ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1849 เชฟอีวิลสัน
เรือประมงที่ฉินสือโอวสั่งซื้อมาสี่ลำเป็นเรือประมงเล็กที่อยู่แถบชายฝั่งทะเล แบ่งเป็นเรือเล็กห้าสิบตันสองลำ เรือประมงหนึ่งร้อยตันหนึ่งลำและหนึ่งร้อยห้าสิบตันอีกหนึ่งลำ
เรือประมงเล็กขนาดห้าสิบตันทำจากอะลูมิเนียม อัลลอย ใช้เครื่องยนต์เบนซินในการขับเคลื่อน ทำให้เรือประมงมีความคล่องตัวสูง หลังติดอวนลากก็สามารถจับปลาในแถบชายฝั่งทะเลได้ อย่างเช่นปลาแซลมอนแปซิฟิกและปลาค็อด
เรือประมงอีกสองลำทำจากวัสดุแบบผสมผสาน กำลังไฟแบ่งเป็น 200 กิโลวัตต์และ 300 กิโลวัตต์ ต่างก็มีประสิทธิภาพที่ดีพอสำหรับเรือเล็ก ใช้พวกมันเพื่อจับปลาประหยัดเงินมากกว่า
มีชาวประมงเก่าที่ทำมาหากินกับเรือประมงมานานหลายสิบปีอยู่ด้วย ฉินสือโอวจึงไม่ต้องมาเลือกเรือด้วยตัวเอง หลังจากที่เขากับชาร์คหารือกันเรื่องประโยชน์ของเรือประมงก็ให้ชาวประมงเป็นคนเลือก เขารับผิดชอบเรื่องจ่ายเงิน
เรือประมงจำเป็นต้องจองก่อนจะผลิต ฉินสือโอวกลับไปรอที่ฟาร์มปลา ในเวลาเดียวกันก็บอกให้ชาวประมงจับปลาค็อดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ในบรรดาแหล่งจับปลาของฟาร์มปลาต้าฉิน ปลาค็อดอุดมสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ยืนอยู่บนเรือประมงแล่นไปในทะเล บางครั้งหันมองไปสองข้างทาง ก็จะเห็นปลาค็อดใหญ่เต็มไปหมดลอยรวมตัวอยู่ข้างเรือประมงทั้งสองข้าง
พอปล่อยอวนลงทะเล จากนั้นครึ่งชั่วโมงก็เก็บอวนขึ้น ข้างในเต็มไปด้วยค็อดอวบอ้วน ฉินสือโอวสั่งการให้ชาวประมงจับเป็นชุด แบ่งจับปลาอลาสก้าพอลล็อค ปลาค็อดแอตแลนติก ปลาค็อดดำและปลาหิมะออกจากกัน อวนหนึ่งลงไปได้ปลาค็อดขึ้นมากว่ายี่สิบตัน วันหนึ่งสามารถเก็บเกี่ยวปลาค็อดได้กว่าหลายร้อยตัน
กลับจากทำงาน ในบ้านไม่มีใครอยู่ วิลล่าก็ว่างเปล่า เงียบเหงา วินนี่และพ่อแม่ของฉินสือโอวต่างก็อยู่ในนครเซนต์จอห์น มีเพียงแค่หู่จือเป้าจือที่อยู่เป็นเพื่อนฉินสือโอว แบบนี้เขาคนเดียวเลยขี้เกียจทำอาหารกิน จึงคิดอยากจะไปหาอะไรกินง่ายๆ ที่ร้านอาหารของคุณลุงฮิคสัน
เขาเรียกอีวิลสันไปกินข้าวในเมือง อีวิลสันขำกล่าว “แก่นตะวัน ข้างแม่น้ำมีแก่นตะวันเยอะมาก ขุดออกมาเผากินอร่อยมากเลย”
หลังได้ยินเขาพูด ฉินสือโอวยื่นมือตบหลังหัวเหมือนคิดอะไรได้ พอวินนี่คลอดลูกเขาก็ลืมเสบียงอาหารที่ตัวเองปลูกไปเมื่อปีที่แล้วไปเลย แก่นตะวันก็คือทานตะวันหัว อาร์ติโชค ปีก่อนเขาไปขุดมาจากเขานิดหนึ่งแล้วปลูกไว้เป็นพันธุ์ ตอนนี้สามารถกินได้แล้ว
เขาคิดว่าตอนที่ดองแก่นตะวันมันกรอบอร่อยมาก จงใจใช้พลังโพไซดอนปรับปรุงคุณภาพแก่นตะวันพวกนี้ที่ปลูก รสชาติน่าจะไม่เลว ไม่อย่างนั้นอีวิลสันคงไม่ปฏิเสธที่จะตามเขาไปกินพิซซ่าและแฮมเบอร์เกอร์ในเมืองหรอก
ฉินสือโอวขับรถพาอีวิลสันไปขุดแก่นตะวัน ระหว่างทางเขาถามว่า “เพื่อน รสชาติของพวกนี้เป็นยังไง? นายเริ่มกินตอนไหน?”
