ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1804 แต่งตั้ง
ฉินสือโอวตบไหล่เหมาเหว่ยหลงหลายทีอย่างจริงใจ ท่าทางเหมือนพรรคและองค์กรมอบหลายภาระหนักบนตัวแกอย่างนั้น จากนั้นส่งเขาออกเดินทาง ไปเก็บกวาดฮิวจ์คนน้องที่เป็นจักรวรรดินิยมผู้หยิ่งผยองนั่น
“ประเทศชาติและพลเมือง เฝ้าคอยการกลับมาพร้อมชัยชนะของแก!” ท่านชายฉินพูดอย่างอาลัยอาวรณ์ว่า “ไปเถอะ เด็กดีของฉัน…”
“เฮ้ๆ มีเรื่องคุยกันดีๆ อย่ามาเอาเปรียบฉันสิ” เหมาเหว่ยหลงปัดแขนเขาลงจากไหล่อย่างไม่พอใจ
ท่านชายฉินเองก็ไม่พอใจด้วย บอกว่า “หมายความว่ายังไง พวกแกสมาชิกพรรคไม่ใช่เด็กดีของพลเมืองเหรอ? ตอนนี้แกเป็นสมาชิกพรรค ฉันเป็นพลเมือง แกเป็นเด็กดีของฉัน นี่มันมีปัญหาอะไร?”
เหมาเหว่ยหลงกลอกตามองบนสะบัดแขนเขาออก นั่งรถลากเลื่อนหิมะอัตโนมัติจากไป ท้ายรถลากเลื่อนหิมะพ่นลม ลมที่พ่นออกมาพัดหิมะขึ้น เป่าใส่ฉินสือโอวทั้งตัว
“แกระเบิดเหรอ แกเก่งขนาดนี้ทำไมไม่ขึ้นฟ้าไปล่ะ?” ฉินสือโอวด่าใหญ่ แต่เหมาเหว่ยหลังไม่ได้ยิน จากไปอย่างได้ใจ
สแตนลี่ย์ คาลเบิร์ต อมยิ้มรออยู่ข้างๆ หลังเหมาเหว่ยหลงจากไปเขาถึงได้ออกเสียงพูดว่า “บอส ตอนนี้พวกเราสามารถคุยเรื่องเปิดร้านอาหารได้แล้วหรือยัง?”
ฉินสือโอวพาเขาไปที่ห้องรับแขก สแตนลี่ย์ถูมือไปมา บอกว่าอากาศวันนี้หนาวจริงๆ เลยนะ จากนั้นพุ่งตรงไปยังเตาผิงแล้วผิงไฟ เขาเจรจาเรื่องการร่วมธุรกิจร้านอาหารกับครอบครัวฮิลตันที่นิวยอร์กมาตลอด รู้สึกว่าฤดูหนาวที่นิวยอร์กหนาวมากแล้ว แต่ก็ยังเทียบกับเกาะแฟร์เวลไม่ได้เลย
แต่ว่าเตาผิงเองก็ไม่ได้ดีอะไร เตาผิงไม่เหมือนกับเตาไฟ เปลวไฟของมันย่างคนโดยตรง เพียงระยะห่างไม่เหมือนกันนิดเดียวอุณหภูมิก็คงไม่เหมือนกันแน่
สมัยมหาวิทยาลัยฉินสือโอวดูซีรีส์อเมริกา เห็นว่าตอนที่คนอเมริกันนั่งผิงไฟอยู่ข้างเตาผิง ชอบวางผ้าคลุมไว้บนขาผืนหนึ่ง ตอนนั้นเขาไม่เข้าใจถึงเหตุผล แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเป็นเพราะอะไร
นั่งอยู่หน้าเตาผิงควบคุมอุณหภูมิได้ยาก เขาใกล้นิดเดียวก็จะถูกย่างจนรู้สึกไม่ดี ระยะปานกลางขาจะร้อนตัวจะหนาว และถ้าอยู่ห่างไปไกลหน่อยก็จะหนาวทั้งตัว ดังนั้นจำเป็นจะต้องห่างระยะปานกลางแล้ววางผ้าคลุมไว้บนขาผืนหนึ่ง รอจนตัวหนาวแล้วจึงห่มบนตัว
ตอนนี้สแตนลี่ย์ก็เป็นอย่างนี้ เข้าใกล้แล้วก็รู้สึกถูกย่างจนรู้สึกไม่ดี เขาเตรียมจะเดินถอยหลังไป ปรากฏว่าสะดุดเข้ากับกะละมังของมาสเตอร์ ดังนั้นมาสเตอร์จึงเงยหน้าขึ้นมาอย่างมืดมน ใช้ดวงตาเล็กจ้องเขม็งมาที่สแตนลี่ย์
