ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1767 เพิ่มมูลค่าเป็นสองเท่า
กลยุทธ์ที่บริษัทจัดประมูลริชชี่นำมาใช้ในการประมูลในครั้งนี้ได้ผลดีเป็นอย่างมาก โดยเริ่มจากการประมูลเพื่อการกุศลก่อน จากนั้นจึงค่อยเข้าสู่การประมูลอย่างเป็นทางการ กลยุทธ์แบบนี้ก็เหมือนกับการตกปลา โยนเหยื่อที่เป็นหญ้าลงไปก่อน ค่อยตามด้วยเหยื่อเนื้อ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะไม่มีปลามากินเบ็ด
แม้ว่าการประมูลนี้จะดำเนินมาได้ไม่นาน แต่การทำแบบนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการควบคุมตั้งแต่ต้น เมื่อตรวจดูอารมณ์ของเหล่าเศรษฐีทั้งหลายปรากฏว่าพวกเขาไม่ได้มีท่าทีหงุดหงิดใจเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเมื่อการประมูลเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ บรรยากาศก็ดูคึกคักขึ้นมาทันที
ในตอนนั้นฉินสือโอวก็มีท่าทีผ่อนคลายลง ในการประมูลมีบริกรคอยบริการเครื่องดื่ม ฉินสือโอลและวินนี่ดื่มกาแฟพลางวิพากษ์วิจารณ์ถึงโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมและงานศิลปะเหล่านี้เบาๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่เป็นเพราะว่าการประมูลในครั้งนี้มีของที่นำมาประมูลเป็นจำนวนมากเกินไป จึงต้องเป็นการประมูลออกเป็นสองรอบเช้าและบ่าย ทุกรอบจะมีการพักรอบละสองครั้ง เวลาในการจัดงานประมูลครั้งนี้จึงเกิดขึ้นทั้งวัน
ของชิ้นสุดท้ายคือกระดูกของบารอนแชมเบอร์เลนรวมถึงชุดเกราะและอาวุธของเขา ราคาเริ่มต้นเป็นราคาที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก นั่นคือ 50 ล้านดอลลาร์ ทุกการประมูลมูลค่าของมันเพิ่มขึ้นทีละหนึ่งล้านดอลลาร์
อย่างที่เบลคได้คาดการ์ไว้ เหล่าเศรษฐีทั้งหลายกำลังทำการแข่งกันประมูลของชิ้นนี้ 50 ล้าน 55 ล้าน 60 ล้าน 70 ล้าน 80 ล้าน เมื่อราคาของมันสูงไปถึง 90 ล้านดอลลาร์ ความกระตือรือร้นในการประมูลจึงเริ่มลดลง
สาเหตุที่โครงกระดูกและอาวุธชุดเกราะชุดนี้มีค่ามาก ไม่เพียงแต่เพราะว่ามันเป็นของบารอนแชมเบอร์เลนเท่านั้น แต่เพราะอาวุธและชุดเกราะของเขามีเบื้องหลังที่ค่อนข้างโดดเด่น เช่นธนูยาวที่เขาใช้ บนธนูคันนั้นมีลายมือของพระสันตะปาปาแห่งวาติกันเขียนอยู่ และชุดเกราะลามินาร์ที่เขาใช้ ก็เป็นชุดเกราะตอนที่เขาได้เลื่อนยศเป็นบารอน ซึ่งในตอนนั้นจักรพรรดิอังกฤษได้มอบชุดเกราะนี้ให้เขาเป็นรางวัล
ฉินสือโอวไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ธนูยาวที่ได้รับการอวยพรจากพระสันตะปาปานั้นได้ถูกเขาถึงมาแล้ว ชุดเกราะลามินาร์ที่จักรวรรดิอังกฤษมอบให้บารอนเขาก็ได้เล่นมันมาได้แล้ว สงครามผู้กล้าที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาอยากที่จะทำชุดเกราะขึ้นเอง ซึ่งเขาได้ใช้เกราะชนิดนี้เป็นแม่แบบ ตอนนั้นเขาก็ทำไปเพราะไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่คิดเลยว่ามันจะมีมูลค่ามหาศาลขนาดนี้
ในที่สุดราคาของมันก็มาถึงจุดสุดท้าย ผู้ประมูลส่วนใหญ่เป็นขุนนางทหารผ่านศึกชาวอังกฤษ เศรษฐีชาวรัสเซียและกลุ่มทรราชท้องถิ่นรายใหญ่ในตะวันออกกลาง แต่ว่าการประมูลของพวกเขามีหลักการเป็นอย่างมาก พวกเขาจะเพิ่มราคาขึ้นจากมูลค่าที่ต่ำก่อนทุกครั้ง และเมื่อได้ยินราคา พวกเขาก็จะเข้ามาล้อมวงกันแล้วปรึกษากันเบาๆ
ฉินสือโอวรู้สึกไม่ค่อยสงบเท่าไรนัก เขารู้ว่ารายได้จากการประมูลของชิ้นนี้ครึ่งหนึ่งคือรายได้ของเขา เมื่อราคาขึ้นสูงแบบนี้รายได้ของเขาก็ยิ่งมากขึ้น
วินนี่อยู่กับเขามานาน เธอรู้ความคิดของเขาได้จากการดูท่าทางที่เขาแสดงออกมา เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย และยกกำปั้นชกไหล่เขาเบาๆ พลางพูดออกมาเบาเสียงเบาว่า “ไม่ต้องกังวล ดูสถานการณ์สิ ตอนนี้ราคาสูงสุดจะอยู่ที่สิบล้าน เมื่อแบ่งออกมาแล้วคุณจะได้เพียงสี่ล้านเท่านั้น แค่เงินสี่ล้าน คุณสนใจมันขนาดเลยเหรอ?”
