ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1890 มูลค่าไม่ต่ำกว่าสองพันล้าน
จากซากเรือแล้วเรือลำนี้เป็นเรือไม้ มันจมอยู่ในทะเลมาหลายร้อยปี ไม้พวกนั้นเกือบจะเปื่อยจนกลายเป็นเศษไม้ไปหมดแล้ว ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนรีดน้ำออกจากไม้เพื่อที่จะทำความสะอาดเรือลำนี้
ปรากฏว่า ทันทีที่น้ำพุ่งเข้าไป ไม้หลายแผนก็แตกหักทันที เขาตกใจกลัวจึงหยุดพลังทันที เขากังวลจริงๆ ว่าตัวเองจะทำให้ซากเรือไม้อันมีค่าลำนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง
ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนสำรวจรอบๆ เรืออับปาง เขามองเห็นหีบสมบัติจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ข้างใน ข้างในห้องโดยสารมีกล่องพวกนี้กองอยู่รวมกัน กล่องพวกนั้นยังคงรักษารูปร่างดั่งเดิมไว้ เขาเห็นลายสลักภาษาสเปนอยู่บนกล่องพวกนั้น
ในตอนที่เขาหาเรือซานโฮเซนั้น เขาได้ศึกษาเรือลำนี้มาตลอด ตอนนี้เมื่อเห็นอักษรพวกนั้น เขาก็ได้รู้ในทันทีว่านี่คือความหมายของเรือซานโฮเซ
โดยที่ไม่ต้องสงสัย เขาเจอเข้ากับเรืออับปางที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตรแล้ว!
กล่องเหล่านี้ถูกล็อคด้วยกุญแจ แต่แม่กุญแจถูกทำลายไปนานแล้ว ฝากล่องยังคงติดอยู่กับตัวกล่อง ฉินสือโอวให้จิตสำนึกืแห่งโพไซดอนในการจัดการกับกล่องพวกนั้น
กล่องไม้ถูกทำลายแตกเป็นเสี่ยงๆ ข้าวเครื่องใช้บางอย่างเช่นพวกเชิงเทียน ขานชาม และเครื่องเรือนอื่นๆ เป็นสีดำบางส่วน แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นเนื้อแท้ของพวกมัน แต่เขาก็เดาได้ว่า นี่เครื่องเงินเครื่องทอง
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนตรวจสอบพบว่ามีปลาหมึกสายตัวใหญ่ตัวหนึ่งเข้ามาในเรือ ฉินสือโอวเรียกจิตสำนึกแห่งโพไซดอนกลับมา หลังจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเบลค
เบลคกำลังประชุมอยู่ แต่ว่าเมื่อเห็นเบอร์ของฉินสือโอวเขาก็รับสาย นอกจากนี้ยังพูดเล่นอีกว่า “ให้ฉันดานะ ฉิน นายโทรหาฉันจะต้องมีข่าวดีอะไรแน่ๆ เช่นว่าฉันรู้ว่านายพึ่งจะซื้อบ้านสุดเจ๋งหลังใหม่…”
“ใช่แล้ว ข่าวดี วาฬเบลูก้าของฉันเจอเข้ากับร่องรอยของเรือซานโฮเซ” ฉินสือโอวพูดอย่างตรงไปตรงมา
ฝั่งตรงข้ามจู่ๆ ก็มีเสียงลมพัดดังขึ้นมา เสียงนั้นยาวและดังเป็นเวลานาน เสียงนั้นทำให้ฉินสือโอวถามออกมาด้วยความแปลกใจว่า “พระเจ้า นายกำลังประชุมอยู่เหรอ? ให้ห้องทำงานของพวกนายยังมีเครื่องเป่าลมพวกนั้นอยู่อีกหรอ?”
“เครื่องเป่าลมอะไรล่ะ! นายล้อฉันเล่นหรือเปล่า?! เรือซานโฮเซงั้นหรอ? นายหมายถึงเรือซานโฮเซใช่ไหม? เรือซานโฮเซของสเปนที่เต็มไปด้วยอัญมณี ทองคำและเงินลำนั้นน่ะเหรอ?! เรือซานโฮเซมี่มูลค่าอย่างต่ำสองพันล้านดอลล่าร์สหรัฐลำนั้นน่ะนะ ” เบลคเดินไปหาที่สงบๆ ในการพูดคุย จากนั้นก็ร้องโวยวายออกมา
“วันนี้ไม่ใช่วันเอพริฟลูเดย์ใช่ไหม? นายหาเรื่องมาทำให้ฉันมีความสุขใช่ไหม? ฮ่า นายล้อฉันเล่นใช่ไหมล่ะ? ฉิน อย่าทำแบบนี้ นายก็รู้ว่าหัวใจฉันไม่ค่อยดี ฉันขอร้องล่ะ บอกฉันความจริงฉันที…ว่านายหาเรือซานโฮเซเจอ!”
