ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1894 ยุคทองของฟาร์มปลา
แสงของดวงอาทิตย์ค่อยๆ ตกลงมาในทุ่งหญ้า เนื่องจากอุทยนแห่งนี้สะอาดเป็นอย่างมาก อากาศที่ดีจึงสะอาดจนราวกับไม่ใช่เรื่องจริง เมื่อแสงจากดวงอาทิตย์หายไป พื้นหญ้าก็กลายเป็นสีเขียวขจี
หลังจากที่นอนอาบแสงสีทองแล้ว หลัวปอก็เดินออกไปข้างนอกช้าๆ ด้วยท่าทีสง่างาม ที่เท้าด้านหลังของมันมีเจ้าตัวเล็กสีขาวปุกปุยสองสามตัววิ่งตามมันไป พวกมันส่งเสียงร้องออกมาเป็นครั้งคราว พวกมันต่อสู้กันอีกครั้ง แล้วจากนั้นพวกมันก็ล้มลงพื้น…
หมาป่าโชคร้ายเดินชะโงกหน้าไปมองอยู่ทีด้านหลังสุดใบหน้ายาวของหมาป่าตัวนี้แสดงสีหน้าภาคภูมิใจออกมา แม้ว่าขนสีขาวสะอาดของมันจะเปอะเปื้อนไปบ้าง และยังมีคราบแห้งกรังจากดินสีดำ ทำให้ร่างกายของมันเป็นสีเทาและดำ แต่ก็ไม่มีท่าทางวางอำนาจเหมือนเมื่อสองสามวันก่อน
แต่ตอนนี้สภาพจิตใจของมันนั้นเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้เลย มันเหมือนกับราชาหมาป่า วงตาหยิ่งผยองและเหยียดหยาม แต่เมื่อมันมองไปยังกลัวปอและเจ้าตัวเล็กพวกนั้น สายตาของมันก็ดูอ่อนโยนขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงร้องของหมาป่า วินนี่ก็รีบวิ่งออกมาดู เธอกวักมือเรียกหลัวปออย่างมีความสุข พลางตะโกนออกไปว่า “หลัวปอ มาหาแม่มา!”
เสี่ยวหลัวปอรีบวิ่งเข้าไปหาวินนี่อย่างรวดเร็ว มันอ้าปากเผยให้เห็นลิ้นสีแดง มันกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของวินนี่และเลียเธอกลับ
เจ้าตัวเล็กด้านหลังถึงกับผงะไป เมื่อเห็นว่าแม่ของตัวเองวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เท้าเล็กๆ ของพวกมันก็ขยับวิ่งอย่างรวเร็ว หางเล็กๆ ที่ด้านหลังสะบัดไปมาอย่างบ้าคลั่ง พวกมันส่งเสียงร้องครวญครางไม่หยุด
เมื่อเถียนกวาเห็นลูกหมาป่าขาวก็ดีใจเป็นอย่างมาก เธอเอื้อมมือออกไปหวังจะจับพวกมันมาสักหนึ่งตัว แต่ลูกหมาป่านั้นดุร้ายกว่าลูกสุนัขพิตบูลมาก เมื่อมันเห็นมือยิ่นมาข้างหน้า ลูกหมาป่าที่มีท่าทีดูอ่อนโยนนุ่มนวลก็อ้าปากกัดเข้าที่มือของเธอทันที
แต่น่าเสียดายที่มันขยับตัวช้าไป หรือจะบอกว่าเถียนกวาไหวตัวทันก็ไม่รู้ได้ เด็กหญิงใช้มือปัดลูกหมาป่าจนมันล้มลงกับพื้นหญ้า จากนั้นเธอก็อุ้มมันขึ้นมาแล้ววิ่งกลับมาเหมือนกับอุ้มลูกสุนัขอยู่ก็ไม่ปาน เธอลูบขนมันอย่างตื่นเต้นพลางพูดอกมาว่า “พี่ตั๋วตั่วรีบมาดูเร็ว สุนัขของหนูน่ารักกว่าอีก”
