ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1861 ต่อสู้กับเพื่อนบ้านเลวทราม
ฉินสือโอวมองชาร์คที่อยู่ข้างๆ ถามอย่างลังเลว่า “เมื่อกี้น้ำเสียงที่ฉันตอบกลับมันอ่อนโยนไปหรือเปล่า?”
ชาร์คได้รับการฝึกฝนจากเขาในฐานะเจ้านายของฟาร์มปลา ดังนั้นเขาที่นิสัยเดิมทีนิ่งเงียบอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งนิ่งขรึมกว่าเดิม แต่ทว่า นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้โกรธ เมื่อได้ยินคำพูดของฉินสือโอว เขาร้องเสียงฮึ อย่างเยือกเย็น แล้วพูดว่า “จัดการเลย บอส ผมกล้าพนันว่าคงเป็นเพราะเราไม่ได้มาจัดการกับฟาร์มปลาแห่งที่สามเป็นเวลานานแล้ว เลยถูกไอ้พวกที่หมาเลี้ยงมาพวกนี้นึกว่าเป็นถิ่นของตัวเองไปซะแล้ว!”
ขณะที่เขาพูด เขาก็ตะลึงนิ่ง ดึงแท่งควบคุมของปืนน้ำออกจากแท่นคนขับและพูดว่า “ต้องทำให้พวกมันกลัวเท่านั้นถึงจะจัดการกับปัญหาในวันนี้ได้ บอส บอกเพื่อนๆ ของกัปตันเรือ เตรียมออกรบ!”
พวกชาวประมงที่ฟาร์มปลาได้รับผลมาจากฉินสือโอวอยู่ นิสัยคล้ายกับคนจีนที่แข็งกร้าว แกไม่ยั่วฉัน ฉันไม่ยั่วโมโหแก แต่ถ้าแกมายั่วโมโหฉัน ถ้าอย่างนั้นก็มีแค่ประโยคเดียว “คนทำชั่วฟ้าก็ไม่ปล่อยแกไปหรอก!”
ดังนั้น เมื่อฉินสือโอวเล่าสถานการณ์ให้พวกชาวประมงฟัง ชาวประมงที่เขาพามาด้วย 15 คนครั้งนี้ต่างโกรธแค้นขึ้นมา เกิงจุนเจี๋ยถึงกับระดมทหารและชาวประมงแล้วตะโกนว่า “จัดการพวกเชี่ยแม่งเลย เดี๋ยวสักพักเล่นงานพวกมันห้ามอ่อนข้อ ใครแม่งอ่อนแอฉันจะเตะลงทะเลให้หมด เข้าใจไหม?”
นายช่างใหญ่เพ่าไห่ของเรือปริ้นเซสเมล่อนไม่ค่อยได้ออกรบต่อสู้อย่างเลวร้ายสักเท่าไร หลังจากที่เขาได้เอี๋ยนตงเหล่ยแนะนำมาที่ฟาร์มปลา ความมีตัวตนอยู่ของเขาไม่ได้เด่นชัด เพราะเรือปริ้นเซสเมล่อนก็ไม่ได้ออกทะเลบ่อยๆ จึงไม่มีส่วนที่ต้องให้นายช่างใหญ่อย่างเขาออกแรงเยอะ
ครั้งนี้พอได้ยินว่าจะสู้รบกัน เขาก็ถูมือไปมาแล้วถามว่า “เชี่ยเอ๊ย บอส เรากำลังจะใช้ปืนกันใช่ไหม? ผมได้ยินมาว่าครั้งหนึ่งลูกเรือของสหรัฐอเมริกาและแคนาดาปะทะกันในทะเล พวกเขาจะใช้ปืนเพื่อต่อสู้กัน”
ฉินสือโอวเข้าใจดีถึงนิสัยของเพื่อนร่วมชาติคนนี้ นี่คือนิสัยคนซื่อๆ คาดว่าตั้งแต่เข้าเรียนมาก็คงไม่ค่อยได้เตะต่อยกับใครเท่าไร เขาตีไปที่บ่าของเพ่าไห่แล้วพูดว่า “นายรออยู่ที่นี่ ร่วมมือกับชาร์คคอยดูแลเครื่อง อย่าปล่อยให้เครื่องบนเรือตกจากโซ่ โดยเฉพาะปืนน้ำ ต่อไปยังห้องเครื่องให้ฉัน ใส่น้ำร้อนเข้าไป!”
เพ่าไห่พูดอย่างดีใจว่า “ไม่มีปัญหาครับบอส ปืนน้ำและเครื่องยนต์จะไม่หลุดจากโซ่อย่างแน่นอน ผมดูแลมันอยู่ทุกวัน”
ฉินสือโอวโยนวิทยุไร้สายให้ชาร์ค พูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “ไม่ต้องทรมานตัวเอง ด่าให้เต็มที่ ไอ้เลวพวกนี้มันไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ! พวกเราชาวจีนมีคำกล่าวไว้ว่า ‘ต้นไม้ถ้าไม่คอยเล็มก็จะไม่โต คนถ้าไม่คอยสั่งสอนก็ไม่รู้จักดีชั่ว’ ถ้าพวกมันกล้าลงไม้ลงมือ ถ้าเช่นนั้นก็จัดการให้ไอ้พวกหมาบ้าพวกนี้ได้พักอย่างสงบไปซะ!”
