ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1863 เข้าซื้อกิจการ
ฉินสือโอวคาดไม่ถึงเลยว่า เขาเพิ่งมาที่ฟาร์มปลาแห่งที่สามได้แค่วันที่สอง ชาลส์ มอร์รี่ผู้รับผิดชอบคนหนึ่งของมหายุคซีโนโซอิกในตระกูลมอร์รี่จะมาหาถึงที่ อีกทั้งหิ้วของขวัญมาด้วย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่ามาเยี่ยมเพื่อนเก่า
แต่พวกเขาทั้งสองไม่ใช่เพื่อนเก่า แต่เป็นคู่ต่อสู้เก่าแก่ ดังนั้นฉินสือโอวนายใหญ่จึงไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน เขาไม่เคยเชื่อว่าเพื่อนบ้านคนนี้มาเยี่ยมเขาและขอคืนดี เพราะทั้งสองฝ่ายมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์โดยตรง และถูกกำหนดให้ไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้
โดยเฉพาะ ฟาร์มปลาทั้งคู่อยู่ติดกันอยู่ ดังนั้นในอนาคตสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของทรัพยากรในฟาร์มปลาต้องมีเรื่องแน่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดการณ์ล่วงหน้าไว้ได้ ดังนั้นต่อให้ตอนนี้รักษาความสัมพันธ์ให้ดีอย่างไรก็ไร้ประโยชน์
แต่ทว่าในเมื่อชาลส์ถือของขวัญมาถึงหน้าประตูขนาดนี้ ฉินสือโอวก็คงจะไม่ต้อนรับไม่ได้ คนสำนึกผิดแล้วจะให้ลงโทษอีกก็กระไรอยู่
เขาเข้าไปรับของขวัญที่ชาลส์ให้มาอย่างกระตือรือร้น ตบไปที่บ่าเขาแรงๆ แล้วพูดว่า “เกรงใจเกินไปแล้ว เพื่อน เกรงใจเกินไปจริงๆ ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี เอาเป็นว่าผมรู้สึกซาบซึ้งมาก”
ชาลส์ฝืนยิ้มแล้วพูดตอบว่า “พวกเราก็เป็นเพื่อนบ้านกันนะ เพื่อนผอง ผมจะมาเยี่ยมคุณก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรใช่ไหมล่ะ? อนาคตโอกาสที่พวกเราจะยังเจอกันอีกยังมีอีกเยอะ”
ปากก็บอกว่าเกรงใจ แต่ในใจกำลังก่นด่าฉินสือโอวอยู่ เพราะฉินสือโอวตบไปที่บ่าเขาแรงมาก จนเขารู้สึกว่ากระดูกตรงหัวไหล่เขาแตกหมดแล้ว!
หลังจากที่ฉินสือโอวรับของขวัญไว้ เขาก็เชิญให้ชาลส์นั่ง และถามเขาว่าอยากดื่มอะไร
ชาลส์ยิ้มแล้วตอบว่า “อากาศแบบนี้น้ำผลไม้สักแก้วก็ดีครับ”
ฉินสือโอวยักไหล่อย่างไม่แยแส แล้วพูดว่า “ขอโทษด้วยนะเพื่อน ผมเพิ่งมายังไม่ได้ซื้อผลไม้เลย ก็เลยไม่มีน้ำผลไม้น่ะ”
”ถ้าอย่างนั้นกาแฟสักแก้วก็เยี่ยมเลย” ชาลส์เปลี่ยนตัวเลือก
ฉินสือโอวยังคงยักไหล่ต่อ พูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ขอโทษด้วยนะเพื่อน เครื่องทำกาแฟเสียแล้ว บดเมล็ดกาแฟไม่ได้ ไม่มีให้ดื่มน่ะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าชาลส์เริ่มเหือดหาย เขาพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นอะไรก็ได้”
ฉินสือโอวหัวเราะเสียงดัง “จะแบบนั้นได้อย่างไรล่ะครับ คุณเป็นแขก ผมจะเสริฟเครื่องดื่มอะไรก็ได้ให้แขกได้อย่างไรกัน? คุณสั่งมาเถอะ”
ชาลส์ตอบ “งั้นชาล่ะ?”
