ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1815 มื้อใหญ่กลางทะเล
ฉินสือโอวจับปลาไหลได้มาสิบกว่าตัว ตอนที่ดึงกระบอกไม้ไผ่ขึ้นมา ในนั้นก็มีปลาไหลตัวเล็กอยู่หลายตัวแล้ว นี่ไม่ใช่ปลาที่เขาตกได้ แต่เป็นปลาที่มุดเข้ามาเอง บนผิวน้ำเองก็มีปลาไหลโผล่มาให้เห็นอยู่เป็นพักๆ เช่นกัน
นี่เป็นเรื่องที่พบเจอได้ยากในน่านน้ำแถบอื่น ในปัจจุบันปลาไหลอเมริกันเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทะเลที่ล้ำค่าในมหาสมุทรแอตแลนติก เหตุผลที่มันล้ำค่าขนาดนี้ ก็เกี่ยวกับที่มันมีปริมาณที่น้อย แต่ว่าในฟาร์มปลาแล้วปลาไหลไม่ถือว่าเป็นของหายากขนาดนั้น
จับปลาไหลตัวเล็กขึ้นมา ฉินสือโอวให้เถียนกวาโยนกลับลงไปในทะเล เถียนกวากะพริบตาปริบๆ อย่างงงงวยถามว่า “ทำไมคะ? ตัวเล็กก็อร่อยเหมือนกัน นุ่มมากด้วย!”
ฉินสือโอวถามอย่างแปลกใจว่า “หนูเคยกินปลาไหลเหรอ? ใครให้หนูกินคะ?”
เถียนกวาส่ายหัว กัดนิ้วน้อยๆ ที่เนียนนุ่มนั้นแล้วพูดพึมพำออกมาว่า “เถียนกวาไม่เคยกิน เถียนกวากินแค่ผลไม้กับเนื้อ คุณแม่บอกว่าอันเล็กอร่อย”
ฉินสือโอวลูบหัวเล็กๆ ของเธอ ยิ้มแล้วพูดว่า “อื้ม คุณแม่พูดถูก แต่ว่าปลาเล็กสัตว์เล็กกินไม่ได้นะ พวกมันก็เหมือนกับเถียนกวา ยังไม่โต ยังไม่เคยเห็นโลกที่สวยงามมาก่อน ถ้ากินพวกมันไปทั้งอย่างนี้เลยจะโหดร้ายเกินไปหรือเปล่าคะ? ไป ปล่อยพวกมันลงไปในทะเลเถอะ “
เถียนกวาพยักหน้าเหมือนเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง จับปลาไหลขึ้นมาแล้วไปนั่งปล่อยอยู่ตรงริมชายฝั่งเกาะล่องแก่ง ขาสั้นๆนั้นวิ่งไปมาอยู่หลายรอบ ในที่สุดก็ปล่อยปลาไหลจนหมด
ฉินสือโอวชมไปทีว่าเป็นเด็กดีจริงๆ เถียนกวายิ้มอย่างได้ใจออกมา
เขาจับปลาตัวเมียพวกนี้ขึ้นมาเพื่อเตรียมทำอาหาร เถียนกวาดึงเขาไว้ แล้วเงยหน้ามองอย่างคาดหวังว่าพร้อมพูดว่า “ป่าป๊า ป่าป๊า ชมกวาๆ อีก ชมอีกสิคะ”
ฉินสือโอว “…”
พี่สาวของฉินสือโอวมองดูแล้วก็ยิ้มอยู่ข้างๆ เธอรับปลาไหลมาแล้วพูดว่า “พวกเธอสองพ่อลูกอยู่เล่นกันเถอะ พี่มาจัดการปลาพวกนี้เอง ก็แค่ตัดหัวกับล้างท้องข้างในเองใช่ไหม?”
