ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 203 เงินจะเข้าบัญชีแล้ว
เอี๋ยนตงเหล่ยและคนอื่นๆ ต่างมีภูมิฐานที่ดี ปกติเวลากินอาหารก็จะเรื่องมากไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นอาหารรสเลิศอะไร ก็ไม่สามารถดึงดูดให้พวกเขากินอย่างตะกละตะกลามเฉกเช่นคนทั่วไปได้
แต่อาหารมื้อนี้ของฉินสือโอวเป็นข้อยกเว้น แฮมเล็ตและสี่คนนั้นกินอย่างตะกละตะกลาม น้ำลายรวมเข้ากับอาหาร มีดและซ้อมกลืนไปกับเนื้อปลา ทำให้อีวิลสันก็รู้สึกได้ถึงความเร่งรีบ
อาหารแต่ละจานไม่นานก็เกลี้ยง กินหมดเกือบทุกอย่างเลยล่ะ โดยเฉพาะปลาลิ้นหมา ตอนท้ายบิลลี่ไม่สนใจสายตาคนอื่นอีกต่อไปแล้ว ใช้ส้อมและมีดจัดการกับกระดูกปลาอีกหนึ่งรอบ
ฉินสือโอวจำเป็นต้องนำอาหารมาเสิร์ฟเพิ่มอีกครั้ง เขาทำซุปมะเขือเทศต้มเนื้อสันใน ผัดฟักแม้ว สเต๊กปลาทอดมาเพิ่ม อย่างนี้จึงเพียงพอต่อพวกเขา
เมื่ออิ่มท้องแล้ว เอี๋ยนตงเหล่ยเอนกายไปกับเก้าอี้อย่างไม่สนใจภาพลักษณ์ของตน หู่จือและเป้าจือยันเก้าอี้ของวินนี่และเงยหน้ามอง จากนั้นส่งเสียงร้องอย่างผิดหวังสองที จานบนโต๊ะว่างเปล่า ไม่เหลืออะไรให้พวกมันดีเลย
วินนี้ยิ้มและตบหัวของพวกมันเบาๆ เธอลุกขึ้นเก็บโต๊ะอาหาร เด็กทั้งสี่ของพาวลิสไม่ยอมล้าหลังจึงลุกไปช่วย
เมื่อไปถึงห้องครัว วินนี่เอาเนื้อลาที่ละลายน้ำแข็งแล้วออกมา หลังจากหั่นด้วยมีดแล้วก็เอาไปต้มในหม้อความดัน จากนั้นแบ่งให้ฉงต้า หู่จือและเป้าจือ แล้วเอาผลเบอร์รีให้ต้าป๋าย เสี่ยวหมิงและครอบครัวของกระรอกดิน
นิมิตส์บินเข้ามาทางหน้าต่าง และส่งเสียงร้อง ‘ก้าก ก้าก’
วินนี่ลูบปีกของมันแล้วพูดว่า “โอเค โอเค ไม่ได้ลืมแกน่ะ ดูนี่สิ นี่คือปลาแฮร์ริ่งที่เพิ่งได้มาเมื่อกี้ ของโปรดของแกเลย ใช่ไหม?”
จากนั้นหั่นปลาแฮร์ริ่งเป็นสองท่อน แล้วเอาให้นิมิตส์ นกฟรีเกตโบกปีกอย่างมีความสุข ยื่นคอแล้วกลืนปลาลงคอไป
หมีสีน้ำตาลเองก็ชอบกินปลา ฉงต้ากำลังกินของในชามและคิดถึงของที่อยู่ในหม้อ เมื่อเห็นนิมิตส์กินปลา มันกอดชามข้าวไว้ ยืดคอและส่งเสียงร้อง ‘อู้ว อู้ว’
วินนี่หยิกหูกลมๆ ของเขา ฉีกปลาปลาแฮร์ริ่งตัวหนึ่งที่มีความยาวกว่าสามสิบเซนติเมตรลงในชามข้ามของมัน และพูดอย่างจนปัญญาว่า “มีส่วนของแกน่ะ มีส่วนของแกทุกอย่าง แกกินเต็มที่เลย กินให้อ้วนไปเลย พ่อแกต้องบังคับให้แกลดน้ำหนักแน่นอน”
ฉงต้าสนใจปลาที่ถูกปรับเปลี่ยนโดยพลังพิเศษแห่งโพไซดอนอย่างยิ่ง มันเคี้ยวเสียงดัง หมุนลูกตาไปมา จับจ้องไปที่มือของวินนี่ วินนี่เอาของกินอะไรออกมามันก็จะกินของสิ่งนั้น สำหรับการลดน้ำหนักเหรอ? ฮ่าๆ ใครสนใจกันล่ะ?
