ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1785 ฟักทองผลไม้จากฟาร์มปลา
แคปสันที่สองกล่าวถึงกุญแจสำคัญว่า ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของมิเชลยังคงเป็นความมั่นใจในตัวเองกับทัศนคติในการแข่งขัน แม้ว่าเขาจะทำผลงานบนสนามได้ดีทุกครั้ง หลังจากลงสนามเขาจะนำความมั่นใจกับความกล้าที่แตกต่างจากตอนใช้ชีวิตโดยสิ้นเชิงออกมา แต่สำหรับมืออาชีพ มันยังไม่พอ!
ทีมมาร์เวลไม่ทำให้ผิดหวังสมกับชื่อของมัน สมาชิกที่ทีมบาสเกตบอลทีมนี้หล่อหลอมออกมา แต่ละคนแข็งแกร่งเหมือนกับเหล็กกล้า ตัวแทนของด้านนี้คือไอเวอร์สันกับไอรอน แฮมโมนิง พวกเขาสองคนล้วนเป็นคนที่แข็งแกร่งระดับท็อปของเอ็นบีเอทั้งคู่ ฉินสือโอวรู้สึกว่า ถ้ามิเชลสามารถมีพลังในการต่อสู้กับจิตวิญญาณในการต่อสู้ได้แบบนี้ ซึ่งประสานกับสมรรถภาพทางกายที่เคยถูกพลังแห่งโพไซดอนเปลี่ยนและความรู้สึกที่เกือบจะเหมือนปีศาจของเขา ชีวิตในอาชีพของเขาจะทำได้แค่ใช้แสลงอเมริกาเหนือประโยคหนึ่งอธิบายว่า มีแค่ท้องฟ้าเท่านั้นที่เป็นขีดจำกัดของเขา!
นอกจากนี้ การมาเยี่ยมฉินสือโอวของแคปสันที่สองครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความจริงใจของเขาจริงๆ เขาพาโค้ชของเขามา กับคนอีก 4 คนที่อยู่ข้างๆ เขาซึ่งเป็นคนสนิทสายตรงของเขา อาจจะเป็นผู้ช่วยโค้ชหรือครูฝึกความสามารถทางกาย พวกเขาล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในวงการบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยในสหรัฐทุกคน
แคปสันที่สองยังนำไฟล์รายงานของมิเชลมาอีกด้วย ด้านในมีส่วนสูง ความเร็ว การกระโดด ช่วงแขน ผลการวิเคราะห์ทางเทคนิคและอื่นๆ ของเขาอยู่ กระดาษสิบกว่าแผ่นวิเคราะห์สมรรถภาพทางกายและลักษณะทางเทคนิคของมิเชลออกมาได้อย่างแม่นยำ และยังให้คำแนะนำในการพัฒนาอีกด้วย ผลการประเมินขั้นสุดท้ายสูงมาก จนคิดว่าเขามีความสามารถที่จะกลายเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองได้
ฉินสือโอวยังคงไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาที่แน่นอนกับแคปสันที่สอง แต่บนทัศนคติของเขามีแนวโน้มที่จะส่งมิเชลเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในอนาคต เขาหวังว่ามิเชลจะกลายเป็นนักรบเหล็กที่ไม่มีใครเอาชนะได้ และทีมมาร์เวลก็จะเป็นเตาหลอมเหล็กที่ดีที่สุดของมหาวิทยาลัยในสหรัฐ
หลังจากนั้นก็มีการเยี่ยมเยียนอย่างต่อเนื่อง หลังจากแคปสันที่สองจากไป แมวมองของทีมอัลลิเกเตอร์มหาวิทยาลัยฟลอริดาก็มาอีก แม้แต่มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนามหาวิทยาลัยเก่าของจอร์แดนเทพแห่งบาสเกตบอลกับมหาวิทยาลัยดุ๊กที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในวงการบาสของมหาวิทยาลัยในสหรัฐก็ส่งคนมาเชียร์ให้ฉินสือโอวส่งมิเชลเข้าเรียนมหาวิทยาลัยของพวกเขา
เวลานี้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หู่จือกับเป้าจือให้ความสนใจอย่างเกียจคร้าน ถึงจะชอบอย่างไร พวกมันสองตัวพี่น้องก็เตรียมเข้าจำศีลแล้ว
ฉินสือโอวรู้สึกว่ามันผิดปกติ แม้ว่ามิเชลจะทำผลงานโดดเด่นมากในงานไนกี้ซัมมิท แต่นั่นก็ไม่ถึงกับทำให้วงการบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐตกใจหรอกใช่ไหม? ตอนแรกมหาวิทยาลัยเดวิดสันมาหา ก็เข้าใจได้ว่าใช้เส้นจากเคอร์รี แต่ภายหลังมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงพวกนี้มาหาคือเกิดอะไรขึ้น? ดังนั้นเขาจึงหาเวลาโทรหาเคอร์รี และยกคำถามออกมาถาม
เคอร์รีหัวเราะและพูดว่า “นี่คือเซอร์ไพรส์สำหรับนาย น้องชาย สนุกกับเซอร์ไพรส์นี้เถอะ! มิเชลไม่ใช่แค่ทำผลงานได้โดดเด่นในงานไนกี้ซัมมิท แต่เขายังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างมากในค่ายฝึกอบรมของฉัน ความคืบหน้าอธิบายได้ด้วยความเร็วแสงเท่านั้น! ฉันพาเขาไปเข้าร่วมการแข่งขันโอเพ่นแชมเปียนชิปทุกสัปดาห์ เขาก็แสดงความก้าวหน้าออกมาทุกครั้ง เซอร์ไพรส์ผู้คนมาก พูดจริงๆ นะเพื่อน ถ้ามิเชลอายุ 18 ปีเต็ม คนที่ให้ความสนใจเขาจะไม่ใช่มหาวิทยาลัยพวกนี้ แต่เป็นทีมบาสเกตบอลของเอ็นบีเอ!”
