ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1858 เอากลับไปสองตัว
เมื่อเห็นหมาป่าขาวตัวนี้ ฉินสือโอวดีใจมาก อดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งไปข้างหน้าและตะโกนว่า “หัวไชเท้าน้อย!”
ฉินสือโอวนายใหญ่ก้าวไปข้างหน้าและหมาป่าสีขาวตัวอื่นๆ ก็คำรามอย่างหงุดหงิด หู่จือและเป้าจือจ้องตาถลึง พุ่งเข้าไปหาทั้งซ้ายและขวา ชูคอพร้อมอ้าปากร้องคำราม “โฮ่งๆๆๆ!”
หากพูดแบบจริงจัง ลำตัวของสุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์เล็กกว่าหมาป่าขาวสองเท่า ถ้าเจอกันในป่าหมาป่าขาวหนึ่งตัวสามารถกัดสุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ห้าตัวให้ตายได้และจากไปอย่างมีความสุข แต่หู่จือและเป้าจือไม่ใช่สุนัขพันธุ์แลบราดอร์ธรรมดา พวกมันเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ในฝูงสุนัข มองดูรูปร่างไม่ใหญ่แต่กำลังต่อสู้นั้นยอดเยี่ยม
หู่จือและเป้าจือจ้องไปที่หมาป่าขาวพวกนี้อย่างเคร่งเครียด ราวกับจะบอกว่าเจ้าพวกนี้ถ้ากล้าก็ออกมา จะสู้แบบเดี่ยวหรือเป็นฝูงพวกข้าก็ไม่กลัวทั้งนั้น จะกัดพวกแกให้ตายให้หมด
เมื่อได้รับคำท้า หมาป่าขาวโกรธเหมือนภูเขาไฟจะระเบิด แต่พวกมันไม่กล้าผลีผลามลงมือ เพราะข้างหลังแลบราดอร์ยังมีหมียักษ์อีกตัวหนึ่งที่พวกมันแทบไม่เคยเห็นในชีวิต
บนเทือกเขาเคอร์บัลมีฝูงหมาป่าขาวอยู่ และก็มีหมีสีน้ำตาลเช่นกัน ฉงต้าไม่ใช่หมีที่เกิดจากก้อนหินสักหน่อย หมาป่าขาวปกติเคยเห็นหมีสีน้ำตาล บางทีทั้งสองฝ่ายอาจจะเคยต่อสู้กันอยู่บ้าง พวกมันรู้ถึงความเก่งกาจของหมีสีน้ำตาล ดังนั้นต่อหน้าฉงต้าพวกมันจึงยังยับยั้งตัวเองไว้
หัวไชเท้าน้อยเดินบิดตัวไปมา ฉินสือโอวรั้งมันเข้ามากอด สูดดมกลิ่นที่คุ้นเคยของเจ้าเด็กน้อยนี่ ในใจเขาเต็มไปด้วยความสุข ใช้นิ้วสางขนของมันให้เรียบร้อยแล้วกระซิบว่า “เยี่ยมมาก เยี่ยมจริงๆ ในที่สุดก็หาเจ้าเด็กน้อยนี่เจอจนได้ หม่าม๊าวินนี่ของเราเป็นห่วงเรามากเลยรู้ไหม?”
เมื่อคิดถึงวินนี่ที่เป็นห่วงจนกินไม่ได้มาสองวัน ฉินสือโอวนายใหญ่ก็ไม่พอใจขึ้นมา ตีไปที่ก้นของเจ้าเด็กน้อยสองที พูดอย่างเคืองๆ ว่า “ทำไมถึงแอบหนีออกจากบ้านฮะ? ตั้งนานก็ยังไม่กลับบ้านอีก?”
