ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1816 เทศกาลช็อปปิ้งของเชื้อสายจีน
ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางทะเลไปสองคืนหนึ่งวัน ฉินสือโอวใช้พลังโพไซดอนสำรวจดูใต้ทะเล เขาได้เปลี่ยนสถานที่ไปสองที่ พากลุ่มของพ่อแม่และพี่สาวไปตกปลาตามที่ต่างๆ ทำให้ตกได้ปลาและกุ้งหลากหลาย สัมผัสชีวิตของชาวประมงบนทะเลกันสักครั้ง
สองวันมานี้อากาศไม่เลวมาตลอด บนทะเลไม่มีคลื่นลมแรง ผิวน้ำทะเลในตอนนี้สงบนิ่งราวกับกระจกสีฟ้าบานใหญ่บานหนึ่ง ทั้งไร้ขอบเขตและใสสะอาด พอถึงคราวที่ผืนน้ำทะเลเงียบสงบทีไร ฉินสือโอวก็คิดอยากจะไปยืนอยู่บนผิวน้ำทุกครั้งไป
พวกพ่อของฉินสือโอวได้พากันชมไม่หยุดปาก สุดท้ายตอนที่กลับไปถึงแถบชายฝั่งทะเลแล้ว พี่เขยก็พาเสี่ยวฮุยไปพายเรือคายัคบนทะเลกัน น้ำตื้นแต่ใสสะอาด แสงอาทิตย์ส่องสว่างลงไป ทำให้น้ำทะเลที่สะอาดนั้นเหมือนไม่มีอยู่จริง ราวกับว่าพวกเขากำลังพายเรืออยู่บนท้องฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
ชีวิตหลังจากนี้ทั้งเรียบง่ายและสงบสุข ฉินสือโอวตื่นเช้ามาออกกำลังกาย เหล่าวัยรุ่นปิดเทอมกันแล้ว งานเก็บกวาดคอกม้าตกเป็นหน้าที่ของกอร์ดอน ตอนหลังเสี่ยวฮุยที่โดนกอร์ดอนหลอกล่อก็ตามไปเก็บกวาดขี้ม้าด้วย พ่อกับแม่ของฉินสือโอวอยู่เล่นเป็นเพื่อนกับเถียนกวา เมื่อเป็นแบบนี้เขาจึงไม่มีอะไรทำ
ธุรกิจฟาร์มปลาติดตลาดแล้ว ชาร์คได้จัดแจงให้เหล่าชาวประมงออกทะเลเก็บเกี่ยวปลา เพราะทรัพยากรปลาที่สมบูรณ์ พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องไปเก็บเกี่ยวปลาตรงทะเลลึกอีกต่อไป จึงทั้งปลอดภัยและประหยัดเวลา ทางสมาคมการประมงเองก็ไม่มีปัญหาอะไร วิธีการที่ร้ายกาจของฉินสือโอวได้เอาพวกลักลอบขโมยปลาเสียอยู่หมัด เป็นเวลาสิบกว่าวันแล้วที่ไม่มีโจรลักลอบขโมยปลาโผล่มาให้เห็นอีกเลย ทำให้เหล่าเจ้าของฟาร์มปลาวางใจได้ในที่สุด
ฉินสือโอวชื่นชอบชีวิตที่เงียบสงบแบบนี้มาก เพราะว่าวินนี่ใกล้จะคลอดแล้ว พ่อแม่ของฉินสือโอว มิแรนด้ามาริโอ้กับพี่สาวที่มาเยี่ยมได้จัดการธุระในบ้านไปหมด เขาไม่ต้องทำอะไรเลย ข้าวมาอ้าปากเสื้อมาอ้าแขน แค่อยู่เป็นเพื่อนกับวินนี่ก็พอแล้ว