ทันใดนั้นเหล่าฝูบงลูกหมาป่าก็สามัคคีกันขึ้นมาทันที เมื่อลูกหมาป่าตัวหนึ่งถูกอุ้มไป ตัวที่เหลือก็เข้ามาล้อมรอบเถียนกวาไว้ พวกมันยิงฟันและจ้องมองเถียนกวาเพื่อจะทำให้เธอหวาดกลัว
หมาป่าโชคร้ายวิ่งเข้ามารวดเร็วราวกับสายลม มันยกอุ้มเท้าตบลูกของมันทีละตัว อย่าไปยุ่งกับปีศาจลย เจ้าพวกโง่ พวกเจ้ากล้ายั่วโมโหปีศาจตัวนี้รึยังไง? อย่าสร้างปัญหาให้พ่อเลย พ่อไม่อยากเป็นหมาป่าให้เธอขี่แล้ว…
เมื่อเทียบกับลูกสุนัขแล้ว ลูกหมาป่าขาวนั้นดุกว่าเยอะ แต่เมื่อเทียบกับลูกหมาป่าที่อยู่ในป่าแล้ว พวกมันเชื่องกว่าเยอะมาก โดยเฉพาะหลังจากที่โดนมนุษย์กอด
ฉินสือโอวนับดูแล้ว มีลูกหมาป่าทั้งหมดห้าตัว ดูเหมือนว่าหลัวปอจะมีลูกน้อยกว่าสุนัขพิตบูลนะเนี่ย
วินนี่พาลูกหมาป่าทั้งหมดไปอาบน้ำ ฉินสือโอวจึงถือโอกาศป้อนพลังโพไซดอนให้กับพวกมัน ลูกหมาป่าพึ่งเกิดพวกนั้นแน่นอนว่าพวกมันกลัวน้ำ พวกมันพากันหนาวสั่นไปทั้งตัว
แต่หลังจากนั้นหมาป่าโชคร้ายก็อ้าปากงับคอลูกของตัวเองแล้วพวกมันลงในน้ำ แบบนั้นพวกมันจับพวกมันอาบน้ำได้สำเร็จ
เมื่ออาบน้ำอุ่นเสร็จแล้ว พวกมันก็รู้สึกว่าการอยู่ในน้ำอุ่นนั้นสบายกว่านอนตากแดดเสียอีก พวกมันจึงไม่ยอมออกมาจากน้ำ แต่ละตัวหดตัวอยู่ในน้ำและโผล่แค่หัวขึ้นมาเหนือน้ำ มันมองมือที่ยื่นเข้ามาด้วยความระวังและหลบหนีมือพวกนั้น
ภาพนี้ทำให้ฉินสือโอวหลุดยิ้มออกมา ปกติแล้วหมาป่าสีขาวนั้นกลัวน้ำ แต่ดูเหมือนว่านิสัยนี้ของลูกของหลัวปอจะเปลี่ยนไป
หลังจากนั้นเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า นี่จะเกี่ยวข้องกับพลังโพไซดอหรือเปล่านะ? ลูกหมาป่าทั้งห้าตัวนี้เริ่มดูดซับพลังโพไซดอนตั้งแต่ที่พวกมันอยู่ในท้อง แต่หลัวปอนั้นโตแล้วจึงได้รับพลังโพไซดอน พวกมันเลยไม่เหมือนกัน
เช่นเถียนกวา เธอมีนิสัยไม่กลัวน้ำ เมื่อตอนที่เธอเรียนรู้การเดินเธอก็ชอบไปเล่นกับแมวน้ำ ตอนนั้นเธอก็กล้าลงน้ำแล้ว อีกทั้งทั้งๆ ที่ไม่มีครูสอนว่ายน้ำ แต่เธอก็สามารถแกว่งขาเล็กๆ ว่ายน้ำได้ด้วยตัวเอง
เมื่อในบ้านมีลูกหมาป่าเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งฝูง บรรยากาศก็คึกครื้นมากขึ้น
สุนัขพิตบูลและหมาป่าเป็นศัตรูกัน หากพวกมันเจอกันในป่า แน่นอนว่าหมาป่าต้องกินสุนัขพิตบูลแน่นอน
