ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1841 ดื่มเบียร์เคียงคู่คลื่น
อวนรอบนี้ที่หว่านลงไปจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้ทั้งหมดหนึ่งร้อยสี่สิบสองตัว ตอนที่สรุปตัวเลขออกมานั้น แม้ว่าเหล่าชาวประมงจะรู้ว่าฟาร์มปลามีปลาทะเลที่ล้ำค่ามากมาย แต่ก็ยังคงอึ้งและยากที่จะเชื่อ
ปลาทูน่าหนึ่งร้อยสี่สิบสองตัว ในจำนวนนั้นมีตัวที่ความยาวถึงเกณฑ์มาตรฐานการเก็บเกี่ยวอยู่ที่หนึ่งร้อยยี่สิบห้าตัว ตามกฎหมายของแคนาดา ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่สามารถเข้าตลาดได้ต้องมีความยาวเกินหนึ่งเมตรแปดห้า สูงกว่าผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่อีก
แต่สำหรับสถานที่ที่จะทุ่มตลาดในครั้งนี้ กฎหมายญี่ปุ่นไม่ได้มีกฎบังคับทำนองนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกปลาพวกเขาก็สามารถขายได้
แม้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินอีกสิบเจ็ดตัวทจะไม่ถึงเกณฑ์ แต่ความยาวก็เกินกว่าหนึ่งเมตรห้า ปลาเล็กที่โตไม่ทันตัวอื่นในฝูงนี้ แต่ฉินสือโอวก็ปล่อยพวกมันไป แถมยังแผ่พลังโพไซดอนให้พวกมันด้วย ให้พวกมันสามารถเติบโตได้ดีขึ้นและเร็วขึ้น
กล่องอุณหภูมิห้ากล่องต่อหนึ่งกลุ่มได้ถูกส่งเข้าไปในคลังเรือ เรือปริ๊นเซสทำการรับกล่องอุณหภูมิไปยี่สิบห้ากลุ่ม พอบัตเลอร์ได้ข่าวนี้แล้ว ก็รีบนั่งเรือลาดตระเวนมาจากท่าเรือทันที
ฉินสือโอวลากเขาขึ้นมาบนเรือ ขมวดคิ้วพูดว่า “นายมาทำไมเวลานี้? รออยู่ที่ฟาร์มปลาของฉันก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ? ดูสิ เรือลาดตระเวนของฉันเป็นแบบแรงม้าสูงนะ นี่น่ะเป็นการเปลืองน้ำมันชัดๆ!”
บัตเลอร์พูดอย่างดีใจว่า “ช่างหัวน้ำมันเครื่องเถอะ เพื่อน พวกนายได้ปลาทูน่าครีบน้ำเงินมายี่สิบห้ากลุ่มแล้วจริงเหรอ? คุณภาพเนื้อเป็นอย่างไรบ้าง? ยังคงได้มาตรฐานอันดับหนึ่งของต้าฉินซีฟู้ดใช่ไหม?”
ฉินสือโอวยักไหล่ด้วยท่าทีว่าแน่นอนแล้วพูดว่า “นายก็รู้ ฟาร์มปลาของฉันผลิตแต่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ดีที่สุดเท่านั้น!”
บัตเลอร์หายใจเฮือกหนึ่ง แล้วก็วิ่งเข้าไปในฟาร์มปลาอย่างรวดเร็ว มองดูกล่องเก็บอุณหภูมิสีขาวเป็นลังๆ ด้วยความตื่นเต้นสุดขีด ราวกับกำลังลูบคลำร่างกายของสาวงามอยู่ เขาเข้าไปลูบคลำอย่างออกรสออกชาติ แล้วพูดพึมพำว่า “โอ้ พระเจ้า ฉันยังนึกว่านายพูดโม้เสียอีก! ปลาทูน่าหนึ่งร้อยกว่าตัวจริงๆด้วย! ล้วนเป็นปลาทูน่าคุณภาพดีทั้งนั้น! นี่เป็นเงินเท่าไร? ฉันจะจัดการตลาดของคนญี่ปุ่นซะ! ฉันจะครอบครองตลาดของคนญี่ปุ่น!”