“คุณจะรับชาดำ ชาเขียวหรือว่าชารสหวาน?” ฉินสือโอวถามต่อ
“ชาดำ”
“ขอโทษด้วยครับ ไม่มี”
“ชาเขียวล่ะ? ”
“ขอโทษด้วยครับ ไม่มีชาอะไรเลย ครั้งนี้ผมรีบมาเลยไม่ได้เอาชามาด้วย” ฉินสือโอวพูดด้วยความรู้สึกผิด
ชาลส์เกือบจะหลุดโวยวายออกมา เส้นเลือดบนหน้าผากเขาเต้นปุดๆ กัดฟันแล้วถามว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ คุณจะถามชาดำหรือชาเขียวกับผมทำไม? เอาเถอะเพื่อน ผมไม่ดื่มอะไรละ ผมไม่ได้กระหายน้ำสักหน่อย”
ฉินสือโอวแสดงสีหน้าจริงใจ “ไม่นะครับ มีที่ไหนให้แขกนั่งเหี่ยวเฉาแบบนี้? พวกเราคนจีนจะพิถีพิถันมากในการต้อนรับแขก เอาอย่างนี้ละกัน ผมมีน้ำแร่ที่รสชาติไม่เลวเลยที่นี่ น้ำแร่สักแก้วละกันนะ?”
ชาลส์พยายามสะกดความรำคาญไว้ ฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “แน่นอน แน่นอน น้ำแร่ก็ไม่เลวเลย รบกวนคุณหน่อยนะ ฉิน”
“ไม่เป็นไรเลยครับ ผมก็บอกแล้วว่าพวกเราคนจีนจะพิถีพิถันมากในการต้อนรับแขก” ฉินสือโอวยังคงกล้าพูด ส่วนในใจของชาลส์นั้นกำลังสาปแช่งอย่างเต็มที่
ฉินสือโอวนายใหญ่เอาของขวัญเข้าไปในห้องครัว ชาร์คถามขึ้น “บอส พวกเราทำแบบนี้จะเกินไปหน่อยไหม?”
เขากำลังพูดถึงคำพูดที่เมื่อกี้ฉินสือโอวใช้ท้าทายชาลส์
ฉินสือโอวยิ้มเย็น “ไม่นะ เกินไปอะไรที่ไหน? เมื่อกี้ฉันกำลังตัดสินอยู่ หลานชายคนนี้จะต้องมีแผนอะไรไม่ดีแน่ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มาต้อนรับเราอย่างดีแบบนี้หรอก”
เขาเปิดกล่องของขวัญ ภายในมีรูปปั้นสองตัวซึ่งเป็นรูปปั้นเรือประมงที่ทำด้วยโลหะ ภายนอกทาด้วยสีทอง ดูสง่างามมีราคาและไม่เหมือนใคร ส่วนอีกรูปหนึ่งเป็นรูปปั้นหินอ่อนของโพไซดอนเทพเจ้าแห่งท้องทะเล บนรูปปั้นหินมีเคราของเทพเจ้าและเขากำลังจ้องมองด้วยความโกรธแค้นและกระหายเลือด ตรีศูลในมือของเขาชี้ตรงไปข้างหน้า และรถม้าทองคำกำลังขี่อยู่บนเกลียวคลื่น เป็นการแกะสลักที่ละเอียดลออมาก
เมื่อเห็นของขวัญชิ้นนี้ ฉินสือโอวก็ยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม รูปปั้นสองรูปนี้มีความงดงามมาก ถ้ารวมกันแล้วราคาอย่างน้อยก็ต้องมีหนึ่งแสนดอลลาร์สหรัฐ ทำไมตระกูลมอร์รี่ถึงใจกว้างกับเขาขนาดนี้? หรือว่ามาเพื่อแสวงหาความปรองดองและความร่วมมือจริงหรือ? แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างสู้รบปรบมือในด้านตลาดอาหารทะเลอย่างจริงจังแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าไม่มีโอกาสในการร่วมมือกันแล้ว
เขาให้ชาร์คเช็ดรูปปั้นทั้งสอง แล้วก็หาที่วางมัน หลังจากนั้นหยิบน้ำแร่สองขวดแล้วเดินไปหาชาลส์ ส่งให้เขาหนึ่งขวด ส่วนตัวเองเปิดกินเองอีกขวด
ชาลส์เริ่มขอโทษเขาก่อน เขาพูดว่า “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะฉิน สิ่งที่เพื่อนของผมทำเมื่อวานทำให้ผมรู้สึกอับอาย พวกเขาไม่มีเซนต์ในเรื่องทิศทางเท่าไร แต่กลับมาเจอฟาร์มปลาของคุณแล้วยังจับปลาด้วยอีก ได้โปรดยกโทษให้พวกเขาด้วย”
