ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1795 แผ่นไข่ทอด
ช่วงปลายเดือนตุลาคมและต้นเดือนพฤศจิกายน ฝนฤดูใบไม้ร่วงตกลงมาอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง ตั้งแต่พ่อของฉินสือโอวกับแม่ของฉินสือโอวมาถึงฝนก็ตกลงมาตลอด ไม่ได้เห็นอากาศดีเลย
รัฐนิวฟันด์แลนด์ปีนี้แห้งแล้งนิดหน่อย น้ำฝนก็มีไม่มาก สองสามปีก่อนช่วงเดือนสิงหาคมกับเดือนกันยายนมีพายุฝนพัดมา แต่ปีนี้จนถึงเดือนพฤศจิกายนแล้วฝนถึงเริ่มตก และช่วงนี้อากาศก็เริ่มอุ่น ฉินสือโอวเห็นกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า อาจจะมีหิมะตกในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา
ช่วงกลางวันของเดือนพฤศจิกายนเริ่มสั้นลง ต้อง 6 โมงเช้าถึงจะเข้ารุ่งสาง ฉินสือโอวสวมเสื้อแขนกุดและกางเกงขาสั้นไปออกกำลังกายตอนเช้าตามปกติ เพิ่งจะวิ่งออกไปก็มีลมหนาวพัดมาปะทะหน้าแล้ว เขากระทืบเท้าซ้ำๆ อย่างรู้สึกหนาว และรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
เขามีความมั่นใจในร่างกายของตัวเอง อากาศแบบนี้เขาคงจะไม่เป็นหวัด แต่เขาต้องระวัง ต้องทำให้มั่นใจว่าร่างกายของเขาจะปลอดภัยแน่นอนและไม่เป็นหวัด ระยะการตั้งครรภ์ของวินนี่เข้าสู่ช่วงกลางแล้ว เขาไม่ควรเป็นหวัดเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้วินนี่ติดเชื้อ
หู่จือ เป้าจือ หมาป่าขาวและกวางมูสวิ่งตามเขามา ฉงต้าหอบฮืดฮาดๆ ลุกขึ้นมามอง เมื่อตาง่วงๆ ที่ฝ้ามัวเห็นว่าท้องฟ้าด้านนอกยังไม่สว่าง จึงหาสถานที่อุ่นๆ ล้มตัวนอนอีกครั้ง หมีโลลิหาว และวิ่งตามหลุนๆ ไปล้มตัวนอนอยู่ข้างๆ มัน
เมื่อเห็นภาพนี้ฉินสือโอวก็ยิ้มออกมา อันที่จริงหมีโลลิไม่ได้ขี้เกียจ อาจจะเป็นเพราะธรรมชาติของมัน และสภาพอากาศหนาว ความมีชีวิตชีวาของมันจึงลดลงไปมาก สองสามวันที่ผ่านมามันไม่มีอารมณ์เล่นกับเถียนกวาเลย แต่ก่อนหน้านี้มันระเบิด เพราะเถียนกวาก่อกวนมันจึงเล่นด้วย
ท้องฟ้าเริ่มสว่าง ฉินสือโอววิ่งผ่านไปใต้ต้นเมเปิล เสียงกรอบแกรบดังขึ้นพอดี กระรอกน้อยตัวนุ่มนิ่มหลายตัวซ่อนอยู่บนกิ่งไม้และชะโงกหน้าออกมามองเขา
นี่คือลูกของเสี่ยวหมิง หลังจากผ่านความพยายามในฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน นางสนมทั้ง 6 ของมันก็ตั้งครรภ์และคลอดลูกหลายตัวให้มัน แม้ว่ากระรอกน้อยพวกนี้จะฉลาดและมีไหวพริบกว่ากระรอกแดงทั่วไป แต่ก็ไม่เท่ากับเสี่ยวหมิง พวกมันกลัวคนนิดหน่อย ดังนั้นจึงไม่ค่อยโผล่ออกมา
ตอนที่ฉินสือโอววิ่งผ่านก็ผิวปาก เสี่ยวหมิงได้ยินเสียงผิวปากจึงก้าวออกมาจากในฮาเร็มของมัน และกระดิกหางอย่างพอเหมาะ ราวกับผู้นำโบกมือในการเดินสวนสนาม นี่คือการทักทาย หลังจากนั้นเจ้าตัวน้อยก็กลับไปอยู่กับฮาเร็มของมันในบ้านต้นไม้
บ้านต้นไม้ที่อยู่บนต้นเมเปิลยังเป็นบ้านที่พวกเด็กๆ เตรียมไว้ให้นิมิตส์อีกด้วย ตอนนั้นนิมิตส์เพิ่งจะมาฟาร์มปลา ขาและเท้าได้รับบาดเจ็บ จึงมาพักอยู่ที่นั่นชั่วคราว ภายหลังอาการบาดเจ็บที่ขาดีขึ้น มันก็ไม่เคยเข้าไปในบ้านต้นไม้อีกเลย แต่เสี่ยวหมิงรู้สึกว่ากระท่อมนี้ไม่เลว จึงยึดมาเป็นวังของตัวเอง
