ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1866 การก่อสร้างอันแสนวุ่นวายของฟาร์มปลาแห่งที่สาม
ฉินสือโอวอธิบายว่าพวกเราไม่เหมือนกับชาวอเมริกันพวกนั้นที่อยู่ฟาร์มปลามอร์รี่ พวกเราเป็นชาวแคนาดา ไม่เหมือนคนอเมริกันที่หยาบคาย
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยิ้มแล้วจากไป ที่จากไปไม่ใช่เพราะฉินสือโอวพูดจนเข้าใจ แต่เพราะพวกชาวประมงที่เหมือนโจรพวกนั้นล้อมเข้ามา เขาจึงกลัวว่าถ้ายังไม่ไปอีกคงจะโดนรุมก่อน
ฟาร์มปลาแทบจะขาดของทุกอย่าง ดังนั้นจึงแทบจะต้องซื้อทุกอย่าง ของที่ใช้ในชีวิตประจำวันฉินสือโอวได้คิดไว้ก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว เขาใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์รายการออกมา ทุกคนต่างมีของที่ตัวเองต้องรับผิดชอบในการซื้อ ฉินสือโอวมีหน้าที่ในการซื้ออาหาร เขาจึงดูแลส่วนนี้
เขาเอาเนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อห่านมาจากเกาะแฟร์เวล เขาซื้อพวกเนื้อวัว เนื้อแพะ ผักและผลไม้ในซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะอย่างไรก็ตามพวกชาวประมงเป็นพวกกินจุ อะไรก็กินเข้าไปได้หมด ส่วนเขาก็อะไรก็ได้ ดังนั้นพอเขาเห็นอะไรก็หยิบลงรถเข็นไปหมด หยิบจนเต็มห้าคันรถเข็น ถึงค่อยชะลอฝีเท้าลง
ขณะที่เดินเล่นในซูเปอร์มาร์เก็ต เขาไม่คาดคิดว่าจะเจอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ่งอี ซึ่งเขารู้สึกทอดถอนใจ ไม่ได้กินสิ่งนี้มาหลายปีแล้ว พอเจอกะทันหันแบบนี้ก็รู้สึกคิดถึง จึงรีบหยิบมาสองลังใหญ่
สำหรับเขาที่ทานอาหารรสชาติเป็นเลิศคุณภาพเยี่ยมจนติดเป็นนิสัย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่ถือว่ามีแรงดึงดูดสำหรับเขาเลย แต่ถ้าเอาเจ้านี่มาเป็นของกินเล่นตอนกลางคืน ก็ไม่เลวทีเดียว
เมื่อทุกคนซื้อของเสร็จ ฉินสือโอวเป็นคนจ่ายเงิน ซูเปอร์มาร์เก็ตเปิดช่องแคชเชียร์ให้พวกเขาได้ใช้เป็นพิเศษก่อน เพราะครั้งนี้พวกเขาซื้อของไปเยอะมาก ทั้งเครื่องครัว อาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน 50,000 ดอลลาร์แคนาดาก็เอาไม่อยู่
รถปิคอัพสองคันท้ายมีของเต็มรถไปหมด แต่พอมีของใช้พวกนี้ ก็เท่ากับมีของพื้นฐานที่จำเป็นกับความต้องการในฟาร์มปลาแล้ว
ฝูงปลาที่พามาจากฟาร์มปลาต้าฉินยังคงมาไม่ถึง ตอนเย็นฉินสือโอวเลยเรียกรวมกลุ่มชาวประมงมากินมื้อดึกด้วยกัน แน่นอนว่าอาหารมื้อดึกก็คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ก่อนจะต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฉินสือโอวตั้งใจถามชาวประมงก่อนเลยว่าใครจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ้าง พวกชาวประมงไม่เคยทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ผลิตในประเทศจีนมาก่อนจึงถามเขาว่ารสชาติเป็นแบบไหน ฉินสือโอวตอบว่ารสชาติสิ่งนี้มันก็ไม่มีมาตรฐานมาวัดซะด้วย เขาจึงไม่กล้ารับปาก
