ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1844 ฉลามกบที่ติดเบ็ด
หู่จือกับเป้าจือเป็นงานแล้วจริงๆ เมื่อได้ยินเสียงร้องตกใจของจงต้าจวิ้นแล้ว พวกมันสองตัวก็เงยหน้าจ้องไปที่เขาด้วยสายตาอำมหิตอย่างไม่ได้นัดหมาย สายตานั้นราวกับกำลังเตือนให้เขาหุบปาก อย่าให้เหมาเหว่ยหลงสังเกตถึงวีรกรรมของพวกมันอย่างไรอย่างนั้น
กางเกงของเหมาเหว่ยหลงเปียกชุ่มไปแล้ว ตัวเขาเองไม่รู้ตัวเลย ยังคงทรุดตัวอยู่บนกราบเรือแล้วอ้วกต่อไป
ฉินสือโอวกังวลว่าเขาจะตกลงไปในทะเล จึงเข้าไปดึงตัวเหมาเหว่ยหลง พร้อมกับกระทืบเท้าไล่หู่จือกับเป้าจือไป พูดว่า “ไปๆๆ นี่พวกนายทำอะไรกัน? ต้องเคารพผู้ใหญ่นะรู้ไหม? นี่เป็นคุณอาเหมาของพวกนาย พวกนายฉี่ใส่คุณอาเหมาของพวกนายทำไม?”
หู่จือกับเป้าจือสะบัดก้นไปที แล้วก็จากไปอย่างอาลัยอาวรณ์
จงต้าจวิ้นพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ฉันว่านะฉิน นายน่ะให้ท้ายเจ้าสองตัวนี้มากเกินไปแล้วหรือเปล่า? ยอมให้พวกมันฉี่บนตัวของโคโกโร่อย่างนี้น่ะเหรอ? ไม่ได้นะ ในฐานะพี่น้องของโคโกโร่แล้ว เรื่องนี้ฉันยอมไม่ได้”
ฉินสือโอวอธิบายว่า “ความจริงนายน่ะเข้าใจผิดแล้ว เจ้าเด็กสองตัวนี้ไม่ได้ฉี่เพื่อเหยียดหยามโคโกโร่หรอก นี่คือการยืนยันความสัมพันธ์ของพวกมันต่างหาก จะมีแต่คนที่พวกมันคิดว่าเป็นคนกันเองเท่านั้น จึงจะถูกฉี่ใส่ได้ ก็เหมือนกับการที่พวกมันฉี่เพื่อสร้างอาณาเขตนั่นแหละ”
จงต้าจวิ้นก็ดื่มไปค่อนข้างมากเหมือนกัน สมองใกล้จะเป็นของเหลวไปแล้ว เขาส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ ฉินสือโอวจึงเรียกเขามาพาเหมาเหว่ยหลงเข้าไปในห้องโดยสารเรือด้วยกัน พอได้ประคองเหมาเหว่ยหลงแล้ว เขาก็ลืมเรื่องที่จะเอาเรื่องต่อไปหมดเลย
อยู่บนทะเลไปสองวันสองคืน พวกเขาก็ทำการจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้อีกสิบกว่าตัว บัตเลอร์ที่อยู่ต่อบนเรือได้ตกตะลึงไม่หยุด จงต้าจวิ้นไม่เข้าใจว่าเจ้าคนดำคนนี้กำลังอึ้งอะไร ยังคงเป็นเหมาเหว่ยหลงที่อธิบายให้เขาฟัง บอกเขาถึงอัตราความยากในการจับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน เขาจึงเข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นบนเรือลำนี้
สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำก็คือการเก็บเบ็ด โดยใช้เครื่องจักรดึงเก็บสายอวนที่ปล่อยลงไปในทะเลขึ้นมา ชาวประมงที่กลับไปเมื่อสองวันก่อนได้กลับมาอีกแล้ว ชาวประมงยี่สิบกว่าคนได้รออยู่ที่ท้ายเรือเพื่อเตรียมทำงาน
เมื่อเห็นแบบนี้ เหมาเหว่ยหลงประหลาดใจ ถามว่า “ก็แค่เก็บอวนไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังต้องให้คนมากมายขนาดนี้มาทำงานอีก? ความหมายของฉันก็คือ พวกเราก็แค่เฝ้าอวนกัน พอมีปลามาติดอวนแล้วก็จับขึ้นมา แต่ตอนนี้ในอวนไม่มีปลาไม่ใช่เหรอ? ไม่จำเป็นต้องใช้คนเยอะขนาดนี้หรือเปล่า?”