ความขัดแย้งของเขาและตระกูลมอร์รี่เป็นเรื่องธรรมชาติที่สุด ทั้งสองฝ่ายปิดกั้นเส้นทางการเงินของอีกฝ่ายและทั้งคู่ต้องการที่จะให้อีกฝ่ายตายอย่างรวดเร็ว ดังนั้นถ้าอนาคตเขาจะพัฒนาฟาร์มปลาใหม่แห่งนี้ ดูท่าแล้วความขัดแย้งคงเกิดขึ้นไม่น้อย
หลายปีมานี้ที่อาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ วิธีจัดการของฉินสือโอวยิ่งแข็งกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ คนต่างชาติไม่เหมือนกับคนจีน พวกเขาไม่เคยได้รับการสั่งสอนจากขงจื่อ ไม่เข้าใจว่าการถ่อมตนคือคุณธรรมชั้นเลิศ ดังนั้นสำหรับพวกเขาแค่คำเดียวเท่านั้น “เล่นงานมัน! นี่เป็นวิธีที่ได้รับความเคารพที่ดีที่สุด!”
จะมาชักชวนคนด้วยเหตุผลอะไรเล่า? วัฒนธรรมที่ต่างกันจะมีเหตุผลอะไรมากมายมาพูด อีกทั้งศัตรูที่ไม่คิดจะเป็นมิตรของเราอยู่แล้ว จะไปพูดด้วยเหตุผลทำไม?
เรือประมงของตระกูลมอร์รี่ชื่อว่า เรือจับปลามอร์รี่หมายเลข 14 เป็นเรือประมงระหว่าง 1,000 ตันถึง 2,000 ตันซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเรือปริ้นเซสเมล่อนมาก เฉกเช่นรถที่อยู่หน้ารถถัง
อย่างไรก็ตามคาดว่าคนบนเรือคิดว่าพวกเขาสามารถถีบใครไปก็ได้ในถิ่นของตัวเอง พวกเขาเหล่านี้จึงไม่กลัวเลยสักนิด เมื่อเห็นว่าเรือปริ้นเซสเมล่อนไม่เคลื่อนไหวใดๆ ก็มีคนขึ้นไปที่ดาดฟ้า รอจนเรือสองลำเข้าใกล้กัน เขาควบคุมปืนน้ำบนเรือเพื่อโจมตีเรือปริ้นเซสเมล่อน
หัวเราะอย่างโหดร้าย ฉินสือโอวลงมือคุมปืนน้ำเอง หลังจากเปิดปลอกปืนแล้ว เล็งท่อหนาสีดำไปที่เรือจับปลามอร์รี่หมายเลข 14 หลังจากนั้นก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น ชาร์คในห้องคนขับควบคุมเบรกมือแนวนอนเพื่อให้ระบบจ่ายน้ำเปิดใช้งานได้
มีน้ำทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุดรอบๆ เรือ ดังนั้นแหล่งน้ำจึงไม่ใช่ปัญหา ด้วยวิธีนี้ปั๊มน้ำจะสูบน้ำทะเลไปยังถังเก็บน้ำระดับสูง ด้วยความเสถียรของอุปกรณ์รักษาเสถียรภาพแรงดันอากาศผ่านอะแดปเตอร์ปั๊มน้ำและท่อส่งน้ำจึงส่งสายน้ำที่ทั้งรวดเร็วและมีแรงกำลังพุ่งออกไป เสียงน้ำดังก้องฉีดไปที่เรือจับปลามอร์รี่หมายเลข 14
บนเรือจับปลามอร์รี่หมายเลข 14 ชาวประมงสองสามคนกำลังจัดการกับปืนฉีดน้ำ นี่คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการล้างเรือประมง เอามาใช้ทำให้ผู้คนหวาดกลัวก็ได้เช่นกัน อันที่จริงพลังทำลายล้างนั้นไม่ได้แข็งแกร่งมาก อย่างน้อยเมื่อเทียบกับปืนน้ำ สิ่งนี้ก็อ่อนโยนเหมือนของเล่นเด็ก
เดิมทีชาวประมงเหล่านี้ยังคงหัวเราะอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น พวกเขารอที่จะให้ปืนฉีดน้ำของตัวเองซัดอ่วมชาวประมงบนเรือฝ่ายตรงข้ามจนเป็นเหมือนหมาตกน้ำ ถึงแม้ว่าเรือปริ้นเซสเมล่อนจะใหญ่กว่าเรือของพวกเขามาก แต่ชาวประมงก็ไม่กลัว เพราะนี่คือถิ่นของพวกเขา พวกเขาไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายกล้าที่จะสู้ ในความคิดของพวกเขา พวกเขาสามารถกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามได้ตามอำเภอใจ
