ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1792 เรียกคืนความยุติธรรม
แลนซ์เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นทันที เขาพูดอย่างรู้สึกผิด “เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร? ใช่ครับ ค่าแรงของคนงานผมเป็นคนออก แต่ผมไม่ได้ออกให้พวกเขาโดยตรง ตอนนี้พวกเขาติดอยู่ภายใต้โครงสร้างการรับพนักงานของบริษัทรับจัดหางานเรนโบว์ ผมจ่ายค่าแรงให้กับบริษัทจัดหางาน ยิ่งไปกว่านั้นคุณสามารถถามเจ้าเกิงได้ เขาจะตรวจสอบปัญหาด้านการเงินให้อีกครั้ง”
ฟาร์มปลาโกลเด้นเบย์เป็นฟาร์มปลาที่แลนซ์กับเจ้าเกิงรับผิดชอบร่วมกัน แต่เมื่อสองสามวันก่อนเกิงจุนเจี๋ยกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัวพอดี ถ้าเขาไม่อยู่ก็เป็นแลนซ์ที่รับผิดชอบทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว
ฉินสือโอวแอบถือว่าเกิงจุนเจี๋ยดวงดีมากหาเวลากลับไปเยี่ยมครอบครัวได้ดี ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องถามหัวหน้างานคนนี้ของเขาแน่ว่าเป็นอย่างไร เขาวางแผนให้เกิงจุนเจี๋ยอยู่ที่นี่เพื่อนำทีม เพราะอยากให้เขาแสดงความสามารถในฐานะเพื่อนชาวจีนและเข้าใจความคิดกับลักษณะของคนงานได้ทัน ผลคือในหมู่คนงานเกิดเรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้ เขาไม่ได้สังเกตเห็นด้วยซ้ำ การละเลยหน้าที่นั้นร้ายแรง
แต่เมื่อได้ยินแลนซ์พูดแบบนี้ สีหน้าของฉินสือโอวก็ผ่อนคลายขึ้น เขายังเชื่อใจแลนซ์กับเกิงจุนเจี๋ย และยังพูดอีกว่าเขาไม่เชื่อว่า 2 คนนี้จะกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ โกงเงินค่าแรงของพนักงาน นิสัยของแลนซ์กับเกิงจุนเจี๋ยค่อนข้างซื่อสัตย์ ถ้าพวกเขาต้องการเงินมากขึ้นก็จะมาคุยเรื่องขึ้นเงินเดือนกับฉินสือโอวโดยตรง และจะไม่ทำเรื่องที่น่ารังเกียจแบบนี้แน่นอน
เพื่อความปลอดภัย ฉินสือโอวยังโทรถามเรื่องนี้กับเกิงจุนเจี๋ยอีกด้วย เกิงจุนเจี๋ยอธิบายอยู่ในสาย เขาพูดว่าทุกครั้งที่จ่ายค่าแรงให้พนักงาน เขากับแลนซ์จะตรวจสอบทุกครั้ง ค่าแรงก้อนนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องสภาพจิตใจของพนักงานเก่า เขาบอกว่าเขาเคยพบว่าคนพวกนี้มีปัญหา แต่ตอนที่รู้พวกเขาไม่ยอมพูด พูดจาคลุมเครือ ต่อมาก็จบลงโดยไม่มีอะไร
ในเมื่อค่าแรงของคนงานทางด้านฟาร์มปลาไม่มีปัญหา อย่างนั้นปัญหาก็อยู่ที่บริษัทรับจัดหางานเรนโบว์แล้ว มันต้องเกี่ยวข้องกับนิสัยขี้เหนียวของเจ้านายชาวยิวที่บริษัทแห่งนี้แน่ เพราะเขาสามารถทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้จริงๆ
หลังจากวางสายของเกิงจุนเจี๋ย ฉินสือโอวก็โทรไปหาเจ้านายชาวยิวอีก เจ้านายคนนี้ชื่อบรันท์ คาร์ล หลังจากรับสายเขาก็รีบพูดด้วยน้ำเสียงที่กระตือรือร้น “เฮ้ ฉิน เพื่อนที่แสนดีของฉัน ได้รับโทรศัพท์จากนายทำให้ฉันรู้สึกเซอร์ไพรส์จริงๆ ให้ฉันเดานะเป้าหมายที่นายโทรมาก็คือต้องการคนงานเพิ่มใช่ไหม?”
ฉินสือโอวไม่แสร้งทำเป็นสุภาพกับเขา หลังจากทักทายอย่างเรียบง่ายก็พูดว่า “บรันท์ ฉันอยากรู้ว่าคุณค่าแรงที่นายให้คนงานที่ฟาร์มปลาของฉันคือเท่าไหร่ นายบอกฉันได้ไหม?”