ฉินสือโอวสั่งการให้เหล่าชาวประมงใช้เครื่องวัดระยะทางเพื่อหาตำแหน่งของเบ็ดแต่ละอันออกมา จากนั้นก็อธิบายว่า “ปลาที่พวกเราจะจับน่ะเป็นปลาใหญ่ที่สามารถดึงเชือกอวนไปด้วยได้ ตอนนี้ในอวนมีปลา มีปลามากมายเลย มีปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ตัวเล็กแล้วก็ยังมีปลาใหญ่ชนิดอื่นๆอีกด้วยอย่างเช่นพวกปลาค็อด พวกนี้ล้วนต้องจับออกมาทั้งนั้น”
เรือหาปลาแล่นไปอย่างช้าๆ หัวเรือกับสายเชือกทำมุมกันที่ 30 องศา เรือดึงเชือกไปด้วย ค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้น เมื่อความเร็วถึง 6 นอตแล้วค่อยหยุดเรือลง
ในขั้นตอนการเก็บเชือกของเบ็ดราวนั้นเป็นขั้นตอนที่ทดสอบทักษะและประสบการณ์ของคนขับเรืออย่างมาก ตอนที่ไม่มีปลากับมีปลา ความเร็วของเรือจะไม่เท่ากัน ฉินสือโอวอยู่ที่ท้ายเรือเพื่อเป็นคนวัดตำแหน่ง แล้วก็ทำการส่งสัญญาณให้ชาร์คที่ขับเรืออยู่ตลอด
ตอนที่ไม่มีปลา เรื่อหาปลาจะแล่นด้วยความเร็วหกนอต พอตอนที่มีปลาแล้ว ชาร์คจะบังคับเรือให้แล่นช้าลง เพื่อพยายามไม่ให้ปลาว่ายไปตรงท้องเรือ จะได้จับปลาได้สะดวก
ชาวประมงมากมายบนท้ายเรือ งานของพวกเขามีหลากหลายมาก ตอนที่เชือกถูกดึงขึ้นมานั้น พวกเขาต้องทำการปลดเอาทุ่นลอยน้ำ ราวเบ็ด เครื่องแจ้งเตือนแรงดันและไฟลอยน้ำออกมาจากสายและจัดเก็บอย่างรวดเร็ว
งานนี้เป็นงานที่ยุ่งพอๆ กันกับตอนที่ปล่อยเบ็ดลงไป เพื่อสะดวกต่อการหว่านอวนครั้งต่อไป เหล่าชาวประมงต้องทำการตรวจเช็คสายหลักกับราวว่ามีปัญหาหรือเปล่า หากพบว่ามีตรงไหนที่เสียหายจะต้องรีบตัดและต่อใหม่ทันที จากนั้นก็นำสายหลักม้วนและเก็บเข้าไปในถังสายหลักบนเรือ ราวที่ปลดออกมา ก็ทำการจัดเก็บเข้าไปในกล่องเก็บเครื่องมือ
แน่นอนว่า เหล่าชาวประมงจะต้องทำการคัดแยกประเภทของปลาที่ตกขึ้นมาได้ด้วย ส่วนมากจะเป็นพวกปลาแซลมอนแปซิฟิกกับปลาค็อด ที่มากที่สุดจะเป็นปลาค็อดแอตแลนติก ปลาพวกนี้มักจะพบเห็นได้ง่ายบนระดับผิวน้ำแถมยังตระกละ ทำให้ติดเบ็ดได้ง่าย
ตอนท้ายพวกเขายังตกได้ปลาฉลามตัวเล็กมาตัวหนึ่งด้วย ฉินสือโอวปราดตามองไปที เจ้าหมอนี่ก็คือหนึ่งในสมาชิกของฉลามแมวเจ็ดพี่น้อง มันตกใจสุดขีด ตอนที่ถูกสายเชือกลากออกมาจากผิวน้ำทะเลนั้น ได้ทำการดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย จนชาวประมงคนหนึ่งที่ดึงเชือกไว้เกือบจะถูกลากลงไปในทะเลเลย
เหล่าชาวประมงตกใจกันขึ้นมาอีกครั้ง มีคนพูดว่า “โอ้โห เจ้าหมอนี่นี่แรงเยอะจริงๆ เลย ดูสิ มันเป็นเหมือนกับกระต่ายไฟฟ้าเลย พรึ่บๆๆ พั่บๆๆ ไม่มีเวลาหยุดเลย”
ในตอนนี้ บนทะเลได้มีฉลามกบกระโดดออกมาตัวหนึ่ง จากนั้นก็ตามมาด้วยฉลามกบอีกตัว ฉลามกบหลายตัวได้พากันกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำตามๆ กัน แล้วก็มองไปยังชาวประมงบนเรืออย่างตื่นตระหนก
พอเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้ฉินสือโอวแน่ใจถึงสถานะของฉลามกบตัวนี้แล้ว ต้องเป็นหนึ่งในฉลามฉลามแมวเจ็ดพี่น้องอย่างแน่นอน เจ้าหมอนี่โชคร้ายเสียจริง มันต้องพึ่งติดเบ็ดแน่เลย ไม่อย่างนั้นแล้วด้วยพลังและฟันอันแหลมคมที่ถูกพลังโพไซดอนพัฒนาแล้วอย่างฉลามแมวเจ็ดพี่น้องนี้ คงกัดเชือกจนขาดไปนานแล้ว
