ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 181 แจ้งภาษีไตรมาสที่สอง
Q2 ก็คือไตรมาสที่สอง แน่นอนว่าแจ้งภาษีไตรมาสที่สองก็หมายถึงการแจ้งภาษีของฟาร์มปลาต้าฉินในไตรมาสที่สอง
ในตอนนั้นฉินสือโอวตระหนักได้ ต้นเดือนเมษายนถึงปลายเดือนมิถุนายน ตัวเขามาแคนาดาได้ทั้งไตรมาสแล้วนี่นา
หนึ่งไตรมาส สามเดือน หนึ่งร้อยวัน ไม่สั้นไม่ยาว ฉินสือโอวมองย้อนกลับไปแล้วแอบนึกว่าไตรมาสนี้มีสีสันมากกว่าสี่ปีหลังจากที่เขาเรียนจบเสียอีก
นี่สิชีวิต มีเรื่องใหม่ๆ มาให้ทำทุกวัน ไม่ใช่แค่ตื่นเก่าโมงเลิกงานห้าโมงนั่งรถเมล์เบียดๆ เวลาวันๆ หนึ่งบางทีก็ยุ่งกับการออกทะเล บางทีก็นั่งรับลมว่างๆ บนหาดทราย บางทีก็แกล้งพวกหมาโง่หมีบื้อ ทุกๆ วันช่างสวยงามจริงๆ
มองดูทะเลที่มีเกลียวคลื่น ฉินสือโอวนึกเรื่องอื่นเล็กน้อยแล้วค่อยคิดเรื่องภาษี
เออร์บักนั่งเช็ดผมอยู่ตรงข้ามกับฉินสือโอว เขาหยิบมือถือขึ้นมาหารายชื่อ ฉินสือโอวคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขอความช่วยเหลือจากเออร์บักด้วยความจำเป็น “นี่ แค่กๆ ลุงเออร์ คุณมีนักบัญชีเหมาะๆ ที่จะแนะนำให้ผมได้ไหม?”
เออร์บักส่ายหน้าอย่างจนใจ เขายื่นมือถือให้ฉินสือโอวแล้วพูดว่า “ฉันว่าที่พระเจ้าไม่รับฉัน เพราะรู้ว่าฉันยังดูแลเด็กที่ดูโตแต่จริงๆ หน่อมแน้มจนน่ากลัวอย่างนาย”
บนหน้าจอมีชื่อหนึ่งว่า ‘แอนโทนี่ ไวท์’ กับช่องทางติดต่อ ตรงช่องหมายเหตุระบุว่า ‘บริษัทบัญชีเดลเลอร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำสาขาออตตาวาแคนาดา’
ฉินสือโอวยื่นหน้าพูดยิ้มๆ “งั้นคุณก็ต้องขอบคุณผมสิ?”
เออร์บักก็ยิ้มออกมา เขามองฉินสือโอวด้วยสายตาแฝงความนัยก่อนจะเอ่ยขึ้น “ใช่ ฉันต้องขอบคุณนาย ฉิน”
โดนชายแก่มองมาแบบนั้น ที่สำคัญชายแก่คนนี้ยังฉลาดเป็นกรด สูงทั้งไอคิวและอีคิว แล้วยังอาจจะรู้ถึงเรื่องลับเกี่ยวกับหัวใจโพไซดอน ฉินสือโอวทำอะไรไม่ถูกเลยหัวเราะแฮะๆ แล้วพูดว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอก คุณนี่ขี้เกรงใจจริง เออ คุณพักเถอะ ผมไปหาข้อมูลเรื่องบริษัทบัญชีนี้หน่อย”
พอหาดูฉินสือโอวก็พบว่าบริษัทบัญชีเดลเลอร์นี่เก่งจริง เปิดตั้งแต่ปี 2010 จนทุกวันนี้ รายได้ทุกปีเกิน 26 พันล้านดอลลาร์แซงไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์กลายเป็นบริษัทบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำนักงานใหญ่ของบริษัทบัญชีนี้ตั้งอยู่ที่นิวยอร์กอเมริกา แต่เป็นของบริษัทอังกฤษที่ควบคุมหุ้นทั้งโลก ใน 126ประเทศมี พนักงาน 59,000 คน ในจำนวนนั้นมีคนแคนาดา 11,000 คน คนจีน 8,000 คน เป็นเจ้าในวงการการเงินอย่างไม่ต้องสงสัย
ลูกค้าส่วนมากของบริษัทบัญชีเดลเลอร์ก็มีแต่คนใหญ่คนโตเช่นบริษัทไมโครซอฟต์ พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เจเนรัลมอเตอร์อเมริกา โวดาโฟน กรุ๊ป ไครสเลอร์คอร์ปอเรชั่น การแจ้งภาษีทางบัญชีทุกปีก็ทำโดยพวกเขา
ฉินสือโอวโทรหาแอนโทนี่ ไวท์ พอฟังการแนะนำตัวจบ ชายวัยกลางคนที่มีน้ำเสียงราบเรียบก็พูดขึ้น “อ้อ คุณฉินจากเซนต์จอห์น? ทนายเออร์บักเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของคุณตอนนี้ใช่ไหม?”
