ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1818 ซื้อซื้อซื้อ
ต่อคิว หาหมอ ตรวจร่างกาย รอผลตรวจ รับอาหารเสริม จบเรื่อง
กระบวนการทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ทำเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ฉินสือโอวเห็นว่าวินนี่ปกติในทุกๆ ด้านแล้วก็วางใจลง ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คาดไว้อยู่แล้ว เพราะเขาได้ใช้พลังโพไซดอนบำรุงร่างกายให้วินนี่กับเด็กเป็นระยะๆ อยู่แล้ว ดังนั้นระบบต่างๆ ในร่างกายจึงอยู่ในระดับที่ดีมาก
ตอนรับยาบำรุงได้เกิดการโต้เถียงกันเล็กน้อย วินนี่ไม่อยากกินของพวกนี้ ฉินสือโอวเองก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องกินของพวกนี้ หากว่าร่างกายของคุณแม่ไม่มีปัญหาอะไร หมอของแคนาดาก็ไม่แนะนำให้คุณแม่กินพวกยาบำรุงด้วยเหมือนกัน
แต่ว่าผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายขอให้วินนี่กินของพวกนี้ เพื่อเพิ่มแคโรทีน ลูทีน และวิตามินต่างๆ เป็นต้น พ่อกับแม่ของฉินสือโอวเห็นว่าคุณแม่ที่บ้านเกิดพอตั้งครรภ์แล้วก็ล้วนกินของพวกนี้ มิแรนด้าและมาริโอ้ก็คิดว่าวินนี่อาศัยอยู่ที่ฟาร์มปลาใกล้กับทะเลทำให้ร่างกายมีปัญหาได้ง่าย สุดท้ายเมื่อทั้งสองฝ่ายมีความคิดเห็นเดียวกัน วินนี่ไม่อยากบำรุงก็ต้องบำรุง…
“ฟังคำผู้ใหญ่เถอะ กินอันนี้ก็ถือว่าเป็นการบำรุงให้ลูกแล้วกัน” ฉินสือโอวปลอบวินนี่เหมือนกับกำลังปลอบเด็กอยู่ วินนี่ก็ส่ายหัวเหมือนเด็ก ครั้งนี้เธอไม่ยอมให้ “ฉันจะคลอดเร็วๆ นี้แล้วนะคะ ฉิน ฉันไม่อยากกินอะไรไปเรื่อยเปื่อย”
เถียนกวาหัวเราะร่ามือถืออมยิ้มไว้อันหนึ่งแล้ววิ่งมาอวด บอกว่านี่เป็นของที่พี่สาวพยาบาลให้เธอมา
ฉินสือโอวกับวินนี่มองไปที่เธอ จากนั้นสายตาก็เปลี่ยนไปเป็นสายตาเจ้าเล่ห์ทันที พวกเขามองดูเถียนกวาแล้วมองกันและกัน ฉินสือโอวพูดเสนอเสียงเบาว่า “ไปซื้อของบำรุงสำหรับเด็กกันเถอะ เอาไปโชว์ให้พ่อแม่ดูก็พอ แล้วเอาให้เถียนกวากิน”
“ฉิน นี่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณนะคะ คุณทำแบบนี้ได้อย่างไร? แต่ฉันรู้สึกว่าความคิดนี้ดี งั้นเอาตามนี้” วินนี่ตอบตกลงอย่างมีความสุข
เถียนกวากระโดดขึ้นนั่งบนเก้าอี้ แกว่งขาสั้นน้อยๆ ไปมาอย่างมีความสุข แล้วแลบลิ้นสีชมพูออกมาเลียอมยิ้มอย่างดีใจ ระหว่างเลียอยู่ก็กินอวดหู่จือกับเป้าจือไปพลาง แล้วยังส่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างสุขใจไปด้วย ไม่รู้เลยว่าถูกพ่อแม่ของตัวเองขายเสียแล้ว
หลังจากถือถุงอาหารเสริมสำหรับลูกสาวขึ้นมาแล้ว ฉินสือโอวก็ผิวปาก แล้วพาหู่จือกับเป้าจือออกจากโรงพยาบาล
ระหว่างทางที่ออกไป พยาบาลที่เจอกับหู่จือกับเป้าจือต่างก็พากันโบกมือให้กับพวกมัน หู่จือกับเป้าจือวางมาดสุดฤทธิ์ เชิดหน้ายืดอก ร้องโฮ่งๆ ออกมาเป็นระยะตลอด ราวกับเป็นหัวหน้าที่กำลังมาตรวจงานอย่างไรอย่างนั้น
ท่านชายฉินยอมใจให้เลยจริงๆ ถ้าเจ้าสองตัวนี้ได้เป็นเจ้าหน้าที่ราชการขึ้นมาแล้วล่ะก็ ต้องเป็นมือดีในการวางอำนาจอย่างแน่นอน