อีวิลสันอ้าปากหายใจไปหลายที เกาหัวแล้วพูดอย่างสับสนว่า “ก็หลายวันแล้ว บางครั้งหิวแล้วอีวัลสันก็ไปกิน เผากิน ล้างสะอาดแล้วเผา จากนั้นทาซอสถั่วและซอสเนื้อ อร่อย อร่อยมาก”
ช่วงก่อนไปอยู่กับวินนี่ เขาอยู่ที่นครเซนต์จอห์นตลอด ฝากอีวิลสันไว้กับชาร์คและบูล ให้อีวิลสันไปกินกับพวกเขา หรือไม่ก็ไปกินในเมือง
หากอีวิลสันไม่กินข้าวในเมือง ถ้าไม่กินพิซซ่าก็ไปกินข้าวที่ร้านคุณลุงฮิคสัน ด้านพิซซ่าเขาสามารถกินได้อย่างสบายใจ ฉินสือโอวจะไปจ่ายเงินให้เขาทุกอาทิตย์ ส่วนที่คุณลุงฮิคสัน เขากินข้าวไม่ต้องเสียเงินเลย เพราะว่าคุณลุงอายุเยอะแล้ว งานใช้แรงส่วนใหญ่ที่ร้านอาหารก็ทำไมได้แล้ว ล้วนเป็นอีวิลสันที่ไปช่วยเขาทำ
ไปถึงนาข้างแม่น้ำ ตัวแก่นตะวันเขียวขจีก็ปรากฏออกมา และเมื่อเทียบกับที่ฉินสือโอวปลูกในตอนนั้น ขนาดดูใหญ่ขึ้นไม่น้อย รอบข้างมีกล้าแก่นตะวันอีกจำนวนมาก สีเขียวขจีของยอดอ่อนทำให้คนมองแล้วรู้สึกสดชื่น
โดยปกติแล้ว แม้ว่าแก่นตะวันจะทนหนาวทนแล้งได้ แต่มันก็ไม่สามารถฝ่าฝืนกฎธรรมชาติได้ ในฤดูหนาวจะเหี่ยวลงเพราะความหนาวเย็น พอถึงเดือนมีนาคมก็จะเริ่มแตกหน่อและงอกงามตอนเดือนเมษายน พอเดือนกันยายนและเดือนตุลาคมก็จะเก็บเกี่ยวได้
แต่เนื่องจากการปรับปรุงพันธุกรรมจากพลังโพไซดอน หลังปลูกแก่นตะวันของฟาร์มปลาในฤดูใบไม้ร่วง ก็เริ่มแตกหน่อเติบโตแล้ว หิมะหนักฤดูหนาวก็ไม่ได้ทำให้พวกมันแข็งตาย ตอนนี้เริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิมีหัวที่ใหญ่แล้ว จึงสามารถกินได้แล้ว
ฉินสือโอวไม่ต้องลงมือเลย อีวิลสันแบกพลั่วประจำตัวไปขุดในแปลง ไม่นานแก่นตะวันเล็กใหญ่ขนาดเท่ากำมือผู้ใหญ่ก็ถูกขุดออกมาเรื่อยๆ
หู่จือเป้าจือเคยช่วยขุดแก่นตะวันตอนที่ไปปีนเขา พวกมันมีประสบการณ์ กรงเล็บที่แข็งแรงขุดดินอย่างรวดเร็ว หลังขุดดินออกก็เผยให้เห็นตัวแก่นตะวัน
หลังจากหลัวปอหมาป่าขาวมาถึงแปลงแก่นตะวันเหมือนจะไม่มีสมาธิ มันวนรอบแปลงรอบหนึ่ง กระตุกจมูกน้อยดำตลอด ดวงตาใสมองไปรอบๆ บางครั้งเงยหัวขึ้นแล้วส่งเสียงร้องหอนเสียงดัง ต่างจากนิสัยที่สงบสง่างามปกติ
ฉินสือโอวแปลกใจจึงเดินไปเกาคอให้มัน หลัวปอเงียบไปสักพัก หลังจากฉินสือโอวเดินจากไป มันก็เริ่มวิ่งรอบแปลงแก่นตะวันอีกครั้ง สุดท้ายก็วิ่งหายไปเลย