ฉินสือโอวคิดตามวินนี่และรู้สึกเห็นด้วย ดังนั้นเขาจึงสบายใจขึ้นมาบ้าง แต่เขากลับจับมือเล็กๆ ของวินนี่ไปจนการประมูลจบลง
การคาดเดาของวินนี่ถูกต้อง เมื่อราคาของมันสูงถึง 95 ล้าน เศรษฐีชาวรัสเซียก็ถอนตัวออกจากการประมูลเป็นคนแรก หลังจากนั้นสี่นาที ขุนนางชาวอังกฤษขอเสนอราคาที่ 150 ล้านดอลลาร์ ทำให้เหล่าทรราชท้องถิ่นในตะวันออกกลางพลางกันส่ายหัวและถอนตัวออกจากประมูล
“150 ล้านครั้งที่หนึ่ง! 150 ล้านครั้งที่สอง! 150 ล้านครั้งที่สาม!” ชายผู้ที่สวมถุงมือสีขาวตะโกนทวนราคาขึ้นมาสามครั้ง เมื่อไม่มีใครทำการประมูลเพิ่ม ทันใดนั้นเขาก็ผายมือไปยังขุนนางชาวอังกฤษ “ขอแสดงความยินดีกับสุภาพบุรุษท่านนั้นด้วยครับ เขาชนะการประมูลในครั้งนี้ไปในราคา 150 ล้านดอลลาร์!”
เสียงปรบมือดังขึ้นกระหึ่ม ฉินสือโอวปรบมือเสียงดัง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงคนพูดขึ้นมาว่า ‘งี่เง่า บ้าบอ เสียเงินไปเปล่าๆ…’
การประมูลสิ้นสุดลง เมื่อโครงกระดูกและชุดเกราะรวมถึงอาวุธของนักแม่นธนูถูกประมูลไปในราคา 150 ล้าน การประมูลในครั้งนี้ถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ขอบริษัทประมูลริชชี่
เบลคที่สวมชุดสูทสีดำเรียบร้อยเดินขึ้นไปยังหน้าเวทีและโค้งคำนับขอบคุณ การประมูลได้สิ้นสุดลงแล้ว ที่ด้านข้างของเศรษฐีแต่ละท่านมีบริกรยืนคอยอยู่ด้านข้าง พวกเขาพาเหล่าเศรษฐีเข้าไปยังหลังเวทีเพื่อทำการลงนามสัญญาการซื้อขายและชำระเงิน ฉินสือโอวก็มีบริกรนำเขาไปเช่นกัน เขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินด้วยตัวเอง วินนี่หยิบบัตรเครดิตของเขาออกไปจัดการให้แล้ว
เบลคและคนของเขารวมถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจัดประมูลริชชี่ร่วมกับจับมือกับผู้เข้าร่วมประมูลอย่างใกล้ชิด เมื่อพวกเขาส่งแขกคนสุดท้ายเสร็จ เขาก็เข้ามาพูดคุยกับฉินสือโอว เมื่อเห็นฉินสือโอวเขาก็เข้ามากอดอย่างแรง จากนั้นก็กระซิบเข้าที่ข้างหูของฉินสือโอวด้วยความสุขอย่างเอ่อล้น “เพื่อนยาก เพื่อนยาก เพื่อนที่แสนดีของฉัน! รู้ไหมว่าครั้งนี้เราทำเงินได้เท่าไร? ฟัค ฉันแทบจะเป็นบ้าเลยล่ะ!”
ฉินสือโอวถามผสมโรงกลับไปว่า “เท่าไรเหรอ?”
