ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1819 ใครกินใคร
เถียนกวาอายุยังน้อยแต่กลับฉลาดหลักแหลมเป็นอย่างมาก ท่านชายฉินเองก็เริ่มมึนแล้ว เขามั่นใจว่าตอนเด็กตัวเองไม่ได้เจ้าเล่ห์แบบนี้แน่นอน งั้นถ้าเกิดว่ากันตามหลักกรรมพันธุ์แล้ว เห็นได้ชัดว่าตอนเด็กวินนี่ต้องไม่ใช่พวกเด็กเรียบร้อยอย่างแน่นอน
แต่ทว่าอย่างไรเสียก็ยังเป็นเพียงเด็กซื่ออายุไม่ถึงสามขวบเท่านั้น ภายหลังฉินสือโอวได้ลากเธอเดินไปพร้อมแนะนำของเล่นแต่ละชนิดให้รู้จัก ยัยตัวเล็กก็ตกหลุมพลางอย่างรวดเร็ว ยื่นมือน้อยๆ ออกไปตะโกนตลอดว่า “หนูเอาหนูเอาหนูเอา!”
“ซื้อๆๆ!” ฉินสือโอวสปอร์ตมาก ของที่ยัยตัวเล็กชอบเขาซื้อให้ทั้งหมด แต่ของที่ใหญ่ไปจะไม่ซื้อ เพราะของชิ้นเล็กสามารถให้ยัยตัวเล็กถือได้ แต่ถ้าใหญ่เขาจะต้องเป็นคนถือ ถ้าหากเขาถูกของเล่นพวกนี้พันตัวอยู่ล่ะก็ จะทำให้ไม่สามารถดูแลเด็กได้
ว่ากันว่าผู้หญิงสามคนอยู่รวมกันทำให้เกิดเรื่องดราม่าได้ แต่ฉินสือโอวรู้สึกว่าเด็กนิสัยเสียสามคนนี้อยู่ด้วยกัน ก็คือสงครามหนึ่งนี่เอง สงครามที่กินกันไม่ลงด้วย!
ในตอนท้ายเถียนกวาไปถูกใจเข้ากับพลุดอกไม้ไฟ นี่เป็นธรรมชาติของเด็ก นิวฟันด์แลนด์ไม่อนุญาตให้จุดพลุดอกไม้ไฟในพื้นที่สาธารณะ ดังนั้นแผงขายเหล่านี้จึงไม่สามารถสาธิตให้ดูได้ แต่ว่าพวกเขามีวิธีอยู่ นั่นก็คือทำการอัดวีดีโอไว้ล่วงหน้า แถมที่อัดไว้ยังสวยงามตระการตากว่าปกติมากด้วย ทำให้เด็กๆ ทั้งกลุ่มพากันล้อมดูอยู่รอบด้านอย่างใจจดใจจ่อ
ฉินสือโอวควักเงินซื้อดอกไม้ไฟขนาดเล็กหลากหลายรูปแบบกับพลุขนาดเล็กที่ไม่มีอันตรายใดๆ อันนี้เขาต้องเป็นคนถือเอง เพราะซื้อมาลังใหญ่เลย
หลังจากซื้อดอกไม้ไฟเสร็จ พวกเด็กนิสัยเสียก็หมดความสนใจในเรื่องอื่นแล้ว พวกเขาสามคนโวยวายอยากจะกลับบ้าน กลับบ้านไปจุดดอกไม้ไฟเล่นกัน คำร้องขอนี้แหละที่ท่านชายฉินรออยู่ จึงหันหลังกลับอย่างไม่ลังเล
แต่ว่าวันนี้คนเยอะจริงๆ ก่อนนี้เขาไม่สังเกตเลยว่าเซนต์จอห์นจะมีคนเยอะแบบนี้ ถนนสี่เลนส์สองสายที่กว้างขวาง ถูกพ่อค้าและชาวเมืองเบียดจนไม่มีช่องว่างเหลืออยู่ ผู้คนเบียดกันไปมา ทำให้ฉินสือโอวพาพวกเด็กนิสัยเสียเบียดออกไปอย่างยากลำบาก
หลังจากเบียดฝูงชนออกมาอย่างยากลำบากแล้ว ท่านชายฉินเพิ่งจะได้พักหายใจเท่านั้น พวกเด็กนิสัยเสียก็วางของเล่นในมือลงแล้วมองกลับไปในฝูงชนอีกครั้ง สายตาที่มองออกไปนั้น ยังเป็นสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความอาลัยอาวรณ์อีกด้วย
นี่ทำเอาท่านชายฉินตกใจขึ้นมา ทำไมเจ้าเด็กเหลือขอพวกนี้ถึงสนใจกับทุกสิ่งทุกอย่างไปเสียหมดนี่?
