูดอย่างคาดหวัง “ไปช่วยพ่างพ่าง?”
ฉินสือโอวยิ้มบางพลางพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ ควรไปช่วย…”
“งั้นพ่อก็รีบไปสิ!” สาวน้อยรีบร้อนพูด พูดไปก็ลากแขนเขาไปทางชายหาดไปด้วย
ฉินสือโอวไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี เตือนเธอว่า “เด็กโง่ นั่นเพื่อนหนู งั้นจะช่วยหนูก็ต้องไปช่วยเองสิ”
เถียนกวาได้ยินแบบนั้น บนใบหน้าจ้ำม่ำแสดงความลำบากใจออกมา “ไม่ได้ เจ็บ น่ากลัว!”
ฉินสือโอวลากหู่จือกับเป้าจือมาแล้วพูดขึ้น “หนูพาหู่จือกับเป้าจือ พวกมันจะปกป้องหนู พวกมันเป็นหมาที่กล้าหาญที่สุด!”
เถียนกวาเบิกตาโตเป็นประกายและมองไปทางหู่จือเป้าจือ แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย ประเด็นคือเมื่อก่อนเธอแกล้งหู่จือกับเป้าจือไว้เยอะ สาวน้อยเดินคล่องได้ไวขนาดนี้ ต้องขอบคุณความเสียสละของพวกแลบราดอร์ที่พาเธอวิ่งไล่
แลบราดอร์ไม่รู้ว่าสองคนคุยอะไรกัน พวกมันสองตัวเห็นเถียนกวาจ้องตัวเองอยู่ก็ส่ายหางอย่างมีความสุข แลบลิ้นห้อย หยีตามองไปที่เจ้านายตัวน้อยอย่างตื่นเต้น
เถียนกวายกมือขึ้นมาลูบขนนุ่มบนหัวของแลบราดอร์ทั้งสอง จากนั้นก็มองฉินสือโอวด้วยสายตากังวล “พวกมันกินหมาไหม?”
ฉินสือโอวพูดอย่างแน่วแน่ “หมาสุดยอดที่สุด พวกมันกลัวหมา!”
เถียนกวาลังเลขึ้นมา เธอยืนอยู่ระหว่างหู่จือกับเป้าจือมองไปข้างหน้าอย่างลังเล นากทะเลยังล้อมแมวน้ำสองสามตัวไว้ แมวน้ำสองสามตัวนี้ถือว่าซวยแล้ว ฉินสือโอวคิดว่าช่วงหลังคงจะไม่ขึ้นบกมาอีก
อีกอย่างเรื่องของวันนี้ก็ทำให้เขาแปลกใจมาก นึกไม่ถึงว่าแมวน้ำที่แสนกล้าหาญในทะเลพอขึ้นบกมาจะเงอะงะ นากฝูงเดียวก็ทำเอาพวกมันหนีลนลานแล้ว มิน่าหมีขั้วโลกถึงชอบซุ่มล่าแมวน้ำ
แมวน้ำสองสามตัวไม่แค่เจ็บตัวเท่านั้น ที่ยิ่งกว่านั้นคือความลนลานและความกลัว มีแต่นากอยู่เต็มไปหมด พวกมันตกใจกลัวจนลุกลี้ลุกลน วนไปวนมาก็หาทางกลับลงทะเลไม่ได้เสียที สุดท้ายก็หันหลังกลับ สภาพช่างน่าสังเวช
แบบนี้พวกแมวน้ำก็สิ้นหวังขึ้นมา แหงนคอคำรามขึ้นฟ้าสุดเสียงราวกับร้องเพลง เสียงร้องยังเป็นทำนองด้วย ท่านชายฉินถึงกับนับถือไม่น้อย
เห็นภาพแบบนี้เถียนกวาก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอก้าวขาสั้นวิ่งไปราวกับลม ใบหน้าสีชมพูระเรื่อไม่แสดงสีหน้ากลัวเกรงแต่อย่างใดราวนักบินกามิกาเซ่ที่กำลังเตรียมจะพุ่งชนเรือบรรทุกเครื่องบินแถมยังตะโกนเหมือนนักบินกามิกาเซ่อีก “หู่จือ เป้าจือ! หู่จือ เป้าจือ!”
ได้ยินเสียงเรียกของเจ้านายตัวน้อย เหล่าแลบราดอร์ก็พุ่งออกมาราวลูกศร ดวงตาโตเป็นประกาย พวกมันอยากจะเล่นกับนากพวกนี้มานานแล้ว พอได้คำสั่งจากเจ้านายตัวน้อยก็พากันพุ่งไปทางฝูงนากทะเลราวกับรับบัญชาราชโองการ
เบื้องหน้าของเหล่าแลบราดอร์บ้าพลัง พวกนากทะเลก็ดูเงอะงะสุดๆ พวกมันเห็นแลบราดอร์กำลังวิ่งมุ่งมาทางนี้ แล้วยังไวขนาดนั้น หุ่นก็แสนกำยำ พวกมันตกใจจนร้องระงม ไม่สนใจจะจัดการแมวน้ำพวกนั้นอีก ทั้งคลานทั้งกลิ้งตกใจหนีกันจ้าละหวั่น!
……………………