ฉินสือโอวตอบรับ ทางแอนโทนี่ ไวท์ก็พูดต่อ “ทนายเออร์บักเคยติดต่อมาหาผมช่วงก่อนหน้านี้ เรื่องแจ้งภาษีในไตรมาสที่สองปล่อยเป็นหน้าที่เราเถอะครับ เอาแบบนี้ คุณช่วยเตรียมเอกสารก่อนหน้าวันที่ 1 เดือนกรกฎาคมส่งให้ผม ถ้าไม่มีเหตุไม่คาดคิด ภายในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคมผมจะส่งผลแจ้งภาษีสุดท้ายให้”
คุยโทรศัพท์เสร็จฉินสือโอวก็เปิดอีเมล ไม่เท่าไรก็มีอีเมลเด้งเข้ามา นั่นคือเอกสารที่แอนโทนี่ ไวท์ส่งมาโดยเฉพาะ ในนั้นระบุเอกสารที่ฉินสือโอวต้องเตรียม
รวบรวมของพวกนี้ส่งไปเรื่องก็จบแล้ว? ฉินสือโอวเกาหัว พอดีกับที่ซีมอนสเตอร์กับชาร์คคุยเล่นเดินผ่านข้างนอก เขาจึงถามขึ้น “เพื่อน ไตรมาสสองพวกนายต้องจ่ายภาษีไหม?”
ชาร์คยักไหล่แล้วพูดขึ้น “ทรัพย์สินของเราต่ำกว่าหลักแสน จ่ายภาษีทุกเดือนก็พอ ไม่ต้องจ่ายตามไตรมาส”
ซีมอนสเตอร์ที่ไม่ว่าจะเจออุปสรรคแค่ไหนก็ไม่เคยขมวดคิ้วในตอนนี้ขมวดคิ้วจนเป็นปมราวหนอนแล้วถอนใจ “ถึงต้นเดือนอีกแล้ว เดี๋ยวก็ต้องจ่ายภาษีอีก เจ้าพวกกรมสรรพากรมันพวกดูดเลือดดูดเนื้อ เห็นใบแจ้งทีไรฉันละปวดหัวทุกที”
“นั่นแปลว่านายมีรายได้นะเพื่อน แต่ก่อนตอนที่ฉันไม่ได้ใบภาษีไม่ปวดใจแต่กลัวจับใจเลยทีเดียว” ชาร์คพูดแซว
ซีมอนสเตอร์พยักหน้าก่อนฉีกยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น “ก็จริงนะบอส ขอบคุณมาก ถ้าไม่ใช่เพราะบอสให้งาน เกรงว่าตอนนี้ผมคงจะไปชายหาดน้ำตื้นจอร์จกับเจ้านายหน้าเลือดตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินเสียแล้ว”
“หรืออาจจะไปอะแลสกาจับปูยักษ์” ชาร์คพูดเสริม
ฉินสือโอวดีดนิ้วแล้วพูดขึ้น “พอๆๆ ที่ฉันอยากถามก็คือการแจ้งภาษีของพวกนายใครจัดการให้? อย่าบอกนะว่าคิดเอง ตอนนี้ฟาร์มปลาเราก็ต้องแจ้งภาษีแล้ว”
เมื่อกี้เขาดูข้อมูลมา ค่าใช้จ่ายบริษัทบัญชีเดลเลอร์ค่อนข้างสูงในวงการ เขาเลยอยากดูหน่อยว่ามีบริษัทบัญชีที่ถูกกว่านี้ไหม
เรื่องบางเรื่องก็เอาแต่พึ่งเออร์บักไม่ได้ เพราะที่ลุงรู้จักก็มีแต่คนใหญ่คนโตทั้งนั้น ฉินสือโอวรู้สึกว่าการแจ้งภาษีของฟาร์มปลาคงจะไม่ยากอะไร แค่ปล่อยประมูลผลงานศิลปะไปไม่กี่ชิ้น รายได้ก็มีแค่นั้น นอกนั้นก็มีแต่รายจ่าย คงจะคำนวณง่ายมากๆ ใช่ไหมนะ?