เกิงจุนเจี๋ยส่ายศีรษะบอกว่าไม่กิน ชาวประมงคนอื่นๆ ก็บอกว่าไม่กินเช่นกัน บูลและคนอื่นๆ จึงถามด้วยความสงสัยว่าทำไมไม่กิน เกิงจุนเจี๋ยบอกว่าตอนอยู่ที่บ้านกินสิ่งนี้จนเบื่อแล้ว รสชาติไม่อร่อย
ฉินสือโอวพยักหน้า บอกว่าสมัยก่อนเขาก็กินจนเลี่ยนไปหมด แต่ครั้งนี้ที่กินก็อยากจะย้อนรำลึกชีวิตในอดีตของเขา พอได้ยินแบบนี้ พวกชาวประมงก็ไม่มีใครสนใจเลย
แต่ทว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของแบบนี้ หลังจากต้มเดือดแล้วจะไม่ปิดฝา โดยเฉพาะตอนนี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาต้มอยู่เป็นยี่ห้อถ่งอีรสหมาล่าเนื้อวัว พอเปิดฝาหม้อออก กลิ่นหมาล่าก็กระจายออกไปทั่วอย่างเต็มที่ จนพวกชาวประมงเริ่มนั่งไม่ติด ทำจมูกฟุดฟิด ยืนอยู่หน้าประตูเมียงมอง
ฉินสือโอวเป็นคนทำอาหารมีข้อดีอยู่อย่าง นั่นก็คือตั้งใจ เอาการต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปครั้งนี้มาเป็นตัวอย่าง เขาทำตามที่เขียนบนซอง เนื้อวัวชิ้นใหญ่ที่ต้มจนเดือดปุดๆ ผักสีเขียวๆ คู่กับบะหมี่สีเหลืองทอง พอออกจากหม้อก็คือบะหมี่หมาล่าเนื้อวัวแบบต้นตำรับดีๆ นี่เอง
บูลเลียริมฝีปากแล้วพูดขึ้น “เชี่ย หอมมาก นี่บะหมี่อะไรเนี่ย? กลิ่นยังน่าดึงดูดกว่าสปาเกตตีอีก”
พวกชาวประมงพยักหน้ารัวๆ เห็นด้วย เกิงจุนเจี๋ยพาลูกน้องทหารหลายคนไปยืนอยู่ด้านหลังแล้วก็ทำตัวไม่ถูก เขาถามคนข้างๆ ว่า “กลิ่นบะหมี่อันนี้มันไม่เลวเลยจริงๆ เดี๋ยวกินกันสักหน่อยไหม?”
ชายคนนั้นยิ้มอย่างขมขื่น “อย่าเลย หัวหน้าเกิง ตอนอยู่ที่จีนผมกินทุกวัน พอออกต่างประเทศแล้วพวกเราก็มีอาหารทะเลกินแล้ว ทำไมยังต้องกลับไปทรมานแบบนั้นอีกนะ?”
ฉินสือโอวตักขึ้นมาชิมหนึ่งคำก่อน รสชาติยังอร่อยกว่าบะหมี่ทะเลอะไรนั่นที่เขาทำมากกว่าอีก เพราะเส้นเหล่านี้จะหนึบกว่า มีความหนึบหนับอยู่ในปากเวลาเคี้ยว ส่วนซุปก็เป็นซุปหมาล่าเนื้อวัวแบบต้นตำรับ ดังนั้นบะหมี่หมาล่าเนื้อวัวที่ทำออกมาจึงมีรสชาติดีแน่นอน
บูลและชายร่างใหญ่สองสามคนเบียดเสียดกันแย่งเข้ามา รีบหยิบเอาบะหมี่ที่เหลืออยู่ในหม้อ ฉินสือโอวคิดว่าพวกเขาไม่น่าจะทนกลิ่นของหมาล่าเนื้อวัวที่กระตุ้นแบบนี้ได้ จึงต้มไม่เยอะ พอเป็นแบบนี้เมื่อพวกเขาแย่งกัน แม้แต่ซุปในหม้อก็หมดเกลี้ยง
ถ้ารสชาติของบะหมี่หม้อนี้ธรรมดาก็ช่างมันแล้ว แต่ว่าเขากลับรู้สึกว่าเขาต้มได้ดีทีเดียว ดังนั้นพอเห็นพวกชาวประมงแย่งอาหารรสเลิศของตัวเองที่กำลังจะเข้าปากก็โมโหขึ้นมาทันที ตะคอกใส่ว่า “พวกนายอยากกินทำไมไม่บอกล่วงหน้า? เมื่อกี้ฉันก็ถามแล้วว่ากินไหม พวกนายก็บอกว่าไม่กินไม่ใช่เหรอ?”