เอี๋ยนตงเหล่ยเห็นว่าฉินสือโอวมีแขก รู้ว่าตนไม่ควรอยู่นานกว่านี้ เขาจึงนัดเวลากับฉินสือโอวและจากไปพร้อมแฮมเล็ต ฉินสือโอวส่งบิลลี่กลับโรงแรม เบลคและอลันรอเขาอยู่ที่บ้านพัก
แม้ทั้งฝั่งของบิลลี่และฝั่งของเบลคกับอลันจะไม่เคยกล่าวถึงเรื่องเงิน แต่ต่างฝ่ายก็ต่างรู้ดี รู้จุดประสงค์ที่อีกฝ่ายมาหาฉินสือโอว
เมื่อฉินสือโอวกลับมา เบลคปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ก่อนหน้า และถามด้วยความกระตือรือร้นว่า “พรรคพวก เงินหนึ่งร้อยตัน?”
“ฉันไม่แน่ใจ เพียงแต่รู้ตำแหน่งที่อาจได้มันมาเท่านั้น”ฉินสือโอวไม่สามารถพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีได้ เขายังคงไม่สามารถให้อภัยเจ้านี่ได้เรื่องที่บังอาจนำความลับของตนไปบอกอลัน
เบลคและอลันล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมองค์กรขนาดใหญ่ จะไม่เข้าใจสิ่งที่ฉินสือโอวต้องการสื่อได้อย่างไร?
ดังนั้น เบลคอธิบายว่า “ฉิน นายเชื่อใจพวกเราเถอะ พวกเราสามารถช่วยนายจัดการกับเงินหนึ่งร้อยตันได้ แต่ฉันคนเดียวไม่ไหว ฉันมีวิธีสกัดเงิน แต่ไม่สามารถจำหน่ายออกไปได้ แต่อลันสามารถทำได้”
อลันยิ้มและพูดว่า “ธนาคารของเรามีคุณสมบัติในการสำรองเงิน เพียงแค่สกัดพวกมันออกมาได้ และหาเพื่อนมาประเมินค่า ก็จะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นตัวเลขกลุ่มหนึ่งในธนาคารมอนทรีออลให้นายได้โดยตรง”
ในเมื่อพูดกันตรงไปตรงมาอย่างนี้ ฉินสือโอวก็ไม่อยากเป็นคนใจแคบอีกต่อไป เขาสารภาพว่า “พวกนายก็รู้สถานะของบิลลี่ เขาเองก็สามารถช่วยฉันจัดการกับเงินเหล่านี้ได้ อีกอย่าง เขาไม่ต้องการให้ฉันออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย”
เบลครีบพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นเขาต้องหวังอะไรกับนายแล้วล่ะ แต่นายก็ไม่อยากทำให้เขาสมหวัง”
เป็นคนฉลาดกันทั้งนั้น ทุกอย่างจึงพูดกันง่าย ฉินสือโอวดีดนิ้วแล้วพูดว่า “พวกนายว่ามาเลย เงินหนึ่งร้อยตัน ท้ายที่สุดแล้วฉันจะได้เงินเท่าไร?”
อลันมองไปที่เบลค เบลคส่งสายตาให้อลันเป็นคนพูด จึงอธิบายว่า “มันก็ขึ้นอยู่กับผลสกัดเงินท้ายสุด ตามที่นายบอก เงินล็อตนี้ได้มาจากมหาสมุทรเหรอ? ในอดีตเทคโนโลยีการสกัดเงินไม่ได้เรื่อง ดังนั้นจึงไม่บริสุทธิ์พอ โดยทั่วไป ก่อนหักภาษีนายจะได้รับร้อยละ 90 – 92 ของมูลค่ารวมของล็อตนี้”
ฉินสือโอวรู้ดี ขั้นตอนการสกัดเงินนั้นยุ่งยากมาก นี่ไม่เหมือนงานศิลปะที่เป็นวัตถุโบราณ เพียงแค่บอกว่าเป็นของประจำตระกูลก็สิ้นเรื่อง
หากบ้านไหนมีเงินมากมายเช่นนี้ ในแคนาดา ถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจเลยล่ะ และหากบอกรัฐบาลว่าเงินล็อตนี้ได้มาจากมหาสมุทร ก็จะค่อนข้างยุ่งยาก รัฐบาลจะตรวจสอบที่ตั้งของซากเรืออับปาง จากนั้นพิจารณาความเป็นเจ้าของเงิน ในเวลานั้นฉินสือโอวอาจไม่ได้อะไรเลย
นี่ไม่ได้พูดเกินความจริงเลยสักนิด รัฐบาลในยุโรปและอเมริกาเน้นเรื่องหลังการ เพียงแต่พิสูจน์แล้วว่าสมบัติใต้ทะเลลึกไม่ได้มาจากทะเลหลวง ส่วนมากจะถูกยึดทั้งหมด โดยไม่สนใจเกี่ยวกับกำลังคนกำลังทรัพย์และสติปัญญาและกำลังที่เสียไป ความขัดแย้งระหว่างบริษัทโอดิสซีย์และเนเธอร์แลนด์ก็เป็นบทเรียนหนึ่ง
เบลคและอลัน หากให้พวกเขาจัดการก็จะต้องเพิ่งบารมีของตระกูล จากนั้นเก็บค่าธรรมเนียม และข้ามขั้นตอนการพิสูจน์หลักฐานของรัฐบาลไป แล้วให้ฉินสือโอวทำการจ่ายภาษีย้อนหลังก็เป็นอันเสร็จสิ้น
สำหรับแหล่งที่มาของเงินล็อตนี้? ถ้าฉินสือโอวบอกว่าได้มาจากที่ไหนก็อิงตามนั้น
นี่ก็คือพลังของเงินและพลังของตระกูลในประเทศทุนนิยม!