ฉินสือโอวโบกมือ “ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องเข้าใจผิดเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยงในชีวิตคนเรา จริงไหม? อีกอย่างพวกเราเป็นเพื่อนบ้านกัน จะข้ามแดนมาหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก ผมหวังว่าในอนาคตเราจะตั้งทุ่นแนวเขตไว้ที่แนวฟาร์มปลาน่าจะดีกว่า”
ทุ่นแนวเขตใช้ในการปักแบ่งเขตฟาร์มปลา โดยปกติจะเป็นเชือกที่ยาวและมีสีสดสว่าง มีทุ่นพลาสติกลอยอยู่บนผิวน้ำเป็นระยะทางหนึ่ง เพียงเท่านี้ก็สามารถแยกแนวเขตได้คร่าวๆ แล้ว
แต่ทุ่นแบบนี้ก็ไม่ได้มีประโยชน์เสมอไป เพราะบางครั้งทุ่นจะถูกพัดไปในกรณีที่เกิดภัยพิบัติจากพายุหรือสึนามิ ต่อให้ไม่มีภัยพิบัติเหล่านี้ แต่พอเวลาผ่านไป ทุ่นก็สามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้เมื่อโดนลมทะเลหรือคลื่นทะเลพัดผ่าน
ชาลส์ดื่มน้ำอึกหนึ่งให้ชุ่มคอ เขาบอกว่า “จริงๆ แล้วนะฉิน บางทีพวกเราอาจจะมีวิธีแก้ปัญหาอื่น คุณดูสิ ฟาร์มปลาของพวกเราติดกัน ภายหลังคงเกิดปัญหาเรื่องผลิตภัณฑ์ปลาแล้วเกิดข้อขัดแย้งได้ง่าย จริงไหม?”
ฉินสือโอวพยักหน้า นี่เป็นเรื่องจริงจริงๆ
ชาลส์พูดอีกว่า “ผมจำได้ว่าชาวจีนคุณมีสุภาษิตที่ดีมากประโยคหนึ่ง เรียกว่า ภูเขาลูกหนึ่งคงมีเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าตัวหนึ่งจะเป็นตัวผู้ อีกตัวจะเป็นตัวเมีย เจ้าของฟาร์มปลาของพวกเราเป็นเพศชายทั้งคู่ ดังนั้นหากฟาร์มปลาของเราอยู่ติดกัน ก็เหมือนเสื้อตัวผู้อาศัยอยู่ด้วยกัน จึงยากที่หลีกเลี่ยงข้อขัดแย้ง”
ฉินสือโอวเข้าใจความหมายเขาคร่าวๆ แล้ว จึงถามว่า “คุณหมายถึงว่า พวกคุณคิดจะขายฟาร์มปลาให้กับผมเหรอ?”
ชาร์ลส์ที่กำลังดื่มน้ำสำลักขึ้นมาทันที เขารีบโบกมือ “ไม่ใช่ ไม่ใช่ครับ ความหมายของผมคือ คุณจะสามารถตัดของรักทิ้งและขายฟาร์มปลานี้ให้ผมได้หรือไม่?”
โลกสวยจริงๆ จริงๆ แล้วเมื่อกี้ฉินสือโอวเข้าใจความหมายของเขาอยู่แล้ว แต่จงใจพูดกระตุ้นเขาแบบนั้น ดังนั้นพอฟังคำพูดของชาลส์แล้ว ขาส่ายหัวอย่างแน่วแน่และพูดว่า “ขอโทษนะชาร์ลส์ คุณก็รู้ว่าเราสนิทกันมาก แต่มันไม่ได้น่ะ ฟาร์มปลาแห่งนี้ผมไม่ได้ซื้อมันมาง่ายๆ ผมจึงไม่อยากขายทิ้งไป”
ชาลส์ยังพยายามโน้มน้าวเขา พูดขึ้นว่า “ผมพูดจริงๆ เลยนะ ฉิน ตอนที่พวกเราซื้อฟาร์มปลาคาร์เตอร์ พวกเรานึกว่าฟาร์มปลาแห่งนี้ก็เป็นของฟาร์มปลาคาร์เตอร์เช่นกัน จนถึงตำแหน่งแม่น้ำเซนต์แคเทอรีนส์…”
“แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ?” ฉินสือโอวหรี่ตาแล้วถามขึ้น
ชาลส์พูดอย่างตรงไปตรงมา “หลังจากนั้น จริงๆ แล้วเมื่อวานเพื่อนผมก็ไม่ได้ทำผิดอะไร พวกเขานึกว่านี่เป็นถิ่นของพวกเรา อีกทั้งตลอดทั้งปีที่แล้ว พวกเราก็ลงทุนลงในฟาร์มปลาแห่งนี้ ดังนั้นตอนนี้คุณจะมาเอาฟาร์มปลาแห่งนี้ไป เอาผลงานที่เราลงแรงไป ก็คงจะไม่ค่อยดีล่ะมั้งครับ?”
…………………….