ฉินสือโอวส่ายหัว พูดว่า “ผมมาทำเองดีกว่าครับ ปลาไหลเตรียมยาก จะต้องระวังดีปลาไหล มันซ่อนอยู่ในเครื่องใน ถ้าไม่ระวังก็จะทำให้มันแตก ถ้าเป็นแบบนั้นเนื้อก็จะไม่อร่อยแล้ว “
หนังของปลาไหลตามธรรมชาติมีความเหนียวมาก แถมยังมีเมือกเหนียวคลุมอยู่อีกชั้นหนึ่งเหมือนกับปลาไหลน้ำจืดอีกด้วย ทำให้กะตำแหน่งได้ยากมาก นี่จะต้องใช้น้ำแร่มาล้างก่อนรอบหนึ่ง เพื่อล้างเอาเมือกเหนียวออกแล้วค่อยตัดหัว จากนั้นก็ใช้มีดผ่าปลาผ่าตรงกลางออกอย่างเบามือ แล้วใช้ปลายมีดงัดเครื่องในออกมา สุดท้ายยังต้องใช้มีดหัวตัดเลาะเอากระดูกสันหลังออกมาอีก อีกหนึ่งเหตุผลที่ปลาไหลเป็นที่นิยมของคนผิวขาวอย่างยุโรปและอเมริกาก็คือก้างน้อย นอกจากกระดูกสันหลังใหญ่แล้ว ก้างที่เหลืออยู่ก็มีแต่พวกก้างปลาเล็กๆ บนหลังของมันเท่านั้น สามารถกินได้
หลังจากรอเขาผ่าท้องปลาไหลเสร็จแล้ว พี่สาวของฉินสือโอวก็มารับเอาไปล้างน้ำเปล่าต่อ บนเรือมีเครื่องแปลงน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืดอยู่ แม้ว่าน้ำจืดที่ได้จะไม่ถึงมาตรฐานที่สามารถนำมาดื่มได้เลย แต่สามารถเอามาอาบน้ำและล้างผักได้ สะดวกเป็นอย่างมาก
เนื้อปลาไหลที่ล้างจนสะอาดแล้วมีสีชมพูอ่อนที่สวยงาม ใช้นิ้วกดลงไปที่เนื้อเบาๆ เนื้อจะยุบลงไป แต่พอยกนิ้วขึ้นเท่านั้นเนื้อปลาก็จะเด้งกลับขึ้นมาทันที นี่ก็คือสิ่งที่เนื้อปลาไหลที่เลี้ยงเองไม่สามารถทำได้
ปลาไหลพวกนี้แต่ละตัวล้วนมีความยาวหกสิบเซนติเมตรขึ้นไปทั้งนั้น ปลาแต่ตัวตัดแบ่งออกเป็นสิบส่วน พวกมันมีกระดูกสันหลังแค่ส่วนเดียว แถมกระดูกส่วนนี้ยังถูกเลาะออกมาแล้วอีก ทำให้เนื้อปลาแบะออก ราวกับแผ่นเนื้อทั่วไป ที่หนาบางเท่าๆ กัน นี่ก็เป็นจุดเด่นของปลาไหลธรรมชาติเช่นกัน เนื้อทุกส่วนในร่างกายเติบโตได้ดีเท่าๆ กัน
ถือโอกาสที่เนื้อปลายังสดอยู่ ฉินสือโอวตั้งน้ำมันให้ร้อนแล้วนำเนื้อไปทอดในนั้นสองสามที รอจนเนื้อปลามีสีออกเหลืองแล้วเขาก็นำขึ้นทันที เขาเติมน้ำมัน ซีอิ๊ว ซอสเปรี้ยวและเมเปิ้ลไซรัปลงไปนิดหน่อย เครื่องปรุงใช้เพียงเท่านี้ไม่จำเป็นต้องเติมอย่างอื่นเข้าไปอีก เพราะจะต้องรักษารสชาติที่หอมหวานของเนื้อปลาไหลไว้
พอนำเนื้อปลาไปหมักแล้ว เขาก็ไปเตรียมของอย่างอื่น โดยนำสาหร่ายคอมบุและสาหร่ายโนริแห้งที่นำมาจากบนฝั่งมาซอยให้เป็นเส้นๆ แล้วนำไปผสมกับต้นหอม พอเนื้อปลาหมักได้ที่แล้ว ก็ตั้งน้ำมันเริ่มการทอดอีกรอบ การทอดครั้งนี้จำเป็นต้องคุมระดับไฟให้ดี หลังนำเนื้อปลาลงไปทอดได้สักพักแล้วก็ทำการเทซอสที่เตรียมไว้ลงไปต้มด้วย อาหารจานนี้ไม่สามารถพึ่งแต่การทอดอย่างเดียวได้ ไม่อย่างนั้นเนื้อปลาที่นุ่มละมุนนั้นจะถูกทอดจนแข็งได้