เมื่อเห็นพ่อเดินจากไป พวกลูกกระรอกที่ตัวใหญ่นิดหน่อยก็กระโดดเหย็งๆ ตามหลังเข้าไปในบ้านต้นไม้ พวกมันเกลือกกลิ้งและเล่นกัน แต่ละตัวเหมือนกับลูกบอลลูกเล็กที่ขนปุย ฉินสือโอวทนไม่ไหวจึงหยุดวิ่งและมอง ราวกับว่าเห็นเสี่ยวหมิงตอนเป็นเด็ก
สองสามปีก่อน เขาเพิ่งจะมาถึงฟาร์มปลาและพักกินผลไม้ดูโทรทัศน์อยู่ในตึกเล็กๆ กระรอกน้อยตัวหนึ่งอยู่นอกหน้าต่างและมองเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น หลังจากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่าง กระรอกน้อยกระโดดเข้ามา การพบกันโดยบังเอิญที่งดงามก็เกิดขึ้น
ตอนนี้ เวลาผ่านไป กระรอกน้อยกลายเป็นพ่อของพวกกระรอกน้อย หนุ่มโสดคนนั้นกลายเป็นสามีของหญิงสาวคนหนึ่งและกลายเป็นพ่อของลูกอีก 2 คน วิลล่าเล็กๆ ที่ทรุดโทรมและเงียบเหงาก็เปลี่ยนไปมีชีวิตชีวาขึ้นมา พวกเขาล้วนไปมีชีวิตของตัวเอง
หลังจากมองตามหลังของเสี่ยงหมิงจนหายเข้าในไปในบ้านต้นไม้อย่างมึนงง ฉินสือโอวก็ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงรู้สึกเศร้าขึ้นมานิดหน่อยทันที
เขายืนอยู่ใต้ต้นไม้ครู่หนึ่ง หู่จือกับเป้าจือตามมาอยู่ด้านซ้ายและด้านขวาด้วยอย่างเฉลียวฉลาด และใช้หัวถูกับขาทั้งสองข้างของเขาเบาๆ อย่างไร้เดียงสา เหมือนกับเด็กที่กำลังออดอ้อน
ฉินสือโอวส่ายหัวขับไล่ความเศร้าที่อธิบายไม่ได้ เขารู้สึกว่านี่อาจจะเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ ตอนนี้มันคือฤดูใบไม้ร่วง เมฆดำปกคลุมหนาแน่น ที่กล่าวมาตั้งแต่สมัยโบราณว่าเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจะรู้สึกเศร้าและโดดเดี่ยว อารมณ์ดิ่งลงก็เป็นเรื่องปกติเหมือนกัน
เมื่อไม่อยากวิ่งอีกต่อไป เขาก็กลับวิลล่าและเริ่มเตรียมอาหารเช้า เชอร์ลี่ย์ที่สวมกระโปรงสั้นกระโดดกระเด้งลงมาชั้นล่าง ผมสีทองรวบเป็นทรงหางม้าเอียงห้อยอยู่บนไหล่ ซึ่งเด้งขึ้นลงตามร่างกายของเธอ ให้ความรู้สึกว่าคล่องแคล่วมาก
“สวัสดีตอนเช้าค่ะ ฉิน หนูมาเตรียมอาหารเช้าแล้ว” เชอร์ลี่ย์พูดอย่างคลุมเครือ เธอยังมีแปรงสีฟันอยู่ในปาก ใบหน้าสวยงามเผยให้เห็นกระนิดหน่อยเพราะไม่ได้ทาเครื่องสำอาง แต่นี่ไม่ได้ส่งผลต่อความงามของเธอ ตรงกันข้ามกลับเพิ่มเสน่ห์ที่น่าดึงดูดนิดหน่อย
ก่อนที่วินนี่จะตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่อาหารเช้าเธอเป็นคนเตรียมและเชอร์ลี่ย์เป็นลูกมือ หลังจากตั้งครรภ์ฉินสือโอวรับผิดชอบหน้าที่ของเธอแทน และเชอร์ลี่ย์ก็มาทำอาหารเช้าด้วยกันกับเขา
“เช้าวันนี้จะทำอะไรดี?” เชอร์ลี่ย์วิ่งกลับมาอย่างรวดเร็วหลังจากบ้วนปาก เธอกระโดดไปมาอย่างคล่องแคล่วเหมือนกับกวางตัวน้อย และนั่งลงบนเก้าอี้สูงตัวหนึ่ง
ฉินสือโอวเปิดตู้เย็นดูว่ายังมีอะไรเหลือบ้าง ผลคือนอกจากไข่ นมและผลไม้ก็ไม่มีของอย่างอื่นเลย แบบนี้เขาจึงไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรนิดหน่อย โชคดีที่แม่ของฉินสือโอวกับพ่อของฉินสือโอวลงมาชั้นล่างพอดี แม่ของฉินสือโอวพูดว่า “พวกแกไปเล่นเถอะ อาหารเช้าให้ฉันกับพ่อแกเตรียมเอง”