ชาร์คพูดอย่างน่าสงสารว่า “บอส อันนี้บอสต้องไปโทษพวกเกิง เพราะพวกเขาทำให้พวกเราเข้าใจผิดแล้วบอกว่าไม่อร่อย แต่จริงๆ แล้วรสชาติของบะหมี่อันนี้คือสุดยอดมาก อร่อยกว่าทั้งสปาเกตตี ทั้งมะกะโรนี อร่อยมากกว่ามาก”
เดิมทีงานต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นงานง่ายๆ แต่บะหมี่ที่ฉินสือโอวต้มใส่ซุปเนื้อวัว แล้วเมื่อกี้เขาก็ต้มไว้นิดเดียว เอาไปใช้หมดแล้ว ถ้าจะให้ต้มอีกก็ยุ่งยากไม่น้อย
แต่ทว่าต่อให้ยุ่งยากอย่างไรก็ต้องทำ เพราะเมื่อกี้เขาตักใส่ชามเพื่อชิมแค่นิดเดียว หลังจากนั้นก็ถูกพวกชาวประมงแย่งกินไปจนเกลี้ยง
ครั้งนี้เขาใช้หม้อใบใหม่ตุ๋นน้ำซุปเนื้อวัวหนึ่งหม้อ ต้มจนรสขาติของเนื้อวัวออกมา แล้วค่อยใส่บะหมี่ลงไปครึ่งลัง แม้แต่เกิงจุนเจี๋ยและพรรคพวกก็ลงมือกิน กินจนท้องอิ่มอืดไปหมด
ผ่านไปสองสามวัน ฝูงปลายังคงอยู่ระหว่างเดินทาง แต่ปลาชนิดพิเศษบางชนิดที่เขาเลี้ยงไว้ อย่างกุ้งกุลาดำ ปลาลิ้นหมา ปลาตัวลาย ปลาไหลญี่ปุ่น ปลาดาบเงิน ปลาไส้ตันสีเงิน เป็นต้น ปลาเศรษฐกิจพวกนี้ทยอยมาถึงแล้ว
ปลาพวกนี้เป็นฝูงปลาที่ผ่านการคัดเลือกจากพันธมิตรที่เหมาะจะเอามาเพาะพันธุ์ในฟาร์มปลาแห่งที่สาม เมื่ออยู่ในที่ที่มีสิทธิประโยชน์ก็ได้รับสิทธิ์ก่อนใคร ฉินสือโอวในฐานะที่เป็นประธานพันธมิตร เขาจึงคุ้นเคยกับฝูงปลาชนิดพิเศษของแต่ละฟาร์มปลาเป็นอย่างดี ปลาที่ได้รับการคัดเลือกมาย่อมเป็นปลาที่มีความสามารถในการพัฒนามากที่สุด
ส่วนเจ้าของฟาร์มปลาต่างก็ดีใจที่ปลาของตัวเองได้รับการคัดเลือกจากเขา พวกเขาเต็มใจที่จะมอบฝูงปลาให้ฉินสือโอว แถมพวกเขายังไม่ต้องการเงินด้วย แต่ต้องการอาหารเลี้ยงปลาแบรนด์ต้าฉินมาแลกเปลี่ยนแทน!
ประสิทธิภาพของความแข็งแกร่งของอาหารปลาแบรนด์ต้าฉินยิ่งมากขึ้นทุกวัน พวกเจ้าของฟาร์มได้ทำการทดลองการเพาะพันธุ์ด้วยอาหารปลาแบรนด์ต้าฉิน พวกปลาไม่เพียงแต่เจริญเติบโตได้ไว คุณภาพเนื้อก็ดีมาก อีกทั้งยังสุขภาพแข็งแรงด้วย ดังนั้นฟาร์มปลาในพันธมิตรตอนนี้จึงยอมรับที่จะใช้อาหารปลาแบรนด์ต้าฉินในการเพาะพันธุ์
ซึ่งก็ส่งผลให้เกิดปัญหามาตลอด เพราะฟาร์มปลายิ่งเยอะ ตวามต้องการก็มากตามไปด้วย ทางด้านฉินสือโอวใช้ไลน์การผลิตแปดไลน์ด้วยกันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
สายการผลิตอื่นๆ อีกแปดสายอยู่ระหว่างดำเนินก่อสร้างเช่นกัน แต่นี่ไม่สามารถดำเนินการเสร็จได้ในระยะเวลาอันสั้นเพราะว่าไลน์ผลิตสายใหม่ต้องสร้างโรงงานใหม่ ไลน์การผลิตสมัยก่อนสร้างขึ้นใหม่จากโกดังของฟาร์มปลา ซึ่งโรงงานพวกนั้นก็ถูกใช้จนหมดแล้ว
ดังนั้นพวกเจ้าของฟาร์มปลาก็ฉลาดในการเรียนรู้ พยายามติดต่อฉินสือโอวทุกวิถีทาง ใช้เส้นสายในการได้มาซึ่งอาหารเลี้ยงปลา เขารู้สึกปวดหัวกับสิ่งนี้มาก แต่ก็ไม่มีวิธีแก้ไข จึงทำได้เพียงเน้นระเบียบวินัย ไม่อนุญาตให้เจ้าของฟาร์มปลาใช้เส้นสายตามอำเภอใจและปล่อยให้พวกเขาต่อแถวซื้ออาหารปลาพอ
ไม่สามารถแซงคิวได้ พวกเจ้าของฟาร์มปลาก็เริ่มถกเงื่อนไขกับฉินสือโอว ดังนั้นตอนที่เขาจะซื้อลูกปลาเพื่อไปพัฒนาฟาร์มปลาแห่งใหม่ เจ้าของฟาร์มปลาทุกคนต่างขอให้เขาเริ่มต้นธุรกิจกับเขา นั่นก็คือลูกปลาแลกกับอาหารปลา แลกกันด้วยราคาที่เท่ากันอย่างยุติธรรม!
…………………