เต่าอัลลิเกเตอร์เป็นถึงเจ้าแห่งน้ำจืด มันเกลียดที่มีคนล่วงล้ำอาณาเขตที่สุด แม้แต่หู่เป้าฉงหลัวก็ไม่ได้ แล้วนับประสากับสแตนลี่ย์? ดังนั้นสายตาจึงเต็มไปด้วยแรงอาฆาต
สแตนลี่ย์อึดอัดเลย เขาหัวเราะบอกว่าเต่าตัวนี้น่ารักมาก จากนั้นก็อยากจะไปลูบหัวมาสเตอร์เป็นการแสดงความใกล้ชิด ฉินสือโอวรีบคว้ามือเขากลับมา มาสเตอร์หุบปากด้วยความโกรธ แต่ฟันอันแหลมคมที่เผยออกมาก็เพียงพอที่ทำให้สแตนลี่ย์เหงื่อออกทั้งตัวแล้ว
“แบบนี้กลับอุ่นขึ้นมาเลย” ซูเปอร์เชฟหัวเราะเยาะตัวเอง
เห็นสุดยอดเชฟคนหนึ่งถูกมาสเตอร์ทำให้อายถึงขนาดนี้ ท่านชายฉินทำตัวไม่ถูกแล้ว จึงช่วยเชฟใหญ่ขู่มาสเตอร์ “หดหัวกลับไป รู้หรือเปล่าว่าคนที่อยู่ต่อหน้าแกเป็นใคร? เขามี 108 วิธีในการทำให้แกกลายเป็นอาหารรู้ไหม? ไม่อยากถูกตุ๋นเป็นซุปตะพาบก็ทำตัวดีๆ หน่อย”
มาสเตอร์จ้องซูเปอร์เชฟอีกครั้ง แล้วหดหัวกลับไปนอนในน้ำอุ่นๆ ต่อ
สแตนลี่ย์แปลกใจอย่างมาก บอกว่า “พระเจ้า เจ้านี่ฟังที่คุณพูดรู้เรื่อง?”
ฉินสือโอวหัวเราะ เขาไม่ได้คุยหัวข้อสนทนานี้ต่อ โบกมือว่า “ตามผมมา ผมจะหาสถานที่อบอุ่นให้คุณสักที่”
แน่นอนว่าสถานที่ที่เขาหาเป็นบ่อน้ำร้อน ฤดูหนาวที่ที่อบอุ่นที่สุดในฟาร์มปลาก็คือห้องบ่อน้ำร้อนแล้ว หลายวันมานี้หิมะตกหนัก เขา วินนี่ พ่อของฉินสือโอว และแม่ของฉินสือโอวมาแช่บ่อน้ำร้อนบ่อยครั้ง
ข้างนอกยิ่งหนาว ในบ่อน้ำร้อนยิ่งอุ่น ไอน้ำระเหยขึ้นช้าๆ พอเข้าไปแล้วไอร้อนหนึ่งก็พุ่งเข้ามา ฉินสือโอวและสแตนลี่ย์เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าไปนั่ง จากนั้นเบิร์ดก็เอากาแฟที่ต้มเสร็จมาส่ง
แช่อยู่ในน้ำอุ่น สแตนลี่ย์ส่งเสียง**ออกมาอย่างสบาย รอจนได้ดื่มกาแฟร้อนหอมกรุ่น ก็ยิ่งสบายขึ้นไปอีก เขาปิดตาแล้วบอกเสียงเบาว่า “ให้ตายสิ ผมกล้าพนันเลยว่าตอนนี้โลกนี้ไม่มีที่ไหนที่จะสบายเท่าที่นี่อีกแล้ว! อยากจะแช่อยู่ในน้ำนี้สักปีหนึ่ง อะไรก็ไม่ทำ แค่แช่อยู่ในน้ำร้อนปีหนึ่ง!”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าเขาพูดเกินไปหน่อย แต่ว่าแช่บ่อน้ำร้อนในฤดูหนาวก็สะใจจริงนั่นแหละ น้ำในบ่อร้อนและใส บนหัวมีเถาวัลย์ต้นไม้แก่ รอบทิศเป็นกำแพงกระจกโปร่งใส มองออกไปข้างนอก เกลียวคลื่นน้ำเขียวใส หาดทรายยาวสิบไมล์…
เบิร์ดวางกาแฟลงเตรียมตัวออกไป ฉินสือโอวให้สัญญาณให้เขาอยู่แช่น้ำด้วยกัน เบิร์ดพยักหน้ารับแล้วลงน้ำ นั่งแช่บ่อน้ำร้อนเงียบๆ อยู่ข้างๆ ไม่พูดแทรกสักคำ
หลังสแตนลี่ย์หนำใจแล้วก็เริ่มพูดเรื่องหลัก เดือนธันวาคมเป็นเดือนสุดท้ายในการเตรียมร้านอาหารต้าฉิน จากนั้นตอนวันปีใหม่ก็จะเปิดทำการแล้ว ร้านอาหารโรงแรมในอเมริกาเหนือ 125 ร้านจะเปิดทำการพร้อมกัน!