เชอร์ลี่ย์รีบโบกมือ บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวาน “ไม่ได้ค่ะ ให้หนูทำเถอะ คุณปู่คุณย่าไปพักผ่อน คุณฉินก็ไปด้วย หนูสามารถจัดการเรื่องอาหารเช้าได้”
แม่ของฉินสือโอวแสดงความสามารถในการลงมืออันเหนือมนุษย์ของเธอออกมา เธอไม่พูดอะไรเพิ่มเติมและดันทั้งสองคนออกไป หลังจากนั้นถึงจะพูดว่า “พวกแกไปยุ่งอยู่กับงานของตัวเองเถอะ นั่นอะไร ไม่ใช่ว่าเชอร์ลี่ย์จะต้องไปขี่ม้าทุกเช้าเหรอ? ไปซะๆ เรื่องในครัวให้ฉันกับตาแก่จัดการเอง”
พ่อของฉินสือโอวก็หัวเราะฮ่าๆ “พวกฉันเตรียมอาหารเช้าน่ะดีแล้ว พวกแกไม่รู้เหรอ หญิงชราคนนี้อยากทำอาหารให้ลูกๆ มานานแล้ว ในที่สุดก็คว้าโอกาสไว้ได้ พวกฉันจะพลาดได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวพยักหน้าและบอกให้เชอร์ลี่ย์ออกไป เขาอยู่ในห้องครัวกับพ่อและแม่ แม่ของฉินสือโอวดูตู้เย็น และไตร่ตรองพักหนึ่ง “แบบนี้ ตอนเช้าพวกเรามาทำแพนเค้กกินกันเถอะ ฉันจะต้มโจ๊กแปดทรัพย์อีกอย่าง มีไข่เค็ม แค่นี้สารอาหารก็เพียงพอแล้ว”
ฉินสือโอวบอกว่าโอเค ความจริงแพนเค้กที่แม่ของฉินสือโอวทำคล้ายกับแผ่นไข่ทอดมากกว่า เมื่อตอนเป็นเด็กแม่ทำให้เขาเพื่อบรรเทาความหิวโดยเฉพาะ ซึ่งเนื้อมีไม่มากและน้ำมันก็มีไม่มากเช่นกัน บางครั้งแม่ของฉินสือโอวก็นำไข่ 2 ฟองมารวมกัน และใช้หม้อใบใหญ่ทำแผ่นไข่ทอดให้เขากับพี่สาวกินแก้หิว
ไข่ไก่ ไข่เป็ด ไข่ห่านและไข่นกที่ฟาร์มปลามีเยอะมาก แม่ของฉินสือโอวใช้ไข่นกของนกจมูกหลอดหางสั้น ถึงอย่างไรมันก็เป็นไข่ของนกป่า ทอดแล้วกลิ่นหอมกว่าไข่ไก่มาก แต่เพราะมีขนาดเล็กเกินไป ดังนั้นถ้าเอาไปต้มกินจะไม่เหมาะเท่าไข่ไก่
ฉินสือโอวพูดว่าไม่อย่างนั้นให้ผมทำเถอะ แม่ของฉินสือโอวตอกไข่นกกองหนึ่งอย่างคล่องแคล่ว และพูดว่า “นี่ยังต้องใช้แกทำ? ก่อนหน้านี้ที่บ้านใช้หม้อดินฉันก็ทำได้ ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้กระทะทอดแพนเค้กไม่ง่ายกว่าเดิมเหรอ?”
พ่อของฉินสือโอวไปเด็ดต้นหอมจีนและตัดกุยช่ายในทุ่งมาจำนวนหนึ่ง เขากับฉินสือโอวจัดการทำความสะอาดอย่างรวดเร็วและง่ายดาย และสับจนเป็นหอมซอยเตรียมไว้ให้แม่ของฉินสือโอวเรียบร้อย ส่วนที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาทำแล้ว
หลังจากแม่ของฉินสือโอวกวนไข่นกจมสม่ำเสมอก็เทลงบนแป้งและคนต่อ เธอเติมซีอิ๊วกับน้ำตาลทรายขาวลงไปในนั้นนิดหน่อย หลังจากคนแป้งจนข้นเหนียวแล้วก็อุ่นกระทะให้ร้อนและเติมน้ำมันมะกอกลงไป ไม่นานกลิ่นหอมเตะจมูกก็โชยออกมา เวลานี้ให้เทแป้งลงไปและเริ่มผัด
การทดสอบในช่วงนี้คือประสบการณ์และทักษะ แม่ของฉินสือโอวเกลี่ยแป้งอย่างชำนาญ และโรยหอมซอยลงไปด้านบนก่อนนิดหน่อย ตามด้วยพลิกแป้งแผ่นนี้ ชั้นล่างเห็นเป็นสีเหลืองอ่อนแล้ว
ต่อไปก็โรยหอมซอยกับกุยช่ายสับด้านบน และสุดท้ายโรยงาในขณะที่แป้งยังไม่สุก แบบนี้แผ่นไข่ทอดสีเหลืองทองก็อบเสร็จในที่สุด ด้านบนมีหอมซอยกับกุยช่ายสับสีเขียวเข้มและงาที่กระจายอยู่ทั่ว ช่างมีสีสันและกลิ่นที่หอมหวน
…………………………