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีแล้ว เขาก็รีบขู่พวกเด็กนิสัยเสียว่า “พวกเธอวางของเล่นลงทำไม? รีบหยิบขึ้นมา ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคุณลุงคุณป้าทำความสะอาดมาถึงแล้วกวาดไปหมดนะ ถ้าหากว่าพวกเธอไม่ดูแลพวกมันให้ดี ก็จะมีเด็กคนอื่นมาเอาของเล่นพวกเธอไปอีกด้วย!”
เถียนกวาแหงนหน้าแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ก็ซื้อใหม่สิคะ”
ฉินสือโอวทำทีจะจากไป พูดว่า “งั้นพวกเธอซื้อเองแล้วกัน บนตัวของปะป๊าไม่มีเงินแล้ว”
เมื่อเป็นแบบนี้เถียนกวาจึงจนปัญญา เธอกัดนิ้วมืออย่างสลดใจ ตาดวงโตเลิ่กลั่กไปมา มองไปที่ผู้คนที่สัญจรไปมาทั้งสี่ทิศ เหมือนกำลังดูว่ามีคนสนใจของเล่นของตัวเองอยู่หรือเปล่าอย่างไรอย่างนั้น
ฉินสือโอวเรียกรถแท็กซี่มาคันหนึ่ง เขารีบเอาดอกไม้ไฟใส่เข้าไปในรถ แล้วพูดขู่พวกเด็กนิสัยเสียที่ยังไม่อยากกลับว่า “พ่อจะกลับแล้ว ถ้าพวกเธออยากจะอยู่เที่ยวต่อ งั้นก็ไปเที่ยวเองแล้วกัน พ่อจะไปหาแม่ของพวกเธอแล้ว”
พอนึกถึงคุณแม่ ในที่สุดเถียนกวาก็เริ่มมีความคิดอยากกลับขึ้นมา เธออุ้มของเล่นแล้วเดินหน้าหงอยขึ้นไปบนรถ หลังจากนั่งลงแล้วก็เปรยออกมาประโยคหนึ่งว่า “เวลาผ่านไปเร็วจังเลย จะได้เจอหม่าม๊าอีกแล้ว”
ฉินสือโอวใช้สายตาที่แปลกใจจ้องไปที่เธอ ยัยตัวเล็กนี่หมายความว่าอย่างไร? รู้สึกว่ากับวินนี่แล้ว จะไม่ค่อยสนิทกันมากเท่าไรเลย
แต่นี่ก็เป็นเรื่องปกติ ความจริงในบ้านเถียนกวาก็คือถุงความสุขกับของเล่น ทั้งสองคนชอบหาความสุขให้ตัวเองโดยการแกล้งแหย่ลูกสาวเป็นที่สุด แน่นอนว่าเถียนกวาไม่ชอบความรู้สึกที่เป็นของเล่น…
กลับถึงวิลล่าของวิล เด็กสามคนเอะอะโวยวายอยากจุดดอกไม้ไฟ คราวนี้ถือว่าฉินสือโอวได้ถูกปลดปล่อยแล้ว เพราะคุณนายวิลจ้องตาเขม็งทีหนึ่ง เจ้าตัวเล็กผิวดำของเธอสงบเสงี่ยมลงก่อน “เล่นดอกไม้ไฟอะไร? กฎหมายกำหนดว่าในช่วงเทศกาลห้ามจุดดอกไม้ไฟไม่รู้เหรอ? ยังจำปีที่แล้วตอนที่แอบเล่นดอกไม้ไฟแล้วถูกคุณพ่อตีก้นได้ไหม?”