เริ่มตั้งแต่วันที่ยี่สิบเดือนมกราคมตามปฏิทินจันทรคติ เมืองต่างๆ ในแคนาดาได้เริ่มจัดงานประจำปี (เหนียนจี๋) กัน นี่เป็นวัฒนธรรมที่ชาวเชื้อสายจีนนำเข้ามา แต่ถูกคนท้องถิ่นนำไปสานต่อให้ใหญ่โต โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆที่มีชาวเชื้อสายจีนอยู่มากมายอย่างออตตาวา แวนคูเวอร์และโทรอนโต เหล่าพ่อค้ารู้ดีว่าวันเหล่านี้เป็นวันที่ทำเงินจากเชื้อสายจีนได้ดีที่สุด ดังนั้นจึงทำการจัดโปรโมชั่นต่างๆ นานาโดยมุ่งเน้นไปที่ชาวเชื้อสายจีนโดยเฉพาะ
ในสถานการณ์แบบนี้ มีบางเมืองที่จัดงานสัปดาห์ลดราคาวันตรุษจีนขึ้น เป็นงานที่คล้ายกับงานลดกระหน่ำก่อนวันคริสต์มาส ราคาสินค้าถูกและคุ้มค่า ดึงดูดชาวเชื้อสายจีนไปซื้อได้จำนวนมาก สุดท้ายพอคนเยอะแล้วจึงทำให้เหมือนกับงานเหนียนจี๋ตามหมู่บ้านชนบทของประเทศจีนไป
พอดีกับที่ตอนนี้เศรษฐกิจของหลายๆ พื้นที่ไม่ดี ทางรัฐบาลจึงถือโอกาสนี้จัดงานเทศกาลขึ้นมางานหนึ่ง เรียกว่าเทศกาลช้อปปิ้งวันตรุษจีน งานจัดขึ้นทั้งหมดสองวัน เวลาในการจัดงานของแต่ละพื้นที่จะไม่เหมือนกัน แต่มีเป้าหมายเหมือนกัน ก็คือทำการล้วงเงินจากกระเป๋าของเศรษฐีเชื้อสายจีน
ชาวเชื้อสายจีนเป็นชนชาติที่ประหยัดและขยันที่สุดในโลก และน่าจะเป็นหนึ่งเดียวอีกด้วย ชาวเชื้อสายจีนในแคนาดาไม่ว่าจะทำงานอะไร ก็มีเงินเก็บมากกว่าคนผิวขาวในท้องที่และคนเชื้อชาติอื่นๆ รัฐบาลของแต่ละเมืองเพื่อที่จะทำกำไรจากชาวเชื้อสายจีนได้ระดมความคิดกันสุดฤทธิ์ เมื่อเห็นว่างานเหนียนจี๋ให้ผลตอบแทนที่ดี จึงพากันสนับสนุนงานประเภทนี้เต็มที่
วันที่ยี่สิบสี่และยี่สิบห้าเดือนมกราคม ทางเมืองเซนต์จอห์นก็จัดงานช้อปปิ้งวันตรุษจีนด้วยเช่นกัน ความจริงจำนวนชาวเชื้อสายจีนที่นี่ไม่ถือว่าเยอะ แต่ว่าที่นี่คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในนิวฟันด์แลนด์และยังเป็นเมืองเดียวที่ใหญ่พอสามารถจัดงานประเภทนี้ได้ ดังนั้นเมื่องานถูกจัดขึ้นเพื่อชาวเชื้อสายจีนโดยเฉพาะ ทำให้ชาวเชื้อสายจีนจากทั่วนิวฟันด์แลนด์พากันมาที่นี่ แถมงานยังไม่เล็กอีกด้วย
ฉินสือโอวได้รับแจ้งจากการปกครองส่วนท้องถิ่นให้เขาไปร่วมเปิดงานในฐานะแขกพิเศษ นอกจากนี้แล้วประธานสมาคมช่วยเหลือชาวจีนในนิวฟันด์แลนด์เอี๋ยนตงเหล่ยก็ถูกเชิญด้วย ฉินสือโอวรู้สึกว่างานประเภทนี้สามารถช่วยยกระดับทางสังคมของคนจีนในนิวฟันด์แลนด์ได้ จึงตอบรับไปอย่างเต็มใจ