แม้จะไม่ถือว่าเป็นคนสนิท แต่เจ็ดพี่น้องที่ขี้เบ่งเป็นที่สุดก็ถือว่าเป็นคนคุ้นเคยกับฉินสือโอวแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องยื่นมือเข้าไปช่วย
มีชาวประมงที่เตรียมจะตัดเชือกเพื่อจะปล่อยฉลามกบไป ปลาประเภทนี้ไม่สามารถเอามากินหรือเอาไปขายได้ หากไม่จำเป็นจริงๆเหล่าชาวประมงก็จะไม่จับ
ฉินสือโอวส่ายหัวบอกว่าอย่างทำแบบนี้ การตัดเชือกสามารถปล่อยฉลามกบไปได้ก็จริง แต่ว่าจะเป็นการทิ้งตะขอเบ็ดอันใหญ่โตไว้ในปากของมันด้วย มันสามารถมีชีวิตต่อไปได้ แต่ก็ไม่ใช่ชีวิตที่ดีนัก ฉลามกบไม่ใช่ฉลามขนาดใหญ่เหมือนปลาตัวอื่นๆ ความบาดเจ็บที่ตะขอขนาดใหญ่สำหรับตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินมีให้มันนั้นมากมายมาก
ลากฉลามกบขึ้นมา ฉินสือโอวเข้าไปปลอบมัน เจ้าหมอนี่ได้รับพลังโพไซดอนมาตลอด จึงอ่อนไหวต่อกลิ่นอายของพลังโพไซดอนบนตัวของเขามาก ดังนั้นพอได้ใกล้ชิดกับฉินสือโอวแล้ว มันที่เมื่อกี้ได้ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งก็ได้สงบลง มีแค่หางที่ยังคงตบไปที่พื้นเรือเสียง ‘ปังๆ’ เท่านั้น
เมื่อเป็นแบบนี้ ฉินสือโอวจึงใช้มือข้างหนึ่งกดไปที่เหงือกของมันอีกข้างก็ยื่นเข้าไปในปากมันทำการขยับช้าๆ นำเอาตะขอเบ็ดที่ปักอยู่ในนั้นออกมา จากนั้นค่อยโยนมันลงไปในทะเล
เห็นฉากนี้แล้ว ชาวประมงรอบๆก็พากันตกตะลึงพูดว่า “ชิท บอสนี่สุดยอดไปเลยครับ คุณทำได้อย่างไรครับเนี่ย? นี่เป็นฉลามกบนะครับ เป็นพวกที่นิสัยดุร้ายเหมือนกันนะ!”
“นี่ก็คือนายไม่รู้ไง บอสน่ะเป็นดรูอิดแห่งมหาสมุทร ปลาในทะเลชื่นชอบบอสเป็นพิเศษ เหมือนกับที่ฉันชอบนั่นแหละ”
“บูล นายพูดแบบนี้เกินไปนะ แน่นอนว่าฉันก็ชอบบอสเหมือนกันนะ แต่ว่าเรื่องนี้น่ะ ฉันคิดว่าต้องอธิบายแบบนี้ ความรักสามารถข้ามสายพันธุ์ได้ ปลาฉลามตัวนี้จะต้องรู้สึกถึงความใจดีของบอส ดังนั้นเลยสงบลงต่างหาก”
“โอเคๆ อย่ามัวแต่พูดไร้สาระกันเลย รีบเก็บเชือกกลับบ้านกัน ฉันต้องไปหาวินนี่กับลูกชายอยู่นะ” ฉินสือโอวพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ เหล่าชาวประมงหัวเราะร่าออกมา แล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองต่อ
แน่นอนว่าฉลามกบเจ็ดพี่น้องไม่ได้รู้สึกถึงความรักและความเมตตาที่ฉินสือโอวให้พวกมันอยู่แล้ว แต่ทว่าในตอนนี้คงรู้สึกถึงความมีเมตตาของชาวประมงและเรือหาปลาที่มีให้อย่างเต็มเปี่ยม จึงตามอยู่บริเวณเรือหาปลายตลอด แถมยังกระโดดขึ้นบนผิวน้ำเป็นระยะอีกด้วย
เหล่าชาวประมงเห็นฉากนี้แล้วรู้สึกกินใจขึ้นมา พวกเขาพากันพูดว่า “ฉลามพวกนี้กำลังขอบคุณบอสอยู่น่ะ พวกมันตามอยู่รอบๆ ตลอดเลย นี่เป็นวิธีที่ฉลามขอบคุณมนุษย์เหรอ?”
ตอนแรกท่านชายฉินก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ในใจจึงรู้สึกตื้นตันมาก เจ้าฉลามกบพวกนี้ก็มีหัวใจเหมือนกันนะ แต่หลังจากที่เขาปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปในน้ำแล้วกลับพบว่า ไม่ใช่แบบนั้นเลย ที่เจ้าพวกตัวแสบพวกนี้ยังตามเรือมาตลอดทางนั้น เพราะกะจะไปกินปลาที่จะมาติดเบ็ดล่วงหน้าต่างหาก!
…………………………