เนื่องจากเจ้าตัวเล็กในฟาร์มปลาเลี้ยงแบบปล่อย เลยรักษาธรรมชาติความมีชีวิตชีวาไว้ตลอด หัวไชเท้าน้อยเองก็หลงเหลือธรรมชาติไว้บางส่วน ฉินสือโอวไม่ได้สนใจหัวไชเท้าน้อย มันวิ่งไปทั่วสักพักก็จะกลับมา
อีวิลสันลงมือเร็วมาก เห็นชัดว่ามีประสบการณ์ในการขุดแก่นตะวันมาก เขาขุดทีเดียวลงไปลึกเลย โดยทั่วไปแล้วแบบนี้ทีเดียวก็สามารถขึดแก่นตะวันที่ซ่อนอยู่ออกมาได้แล้ว
เก็บแก่นตะวันมาหลายสิบหัว อีวิลสันยื่นมือไปนับอย่างเชื่องช้า เดาว่าสุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเท่าไร เขาเกาหัวถาม “ฉิน พอกินไหม?”
ฉินสือโอวหัวเราะ “แน่นอน นี่เพียงพอแล้ว ในเคอร์รี่ยังมีไก่ เป็ด ห่านอีกนะ ฉันจะย่างไก่ย่างอีกตัวหนึ่งดีไหม?”
อีวิลสันพยักหน้าอย่างดีใจ เขาสะบัดดินบนแก่นตะวันออกแล้วใส่ไว้บนรถกระบะ หลังจากกลับถึงฟาร์มปลาฉินสือโอวเตรียมเก็บกวาด เขาส่ายหัวบอกว่า “อีวิลสันย่างเป็น อร่อยมากนะ นายไปย่างไก่ อันนี้ให้อีวิลสันจัดการ”
ฉินสือโอวหัวเราะขึ้นมาหลังได้ยินคำนี้ แล้วพูดว่า “พระเจ้า อีวิลสันจะทำอาหารเหรอ? อีวิลสันเองก็ทำอาหารเป็นแล้วเหรอ?”
คนตัวใหญ่พยักหน้าอย่างจริงจัง พูดว่า “อีวิลสันเผาแก่นตะวันอร่อยมาก อร่อยกว่าตอนที่กินบนเขาอีก”
บนเทือกเขาเคอร์บัลมีแก่นตะวันไม่น้อย นี่เป็นหนึ่งในอาหารของอีวิลสันตอนที่พเนจร เขาจำสถานที่ที่แก่นตะวันขึ้นเยอะบนเขาได้ ถ้าหากในเมืองหาของกินไม่ได้ เขาก็จะไปขุดแก่นตะวันกินบนเขา ดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์ไม่น้อย
ฉินสือโอวไปจัดการไก่ย่าง อันนี้ง่าย เตาย่างมีอยู่แล้ว เอาไก่ที่ฆ่าแล้วมาละลายน้ำแข็ง ทาส่วนผสมพวกเหล้า ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชูและเกลือเสร็จ ก็ยัดต้นหอม ขิง กระเทียมเข้าไปในท้องไก่ ใส่เข้าไปในเตาอบก็พอแล้ว
หลังเขาจัดการไก่ย่างเสร็จก็ไปดูอีวิลสัน พูดตามตรงเขาไม่ค่อยเชื่อว่าคนตัวใหญ่นี่จะทำแก่นตะวันเผาออกมาอร่อย ของนี้เหมาะกับการดองหรือไม่ก็ใส่ในข้าวต้มมากกว่า
ปรากฏว่าพอเขาเดินออกจากวิลล่า ก็ได้กลิ่นที่หอมมาก และตำแหน่งที่กลิ่นหอมนี้โชยมาก็อยู่ที่อีวิลสันที่กำลังยุ่งอยู่นั่น
……………………