ซอสปรุงรสสีดำแดงกำลังเดือด ‘ปุดๆ’ กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารทะเลได้ลอยฟุ้งออกมา เถียนกวาที่เล่นอยู่ข้างนอกสูดจมูกไปมา แล้วก็รีบวิ่งเข้ามาหาถ้วยเล็กของตัวเอง แล้วอุ้มถ้วยเล็กนั้นนั่งรออยู่ข้างโต๊ะกินข้าวอย่างสงบเสงี่ยม
พี่เขยและพ่อของฉินสือโอวทำการเตรียมปลาชนิดอื่นๆ มีปลาหิมะขนาดกลางตัวหนึ่ง ปลาลิ้นหมาตัวหนึ่ง ปลากะพงญี่ปุ่นตัวอ้วนสองตัวและปลาแฮร์ริ่งอีกจำนวนหนึ่ง เนื้อปลาจำนวนมากมาย บวกกับผักสดที่เอามาจากสวนผัก เพียงพอให้คนทั้งกลุ่มกินกันแล้ว
เนื่องด้วยมีแสงดาวที่ส่องแสงเป็นประกายแต่ก็ดูเยือกเย็นอยู่ พี่สาวของฉินสือโอวยืนพิงประตูห้องโดยสารแล้วมองออกไปข้างนอก แล้วพูดชมออกมาว่า “ที่แท้ค่ำคืนบนทะเลสวยแบบนี้นี่เอง แถมพี่ยังเคยคิดว่าอากาศบนทะเลจะเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นคาวเสียอีก ฤดูร้อนปีที่แล้วพี่กับพี่เขยของนายไปเที่ยวกันที่เมืองไหเต่า ก็รู้สึกว่าน้ำทะเลที่นั่นกลิ่นไม่ค่อยดีเลย แต่ว่าที่นี่ถือว่าไม่เลว”
ฉินสือโอวพลิกเนื้อปลาไหลไปพลางหัวเราะไปพลางพูดว่า “ความจริงปกติก็มีกลิ่นคาวนั่นแหละ แต่ว่าไม่มีกลิ่นเหม็น พวกปลากุ้งกับสาหร่ายของผมที่นี่พอตายแล้วจะไม่เน่าจนส่งกลิ่นเหม็นออกมา แต่จะถูกสัตว์ที่กินซากสัตว์กินแทน แต่ว่าพวกพี่โชคดี ก่อนหน้านี้เพิ่งมีลมพายุไป กลิ่นคาวบนทะเลก็ถูกพัดหายไปด้วย เมื่อไม่มีการหมุนเวียนของกระแสน้ำ ทำให้กลิ่นคาวของทะเลไม่ลอยขึ้นมา ดังนั้นผมถึงได้พาพวกพี่มาออกทะเลไงครับ นี่น่ะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการออกทะเลในฤดูหนาวเลย”
ซอสปรุงรสถูกต้มจนข้นหนืดแล้ว เขาปิดไฟปิดฝาครอบไว้ให้น้ำซอสซึมเข้าไปในตัวปลาไหลอีกสักพัก ทำแบบนี้จะได้ถึงรสถึงชาติมากขึ้น
ต่อไปก็คือการทำเมนูปลาจานอื่นต่อ ปลากะพงมีตัวหนึ่งนำไปทอดอีกตัวนำไปย่าง ปลาค็อดนำมานึ่งทั่วๆ ไป ปลาลิ้นหมานำมาทาน้ำมันกับซอสแล้วใส่เข้าไปอบในเตาจนสุก ส่วนปลาแฮร์ริ่งกับปลาซาบะนำมาตัดหัวผ่าท้องแล้วเอาไปทอด
มองดูพ่อของฉินสือโอวทอดปลาแล้ว เสี่ยวฮุยก็ยิ้มให้กับเชอร์ลี่ย์แล้วพูดว่า “คุณย่าของฉันทำปลาทอดอร่อยมากเลย เดี๋ยวเธอต้องกินเยอะๆ นะ”
กอร์ดอนแหย่เสี่ยวฮุย เบะปากพูดว่า “ทำไมนายบอกแค่กับเชอร์ลี่ย์ล่ะ? ให้เชอร์ลี่ย์กินเยอะๆ แล้วฉันล่ะ? ฉันเองก็อยากกินเยอะๆ บ้าง ได้ไหม?”