อันที่จริงแล้วหลังจากที่เลี้ยงหมาป่าฉินสือโอวจึงรับรู้ความสามารถในการต่อสู้ของหมาป่า นอกจากหู่จือและเป้าจือที่เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามในบรราสุนัขแล้ว เขาก็ไม่รู้สึกว่าจะมีสุนัขตัวไหนสามารถต่อสู้ชนะหมาป่าได้ แม้แต่สุนัขพิตบลูและสุนัขพันธุ์ทิเบตันที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งสงครามก็ตาม
แต่เมื่อเทียบกันระหว่าางลูกสุนัขและลูกหมาป่าแล้ว การต่อสู้ของพวกมัน ไม่สามารถเรียกว่าสงครามได้ เรียกว่าหยอกเล่นกันมากกว่า…
ทุกวันนีเมื่อไรก็ตามที่ไม่ได้หลับ ลูกสุนัขและลูกหมาป่าก็จะมองหากัน หลังจากนั้นก็จะต่อสู้กันหกต่อห้า พวกมันเจอหน้ากันก็ตะลุมบอนกันทันที ไม่มีการพูดคุยอะไรทั้งนั้น
สุนัขพิตบูลผู้เป็นแม่แสดงท่าทีเบื่อหน่าย มันไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ว ทุกครั้งที่ลูกๆ ของมันส่งเสียงเห่าเพื่อขอความช่วยเหลือ มันก็ทำได้เพียงก้มหน้าและไม่สนใจ
ลูกสุนัขไม่เข้าใจ พวกมันไม่ได้สังเกตว่า ทุกครั้งที่พวกมันกับลูกหมาป่าต่อสู้กันนั้นจะมีหมาป่าตัวโตเต็มวัยร่างใหญ่คู่หนึ่งยืนดูอยู่จากที่ไกลๆ
หากไม่เป็นเพราะวินนี่จับตามองไปหมาป่าขาวพวกนั้น หากพวกมันเห็นว่าลูกสุนัขพิตบูลกัดลูกของตัวเองเข้า หลัวปอและหมาป่าโชคร้ายคงจะกลืนกินลูกสุนัขพวกนี้ไปจนหมดแล้ว
หลังจากที่คลอดลูก เสี่ยวหลัวปอก็ยังคงมีท่าทางเหมือนเด็กๆ มันนอนออดอ้อนวินนี่ทุกวัน เหมือนกับว่าลูกของมันนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับมันเลย มันทำเพียงให้นมลูกๆ เมื่อถึงเวลาเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นเวลาอื่นก็เป็นหมาป่าโชคร้ายที่อยู่กับลูกๆ
ต่าวเหมยชอบสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้มา มันยังไปหาของเล่นของเถียนกวาจนเจอ แล้วเอามาสอยลูกๆ ถึงการต่อสู้และการโรมรัน
แต่ว่าอาจจะเป็นอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ ลูกหมาป่าจึงไม่สนจอะไรเลย พวกมันชอบที่จะโรมรันกับลูกสุนัขพิตบูลมากกว่า
เดือนสิงหาคม เหมาเหว่ยหลงและครอบครัวต้องกลับไปยังแฮมิลตันแล้ว เถียนกวาอาลัยอาวรณ์ที่จะไม่ได้เล่นกับตั๋วตั่วและน้องชายตัวน้อยเป็นอย่างมาก ส่วนลูกหมาป่าทั้งหลายของอาลัยอาวรณ์ที่จะไม่ได้เล่นต่อสู้หยอกล้อกับลูกสุนัขพิตบูล ดังนั้นฉินสือโอวจึงให้เหมาเหว่ยหลงกลับไปคนเดียว ส่วนหลิวซูเหยียนจะอยู่ที่อุทยานกับเด็กๆ และลูกสุนัขทั้งหลาย