แมรี่แลนด์กับเคธี่พยักหน้ากันรัวๆ แมรี่แลนด์อ้าปากค้างแล้วใช้มือนวดก้นเบาๆ ราวกับว่ายังรู้สึกปวดอยู่
เถียนกวาถูกคุณนายวิลที่ดุดันสะกดไว้แล้ว เธอหลบไปอยู่ในอ้อมกอดของวินนี่อย่างเกรงกลัว หัวเล็กๆ ของเธอแนบไว้กับท้องที่โตออกมาของวินนี่ แล้วก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันใด พูดว่า “หนูรู้สึกถึงน้องชายแล้ว!”
แมรี่แลนด์กับเคธี่ก็กรูเขาไปอย่างสนใจ เถียนกวาชี้ไปที่ท้องของวินนี่ด้วยท่าทีโอ้อวดแล้วพูดว่า “ท้องของหม่าม๊าของหนูมหัศจรรย์มากเลย คุณพ่อบอกว่า น้องชายของหนูซ่อนอยู่ข้างใน ไม่นานก็จะออกมาเล่นกับหนูแล้ว”
เคธี่ไม่เข้าใจ จึงถามอย่างแปลกใจว่า “งั้นให้เขาออกมาเล่นตอนนี้เลยดีไหม?”
เถียนกวาส่ายหัว พยายามคิดแล้วคิดอีก แล้วอธิบายว่า “ไม่ได้ หนูยังไม่ชอบเขา ให้เขาออกมาไม่ได้ รอให้หนูชอบเขาก่อน เขาก็จะออกมาเองแหละ” พูดเสร็จ เธอก็พูดเสริมอย่างเสียดายอีกว่า “ถ้าคุณแม่ของหนูสามารถคลอดแมวน้ำออกมาได้ก็ดีสิ หนูอยากเล่นกับแมวน้ำมากกว่า อ้วนใหญ่กับอ้วนเล็กเป็นเพื่อนที่ดีของหนู หนูอยากได้น้องชายแมวน้ำสักตัว”
คุณนายวิลถูกความไร้เดียงสาและความเป็นเด็กของเธอทำให้หัวเราะออกมา จากนั้นพอลูกสาวของเธอเห็นหัวเราะแล้ว ก็นึกว่าเธออารมณ์ดี จึงรีบพุ่งเข้าไปอย่างกระตือรือร้นแล้วถามว่า “คุณแม่ แล้วคุณแม่สามารถคลอดแมวน้ำได้ไหมคะ? คุณแม่คลอดน้องชายแมวน้ำให้หนูตัวหนึ่งนะคะ น้องชายแมวคิตตี้ก็ได้ หนูชอบแมวคิตตี้ที่ขนเต็มตัว!”
วินนี่พูดอย่างหมดทางเลือกว่า “พวกเรารีบกลับกันเถอะค่ะ ถ้ายังอยู่ต่ออีก ไม่รู้ว่าเด็กพวกนี้ยังอยากได้อะไรอีก ไม่แน่ว่าแมรี่แลนด์อาจจะอยากได้น้องชายรถปิกอัพก็ได้นะคะ”
สีหน้าแมรี่แลนด์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ พูดว่า “แบบนั้นได้ไหมครับ? ทรานส์ฟอร์มเมอร์สล่ะ? คุณแม่ คุณแม่สามารถคลอดน้องชายทรานส์ฟอร์มเมอร์สได้ไหมครับ? ผมหวังให้เป็นออพติมัส ไพรม์นะครับ เขาเท่มากเลย ผมชอบเขา!”