ทั้งสองฝ่ายตกลงกันอย่างรวดเร็ว เบลคสามารถติดต่อเครื่องบินลำพิเศษในวันพรุ่งนี้ให้มาขนเงินล็อตนี้ ส่วนอลันก็กลับไปตระเตรียมขั้นตอนและเอกสารที่จำเป็นในการรับซื้อเงินล็อตนี้ของธนาคาร
“มีความสุขที่ได้ร่วมมือกัน ฉิน ยินดีต้อนรับนายเข้าสู่สโมสรมหาเศรษฐีร้อยล้านอย่างเป็นทางการ”อลันและเบลคต่างจับมือกับฉินสือโอว
เบลครีบพูดอย่างอิจฉาว่า “ฉันไม่รู้เลยว่าทำไมนายจึงโชคดีเช่นนี้ นายเพิ่งได้รับงานศิลปะที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูล จากนั้นก็พบซากเรืออับปางที่สุดยอดเช่นนี้ ฉันพูดได้แค่ว่า นายเป็นลูกรักของพระเจ้า ฉิน!”
ฉินสือโอวหัวใจเต้นแรง ตนไม่สามารถเปิดเผยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนของตนได้ แต่ความผิดแปลกของเขาจะกลายเป็นที่สนใจของคนอื่นได้ง่าย และจิตสำนึกแห่งโพไซดอนนี้จะทำให้เขาพบซากเรืออับปางอย่างไม่หยุดหย่อน
ดังนั้น ถึงเวลาที่เขาต้องหาวิธีป้องกันความเสี่ยงให้กับตัวเองแล้วล่ะ
เช้าตรู่ของวันถัดไป ฉินสือโอวนำตู้นิรภัยขนาดใหญ่ได้เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ไปที่แนวปะการัง ทีมงานหมึกกล้วยออกปฏิบัติการ ขนเงินมาใส่ในตะกร้า อีวิลสันเองก็ไม่เกี่ยงงานหนัก เก็บเงินเข้าไปในตู้นิรภัย
วุ่นวายกันครึ่งวันเต็ม ฉินสือโอวและอีวิลสันเกือบจะเป็นอัมพาต ต้องเข้าใจด้วยว่าความแข็งแกร่งและความอดทนของคนสองคนนี้เกินกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่สำหรับเงินหนึ่งร้อยตันแล้วถือเป็นงานหนักจริงๆ
ตอนเที่ยง เครื่องบินเฉพาะของบริษัทจัดประมูลริชชี่ที่บินมาจากโทรอนโตลงจอดที่สนามบินเซนต์จอห์น ฉินสือโอวให้บิ๊กฟุตเรเยสจ้างรถเมอร์เซเดส-เบนซ์หนึ่งขบวนเพื่อส่งเงินจำนวนหนึ่งร้อยตันไปยังสนามบิน
ตั้งแต่ต้นจนจบ เรคและคนอื่นๆ ไม่มีใครรู้ว่าในตู้นิรภัยเหล่านี้มีอะไร หากให้พวกเขารู้ ว่านี่คือเงินหนึ่งร้อยตัน คาดว่าต้องมีการโจรกรรมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อยืนยันแล้วว่าเป็นเงินจริง อลันที่กลับไปที่ธนาคารแล้วได้ลงนามใบคำสั่งและจ่ายเงินค่ามัดจำก้อนหนึ่งให้กับฉินสือโอว ซึ่งเป็นเงิน 20 ล้านดอลลาร์แคนาดา!
……………………………………….