เมื่อส่งเหมาเหว่ยหลงแล้ว ฉินสือโอวก็ไปยังเมืองแฮลิแฟกซ์ที่เป็นเมืองหลวงของรัฐโนวาสโกเชียเพื่อซื้อฟาร์มปลาที่อยู่ข้างๆ ฟาร์มปลาคาร์เตอร์ ฟาร์มปลามูลค่าาหกสิบเจ้ดล้านดอลลาร์ก็ตกมาอยู่ในมือเขาอย่างง่ายดาย
เพราะเหตุนี้ เมื่อรวมฟาร์มปลาทั้งสองแห่งเข้าด้วยกัน ฟาร์มปลาคาร์เตอร์ก็ตกมาอยู่ในมือเขาทั้งหมด
เมื่อเขาได้อำนาจในการควบคุมฟาร์มปลา ฉินสือโอวก็เริ่มดำเนินการใหญ่ทันที เขาสั่งซื้อกุ้งปลาหลากหลายสายพันธุ์ที่สามารถอยู่ในบริเวณน้ำอุ่นได้จากพันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์มาจำนวนมาก
นอกจากนี้ เขายังย้ายปลาแซลมอนแปซิฟิกที่อยู่ในฟาร์มปลาก่อนหน้ามายังฟาร์มปลาแห่งที่สาม ที่นี่มีแม่น้ำขนาดใหญ่ ทำให้เหล่าปลาแซลมอลสะดวกที่จะย้ายที่อยู่และวางไข่ทุกปี
ฟาร์มปลาคาร์เตอร์เป็นจุดสำคัญในการก่อสร้างงานนอกบ้านของเขา ฟาร์มปลาต้าฉินเป็นศูนย์บัญชาการหลัก ฟาร์มปลาแห่งนี้ก็เหมือนกับฐานทัพในต่างแดน เป็นเส้นทางส่งออกสายแรกของเขา
เพราะเหตุนี้ เขาจึงมีฟาร์มปลาต้าฉิน ฟาร์มปลาโกลเด้นเบย์ ฟาร์มปลาคาร์เตอร์ ฟาร์มปลาหมิงซิง ทั้งสี่แห่งครอบครองอยู่ในมือ
ตอนนี้คนทั่วทั้งแคนาดารู้ว่า หากมีเงินมากพออย่าไปลงมุนในอสังหาริมทรพัย์ แต่ให้ลงทุนในฟาร์มปลา แม้ว่าจะเป็นฟาร์มปลาขนาดเล็กก็ตาม เนื่องจากโครงการฟื้นฟูมหาสมุทรมีแผนจะเปิดตัวแล้ว การฟื้นฟูทรัพยากรการประมง จะทำให้ฟาร์มปลามีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
ฉินสือโอวอยากจะซื้อฟาร์มปลาอีกสองสามแห่ง อย่างไรก็ตามบัตรเครดิตของเขาก็มีเงินอยู่เกือบหนึ่งพันล้านดอลลาร์แคนาดา นอกจากนี้ยังมีซากเรืออับปางมูลค่ากว่าสองพันล้านดอลลาร์ที่รอให้เขาไปกู้มาอยู่
น่าเสียดายที่ไม่มีฟาร์มปลาที่เหมาะสมพอจะให้เขาซื้อ ยุคของการทำประมงพรีเมี่ยมได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อก่อนฟาร์มปลาธรรมดาต้องใช้เงินลงทุนเพียงไม่กี่แสนดอลลาร์ แต่ตอนนี้เริ่มต้นขั้นต่ำที่สองล้านดอลลาร์
เช่นฟาร์มปลาคาร์เตอร์ เพื่อกระตุ้นโครงการฟื้นฟูมหาสมุทร อย่าว่าแต่หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์เลย สองร้อยล้านดอลลาร์ก็ยังมีคนยินดีที่จะรับช่วงต่อ!
แล้วฟาร์มปลาต้าฉินที่เกาะแฟร์เวลล่ะ? ที่แห่งนั้นกลายเป็นสมบัติที่ประเมิณค่าไม่ได้ไปเสียแล้ว!
………………