ผลปรากฏว่า เรื่องบางเรื่องไม่เชื่อก็ไม่ได้ เขากำลังจะใช้ปืนฉีดน้ำของเขาด้านนี้ ปืนน้ำของฝ่ายตรงข้ามก็พุ่งมาแล้ว…
“เชี่ย!” มองสายน้ำที่พุ่งมาอย่างแรง คนผิวขาวที่จัดการปืนฉีดน้ำอยู่ร้องโหยหวน เพราะเขาหลบไม่ทัน จึงถูกสายน้ำซัดเข้าให้เต็มๆ ทันที และชนถูกไอ้ชั่วผู้โชคร้ายที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยพอดีจนล้มลงไปบนพื้นทั้งคู่
ยังนับว่าพวกเขาโชคดี ฉินสือโอวไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ทำความเย็นให้น้ำทะเลตั้งแต่แรก น้ำทะเลที่มีอุณหภูมิต่ำเหล่านั้นถูกเครื่องยนต์เผาผลาญจนกลายเป็นน้ำร้อนเดือด เมื่อพุ่งออกไปโดนตัวคนนั่นก็ยังเรียกว่าสบายตัว
ยังนับว่าฉินสือโอวอ่อนข้อและใจดี ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่มีเหตุผล แต่เขาก็ไม่อยากทำร้ายฝ่ายตรงข้ามจนน่าสังเวชมากเกินไป ดังนั้นตราบใดที่ชาวประมงของตระกูลมอร์รี่ไม่ใช้อาวุธ เขาก็จะใช้แค่น้ำธรรมดามาเป็นเครื่องมือในการโจมตี เท่ากับให้บทเรียนพวกเขาสักหน่อย
ชาวประมงของตระกูลมอร์รี่ไม่ใช่คนแข็งกร้าว เมื่อพวกเขารู้ว่าฉินสือโอวและพรรคพวกของเขาแข็งแกร่งและแข็งแรงกว่าพวกเขา พวกเขาก็ปีนขึ้นไปบนห้องคนขับทันที และควบคุมพวงมาลัยให้หันหลังกลับและหนีไปในทิศทางของฟาร์มปลาคาร์เตอร์
แน่นอนว่ากัปตันของพวกเขายังมีความกล้าหลงเหลืออยู่ ตอนท้ายจึงตะโกนเสียงแหบๆ ทางวิทยุไร้สายว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ ถ้าแน่จริงก็อย่าหนี พวกเราจะไม่แจ้งตำรวจ พวกเราจะจัดการพวกบ้านี่ให้ตายหมด!”
ชาร์คพูอย่างเกียจคร้านว่า “ฉันรอจนนั่งไม่ติดแล้วเนี่ย แต่ว่าตอนนี้ใครกันนะที่หนีอยู่? ถ้าแน่จริงพวกแกก็อย่าหนีสิวะ”
เห็นเรือจับปลามอร์รี่หมายเลข 14 จากไปกับตา บนเรือปริ้นเซสเมล่อนก็มีเสียงดีใจ เสียงนกหวีด ฉินสือโอวปิดปืนน้ำ ยิ้มเย็นแล้วพูดว่า “ยังไม่ต้องคลุมผ้าปิดปืนน้ำ ไปที่ท่าเรือฟาร์มปลาก่อน ถ้าพวกมันยังกล้ามาอีก ก็เล่นงานพวกมันต่อซะ!”
ฟาร์มปลาธรรมดาไม่จำเป็นต้องใช้เรือขนาดยักษ์ 10,000 ตันในการจับปลา เพราะใหญ่เกินประโยชน์ ดังนั้นในฟาร์มปลาตระกูลมอร์รี่จึงไม่มีเรือประมงลำไหนกล้าต่อกรกับเรือปริ้นเซสเมล่อน ชาวประมงเหล่านั้นจัดเรือหาปลาธรรมดา 5 ลำมาที่ท่าเทียบเรือฟาร์มปลาแห่งที่สามอย่างกระวนกระวาย แต่พวกเขาไม่กล้าเข้ามาใกล้ เพียงแค่ล่องเรืออยู่ด้านนอก
ฉินสือโอวขี้เกียจไปยุ่งกับคนพวกนี้ เขาพาคนไปจัดการห้องหับในฟาร์มปลาให้เรียบร้อย ให้ชาร์คเป็นคนคุมปืนน้ำ ถ้าเรือพวกนี้กล้าเข้าใกล้ ก็จัดการกับพวกมันอย่างเหี้ยมโหดไปเลย
พวกชาวประมงของตระกูลมอร์รี่ไม่มีความกล้าพอที่จะเข้าใกล้ ดังนั้นพวกเขาจึงแจ้งตำรวจ ให้ตำรวจทะเลเนรเทศ “โจรขโมยปลา” เหล่านี้ไป
……………………………..