เช้าวันที่ยี่สิบสี่เดือนมกราคม เขาพาคนทั้งครอบครัวนั่งเรือออกเดินทางไปเซนต์จอห์น แม้แต่หู่จือกับเป้าจือก็ถูกพาไปด้วย ทั้งครอบครัวใหญ่พากันออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน
วินนี่ที่อุ้มท้องโตอยู่ก็ขึ้นเรือไปด้วย เธอมาออกงานคู่ฉินสือโอว ถึงตอนนั้นแค่ออกไปให้ผู้คนเห็นก็กลับได้แล้ว พอดีเลยจะได้ไปตรวจครรภ์ครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่อีกด้วย ถ้าไม่ติดปัญหาอะไร เธอน่าจะได้คลอดหลังตรุษจีนเลย
อาจจะเพราะได้รับแรงกระตุ้นจากความสำเร็จในการจัดงานเทศกาลช้อปปิ้งของโทรอนโตและแวนคูเวอร์ เพราะแค่วันแรกทางเซนต์จอห์นก็เริ่มรวบรวมพ่อค้ามาจำนวนมาก มีพ่อค้ามากมายที่ขับรถไม่ก็นั่งเรือมาจากรัฐอื่น ทางเซนต์จอห์นตั้งใจเลียนแบบเทศกาลเหนียนจี๋ตามหมู่บ้านชนบทในประเทศจีน โดยการปิดถนนเส้นใหญ่เส้นหนึ่งโดยเฉพาะเพื่อให้เหล่าพ่อค้าใช้ขายของ
ฉินสือโอวเจอหน้ากับแฮมเล็ตแล้วก็กอดกัน สีหน้าแฮมเล็ตเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ใช้ภาษาจีนงูๆ ปลาๆ พูดว่า “สวัสดีปีใหม่ ฉิน สวัสดีปีใหม่ วินนี่ ปีหน้านี้ขอให้พวกคุณราบรื่นในทุกเรื่อง มา นี่คืออั่งเปา อั่งเปาใหญ่ให้แฮทธาเวย์ อั่งเปาเล็กให้เจ้าหนูในท้องของคุณครับ”
วินนี่รับซองมาแล้วกล่าวขอบคุณ บนถนนเอะอะเสียงดังมาก ฉินสือโอวถามเธอว่ารู้สึกเสียงดังมากไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวจริงๆ จะส่งเธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลก่อน
วินนี่ส่ายหัวบอกว่าไม่เป็นไร ให้เขากับแฮมเล็ตไปเตรียมการเปิดงานที่กำลังจะเริ่มขึ้นก็พอแล้ว
หลังจากแฮมเล็ตเจอกับพวกเขาสองคนแล้วเข้ามากอดเสร็จ ก็ไปทักทายพ่อกับแม่ของฉินสือโอวกับพี่เขยทีละคน มิแรนด้ากับมาริโอ้รู้สึกว่าการทำแบบนี้เป็นเรื่องปกติ พ่อกับแม่ของฉินสือโอวเมื่อได้รู้ว่าชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดีคนนี้เป็นผู้ว่าการจังหวัดแล้ว ก็รู้สึกทั้งดีใจและตื่นตระหนก ตอนที่จับมือกับแฮมเล็ตก็ยื่นไปจับทั้งสองมือ พ่อของฉินสือโอวยังพูดขอบคุณแฮมเล็ตอีกด้วยว่า “ขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณผู้กำกับ ชีวิตของพวกเรายิ่งอยู่ยิ่งดีขึ้นทุกวัน”