เสียงหัวเราะอันสดใสของบรันท์หยุดลง หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว “ขอโทษนะ ฉิน ค่าแรงที่ได้รับมาตลอดเป็นความลับของบริษัท เฮ้ บอกฉันทีตอนนี้นายอยู่ที่ไหน? อยู่เมืองมาร์กาเร็ตเหรอ? งั้นพวกเราก็อยู่ใกล้กันมาก มาเที่ยวกับฉันที่นี่สิ ฉันเพิ่งจะได้ชาดีๆ มาจำนวนหนึ่ง อยากให้พวกเรามาลองชิมดูว่ามันเป็นอย่างไร?”
ฉินสือโอวพูดเสียงแข็ง “เรื่องดื่มชาไว้ทีหลังฉันจะพูดอีกครั้ง ตอนนี้ฉันแค่อยากรู้ว่า ทำไมค่าแรงที่คนงานของฉันได้รับไม่เท่ากับที่ระบุในสัญญาเมื่อตอนนั้น?”
บรันท์กระแอม และหัวเราแห้ง “อย่ากังวล ฉิน ระหว่างพวกเราอาจจะมีความเข้าใจผิดกัน นายพูดถึงค่าแรงอะไรนะ? ค่าแรงของคนงานใช่ไหม? ฉันไม่ได้จ่ายค่าแรงของพวกเขาช้า กรมสรรพากรกับทะเบียนประกันสังคมสามารถพิสูจน์ได้ โอ้ ตอนนี้ฉันมีงานนิดหน่อย อีกสักครู่พวกเราค่อยติดต่อกันอีกครั้งดีไหม?”
เขาไม่รอฉินสือโอวพูด บรันท์วางสายไปในทันที ฉินสือโอวโทรไปอีกครั้ง สายก็เป็นเสียงสัญญาณไม่ว่างแล้ว ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะกินปูนร้อนท้อง จึงไม่กล้ารับโทรศัพท์ของเขา
ฉินสือโอวรู้สึกโกรธมาก ชายชาวยิวคนนี้กลั่นแกล้งคนของเขาเสร็จสรรพ เขาไม่เคยคิดว่าบริษัทรับจัดหางานพวกนี้จะแย่ขนาดนี้ นึกไม่ถึงว่าจะทำธุรกิจเอเยนต์ผิดกฎหมาย หลายเดือนมานี้เขาหักเงิน 1 พันดอลลาร์ของคนงานทุกคน คนงาน 60 คนก็เป็นเงิน 6 หมื่นดอลลาร์ ซึ่งก็เป็นรายได้ที่ไม่น้อย
ความจริงสำหรับคนงานที่ไปทำงานแบกหามในต่างประเทศ เอเยนต์แบบนี้พบเห็นได้ทั่วไปมาก ถ้ามาหางานผ่านบริษัทเอเจนซี่ นั่นหายากมากที่จะไม่ถูกหักค่าแรง แต่ฉินสือโอวให้ผลประโยชน์บรันท์เพียงพอแล้ว เพราะคนงานพวกนี้ทำงานอยู่ภายใต้บริษัทรับจัดหางานของเขา ฉินสือโอวจึงต้องจ่ายค่าเข้าร่วม 400 ดอลลาร์สำหรับทุกคนให้เขาทุกเดือน
ผลคือ ชายคนนี้กลับวางแผนไว้บลาๆๆ กินทั้งสองทาง กินทั้งเจ้านายกินทั้งคนงาน
หลังจากเก็บโทรศัพท์ ฉินสือโอวก็พูดกับคนงานที่รออยู่รอบๆ “ทุกคนไปพักผ่อนก่อน เรื่องนี้ฉันจะให้คำตอบที่น่าพึงพอใจกับพวกนายแน่ วางใจเถอะ ส่วนค่าแรงของพวกนายจะไม่ขาดสักเหรียญ ค่าแรงจะต้องเป็นไปตามสัญญาจ้างที่ทำไว้แน่นอน”
คนงานวัยกลางคนที่เป็นผู้นำพูดคุยพูดอย่างเขินอาย “บอส ดูเหมือนว่าที่เขียนไว้บนสัญญาเมื่อตอนนั้นจะเป็นค่าแรง 4 พัน 5 ร้อยดอลลาร์หลังหักภาษี”
ตอนนั้นฉินสือโอวไม่ได้สนใจเรื่องนี้ สัญญาจ้างของคนงานเป็นสัญญาณที่พวกเขากับบรันท์เซ็น แต่สัญญาที่บรันท์กับเขาตกลงและเซ็นนั้นไม่ผ่านคนงาน นี่ทำให้เขามีโอกาสที่จะเล่นสกปรกจากเรื่องนี้