ที่จริงตามความคิดของฉินสือโอวและสแตนลี่ย์ ทางที่ดีที่สุดคือเปิดทำการในวันคริสต์มาส นั่นเป็นเทศกาลใหญ่ของคนยุโรปและอเมริกัน สามารถใช้โอกาสนี้ในการทำกำไรแรกสร้างการเริ่มต้นที่ดี
แต่ว่าครอบครัวฮิลตันไม่ยอม พวกเขากังวลว่าร้านอาหารต้นฉินจะเกิดเรื่องอะไร ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของโรงแรมฮิลตัน โดยเฉพาะช่วงวันหยุดคริสต์มาส แต่ละโรงแรมต่างต่อสู้กัน ใครก็ไม่กล้าให้เกิดปัญหา
จากนั้นผ่านการเจรจา สแตนลี่ย์ถอยก้าวหนึ่ง เปิดทำการในวันปีใหม่ วันคริสต์มาสทำการโฆษณา ถ้าครั้งนี้การเปิดร้านอาหารโรงแรมในเขตอเมริกาเหนือประสบความสำเร็จ อย่างนั้นก้าวต่อไปพวกเขาก็สามารถไปสู่ทั่วโลกแล้ว
มุมมองของฉินสือโอวและสแตนลี่ย์อยู่ที่ทั่วโลก ต้องรู้ว่าฮิลตันมีโรงแรมฮิลตันทั่วโลกกว่า 261 แห่ง โรงแรมตลาดกลางอย่างโรงแรม ‘สแกนดิก’ 142 แห่ง และโรงแรม ‘คอนราด’ 18 แห่ง ถ้าหากร้านอาหารต้าฉินสามารถยืมพลังได้สำเร็จ นั่นจะสร้างปรากฏการณ์ในการยืดครองตลาดได้!
และนี่ยังเป็นเพียงสถานะเริ่มแรกของร้านอาหารต้าฉิน สถานะระดับกลางคือเข้าร่วมพันธมิตรธุรกิจกับโรงแรมระดับโลก พันธมิตรนี้ไม่เหมือนกับพันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์ เขาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจโรงแรมที่จริงจังระดับโลก
และที่มีความมั่นใจขนาดนี้ เป็นเพราะว่าโรงแรมฮิลตันมตำแหน่งสำคัญในพันธมิตรทางธุรกิจโรงแรมระดับโลก มันกำกับดูแลโรงแรมมากกว่า 400 แห่งโดยตรง และมันมีผลกระทบต่อโรงแรมมากกว่า 2700 แห่งอีกด้วย!
สำหรับสถานะสุดท้ายของร้านอาหารต้าฉิน นั่นก็ค่อนข้างร้ายกาจแล้ว อาศัยพันธมิตรธุรกิจโรงแรมระดับโลกในการยืนอย่างมั่นคงในขอบเขตระดับโลกแล้ว ฉินสือโอวจะค่อยๆ แยกส่วนร้านอาหารออกมา สุดท้ายก่อเป็นตั้งบริษัทที่อิสระโดยสมบูรณ์
สแตนลี่ย์เป็นผู้จัดการใหญ่ทั่วโลกของร้านอาหารต้นฉินที่เขาแต่งตั้ง แน่นอนว่าประธานเป็นตัวเขาเอง และที่เขาให้เบิร์ดอยู่ด้วย เป็นเพราะอนาคตเบิร์ดต้องรับผิดชอบร้านอาหารเขตอเมริกาเหนือ!
นี่เป็นการตัดสินใจที่เขาคิดแล้วคิดอีก เบิร์ดซื่อสัตย์พึ่งพาได้ แม้ว่าความสามารถในการกำกับดูแลจะธรรมดา แต่เขาไม่จำเป็นจะต้องมีความสามารถในการกำกับดูแลจริง แต่ทำการมอบหมายสั่งการ ช่วยฉินสือโอวตรวจตราตลาดอเมริกาเหนือก็พอ
อีกอย่างที่ให้เบิร์ดมารับผิดชอบเขตอเมริกาเหนือยังมีข้อดีอีกอย่าง นั่นก็คือความสัมพันธ์ของเขาและฮิลตันคนน้อง คนทั้งสองรักกันจริง พวกเขาสามารถกลายเป็นกันชนระหว่างฉินสือโอวและครอบครัวฮิลตัน นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ไม่มีใครเทียบได้
……………………….