จงต้าจวิ้นฟังภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกาเหนือของเขาไม่ออก จึงถามฉินสือโอวว่าคนดำคนนี้พูดอะไร ฉินสือโอวบอกว่าไม่ต้องสนใจ พวกเรากลับเรือไปดื่มกาแฟ เจ้าหมอนี่ใกล้จะบ้าแล้ว
จริงตามนั้น หลังจากนั้นบัตเลอร์ก็ยืนยันว่าจะอยู่ในห้องแช่แข็งในคลัง เขาไม่สนเรื่องความเย็น ใส่เสื้อขนเป็ดตัวหนา ทำการเปิดกล่องอุณหภูมิทีละกล่องเพื่อตรวจเช็คปลาด้านใน ราวกับว่าถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองจะไม่เชื่ออย่างไรอย่างนั้น
ยุ่งกันทั้งวัน ในที่สุดเหล่าชาวประมงก็ได้พักกันเสียที ตอนนี้เป็นเวลาพระอาทิตย์ตกดิน แสงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินได้สาดส่องไปบนผิวน้ำทะเล ทำให้มหาสมุทรดูอ่อนโยนขึ้นมา ลมทะเลก็เหมือนจะเบาลงไปมาก
ตามแผนที่วางไว้ ชาวประมงส่วนใหญ่ได้นั่งเรือหว่านอวนสองลำกลับไปที่ฟาร์มปลา ส่วนฉินสือโอวก็พาพวกชาร์คกับลูกน้องคนสนิทไม่กี่คนยังคงอยู่บนเรือปริ๊นเซสเมล่อนกัน
เหล่าชาวประมงเตรียมจะจากไป ฉินสือโอวให้อีวิลสันกับบูลไปลากปลาใหญ่มาสองตัว บัตเลอร์ถูกพวกเขาพาออกมา จึงถามอย่างร้อนใจว่า “ทำอะไรทำอะไร? พวกนายจะเอาปลาไปไหนกัน?”
ฉินสือโอวตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “ใจเย็นเพื่อน นายใจเย็นก่อน โอเค? ลูกน้องของฉันทำงานมากันทั้งวันเหนื่อยมากแล้ว ฉันต้องให้รางวัลพวกเขาหน่อย”
เหล่าชาวประมงเก็บของเสร็จแล้วกำลังจะจากไป ชาร์คเปิดกล่องออก เบิร์ดควงมีดฆ่าปลาอย่างชำนาญเดินเข้าไป จากนั้นกล้ามแขนเบ่งออก ทำการลากปลาทูน่าตัวหนึ่งที่มีขนาดความยาวสามเมตรครึ่งออกมา ลงมีดอย่างรวดเร็ว ตัดไปที่เนื้อสีขาวหิมะที่มีสีออกชมพูระเรื่อออกเป็นชิ้นๆ
ชาร์คได้เตรียมกล่องอุณหภูมิขนาดเล็กไว้จำนวนหนึ่ง ในนั้นก็มีเกล็ดน้ำแข็งด้วย เขานำชิ้นเนื้อปลาทูน่าใส่เข้าไปในกล่องเก็บอุณหภูมิ ชาวประมงทุกคนได้คนละหนึ่งชิ้น ปลาทูน่าครีบน้ำเงินขนาดสามเมตรครึ่งสองตัว คนหนึ่งจะได้ชิ้นละประมาณสี่สิบปอนด์
เหล่าชาวประมงพากันผิวปากขึ้นมา แซ็กพูดด้วยสีหน้าเบิกบานว่า “บอส ผมไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี แต่ผมต้องพูดแทนลิ้นกับกระเพาะผมคำหนึ่งว่า ขอบคุณความใจกว้างของคุณครับ!”
“ความจริงฉันหวังว่าพวกนายจะเอากลับไปให้คนในบ้านลองชิมดูนะ ดังนั้นพวกนายควรจะขอบคุณฉันแทนครอบครัวพวกนายต่างหาก” ฉินสือโอวหัวเราร่า
บัตเลอร์ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าปวดใจ ทุกครั้งที่เบิร์ดลงมีดตัดปลา ริมฝีปากเขาก็จะสั่นไปที ราวกับว่าที่มีดตัดลงไปนั้นไม่ใช่เนื้อปลา แต่เป็นเนื้อของเขาอย่างนั้น
จงต้าจวิ้นสังเกตเห็นถึงจุดนี้ จึงถามอย่างแปลกใจว่า “จำเป็นต้องขั้นนี้เลยเหรอ?”
เหมาเหว่ยหลงกลั้นหัวเราะไม่อยู่ พูดว่า “แน่นอนสิ นายรู้ไหมว่าเจ้าพวกนี้ราคาเท่าไร? ตาฉินไม่เคยพูดมาก่อน แต่ถังทองหลักของฟาร์มปลาของเขาก็มาจากเจ้าตัวนี้นี่แหละ ปลาขนาดประมาณนี้ตัวหนึ่ง ที่ญี่ป่นสามารถขายได้ราคาถึงสองล้านดอลลาร์สหรัฐเลย!”
“เฮ้ย เวอร์เกินไปหรือเปล่า?” สีหน้าจงต้าจวิ้นเปลี่ยนไปในทันที “สองล้านดอลลาร์สหรัฐ? ปลาสองตัวก็เท่ากับสี่ล้านดอลลาร์สหรัฐ? ให้ตายสิปลานี่ทำจากทองคำหรือไง?”