ความจริงเรื่องนี้ยังต้องโทษฉินสือโอวอีกด้วย ตอนนั้นเพื่อลดปัญหาเขาจึงไม่ได้ติดตามการเซ็นสัญญาตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เจอปัญหาตอนนี้ก็ไม่สาย เวลาที่พวกคนงานถูกเอารัดเอาเปรียบยังไม่นาน
หัวหน้าฉินโกรธมาก และผลที่ตามมาก็ร้ายแรงมาก หลังจากคนงานแยกย้ายเขาก็ขับเฮลิคอปเตอร์บินไปที่เมืองมาร์กาเร็ต ในเวลาเดียวกันเขาก็โทรและขอให้เออร์บักช่วยเขาติดต่อทีมทนายความ และโอนนักบัญชีส่วนตัวจางเผิงเข้ามาอีก เขารู้จักนิสัยใจคอของคนอย่างบรันท์ดี และการพูดคุยด้วยเหตุผลไม่มีประโยชน์ เขาจำเป็นต้องใช้ทนายความกับนักบัญชีมาจัดการกับเขาถึงจะได้ผล
หลังจากทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกัน ฉินสือโอวยังคงอยากไว้หน้าบรันท์ เขาเข้าใกล้เมืองมากขึ้น หลังจากเฮลิคอปเตอร์ดอลฟินลำเล็กบินมาถึงเขาก็ไปบริษัทรับจัดหางานเรนโบว์ก่อน และตามหาบรันท์เพื่อให้เขาแก้ไขปัญหานี้
หลังจากบรันท์เห็นฉินสือโอว ดูเหมือนเขาจะจำไม่ได้ว่าพวกเขา 2 คนคุยทางโทรศัพท์กันก่อนหน้านี้ เขากอดฉินสือโอวอย่างกระตือรือร้น และดึงเขาไปที่สำนักงานอย่างต่อเนื่อง เขาพูดว่าเขาอยากดื่มชาเบาๆ และขอให้เขามาลองชิมชาชุดนี้ที่เขาได้มาว่าเป็นอย่างไร
ฉินสือโอวไม่ได้ทำลายเขาเป็นชิ้นๆ ในจุดนั้นถือว่าเป็นการไว้หน้าเขาแล้ว ใครจะมีอารมณ์ไปดื่มชากัน? เขาบอกจุดประสงค์ออกมาตรงๆ และบอกให้บรันท์คืนค่าแรงของคนงานที่โกงไปให้คนงาน
บรันท์แสดงด้านที่เจ้าเล่ห์ของเขาออกมา และพูดว่า “ฉิน นายกำลังกล่าวหาฉันอย่างผิดๆ ฉันจะโกงเงินค่าแรงของคนงานได้อย่างไร? ที่เมืองมาร์กาเร็ตใครเล่าจะไม่รู้ว่าชื่อเสียงฉันบรันท์ คาร์ลมีมากแค่ไหน? ฉันจำเป็นต้องบอกนายว่า ค่าแรงที่ฉันให้คนงานทุกคนเป็นค่าแรงที่อิงตามสัญญา”
ท่านชายฉินรู้สึกว่าความจริงตัวเองไร้ยางอายมาก แต่เมื่อเทียบกับชายชาวยิวคนนี้ เขาก็พบว่าตัวเองธรรมดาเหมือนกับดอกบัวขาวไปเลย ภูเขาลูกหนึ่งสูงกว่าภูเขาอีกลูก คนคนหนึ่งก็อันตรายกว่าคนอีกคนจริงๆ
ระหว่างคนสองคนไม่สามารถสื่อสารกันได้ บรันท์นำสัญญา 2 ฉบับออกมาให้เขาดู และบอกเขาว่าสัญญาทั้ง 2 ฉบับนั้นไม่มีปัญหา เขาทำแบบนี้ก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย ตรงกันข้ามถ้าฉินสือโอวไม่ทำตามสัญญา นั่นถึงจะผิดกฎหมาย
เมื่อคืนก่อน ทีมทนายความที่เออร์บักติดต่อมาถึงเมืองมาร์กาเร็ต ฉินสือโอวไม่ได้ขอให้ชายชรามาด้วยตัวเอง ในความคิดของเขานี่เป็นแค่เรื่องเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องรบกวนชายชรา แค่จ้างทนายความธรรมดาๆ ก็สามารถแก้ไขปัญหาพวกนี้ได้แล้ว
และความเป็นจริงก็พิสูจน์ว่า สถานการณ์มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
………………………