ฉินสือโอวเข้าใจในทันที ไม่แปลกที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งให้ความสนใจมิเชลขนาดนี้ เดิมทีนอกจากงานไนกี้บาสเกตบอลซัมมิทแล้ว มิเชลยังเคยแสดงความกล้าแกร่งของเขาในการแข่งขันอื่นอีกด้วย
แต่ตอนนี้มิเชลยังเหลวไหลอยู่ก็ไม่เชิง เมื่อเขาก้าวเข้าสู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 งานโรงเรียนก็หนักขึ้นในทันที เวลาที่ใช้ฝึกซ้อมบาสเกตบอลก็ถูกบีบอัดไปไม่น้อย แต่ฉินสือโอวกลับไม่สามารถช่วยเขาแก้ไขได้ หลังจากนี้เขาจะต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านบาสเกตบอลในสหรัฐอเมริกา ผลการเรียนวิชาวัฒนธรรมจึงต้องไม่แย่เกินไป
ตรงกันข้ามผลการเรียนของพาวลิสโดดเด่นอยู่ตลอด แม้ว่าเขาจะเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แต่การเรียนก็ยังเบามาก ทุกวันมีเวลาเล่นอย่างอื่นเยอะแยะ แต่ความสนใจของเขามีแค่อย่างเดียว นั่นก็คือการขับรถ
พาวลิสฝึกแข่งรถเป็นงานอดิเรก วินนี่ช่วยเขาสมัครสมาชิกนิตยสารหลายฉบับเช่นการแข่งรถเอฟวัน การแข่งรถในทะเลทรายและอื่นๆ เขาจะอ่านทุกประเด็นอย่างละเอียด ต้นเดือนตุลาคมเขาก็จะอายุ 16 ปีเต็ม ตามกฎของแคนาดาสามารถสอบใบขับขี่ได้แล้ว ฉินสือโอววางแผนว่าจะหาเวลาพาเขาไปสอบใบขับขี่
ความรู้สึกของฤดูใบไม้ร่วงเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ พืชพันธุ์ที่อยู่ในสวนของฟาร์มปลาถูกรดน้ำด้วยพลังแห่งโพไซดอน พวกมันจึงยังเติบโตขึ้นมาอย่างเขียวชอุ่ม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้คนลืมการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ถ้าไม่มีคนเตือนฉินสือโอวว่าฟักทองในพื้นที่เพาะปลูกควรเก็บเกี่ยวได้แล้ว เขาก็คงไม่รู้ว่าตอนนี้ควรเก็บฟักทอง
ฟักทองของปีนี้ขนาดค่อนข้างสมมาตร ไม่ใหญ่เกินไป ดังนั้นไม่สามารถทำลายสถิติโลกได้อย่างแน่นอน แต่เพราะเมล็ดฟักทองที่ใช้ก่อนหน้านี้ปลูกด้วยพลังแห่งโพไซดอน บวกกับเปลี่ยนรูปร่างด้วยพลังแห่งโพไซดอนในภายหลัง ฟักทองที่ออกผลมาครั้งนี้จึงสวยเป็นพิเศษ ผิวสีเหลืองทองและเรียบเนียน เมื่อเอนตัวนอนด้านบนก็จะได้กลิ่นที่หอมหวานของมัน
ฉินสือโอวลากฟักทอง 2 ลูกกลับมาทำเค้กฟักทอง ฟักทอง 2 ลูกนี้เกือบจะใหญ่เท่ากับยางรถยนต์ของฟอร์ดเอฟ150 แต่ละลูกมีน้ำหนัก 400 กว่ากิโลกรัม ตามหลักแล้วขนาดแบบนี้ ฟักทองจะไม่สามารถกินได้ แต่ฟักทองที่ออกผลในฟาร์มปลาของเขาไม่มีปัญหาแน่นอน พิสูจน์กลิ่นก็ยืนยันได้แล้ว
เมื่อขับรถมาจอดที่ประตูวิลล่า อีวิลสันที่กำลังกินองุ่นดำอยู่ก็วางชามขนาดใหญ่ที่กอดไว้ในอ้อมแขนลง เขาเดินหอบฮืดฮาดๆ เข้ามา ทั้งสองมือโอบฟักทองลูกหนึ่งไว้และส่งเข้าห้องครัวอย่างง่ายดาย พละกำลังที่แสดงออกมาให้เห็นทำให้ตั๋วตั่วที่เดินผ่านมากล่าวชื่นชม “พี่อีวิลสันถ้าทำงานในฟาร์มจะเก่งมาก และเขายังเก่งกว่าเครื่องจักรอีกด้วย!”