หัวไชเท้าน้อยร้องเสียงเอ๋งๆ สองที หลังจากนั้นใช้ก้นหนีบหางไว้ อ้าปากแลบลิ้นเลียไปที่หลังมือของฉินสือโอวอย่างเอาใจ
ส่วนหมาป่าขาวที่ถูกกระแทกไปพอเห็นฉินสือโอวตีหัวไชเท้าน้อยก็รีบวิ่งเข้าไปหาอย่างร้อนรน แต่ฉงต้าก็พุ่งเข้าไปอย่างดุเดือด ตบไหล่ของหมาป่าสีขาวผู้โชคร้ายด้วยความเร็วดุจสายฟ้า จนก้นมันไถลไปบนพื้นดินไกลหลายเมตร
หมาป่าขาวตัวอื่นๆ เริ่มหงุดหงิดมากขึ้น ฉงต้าตบพื้นอย่างรุนแรงด้วยอุ้งเท้าใหญ่ของมันและส่งเสียงอู้อี้ราวกับลิงกอริลล่าที่กำลังจะแสดงพลัง น่าเกรงกลัวอย่างยิ่ง
หัวไชเท้าน้อยผละออกจากอ้อมกอดของฉินสือโอวและจ้องไปที่หมาป่าขาวตัวอื่นๆ เงยศีรษะขึ้นเพื่อส่งเสียงหอนเป็นเวลานานราวกับจะเตือนพวกมันว่าอย่าผลีผลาม
หมาป่าขาวตัวอื่นก็ส่งเสียงหอนเช่นกัน แววตามองไปฉินสือโอวอย่างไม่พึงพอใจ
ฉินสือโอวพอจะเข้าใจแล้ว หัวไชเท้าน้อยอาจจะไม่รู้ว่าโดนพรรคพวกพันธุ์เดียวกันเจอตัวมันได้อย่างไร บางทีเจ้าหมาป่าขาวพวกนี้อาจจะเคยไปสวนแก่นตะวัน แล้วปัสสาวะอุจจาระอยู่แถวนั้น หัวไชเท้าน้อยดมกลิ่นเหมือนของตัวเอง แล้วก็ไม่รู้ว่าต่อมาเป็นอย่างไร จนมาเจอพรรคพวกพันธุ์เดียวกัน แล้วอยู่มาจนถึงตอนนี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหัวไชเท้าน้อยเป็นกลุ่มเดียวพันธุ์เดียวกับหมาป่าขาวอย่างแน่นอน แต่มันเป็นของฟาร์มปลา เพราะได้รับการเลี้ยงดูจากวินนี่
ฉินสือโอวรู้สึกกังวลใจขึ้นมา เจ้าพวกนี้เปลี่ยนเป็นหมาป่าขาวขี้ขลาดไม่ได้หรืออย่างไร? เขาลองกวักมือเรียกหัวไชเท้าน้อยดู ชี้ไปที่ฟาร์มปลาที่อยู่ด้านล่างเขา “พวกเรากลับบ้านกันเถอะ หม่าม๊าวินนี่รออยู่นะ แล้วยังทำของอร่อยๆ ไว้เยอะเลยด้วย”
หัวไชเท้าน้อยรีบวิ่งไปอยู่ข้างเขาทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย อีกทั้งยังส่ายหางดุ๊กดิ๊กแสดงท่าทีมีความสุขด้วย
ฝูงหมาป่าเดินวนไปวนมาอยู่ตรงนั้นอย่างร้อนใจ หัวไชเท้าน้อยไม่มองพวกมันแม้แต่น้อย นั่งยองๆ อยู่หน้าฉินสือโอวมองเขาอย่างมีความหวัง ราวกับว่ารอเขาพามันกลับบ้าน
หมาป่าโชคร้ายตัวนั้นที่โดนฉงต้าฟาดกระแทกกับพื้นลุกขึ้นมา มันส่งเสียงร้องหาหัวไชเท้าน้อย ส่วนหัวไชเท้าน้อยก็หันกลับไปมองมันแล้วร้องเรียกกลับเช่นกัน
เจ้าหมาป่าโชคร้ายทำจมูกฟุดฟิด สายตาปราดมองไปที่พวกเดียวกันอย่างเลื่อนลอย หลังจากนั้นก็เดินก้มหัวไปอยู่หน้าหัวไชเท้าน้อย
ทันใดนั้นฝูงหมาป่าก็ตื่นตัวและโจมตีทันที พวกมันพุ่งเข้ามาหาโดยไม่สนการข่มขู่ของฉงต้า ฉงต้า หู่จือและเป้าจือคิดจะโจมตีกลับ แต่ฉินสือโอวยับยั้งพวกมันไว้ เพราะเขาดูออกว่าหมาป่าพวกนี้ไม่ได้พุ่งมาที่ตน
เป็นจริงดั่งคาด ฝูงหมาป่าล้อมหมาป่าโชคร้ายตัวนั้นและหัวไชเท้าน้อยไว้ อ้าปากเตรียมทั้งจะกัดและฉีกเป็นชิ้นๆ แต่เจ้าหมาป่าโชคร้ายและหัวไชเท้าน้อยกลับไปมีปฏิกิริยาตอบสนอง ทำเพียงแค่หลบ อย่างมากหากถูกกัดจนเจ็บก็ร้องคำรามให้มันกลัว
