ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1835 ฤดูจับทูน่า
เหล่าชาวประมงล้วนเป็นพวกคอเบียร์ทั้งนั้น ชีวิตบนท้องทะเลทั้งลมพัดแดดเผาอากาศก็ชื้นมาก ดื่มเบียร์สามารถต้านลมหนาวได้ ดังนั้นแต่ละคนจึงคอแข็งมาก เหมาเหว่ยหลงทำได้ถูกที่ดึงจงต้าจวิ้นไว้ พวกเขามารวมตัวกัน ไม่พูดพล่ามทำเพลง แต่ละคนได้เริ่มดื่มเบียร์กันก่อนคนละขวด
ต้องรู้ก่อนว่า การดื่มเบียร์ของคนเหล่านี้ล้วนใช้แต่แก้วเบียร์ขนาดใหญ่ทั้งนั้น เบียร์แก้วหนึ่งก็มีปริมาณถึงแปดร้อยมิลลิลิตรเลย!
จงต้าจวิ้นแอบแหยปาก เขามองไปที่เหมาเหว่ยหลงยิ้มขืนๆ แล้วพูดว่า “นี่พวกเขาดื่มเบียร์หรือว่าดื่มน้ำกันเนี่ย ถึงจะดื่มน้ำก็เถอะ ก็ไม่มีการดื่มแบบบ้าคลั่งแบบนี้หรือเปล่า?”
เหมาเหว่ยหลงถอนหายใจแล้วพูดว่า “ดังนั้นฉันถึงบอกไง ถ้านายไม่อยากตายก็อย่าเข้าไปใกล้พวกเขา มาๆๆ หัวหน้า น้องพี่คนนี้พาพี่ไปเดินเล่นในปาร์ตี้เอง ในชุมชนเล็กๆ นี้มีสาวสวยไม่น้อยนะ ไปดูสิว่าสามารถหาให้พี่ได้สักคนหรือเปล่า”
“ไม่มีประโยชน์น่า หาเจอฉันก็เอาไม่อยู่หรอก ไม่มีเงินแล้วยังไม่หล่อ ภาษาก็ไม่ได้!”
“ไม่เป็นไรหรอก บางทีอาจจะมีสาวฝรั่งที่อยากจะเปลี่ยนรสชาติก็ได้ ไม่แน่พวกเขาอาจจะชอบรสชาติแบบนายนะใช่ไหม?”
“แต่ภาษาอังกฤษของฉันไม่ค่อยดี”
“ถึงตอนนั้นก็แกล้งใบ้ไป สาวผิวขาวพวกนี้ขึ้สงสารมาก ไม่แน่อาจจะสงสารนายแล้วจัดให้นายสักทีก็ได้”
“ฟัคยู โคโกโร่!”
ฟัคยูทู นายก็ได้ภาษาอังกฤษไม่ใช่เหรอ?”
ผลสุดท้ายก็คือแน่นอนว่าคืนนี้จงต้าจวิ้นก็ยังนอนโดดเดียวเหมือนเดิม แต่ว่าก็ไม่ถึงขั้นนอนไม่หลับ เพราะว่าความสามารถในการดื่มเบียร์ของเขาอยู่ในระดับธรรมดา ยังวนไม่ครบรอบเลย เขาก็เมาพับไปแล้ว
เก็บกวาดตึกอพาร์ทเม้นท์เสร็จแล้ว วินนี่ก็พาลูกออกโรงพยาบาล แล้วย้ายเข้ามาอยู่เลย พวกพ่อแม่ฉินสือโอว มิแรนด้ากับมาริโอ้และคนอื่นๆ ก็มาอยู่ที่นี่ด้วย ส่วนฉินสือโอวก็พาเหมาเหว่ยหลงกับจงต้าจวิ้นกลับไปพักที่ฟาร์มปลา
ก่อนจะแยกกัน ฉินสือโอวถามเถียนกวาว่าจะอยู่เป็นเพื่อนกับน้องชายที่นี่หรือว่าจะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อ เถียนกวาส่ายมืออ้วนๆ พูดว่า “หนูจะอยู่เป็นเพื่อนพี่ตั๋วตั่ว พี่ตั๋วตั่วสวยที่สุด สนุกที่สุด”
ความจริงถ้าไม่มีเรื่องอะไร ฉินสือโอวก็อยากจะอยู่ข้างกายศรีภรรยาเหมือนกัน แต่ทำอย่างไรได้ที่ฟาร์มปลามีแขกมาใหม่ นั่นก็คือคุณลุงหนวดดำบัตเลอร์นั่นเอง เขามาที่ฟาร์มปลาเพื่อจะหารือกับฉินสือโอวว่าจะจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินอย่างไรดี
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินของฟาร์มปลาได้กลายเป็นฝูงปลาขนาดใหญ่ ตลอดสี่ฤดูของปลานี้ไม่เคยจับพวกมันเลย ทำให้ปลาเล็กโตเป็นปลาใหญ่ ปลาใหญ่ก็ทำการวางไข่ได้สำเร็จโดยการนำเอาฝูงลูกปลาออกมา ระบบนิเวศน์ที่ดีได้ปรากฏมาแล้ว เท่านี้แม้จะทำการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