อีวิลสันหัวเราะแหะๆ อย่างไร้เดียงสา และงอแขนโชว์กล้ามเนื้อที่เหมือนกับก้อนหินอย่างให้ความร่วมมือ จังหวะการหายใจที่รุนแรงทำให้ดูแข็งแรงสุดๆ
ฉินสือโอวใช้แปรงทำความสะอาดฟักทองนิดหน่อยอย่างง่ายๆ และหามีดทำครัวทันที เขาหั่นเข้าไปในฟักทองเสียงดัง ‘ฉับ’ ทันใดนั้นก็มีน้ำฟักทองพุ่งออกมา เหมือนกับแตงโมที่ผ่าเป็นซีกๆ
ฉงต้าขยับร่างกายอันอวบอ้วนตามมาอยู่ข้างๆ และมองดูอย่างอยากรู้อยากเห็น หลังจากผ่าฟักทองมันก็สั่นจมูกอย่างรวดเร็ว และโน้มใบหน้าอ้วนท้วมเข้ามา มันยื่นอุ้งเท้าอ้วนออกมาถูใต้ฟักทอง และเลียด้วยความเอร็ดอร่อย
ฟักทองของปีที่แล้ว ความจริงลูกค่อนข้างใหญ่รสชาติก็ไม่ค่อยดี อายุของไฟเบอร์ก็เหมือนกับเชือกป่าน แต่ฟักทองของปีนี้ดีกว่ามาก อย่างน้อยฟักทองลูกใหญ่ 2 ลูกนี้ก็ยังคงความหวานและเนื้อฟักทองนุ่มๆ เอาไว้ ตอนที่ฉินสือโอวตัดก็ทิ้งฟักทองชิ้นหนึ่งลงบนพื้น ฉงต้าหยิบขึ้นมากินทันที ปากใหญ่ขมุบขมิบกินอย่างมีความสุข
“สามารถกินเป็นผลไม้ได้เลยเหรอ? ”ฉินสือโอวลังเลนิดหน่อย เขาเห็นตั๋วตั่วกับเถียนกวาเล่นกันอยู่ในห้องนั่งเล่น จึงกวักมือและตะโกนเรียกให้ทั้งสองคนเข้ามา เขาหั่นเนื้อฟักทองชิ้นเล็กแบ่งเป็นชิ้นน้อยสองชิ้น และพูดว่า “กินสิ อร่อยนะ”
ตั๋วตั่วกับเถียนกวาอ่อนโยนเกินไป พวกเธอคงยังไม่รู้ว่าจิตใจของคนเรานั้นน่ากลัว เมื่อจัดแบ่งใส่มือแล้วก็กัดเนื้อฟักทองกินอย่างมีความสุข
การกินฟักทองดิบในแคนาดาไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ฟักทองเป็นผักที่สามารถกินดิบได้ การกินดิบกลับยังสามารถเก็บรักษาคุณค่าทางโภชนาการของฟักทองไว้ได้เป็นอย่างดีเสียด้วยซ้ำ ลดการสูญเสียกับการทำลายสารอาหาร แต่เพราะรสสัมผัส ตอนที่กินคนจะหั่นหรือฝานฟักทอง ใช้น้ำมะนาวพรมสักหน่อย ใส่เกลือนิดหน่อยและกินหรือทำสลัดกินก็ได้
ฉินสือโอวไม่ได้กิน ก่อนหน้านี้เขาเคยกินฟักทองดิบด้วยความหิวตอนเป็นเด็กที่บ้านเกิด จำได้ว่ารสชาติมันฟาดมาก และไม่อร่อย
……………………