ตอนแรกพวกเขากะว่าจะกลับฟาร์มปลาเลย แต่เถียนกวากลับงอแงอยากจะไปเล่นในงานเทศการช้อปปิ้ง เด็กเล็กชอบความครึกครื้นเป็นที่สุด บรรยากาศคนเบียดคนกับแผงขายของเล่นและของกินหลากหลายรูปแบบที่เจอก่อนหน้านี้ได้ดึงดูดความสนใจของเธอเป็นอย่างมาก
วินนี่จึงจองห้องรายชั่วโมง ให้ทั้งสองคนออกไปเล่นกัน วนเสร็จรอบหนึ่งแล้วค่อยกลับมารับเธอก็พอแล้ว ฉินสือโอวกลัวว่าเธอตัวคนเดียวจะเกิดเรื่อง จึงส่งเธอไปที่บ้านของมาร์ค วิล ให้คุณนายวิลที่ว่างอยู่ช่วยดูแล
ความสัมพันธ์ของฉินสือโอวกับครอบครัววิลสนิมสนมกันแล้ว งานการก่อสร้างฟาร์มปลาต้าฉินและฟาร์มปลาเบอร์สองก็ล้วนรับผิดชอบโดยบริษัทก่อสร้างของพวกเขา ไม่กี่ปีมานี้เพราะรู้จักกับเขาบริษัทก่อสร้างวิลทำกำไรได้ไม่น้อยเลย สามารถดูได้จากบ้านพักวิลล่าที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่ของพวกเขา ใหญ่โตและทำเลดีกว่าหลังก่อนมาก
วิลไม่อยู่บ้าน เขาคุมงานลูกน้องทำงานอยู่ที่ฟาร์มปลาเบอร์สอง การขยายไลน์การผลิตเพิ่ม ทำให้ฟาร์มปลาเบอร์สองต้องการการก่อสร้างจำนวนมาก การสร้างเขตพื้นที่อยู่อาศัย ไม่ใช่แค่การสร้างตึกที่พักอาศัยและโรงงานก็ถือว่าจบเรื่อง
กินดื่มถ่ายหนักเบาแล้วก็ยังมีกิจกรรมสันทนาการอีก อย่างหลังนี่แหละที่เป็นงานใหญ่เลย
พอเห็นฉินสือโอวกับวินนี่เดินเข้ามา คุณนายวิลก็ยิ้มจนตากลายเป็นเส้นเดียว เธอถูมือแล้วพูดว่า “เมื่อกี้ดิฉันกำลังจัดแจงแท่นโมเดลที่พวกคุณให้มาร์คอยู่ เวลาผ่านไปไวจริงๆ นะคะ พริบตาเดียวก็สี่ปีแล้ว”
แท่นโมเดลที่ฉินสือโอวมอบให้มาร์คตอนมาเป็นแขกที่นี่ครั้งแรกถูกตั้งไว้ตรงมุมหนึ่งของห้องรับแขก แท่นวางได้ถูกแผ่นไม้ที่ขัดจนเงาล้อมไว้ ในนั้นมีวิลล่าหลังหนึ่ง ชายหาดที่ขาวสะอาด กับท่าน้ำแบบโบราณที่ใช้ไม้สร้างขึ้นและทาสีเหมือนสีซีเมนต์ไว้กับท่าเทียบเรือบล็อคคอนกรีตที่สร้างด้วยเหล็กท่าหนึ่ง
ก่อนหน้านี้คุณนายวิลกำลังเปลี่ยนน้ำให้กับแท่นโมเดลอยู่ บนพื้นมีถังน้ำวางไว้สองถัง ถังใบหนึ่งเป็นน้ำสกปรก ส่วนอีกถังเป็นน้ำสะอาด เห็นได้ชัดว่าเอามาใช้เปลี่ยนน้ำทะเล
หลังจากฉินสือโอวกับวินนี่เข้ามาแล้ว เด็กชายวัยรุ่นและเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็ออกมาทักทาย นี่เป็นลูกชายของวิลแมรี่แลนด์และลูกสาวของเขาเคธี่ ตอนที่ฉินสือโอวเห็นเด็กทั้งสองเป็นครั้งแรกนั้น แมรี่แลนด์เป็นเด็กซนคนหนึ่ง ส่วนเคธี่ก็ยังเป็นเด็กน้อยที่เพิ่งหัดพูดอยู่เท่านั้น ตอนนี้แมรี่แลนด์ได้กลายเป็นเด็กหนุ่มตัวสูงยาวแล้ว ส่วนเคธี่ก็เปลี่ยนเป็นสาวน้อยแล้วด้วย
พอดีเลย ให้วินนี่อยู่กับคุณนายวิล เขาจะได้พาแมรี่แลนด์และเคธี่ไปเที่ยวเทศกาลช้อปปิ้งด้วย
เมื่อได้รู้ความคิดนี้แล้ว เด็กน้อยผิวดำสองคนก็ดีใจสุดขีด คุณนายวิลหัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันว่าจะพาพวกเขาไปเที่ยวกันพรุ่งนี้ วันนี้งานในบ้านค่อนข้างเยอะ ฉันไปไม่ได้ แบบนี้ดีเลยค่ะ แต่ว่าจะเป็นการรบกวนฉินมากเกินไปไหมคะ?”