งานประมูลปลาทูน่าภาคฤดูใบไม้ผลิในโตเกียวกำลังจะเริ่มแล้ว บัตเลอร์หวังว่าจะสามารถนำปลาทูน่าครีบน้ำเงินล็อตใหญ่เข้าประมูลในครั้งนี้ด้วย ไปแข่งกับตลาดท้องถิ่น ทำการกวาดล้างบริษัทการประมงจำพวกซัมมัยให้ราบคาบ และครอบครองตลาดปลาทูน่าระดับสูง
เมื่อก่อนฉินสือโอวใช้วิธีการตกเบ็ดในการจับปลาทูน่า แต่หากว่าจะทำการจับในปริมาณมาก ก็ต้องพึ่งการจับปลาโดยใช้อวนล้อมจับที่เป็นวิธีการจับปลาต้องห้ามในทะเลหลวงแล้วล่ะ นอกเหนือจากนี้ เขายังต้องใช้วิธีเบ็ดราวในการเก็บตกปลาที่หลุดลอดไปด้วย เมื่อรวมการจับปลาทั้งสองวิธีนี้เข้าด้วยกันแล้ว แม้ว่าฝูงปลาที่หมายตาไว้จะมีพระเจ้าคุ้มครองอยู่ ก็ยากที่จะหนีออกไปได้
ดังนั้น กรมการประมงของประเทศอย่างแคนาดาและอเมริกาจึงได้ออกกฏห้ามใช้การจับปลาแบบใช้อวนล้อมจับขึ้น แต่ว่าการจับแบบเบ็ดราวยังสามารถเหลือทางรอดไว้ให้เหล่าปลาน้อยได้ แต่เมื่อรวมวิธีการจับปลาหลากหลายวิธีเข้ามาด้วยกันแล้ว นั่นก็คือการจองล้างจองผลาญปลาน้อยนั่นเอง
พอบัตเลอร์มาถึงแล้วก็สวัสดีปีใหม่กับฉินสือโอวก่อน เขารู้ว่าซีกวาคลอดแล้ว จึงนำจี้หยกกวนอิมกับหยกแกะสลักรูปแตงโมขนาดนิ้วโป้งมาให้ด้วย
ในนั้น ไม่ว่าจะเป็นจี้หยกหรือว่าหยกแกะสลัก ก็ล้วนเป็นสีเขียวสด มีการไล่เฉดสีกันเป็นระดับ สีเขียวของแตงโมเขียวได้ใจคนมาก ส่วนแท่นดอกบัวของเจ้าแม่กวนอิมนั้นเป็นสีเขียวเข้มผสมกับสีฟ้าอ่อน ทั้งเหมือนดอกบัว แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนคลื่นทะเลด้วย
อย่างไรเสียก็เป็นถึงคณะกรรมการบริหารของบริษัททิฟฟานี่นี่นะ ฉินสือโอวมองดูจี้นี้แล้วก็รู้ถึงความล้ำค่าของมันทันที เขาหยิบขึ้นมาส่องดูใต้แสงอาทิตย์ หินหยกก็ได้เผยความกึ่งใสราวกับละอองน้ำออกมา ถือไว้ในมือแล้วมีความรู้สึกที่เย็นสบาย เห็นได้ชัดว่าเป็นหยกล้ำค่าที่ชื่อว่าหยกกระจกโบราณนั่นเอง
บัตเลอร์ยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้ชายห้อยกวนอิมผู้หญิงห้อยพระ ฉันไปถามอาจารย์ในถนนคนจีนที่ซานฟรานซิสโกมาโดยเฉพาะเลย จึงตั้งใจเอาจี้อันนี้มาให้เสี่ยวซีกวาของบ้านนาย ส่วนหยกแกะสลักแตงโมอันนี้ พูดได้เพียงว่าพระเจ้าอวยพรพวกเรา ฉันได้มาโดยบังเอิญ ก่อนจะมาฉันได้ไปร่วมงานประมูลการกุศลต้อนรับปีใหม่ที่ทำเนียบขาวมา แล้วก็ไปเห็นแตงโมอันนี้ที่นั่น ฉันคิดว่า ลูกของนายชื่อซีกวา งั้นเจ้าของชิ้นนี้ก็ควรจะเป็นของเขาไม่ใช่เหรอน่ะ?”
ตอนที่พูดถึง ”งานประมูลการกุศลต้อนรับปีใหม่ที่ทำเนียบขาว’ บัตเลอร์ได้ผายมือเผยท่าทีภาคภูมิใจออกมา เห็นได้ชัดว่าผู้ประกอบการที่สามารถเข้าร่วมงานประมูลนี้ได้ล้วนเป็นพวกที่ตำแหน่งไม่ธรรมดากันทั้งนั้น
ฉินสือโอวรับของขวัญทั้งสองชิ้นไว้ เขายิ้มแล้วพูดว่า “ฉันขอบคุณนายแทนลูกกับภรรยาฉันนะ เพื่อน ของขวัญที่นายให้มานั้นสุดยอดมากเลย ฉันต้องตอบแทนนายบ้าง พูดมา นายอยากได้อะไรตอบแทน?”