“ใช่แล้ว ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันหาเรือซานโฮเซเจอแล้ว”
“โอเค รอฉันก่อนนะ นายอยู่ที่ไหน? ฉันจะออกเดินทางไปหานายทันที” หลังจากที่ได้ที่อยู่เบลคก็วางสายลงทันที
ฉินสือโอวโทรหาบิลลี่ ทางนั้นบิลลี่นั้นใจเย็นกว่าเยอะมาก อย่างไรก็ตามเขาเป็นผู้ดูแลการกอบกู้เรืออับปางอย่างเรือขวานดำด้วยตัวเอง เขารู้จักเรืออับปางมากมาย แต่ว่า เขาก็ตื่นเต้นเช่นกัน “ที่รัก ฉันแทบจะอดใจไม่ไหวแล้วล่ะ! นายเจอเรือซานโฮเซ นายนี่เป็นเทพโพไซดอนจริงๆ! บอกที่อยู่มา ฉันจะไปหานาย!”
คนที่นิ่งที่สุดคือแบรนดอน โดยอายุที่มากกว่ารวมถึงหน้าที่การงานทางด้านการเงิน ทำให้เขามีสติที่นิ่งสบ หลังจากที่ได้ยินข่าวเขาก็ทำเพียงหัวเราะออกมาเสียงดัง หลังจากนั้นก็รีบมาหาเขาที่นี่
เบลคที่มาจากโทรอนโตมาถึงก่อนเป็นคนแรก ไม่รู้ว่าเขาไปหาเฮลิคอปเตอร์มาจากที่ไหน หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่แพงแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่ใช้เวลาบินเพียงครึ่งคืนเท่านั้นเขามาถึงอุทยานแห่งชาติ
ฉินสือโอวไม่รู้จะพูดอย่างไร เขาทำเพียงให้บีบีซวงเป็นคนขับเฮลิคอปเตอร์นำเบลคไป ที่อุทยานไม่มีสนามบิน แม้ว่าจะมีลานหญ้ากว้าง แต่ในช่วงเวลากลางคืนการจะนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดถือว่ามีความเสี่ยงมาก
เบลคเตรียมพร้อมที่จะวิ่งแล้ว เขามีท่าทางเหมือนกับเด็ก ทันทีที่เฮลิปคอปเตอร์จอดสนิท เขาก็รีบกระโดดลงมาทันที จากนั้นก็ร้องเรียกฉินสือโอวเสียงดังพร้อมเข้ามากอดเขา
หู่จือและเป้าจือเห่าออกมาเสียงดัง หลังจากนั้นพวกมันก็รู้สึกคุ้นชินกับชายผู้นี้เหลือเกิน พวกมันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเห่าแล้ว พวกมันจึงส่ายหางไปมาแล้วเดินกลับไปนอนต่อ
ฉินสือโอวพูดขึ้นด้วยความเหนื่อยใจว่า “เพื่อ ทำไมนายถึงได้รีบร้อนมาขนาดนี้? เรืออับปางมันก็อยู่ที่เดิมนั่นแหละ พวกเรายังมีเวลาที่จะไปจัดการพวกมัน โอเคไหม? ดังนั้นทำไมนายไม่ไปนอนพักเสียก่อนล่ะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาดีไหม?”
เบลคมองไปรอบๆ พลางพูดว่า “รอบๆ ไม่มีคนดักฟังอยู่ใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพูดขึ้นว่า “ในรัศมีห้ากิโลเมตรนี้มีบ้านฉันอยู่หลังเดียว นายคิดว่ายังไงล่ะ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น เบลคก็พูดขึ้นด้วยความตกใจว่า “น้องชาย นายนี่จะกล้าเกินไปแล้ว นายรู้ไหมว่าตอนนี้นายมีเงินอยู่เท่าไร? นายรู้ไหมว่ามีคนมากมายกี่คนที่ต้องการลักพาตัวนาย?!”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดัง “นายคิดว่าบ้านหลังนี้มีเพียงฉันและครอบครัวหรอ?”