เสี่ยวฮุยเป็นคนขี้อาย จึงเกาหัวอย่างเกร็งๆ แล้วพูดว่า “มันก็ได้นะ”
เชอร์ลี่ย์เตะขาไปข้างหลังเงียบๆ เตะไปโดนเข่าของกอร์ดอนอย่างจัง ทำเอาเขาเจ็บจนอ้าปากค้างไว้ รวบรวมแรงพูดออกมาว่า “เชอร์ลี่ย์ เธอเป็นบ้าอะไรอีก…”
“นายออกมานี่ ฉันจะบอกนายเองว่าฉันเป็นบ้าอะไร” เชอร์ลี่ย์ยิ้มหวานไปทีหนึ่ง แล้วก็หันหลังไปยื่นมือดึงหูของกอร์ดอนอย่างรวดเร็วแล้วลากเขาออกไปจากห้องอาหารบนเรือ กอร์ดอนร้องอย่างเจ็บปวดไปด้วยร้องขอชีวิตไปด้วย เถียนกวาที่อุ้มถ้วยข้าวอยู่เอียงคอมองดูอย่างตั้งใจ ตาดวงโตกะพริบปริบๆ ไปมา ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
ฉินสือโอวเห็นสภาพน่าอนาถของกอร์ดอนแล้ว ก็ตบมือแล้วพูดว่า “เชอร์ลี่ย์ปล่อยเขาไปเถอะ เธอไปล้างมือ พวกเรากินข้าวกัน รีบกินข้าวกันเถอะ”
เชอร์ลี่ย์ใช้มือตบเบาๆ ไปที่หน้าของกอร์ดอน ยิ้มแล้วพูดว่า “ไปขอบคุณฉินที่ช่วยชีวิตนายไว้ซะนะ” จากนั้นเธอก็ไปล้างมือหัวหน้าตาที่ดุร้าย เธอกดสบู่ล้างมืออยู่หลายครั้ง และพูดอยู่ตลอดว่าหูของกอร์ดอนสกปรก
เมื่อกินอาหารบนทะเลแล้วก็ต้องดื่มเหล้าด้วย ทะเลในฤดูหนาวเย็นชื้นมาก สามารถเย็นเข้าไปถึงกระดูกคนได้เลย ฉินสือโอวหยิบเอาบรั่นดีออกมาขวดหนึ่ง ปริมาณแอลกอฮอล์สูง ความแรงได้ที่ รสชาติทั้งเผ็ดทั้งแรง นี่คือเหล้าที่เหล่าชาวประมงเตรียมไว้ดื่มตอนออกทะเล มีเอกลักษณ์มาก
นอกจากตั่วตั่วแล้ว ทุกคนรวมถึงเหล่าวัยรุ่นก็ล้วนได้มากันคนละแก้ว การมาค้างคืนบนทะเลแล้วได้ดื่มเหล้าแรงๆสักนิดส่งผลดีต่อร่างกาย
กลิ่นหอมของเหล้ากับรสชาติที่หอมหวานของปลากุ้งนั้นเข้ากันได้อย่างที่สุด ยิ่งถ้าได้แกล้มกับความหอมของผักสดแล้ว เท่ากับมื้อใหญ่กลางทะเลได้เริ่มขึ้นแล้ว
………………………