ชาร์คพูดขึ้น “เมื่อก่อนเราจะไปขอให้คนจากกรมสรรพากรในเมืองคำนวณให้ สองเดือนก่อนก็คือคุณเออร์บักที่ช่วยเราคิด เขาเก่งด้านนี้มากอยู่เหมือนกัน”
โห่ ถือเสียว่าฉันไม่ได้ถามก็แล้วกัน พอฉินสือโอวได้ยินแบบนั้นก็จนใจ เออร์บักสามารถคิดบัญชีง่ายๆ ได้ แต่ถ้าในเมื่อเขาแนะนำบริษัทบัญชีให้เขาละก็ เห็นได้ชัดว่าเขาจัดการเรื่องภาษีฟาร์มปลาไม่ได้
สองชายฉกรรจ์ช่วยเรื่องภาษีไม่ได้ ฉินสือโอวเลยถามเรื่องที่พวกเขาจะช่วยได้แทน “ฉันเตรียมจะปลูกสาหร่ายที่ฟาร์มปลา เพื่อนๆ มีความเห็นอะไรไหม?”
ชาร์คพยักหน้าและเอ่ยขึ้น “ตอนนี้ก็ถึงช่วงที่จะปลูกสาหร่ายแล้ว ฟาร์มปลาเราใหญ่พอ มีแนวทะเลบางเขตที่ยังไม่ได้ใช้งาน แนวทะเลใกล้ฝั่งรัศมีพันหมู่เอามาปลูกสาหร่ายได้ ถ้าผลผลิตดี ก็สร้างรายได้ได้สี่ห้าแสนเลยนะ”
“ปลูกตอนนี้จะไม่ช้าไปหน่อยเหรอ?” ฉินสือโอวถาม
ซีมอนสเตอร์ส่ายหน้าแล้วเอ่ยปาก “ไม่มีปัญหาเลย แม้ว่าเมล็ดสาหร่ายจะมีหลายพันธุ์ แต่เมล็ดสาหร่ายนิวฟันด์แลนด์ที่เราใช้เป็นเมล็ดที่โตในฤดูร้อนระหว่างเดือนมิถุนาและกรกฎาคม อีกอย่างเมล็ดฤดูร้อนพวกนี้ก็ไม่ใช่เราเพาะ จำเป็นต้องมีเรือนเพาะ แต่เราไม่มี”
หลังจากนั้นทั้งสองก็อธิบาย สาหร่ายอาจดูเผินๆ มีอยู่ทั่วไป ไม่ต้องใส่ใจมาก แต่จริงๆ แล้วเป็นของมีค่า
อันดับแรกคือเรื่องเพาะเมล็ด ต้นอ่อนสาหร่ายโตในเรือนเพาะ แต่เรือนเพาะจำเป็นต้องเลือกแถวโขดหินใกล้ผิวน้ำในเขตทะเลปลอดมลพิษ ต้องสร้างระบบทำความเย็น ต้องมีระบบหมุนเวียนดูดน้ำจากทะเลมากรอง แล้วยังต้องมีโครงสร้างห้องกระจกที่สามารถปรับระดับแสงที่ส่องได้ด้วย
หลังจากนั้นก็เป็นปัญหาของการเจริญเติบโต สาหร่ายนิวฟันด์แลนด์ดั้งเดิมรสอร่อย สารอาหารก็เยอะ แต่ปริมาณการผลิตต่ำเกินไป บางทีเจอพายุปริมาณก็ลดน้อยลงอีก เจอภัยปรสิตก็ลด อุณหภูมิสูงเกินไปก็ลด อุณหภูมิต่ำเกินไปก็ลดเหมือนกัน ดูแลลำบากมาก
เพียงแต่ว่าฟาร์มปลาปล่อยว่างก็เสียเปล่า ฉินสือโอวคิดๆ ดูแล้วก็ตัดสินใจจะลองปลูกจำนวนน้อยๆ ดูก่อน
ตอนนี้รัฐบาลแคนาดาสนับสนุนให้ปลูกสาหร่าย นำเสนอบริการตั้งแต่ต้นยันจบของการปลูกสาหร่าย ลูกปลา ต้นอ่อนล้วนรับผิดชอบโดยพวกบริษัทอาหารทะเล ฟาร์มปลาขอแค่จ่ายเงินและให้ใช้สถานที่เท่านั้น
ส่วนเรื่องขายน่ะเหรอ? สาหร่ายนิวฟันด์แลนด์ขึ้นชื่อมาก ขอแค่ไม่ขาดของ ผลิตออกมาได้ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องขาย
………………………………………………………