วินนี่บอกว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พาเด็กไปเดินเที่ยวสิคะถึงจะสนุก”
พาเด็กที่ดีใจอย่างสุขล้นสามคน ฉินสือโอวมุ่งหน้าไปเทศกาลช้อปปิ้ง ระหว่างทางไปเขาได้ตั้งกฎกับทั้งสามคนว่า “ข้อหนึ่ง ห้ามขัดคำสั่งฉัน ข้อสอง ห้ามออกห่างจากฉันมากกว่าสองเมตร ข้อสาม ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาให้ยึดตามข้อหนึ่งเป็นหลัก!”
พวกเด็กนิสัยเสียพวกนี้รับปากกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่พอลงรถเข้าไปในงานแล้วเท่านั้น พวกเขาก็ลืมคำสัญญาที่ให้ไว้บนรถกันเสียหมด ราวกับปลาไหลที่เข้าไปในน้ำ เด็กนิสัยเสียทั้งสามเดินเลี้ยวไปมาในฝูงชน ไม่เห็นแล้ว…
“ให้ตายเถอะ!” ท่านชายฉินเหงื่อแตกพลั่กขึ้นมาทันใด เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พาหู่จือกับเป้าจือมา ตอนนี้จะไปหาเด็กสามคนนี้อย่างไรล่ะ? คนเบียดคนนะ!
รถไปถึงหน้าภูเขาแล้วอย่างไรก็ต้องมีทาง เรือถึงหน้าสะพานแล้วอย่างไรก็ต้องตรง พวกเด็กนิสัยเสียวิ่งออกไปได้สักพัก ก็กลับมาหาเขาโดยอัตโนมัติ ยื่นมือไปพูดเสียงอ่อนว่า “ขอเงินสิบเหรียญได้มั้ยครับ/ค่ะ? ห้าเหรียญก็ได้”
ฉินสือโอวอยากจะตบให้สักห้าฉาก ยังจะมาขอเงินอีก? ถ้าให้เงินพวกเธอฉันก็ไม่สามารถคุมพวกเธออยู่แล้วน่ะสิ!
ทว่าแม้ไม่ได้ให้เงินกับพวกเด็กนิสัยเสีย แต่เขาถามพวกเด็กๆ ว่าอยากได้อะไร แมรี่แลนด์อยากได้รถปิกอัพเชฟโรเลตของเล่นคันหนึ่ง ทั้งหมดราคาหนึ่งพันกว่าเหรียญ ฉินสือโอวปัดมืออย่างใจกว้าง ซื้อเลย
เคธี่อยากได้ของเล่น ฉินสือโอวใจกว้างกว่า ไม่ว่าจะ hello-kitty ไม่ว่าจะตุ๊กตาบาร์บี้ ไม่ว่าจะแฟนแทสติกโฟร์ เขาซื้อมาหมด กระเป๋าเป้ของเคธี่ถูกยัดจนเต็มไม่พอ ในมือก็ถือไว้จนเต็มอีก ทำให้เธอยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว
สุดท้ายเขาถามเถียนกวาว่าอยากได้อะไร ตาดวงโตของเถียนกวามองเลิ่กลั่กไปมา ส่ายหัวแล้วบอกว่าหนูไม่เอาอะไรเลย
แมรี่แลนด์กับเคธี่มองยัยตัวเล็กราวกับมองคนซื่อบื้ออยู่ สายตาของยัยตัวเล็กที่มองพวกเขาก็ไม่ต่างกัน…
จนกระทั่งตอนที่เริ่มเดินต่อ แมรี่แลนด์กับเคธี่ก็เริ่มอิจฉาเถียนกวาที่ไม่เอาอะไรเลย ในมือและบนตัวของพวกเขาเต็มไปด้วยของเล่น ทำให้ไม่สามารถเดินต่อไปได้ในฝูงชนได้ เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้ลืมเรื่องวิ่งไปมาได้เลย ส่วนเถียนกวาที่ไม่เอาอะไรเลยกลับอยากไปไหนก็ได้ไป จนฉินสือโอวต้องคอยตามเธอไปทุกที่
นี่ก็คือเหตุผลที่ก่อนหน้านี้ท่านชายฉินใจกว้างซื้อของเล่นให้ เขาไม่ได้ซื้อของเล่น แต่เป็นโซ่ที่ไว้ล่ามหมาน้อยพวกนี้ต่างหาก!
………………………