ระดับภาษาจีนของแฮมเล็ตน่าประทับใจก็จริง ให้เขาท่องคำจำพวกสวัสดีปีใหม่กับคำอวยพรให้ร่างกายแข็งแรงนั้นพอไหว แต่พ่อของฉินสือโอวที่พูดจีนติดสำเนียงท้องถิ่นนั้นไม่ต่างอะไรกับภาษาต่างดาวเลย แต่เขาก็ยังคงยิ้มแย้มแล้วพยักหน้าติดๆ จากนั้นก็ไปแอบไปถามล่ามว่าคนสูงอายุสองท่านนี้พูดว่าอะไร
ล่ามเองก็กระอักกระอ่วน จึงพูดกลบเกลื่อนไปว่าคนสูงอายุทั้งสองท่านชมคุณว่าทำงานดี อวยพรให้คุณราบรื่นในชีวิตการงาน แฮมเล็ตจึงรีบกล่าวขอบคุณตอบไป ขอบคุณคำอวยพรของทั้งสองท่าน
พิธีเปิดงานดำเนินการแบบง่ายๆ งานเทศกาลของบางพื้นที่ในนิวฟันด์แลนด์จะมีโลโก้เป็นของตัวเอง แฮมเล็ตนำสมาชิกของสภาเมือง ฉินสือโอวและชาวเชื้อสายจีนในท้องถิ่นไปเปิดผ้าแดงเผยโลโก้ออกมา จากนั้นก็พูดคำอวยพรไม่กี่คำเป็นพิธี เท่านี้เทศกาลการซื้อของก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
ฉินสือโอวให้พ่อแม่และคนอื่นๆรวมกลุ่มกันไปซื้อของ พ่อของฉินสือโอวเห็นว่าคนเยอะวุ่นวาย กังวลว่าจะมีคนมาลักตัวเถียนกวาไป ฉินสือโอวจึงพูดออกไปอย่างไม่ใส่ใจว่า “พวกพ่อเอาลูกมาให้ผมแล้วกัน ไว้ใจเถอะครับ ไม่หายแน่นอน หู่จือกับเป้าจือก็อยู่ด้วยนะครับ”
พ่อของฉินสือโอวพูดอย่างกังวลว่า “ลูกอย่าอะไรๆ ก็พึ่งหมาไปเสียหมดสิ ถึงหู่จือกับเป้าจือจะฉลาดแค่ไหนพวกมันก็ยังเป็นสัตว์นะ อีกอย่างคนเยอะขนาดนี้ เบียดกันไปเบียดกันมาแม้แต่ผู้ใหญ่ยังถูกเบียดจนหายไปได้เลย นับประสาอะไรกับหมาแล้วก็เด็กล่ะ?”
ฉินสือโอวแบกเถียนกวาขึ้นไหล่แล้วบอกให้พวกเขาไปซื้อของอย่างสบายใจได้เลย เขาดูแลเด็กได้ดีแน่นอน
พ่อกับแม่ของฉินสือโอวยังคงพูดย้ำเขาอีกสักพัก แล้วค่อยตามพี่สาวฉินสือโอวกับพวกวัยรุ่นไปเดินตลาดซื้อของกัน
รอจนพ่อกับแม่จากไปแล้ว ฉินสือโอวก็ปล่อยเถียนกวาที่อยู่บนไหล่เขาลงมาให้หู่จือกับเป้าจือ ตบหัวเจ้าสองตัวเล็กเบาๆ พูดว่า “ดูแลองค์หญิงเล็กให้ดีเข้าใจไหม? ถ้าเกิดหายไปขึ้นมา ฉันจะเอาพวกนายสองตัวไปตุ๋นกินเสีย”
หู่จือกับเป้าจือแลบลิ้นมองเขาอย่างซื่อๆ เพื่ออ้อนเขา เถียนกวาอยากจะไปซื้อของและดูผู้คน แต่ในตอนนี้เมื่อไรก็ตามที่เธอเดินออกไป หู่จือกับเป้าจือก็จะไล่เธอกลับมา
………………