เขารอคอยคำตอบนี้มานาน ตอนแรกเขาก็คำนวณรายได้อยู่เหมือนกัน แต่เมื่อการประมูลเป็นไปอย่างเข้มข้น การคำนวณของเขาก็ถูกตัดจบไป เขาไม่ได้คำนวณเงินจากของประมูลหลายรายการ เขาจึงรู้เพียงว่าการประมูลทั้งหมดนี้มีมูลค่าเกิน 3,000 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันเท่าไร
“มูลค่าทั้งหมดมากกว่า 5,500 ล้าน แต่สมบัติที่เรืออับปางของเรา มูลค่าการประมูลทั้งหมดสี่หาร 255 ล้านดอลลาร์! ดอลลาร์สหรัฐ!” เบลคพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะระงับเสียงของเขาไม่ให้ดัง เสียงของเขาแทบจะเหมือนตะโกนออกมา
บิลลี่และแบรนดอนเข้ามาบทสนทนาด้วยเช่นกัน แบรนดอนเป็นพวกชอบเงินอย่างไม่ต้องสงสัย เขามีความรู้สึกไวต่อตัวเป็นอย่างมาก หลังจากที่เข้ามาหาเบลคและฉินสือโอว เขาก็กระซิบด้วยเสียงอันสั่นเทาว่า “สี่พันสองร้อยล้ายดอลลาร์สหรัฐ เป็นตัวเลขนี้จริงเหรอ จริงๆ เหรอ?”
เบลคพยักหน้าหลายครั้ง ใบหน้าของบิลลี่และเบลคเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความปีติ พวกเขาหันหน้าเข้าหากันและไฮไฟว์กัน บิลลี่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นอย่างที่สุดว่า “ปาร์ตี้ให้สุดไปเลย! คืนนี้ต้องสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย! พระเจ้า ฉันจะเหมาคลับทั้งหมดในโทรอนโต งานนี้ต้องฉลอง! ฉลอง! ฉลอง!”
เบลคพูดผสมโรงเข้ามาว่า “แน่นอนๆ เพื่อนยาก แน่นอนว่าเราจะต้องฉลอง! ไม่เพียงแต่จะเหมาไนต์คลับเท่านั้นนะ ฉันจะทำสัญญากับเหล่าดาราและนางแบบทั่วทั้งโทรอนโตด้วย ฉันจะให้พวกเธอกินนกตัวใหญ่ของฉันในคืนนี้!”
แบรนดอนรีบชูนิ้วที่สวมแหวนขึ้นมาแล้วขึ้นมาด้วยความเสียดาย “ขอโทษนะเพื่อน ฉันสาบานกับพระเจ้าแล้วว่าจะไม่ทรยศต่อภรรยา อย่างน้อยฉันก็ไม่อยากหักหลังภรรยาหลังจากที่แต่งงานมาไม่ถึงปีหรอกนะ”
เบลคพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจว่า “อ้อ ให้ตายเถอะ นายนี่เป็นคนเลวจริงๆ นายทำลายบรรยากาศดีๆ ของพวกเราจนหมด!”
ฉินสือโอวยักไหล่แล้วพูด “ไม่ พี่น้องทั้งหลาย ฉันชื่นชมแบรนดอนนะ ฉันก็จะไม่ทรยศภรรยาของฉัน”
บิลลี่มองไปยังเบลคและยิ้มออกมา เบลคจ้องมองไปยังเขาและสบถออกมาว่า “อย่าบอกว่านายไม่สามารถทรยศภรรยานายได้นะ”
บิลลี่ยักไหล่แล้วพูดว่า “ไม่มีทาง ฉันยังไม่มีภรรยา แต่ว่าฉันไม่อยากทรยศแฟนของฉัน ใช่แล้ว เพื่อนยาก ฉันมีแฟนแล้วนะ”
“เป็นไปไม่ได้!” เบลคร้องออกมาด้วยความไม่เชื่อ
บิลลี่ชี้ไปที่ฉินสือโอวแล้วพูดว่า “ฉินสามารถเป็นพยานให้ฉันได้ อีกอย่างเขาและวินนี่ก็เป็นคนแนะนำสาวน้อยแสนสวยคนนั้นให้ฉันด้วย”
ทันใดนั้นฉินสือโอวก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันรู้แล้ว ใช่เพื่อนร่วมชั้นของวินนี่คนนั้นใช่ไหม?”
บิลลี่ยักไหล่อีกครั้ง ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มหวานขึ้น “สาวน้อยคนนั้นเป็นคนที่ดี ใช่ไหมล่ะ?”
ฉินสือโอวและแบรนดอนมองไปยังเบลคที่ยังส่ายหัวอย่างไม่อยากเชื่อเรื่องของบิลลี่ “อ้อ เบลคผู้น่าสงสาร นายถูกตัดออกมาจากทีมของพวกเราแล้วล่ะ!”
………………………