เมื่อเห็นหัวไชเท้าน้อยโดนกัด ฉินสือโอวก็ทนไม่ไหว เขาชี้ฉงต้าไปทางด้านหน้า ฉงต้าพุ่งเข้าไปหาพร้อมคำรามเสียงราวกับรถถังเสียงดังหึ่มๆ พุ่งไปในฝูงแกะ ทั้งชนทั้งกัดขจัดฝูงหมาป่าออกไปได้อย่างง่ายดาย
ฉินสือโอวอุ้มหัวไชเท้าน้อยมาอยู่ในอ้อมแขนแล้วสำรวจตรวจตรา มันไม่มีบาดแผลบนตัว เพียงแต่ขนละเอียดนุ่มของมันยุ่งเหยิงไม่น้อย
หัวไชเท้าน้อยม้วนตัวไปมาอยู่บนตัวเขา ทีแรกฉินสือโอวนายใหญ่นึกว่ามันจะหยอกเล่นและบ่นนึกโทษเขา แต่ตอนหลังกลับพบว่า เจ้าเด็กน้อยกำลังจัดการกับขนตัวเองอยู่…
สุดท้ายเขาก็พาหัวไชเท้าน้อยกลับไปยังเส้นทางที่เดินมา เจ้าหมาป่าโชคร้ายยังเดินโซซัดโซเซตามมา มันเลียไปที่ก้นของหัวไชเท้าน้อย หัวไชเท้าน้อยรังเกียจจนรีบวิ่งออกไปหลายก้าวเมื่อเห็นแบบนี้เจ้าหมาป่าโชคร้ายก็รีบวิ่งตามไปติดๆ เดินตามหลังไปด้วยท่าทีเคอะเขิน
เห็นได้ชัดว่าเจ้าหมาป่าผู้โชคร้ายจะติดตามหัวไชเท้าน้อยและออกมาจากฝูงหมาป่าขาว แค่ได้ยินเสียงคำรามอย่างไม่พอใจของฝูงหมาป่าขาวก็พอรู้แล้ว
แต่ฉินสือโอวรู้สึกประหลาดใจ ไม่ถูกนี่นา ฝูงหมาป่าไม่เหมือนมนุษย์ ในเผ่าพวกมัน ราชาหมาป่าจะมีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจ แต่สำหรับฝูงหมาป่าขาวกลับไม่มีวี่แววของราชาหมาป่าปรากฏตัวขึ้น
แต่เขาก็ไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะบางทีฝูงหมาป่าขาวอาจจะแตกต่างจากฝูงหมาป่าเทาทั่วๆ ไป เพราะอย่างไรก็ตามพันธุ์หมาป่าขาวนี้ก็ใกล้สูญพันธุ์แล้วคาดว่ากฎของฝูงหมาป่าหลายข้อคงไม่ได้สืบทอดต่อกันมา พวกมันก็แค่อยู่ไปวันๆ ด้วยกันแค่นั้นเอง
พาหัวไชเท้าน้อยและหมาป่าโชคร้ายที่เดินตามพวกเขาหน้าตายกลับไปหาอีวิลสันและลูกสาวของเขาเพื่อเตรียมตัวลงเขา
เมื่อเห็นหัวไชเท้าน้อย เถียนกวาดีใจมาก เลื่อนลงมาจากร่างอีวิลสันมันแล่นลงจากสไลเดอร์ วิ่งเข้าไปหาหัวไชเท้าน้อยด้วยความดีใจและโอบกอดมันอย่างปรีดา หัวไชเท้าน้อยเป็นคนที่เห็นเถียนกวาเติบโตขึ้นมา เพราะตอนที่เถียนกวายังเล็ก แล้วหากวินนี่ยุ่งกับงานก็ให้หัวไชเท้าน้อยเป็นแม้กระทั่งคนดูแลเถียนกวา
ดังนั้นหัวไชเท้าน้อยจึงเอ็นดูเจ้าเด็กน้อยคนนี้มาก คอยหยอกล้อเธอด้วยอุ้งเท้าของมันตลอดเวลา อ้าปากแล้วใช้ฟันโขกไปที่เธอเบาๆ เล่นด้วยกันสนุกสนาน
เมื่อเล่นไปสักพัก เถียนกวาก็สังเกตเห็นหมาป่าผู้โชคร้าย และชี้ไปที่หมาป่าตัวนั้นอย่างองอาจพยายามจะจับมัน
อย่างไรเจ้าหมาป่าโชคร้ายก็เป็นหมาป่าขาวที่มีความดุร้ายอยู่ ตาจ้องมอง ร้องคำรามอย่างน่ากลัวและเผยให้เห็นฟันพุ่งไปที่เถียนกวาทันที
ผลปรากฏว่ามันยังไม่ทันได้แสดงฤทธิ์เดช หัวไชเท้าน้อยก็พุ่งเข้าไปกัดที่ปากมันก่อน ส่วนฉงต้าก็วิ่งเข้าไปหาฟาดอุ้งเท้าเข้าไปจนมันล้มไปที่พื้น หู่จือและเป้าจือกัดขากดรั้งมันไว้
หมาป่าโชคร้ายนอนอยู่ที่พื้นด้วยความอัปยศ ผิวหน้าของมันถูกหัวไชเท้าน้อยกัดโดน อยากจะร้องก็ร้องไม่ออก จึงทำได้เพียงเงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างเงียบๆ ปล่อยให้เถียนกวาเหยียบบนตัวมัน
………………………….