ฉินสือโอวผิวปากออกมาหนึ่งคครั้ง พวกของแบล็คไนฟ์ก็ปรากฏตัวออกมา “บอส เกิดอะไรขึ้นครับ?”
“จับตาดูไว้ คืนนี้สภาพไม่ค่อยดี ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่อง”
นีลเซ็นตบปืนสไนเปอร์ที่อยู่ข้างตัวแล้วพูดว่า “ถ้าหากว่ามีคนมาที่ประตูจริงๆ ผมก็หวังว่าเขาจะเร็วกว่ากระสุนของผม”
ฉินสือโอวมองไปยังเบลคแล้วพูดว่า “เอาล่ะ ตอนนี้นายพอใจหรือยัง? อยากพูดอะไรก็พูดสิ”
เบลคพูดออกมาเสียงดังว่า “ที่ฉันจะพูดก็คือ ฉันต้องรีบมาอยู่แล้ว แม้ว่าเรือซานโฮเซจะไปไหนไม่ได้! แต่ว่า แต่ว่า แต่ว่า! พวกรัฐบาลโคลอมเบียและสเปนบ้าพวกนั้น ต่างก็ต้องการจัดการกับเรืออับปางลำนี้! ดังนั้นพวกเราจำเป็นที่จะต้องแข่งกับเวลาเพื่อไปจัดการกับสมบัติพวกนั้น! สมบัติพวกนั้นมีมูลค่าอย่างน้อยสองพันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยนะ!”
ฉินสือโอว “…”
เพราะว่าเบลคที่กำลังตื่นเต้นมาถึงที่นี่แล้ว คืนนี้ฉินสือโอวจึงไม่ได้นอน เบลคนำไวน์แดงและไวน์ขาวมาจำนวนมาก เขาลากฉินสือโอวมาดื่มไวน์ด้วยกันระหว่างที่รอบิลลี่และแบรนดอนมาถึง
แต่สองคนนั้นนิ่งกว่เบลคมาก พวกมันมาถึงในช่วงรุ่งสางของอีกวัน แบรนดอนอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกล แต่เขามาที่นี่โดยการนั่งเครื่องบินจากนั้นก็ต้องเปลี่ยนมานั่งรถยนต์ ทำให้ต้องใช้เวลานาน
ยังดีที่ตอนกลางวันหู่จือและเป้าจือไปจับแกะป่า พวกมันได้รับอนุญาตให้ล่าสัตว์ได้ในป่าและทุ่งหญ้าของอุทยาน แต่ฉินสือโอวเห็นว่าพวกมันหมายตาไปที่การล่าสัตว์ป่าขนาดใหญ่อย่างพวกแกะป่า จึงสั่งพวกมันไว้ว่า ไม่อนุญาตให้พวกมันล่าสัตว์ที่อยู่ข้างในอีก
แบรนดอนส่ายหัวไปมา เขาคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย “นี่คือเรื่องของระบบห่วงโซ่อาหารและระบบนิเวศ ดังนั้นนายไม่จำเป็นต้องสนใจการล่าสัตว์ของพวกมันหรอก”
ฉินสือโอวพูดออกมาด้วยอารมณ์ไม่ดีว่า “นายไม่รู้พฤติกรรมการล่าสัตว์ของเจ้าพวกนี้ของฉัน ถ้านายปล่อยให้พวกมันล่าสัตว์ที่นี่ตามใจชอบ แบบนั้นอุทยานแห่งชาติที่นี่จะย่อยยับ”
เขาไม่ได้พูดเกินจริงเลย เจ้าพวกนี้ไม่ได้ล่าเหยื่อเป็นอาหาร พวกมันล่าเพื่อความสนุก ดังนั้นพวกมันจึงล่าสัตว์ไปได้เรื่อยๆ เจ้าพวกนี้คือหมีสีน้ำตาล หมีขั้วโลก และหมาป่าสีขาว แล้วสัตว์ในอทุยานตัวไหนบ้างที่จะสามารถเป็นคู่ต่อสู้กับพวกมันได้?
แต่ว่าเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือกัน ฉินสือโอวก็จะมีเนื้อสดๆ สำหรับทำอาหารเลี้ยงคนทั้งสามคน เนื้อแกะป่านั้นรสชาติโดดเด่นมาก หลังจากที่ฆ่าแกะแล้วเขาก็นำเนื้อแกะมาตุ๋น หลังจากที่เนื้อเย็นแล้วก็นำมาหั่นเป็นชิ้นๆ การจับแกะครั้งนี้ก็เพื่อการอยู่รอดเท่านั้น
………………………………………….