เหมาเหว่ยหลงพูดว่า “นั่นเป็นราคาในงานประมูล แต่ว่าในร้านอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉิน ปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็เป็นผลิตภัณฑ์ล้ำค่าทางทะเลระดับสูงสุดอยู่ดี น่าจะปอนด์ละประมาณสองร้อยดอลลาร์สหรัฐได้มั้ง? ที่นายเห็นแบ่งกันไปคนละสี่สิบปอนด์น่ะ ก็เท่ากับเป็นเงินแปดพันดอลลาร์สหรัฐ”
“แปดพันดอลลาร์สหรัฐ? ห้าหมื่นหยวน? ปลาชิ้นเดียวเนี่ยนะ?” จงต้าจวิ้นยังคงตื่นตกใจอยู่
เหมาเหว่ยหลงโอบเขาไว้แล้วพูดว่า “อย่างนี้แหละนะคุณหัวหน้าห้อง โลกของคนมีเงินในปัจจุบันน่ะพวกเราไม่เข้าใจหรอก”
จงต้าจวิ้นมองเขาด้วยหางตาไปสองที แล้วพูดช้าๆว่า “คุณโคโกโร่ คุณเองก็เป็นคนชั้นกระฎุมพีใช่ไหม? แล้วก็นะ คุณยังเป็นคนที่ทำงานเพื่อสังคมและประเทศด้วยนี่ เป็นข้าราชการมารุ่นสองหรือรุ่นสามแล้วนะ? สรุปก็คือคนยากจนอย่างผมกับคุณไม่ใช่คนโลกเดียวกันแน่”
เหล่าชาวประมงรู้ว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินพวกนี้มีค่าแค่ไหน และรู้ถึงรสชาติอันเลิศรสของเนื้อปลากับคุณค่าทางสารอาหารของมันดี พอได้รับมาแล้วก็จากไปกันอย่างดีใจสุดขึด
สุดท้ายได้เหลือหัวปลาอันมหึมาและก้างปลาสีขาวโพรนไว้ นอกจากนี้ยังมีหนังปลา เกล็ดปลากับเศษเนื้อปลาจำนวนหนึ่ง ฉินสือโอวให้เบิร์ดกับชาร์คจัดการเก็บกวาดของพวกนี้ แล้วพูดกับจงต้าจวิ้นว่า “คืนนี้บนเรือ ฉันจะใช้เจ้านี่แหละมาเป็นแกล้มเหล้าให้นาย”
จงต้าจวิ้นหัวเราะแล้วพูดว่า “นายนี่ขี้เหนียวเกินไปหรือเปล่า ให้กินเนื้อเป็นชิ้นไม่ได้เหรอ?”
“ของพวกนี้มีราคากว่าเนื้ออีกนะ ตาฉินเป็นสายกิน พออยู่ในมือของเขาแล้วเจ้าสิ่งนี้ก็อร่อยกว่าเนื้อได้!” เหมาเหว่ยหลงเคยกินกระดูกปลา หนังปลากับเกล็ดปลาย่างที่ฉินสือโอวทำมาแล้ว จึงรู้ถึงความพิเศษของของชิ้นนี้ดี
พระอาทิตย์ยังไม่ได้ตกดิน ยังคงมีแสงสว่างอยู่ตรงเส้นขอบฟ้า บนเรือปริ๊นเซสจึงยังคงมีแสงส่องสว่างอยู่
ลมทะเลแรงเกินไปไม่เหมาะกับการปิ้งย่าง ฉินสือโอวจึงย้ายเตาย่างมาที่หน้าประตู แล้วก็ย้ายกล่องหลายอันมาบังไว้ จากนั้นก็เอากระดูกปลาที่คัดสรรมาอย่างดีไปย่างบนไฟอ่อนๆ
จงต้าจวิ้นมองดูอย่างแปลกใจ ถามว่า “อันนี้สามารถเอามาย่างกินได้เหรอ?”
ฉินสือโอวทอดถอนใจแล้วพูดว่า “ความจริงแล้วต้องเอาไปแยกน้ำจากนั้นก็ตากแห้งก่อน แต่ว่าบนทะเลทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันลองดูแล้วกัน สรุปก็คือวันนี้นายต้องได้ชิมรสชาติที่ไม่เหมือนใคร รับรองว่านายไม่ได้มาแคนาดาเสียเที่ยวแน่!”
ทั้งสามคนล้อมวงกันเข้ามา มื้อเย็นสามารถเตรียมแบบง่ายๆ ได้ เขานำเนื้อปลามาสับละเอียดแล้วมาทำเป็นเทมากิ วิธีการกินที่เทซึกะ โกดะสอนเข้ามานั้น ไม่เลวจริงๆ
…………………………