บัตเลอร์ฉีกยิ้มออกมา เผยให้เห็นฟันสีขาวดั่งหิมะ ว่า “งั้นก็ เป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินหลายสิบตัวเป็นอย่างไร?”
ฉินสือโอวตบไหล่เขาเบาๆ พูดอย่างมั่นใจว่า “เพิ่มความทะเยอะทะยายของนายขึ้นนิดหนึ่ง หลายสิบตัวน้อยเกินไป หลายร้อยตัวเลยเป็นอย่างไร?”
“ชิทฉันยอมแล้ว!” แม้จะเป็นบัตเลอร์ที่เห็นโลกกว้างมาก่อนก็ถูกคำพูดนี้ทำให้อึ้งไปเลย
ฉินสือโอวกลับมาในครั้งนี้ก็เพื่อมาเป็นคนนำเหล่าชาวประมงไปจับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ให้เรือปริ้นเซสเมล่อนเป็นเรือนำทาง พวกชาร์คก็ขับเรือหาปลามาจากเมืองอีกสองลำ เรือหาปลาทั้งหมดสามลำออกทะเลพร้อมกัน
เหมาเหว่ยหลงกับจงต้าจวิ้นก็ถูกพาขึ้นเรือไปด้วย ฉินสือโอวพูดว่า “ฉันพาพวกนายไปลองสัมผัสชีวิตของชาวประมงดู ให้พวกนายได้เห็นว่าจะจับปลาทองคำในทะเลอย่างไร!”
จงต้าจวิ้นไม่เคยออกทะเลไปเก็บเกี่ยวปลามาก่อน จึงค่อนข้างสนใจกับทริปออกทะเลในครั้งนี้ เหมาเหว่ยหลงเคยไปแล้วและก็เคยเจอกับความลำบากนี้มาก่อนแล้ว เขารู้ว่าการออกทะเลไปจับปลานั้นเหนื่อยกว่าการทำงานอยู่ในฟาร์มมาก จึงส่ายหัวรัวๆ แต่น่าเสียดายที่ก็ยังถูกฉินสือโอวลากขึ้นเรือไปจนได้
ไม่เพียงแต่พวกเพื่อนๆเท่านั้น ฉินสือโอวยังพากลุ่มเจ้าตัวน้อยหู่เป้าฉงหลัวไปด้วย ส่วนเจ้าสามตัวเล็กบนฟ้าก็บินสยายปีกตามอยู่บนท้องฟ้าเหนือเรือ หมีสองตัวนอนอยู่ที่ราวมองลงไปข้างล่าง หู่จือกับเป้าจือกำลังเล่นสนุกกันอยู่บนกราบเรือ หลัวปัวกับพี่น้องเฟอเรทกำลังตื่นเต้นจนตัวแนบชิดกัน พอมีคลื่นซัดมา พวกมันก็จะร้องออกมาอย่างหวาดกลัว
จงต้าจวิ้นมองดูพวกเจ้าตัวเล็กที่วุ่นวายกัน พลางดื่มกาแฟร้อนพลางหัวเราะ พูดว่า “เฮ้ ให้ตายสิเลี้ยงเจ้าพวกนี้นี่ไม่เลวจริงๆ ดูขนฟูฟ่องของพวกมันสิน่าสนุกจริงๆ”
เหมาเหว่ยหลงพยักหน้าแล้วถามว่า “ไม่เลวจริงๆ นายชอบสุนัขไหม? ที่ฉันมีเจ้าอเมริกันพิตบูลอยู่หลายตัวเลย นายเลี้ยงสุนัขหรือเปล่า? เดี๋ยวรอมีลูกหมาฉันจะเก็บไว้ให้ตัวสองตัวนะ”
จงต้าจวิ้นเคยเห็นพิตบูลที่หน้าตาน่าเกรงขามพวกนั้นของเขาแล้ว จึงพยักหน้าอย่างดีใจ พูดว่า “ดีๆๆ เก็บไว้ให้ฉันสองตัวนะ สุนัขตัวนั้นของนายน่ะน่าสนุกจริงๆ แต่ว่าดูแล้วค่อนข้างร้ายอยู่ ไม่กัดคนใช่ไหม?”
เหมาเหว่ยหลงพูดอย่างได้ใจว่า “เรื่องนี้นายวางใจได้ ขอแค่นายไม่สั่ง พวกมันก็จะไม่ลงเขี้ยวแน่นอน สุนัขบ้านฉันไอคิวสูงมาก อย่างน้อยก็ฉลาดกว่าเจ้าขนเหลืองสองตัวนั่นเยอะ”
แน่นอนว่าเขาพูดถึงหู่จือกับเป้าจือ แลบราดอร์ไม่เคยรู้สึกดีกับเขาเลย เรื่องนี้ทำให้พี่ใหญ่ตัวขนไม่พอใจแล้ว