ตอนที่ฉินสือโอวกับวินนี่กลับไป แมรี่แลนด์กับเคธี่ก็เถียงกันขึ้นมา พี่ชายอยากได้น้องชายทรานส์ฟอร์มเมอร์ส น้องสาวอยากได้น้องชายแมวน้อย กลายเป็นว่าทรานส์ฟอร์มเมอร์สกับแมวคิตตี้ก็เริ่มทะเลาะกันขึ้นมา
เด็กน้อยสองคนไม่ได้สังเกตเห็น สีหน้าแม่ของทรานส์ฟอร์มเมอร์สกับแมวคิตตี้ที่กำลังโกรธอยู่ โศกนาฏกรรมในครอบครัวได้เริ่มเปิดม่านออกแล้ว
พอถึงตอนบ่าย พ่อแม่ของฉินสือโอวและคนอื่นๆ ก็กลับเข้าบ้านมาอย่างมีครื้นเครง พวกเขาซื้อของมามากมาย มีพลุดอกไม้ไฟที่เสี่ยวฮุยซื้อรวมอยู่ในนั้นด้วย
ฟาร์มปลาห่างไกลจากตัวเมือง สามารถจุดดอกไม้ไฟได้ตามใจชอบ รอจนฟ้ามืดมาเยือน เสี่ยวฮุยถามฉินสือโอวกับวินนี่ พอได้รับอนุญาตแล้วก็เอาดอกไม้ไฟวิ่งกระโดดโลดเต้นออกไป เริ่มจากจุดพลุจรวดไฟก่อน หลังจากจุดเสร็จก็ได้ยินเสียง ‘ฟิ้ว’ ทีหนึ่ง พลุจรวดบินออกไปบนฟ้าแล้วระเบิดออกมา
พลุจรวดพวกนี้มีสารเรืองแสงผสมอยู่ หลังจากระเบิดกลางอากาศแล้วสวยงามมาก แสงสีเขียวสว่างไสว
หลังจากเถียนกวาได้เห็นแล้ว ดวงตาคู่โตก็เบิกกว้าง วิ่งตึงตังออกไปยืนดูอยู่ข้างๆ เสี่ยวฮุย
เสี่ยวฮุยเอาผีเสื้อเรืองแสงตัวหนึ่งออกมาขู่เถียนกวา ว่า “หลังจากจุดไฟแล้วมันจะมากินเด็กด้วยล่ะ เธอกลัวหรือเปล่า?”
เถียนกวามองไปที่เขาอย่างงงงวย แล้วถามด้วยความกลัวว่า “จุดไฟอย่างไรเหรอ?”
เสี่ยวฮุยสอนเธอว่า “เธอดูนะ ตรงนี้มีสายชนวนอยู่ เอาไฟแช็กมาจุดมันก็พอแล้ว”
เถียนกวายังคงมีสีหน้างงงวยอยู่ ยื่นมือที่นุ่มและอ้วนออกไปถามว่า “หนูขอดูหน่อยได้ไหมคะ พี่ชาย?”
เสี่ยวฮุยหัวเราะเหอๆ แล้วยื่นให้เธอ ยังคงขู่ต่ออีกว่า “เธอดูแวบเดียวแล้วต้องรีบคืนมาให้พี่นะ ไม่อย่างนั้นมันจะกินเธอเข้า…”
พูดยังไม่ทันจบ หลังจากเถียนกวารับมาแล้วก็ใช้ไฟแช็กในมือ ‘แช็ค’ ทีหนึ่งจุดไปที่ชนวนของผีเสื้อเรืองแสงนั้น จากนั้นก็โยนไปใต้เท้าของเสี่ยวฮุยแล้วก็หันหลังวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน วิ่งไปด้วยพลางตะโกนออกไปด้วยว่า “แย่แล้ว พี่ชายถูกกินไปแล้ว…”
…………………………