ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 238 สมาคมลูกผู้ชาย
เซรีน่าอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่าย โดยมีพวกเฟล็ปส์เรือลักกี้สตาร์ที่อยู่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จเหมือนกันช่วยยืนยันคำพูดของเธอ
พอเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว วัยรุ่นคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นว่า “นั่นมันเรือนักล่าวาฬฟลอริดา! ต้องเป็นไอ้บ้านั่นแน่ๆ ! บนเรือก็มีแต่พวกบ้า มิน่าเมื่อบ่ายนี้ตอนกลับท่าเรือมาพวกเขาเติมน้ำมันกับน้ำเสร็จก็หายไปเลย ที่แท้ไปก่อเรื่องร้ายกาจมานี่เอง”
ชาลส์โมโหทันที พูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ไอ้เวรพวกนั้นมันแอบหนีไปแล้วเหรอ? ฉันตั้งใจจะมาจัดการพวกนั้นหลังกลับมาตอนเย็นเนี่ย! บ้าเอ้ย ถือว่ามันโชคดีไป ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่!”
“พวกเขาไปอ่าวเคปค้อดแล้ว น้องชายฉันเคลลิสตอนนี้อยู่ที่นั่นพอดี ชาลส์ อยากให้ฉันเรียกเคลลิสไปเพิ่มสีสันให้พวกมันหน่อยไหม?” ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างมีน้ำใจ
นี่ถือเป็นข้อดีของเมืองเล็ก คนน้อย คุ้นหน้ากัน เส้นสายอยู่ใกล้ ไม่ว่าในทะเลจะบาดหมางอะไรมา แต่บนฝั่งทุกคนก็ยังคงเป็นเพื่อนกัน
เรื่องที่ชาลส์และเซรีน่าประสบทำทุกคนหวาดผวามาก สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในทะเลไม่ใช่คลื่นที่โหมกระหน่ำ หรือไม่มีปลาให้จับ แต่เป็นการตายแบบผิดธรรมชาติ
หลังได้ฟังเซรีน่าเล่าจบ ก็ไม่มีใครล้อฉินสือโอวอีกเลย ตาแก่เจมส์ยังกอดฉินสือโอวทีหนึ่ง แล้วหันมาพูดว่า “ฉินเป็นคนดี จากนี้ไปปลาทุกปอนด์ของเขาฉันจะเพิ่มเงินให้อีกหนึ่งดอลลาร์ ในฐานะที่เขาชนะใจทำให้ฉันนับถือได้!”
ถึงรู้ว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินของฉินสือโอวจะได้ราคาสูงกว่าตัวเอง ก็ไม่มีใครพูดจาเหน็บแนมเขา แต่ละคนเพียงต่อยเขาเบาๆ แทน
ฉินสือโอวไม่คิดว่าตัวเองจะทำความดีจนชนะใจมิตรภาพของชาวประมงหยาบคายพวกนี้ได้ เขานึกว่าแค่สร้างความประทับใจให้ชาลส์ได้เท่านั้น ความจริงกลับผิดคาดกว่านั้นมาก
แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนขี้เหนียว และไม่ได้เหลิงกับความดีความชอบของตัวเอง เขายืนตรงหัวเรือตะโกนเสียงดังว่า “ทุกคน ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับมิตรภาพอันแสนมีค่านี้จากพวกคุณนะครับ แล้วก็ แด่ชาลส์และเซรีน่าที่วันนี้ต้องพบกับเรื่องน่าสะเทือนใจ พวกเราไปบาร์เพื่อปลอบประโลมพวกเขาจากโชคร้ายกัน เดี๋ยวผมเลี้ยงเหล้าเองครับ!”
กัปตันเรือลักกี้สตาร์เฟล็ปส์ตอบว่า “จะให้นายเลี้ยงได้ยังไง วันนี้นายเป็นแขกวีไอพีของเรานะ พวกเราต้องเลี้ยงเหล้านายสิ”
ฉินสือโอวไม่ได้ใส่ใจเรื่องเงิน ชาวประมงที่นี่อย่างมากก็มีห้าสิบกว่าคน ราคาของในบาร์ท่าเรือเล็กๆ คงราคาไม่เท่าไร สู้ใช้ไม่กี่พันดอลลาร์แก้ปัญหา และยังสร้างชื่อเสียงด้านคุณธรรม ความมีน้ำใจของตัวเอง จะไม่คุ้มกว่าหรือ?
และการมีชื่อเสียงก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉินสือโอวจำเป็นต้องใช้ข้อมูลของชาวประมงท้องถิ่นด้วย
ฉินสือโอวยืนกรานที่จะเลี้ยงเอง พวกชาร์คก็แนะนำว่าบอสพวกเขาเป็นคนชอบผูกมิตรให้ทุกคนรับขอเสนอไว้เถอะ ด้วยเหตุนี้เหล่าชาวประมงจึงไม่คัดค้าน พากันเก็บของแล้วนัดหมายไปยังบาร์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งชื่อร้าน ‘สมาคมลูกผู้ชาย’
ชาลส์ขับรถกระบะตัวเองพาพวกฉินสือโอวไป ส่วนเซรีน่าไม่ได้มาด้วย เพียงมองส่งสามีตัวเองแล้วไปจัดการเรือตกปลาต่อ ฉินสือโอวคิดว่าเธออาจตามมาทีหลัง แต่เมื่อมาถึงสมาคมก็เข้าใจ ที่นี่คงไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงเท่าไร
ระหว่างทางชาลส์อธิบายให้ฉินสือโอวฟังว่า ‘สมาคมลูกผู้ชาย’ เป็นหนึ่งในบาร์ที่มีประวัติยาวนานที่สุดของท่าเรือกลอสเตอร์ ก่อตั้งเมื่อปี 1990 มีชื่อเสียงเรื่องคุณภาพคุ้มราคาและการบริการดี
ความจริงแล้วบาร์นี้เป็นบาร์เถื่อน โดยใช้ชื่อบาร์เจ้าดังแห่งหนึ่งในฮิวสตันมาตั้ง ช่วงแรกยังมีการตกแต่งและสไตล์เดียวกับร้านจริงที่ฮิวสตันอีกด้วย
พอได้ยินชื่อฮิวสตัน ฉินสือโอวก็รู้สึกไม่ถูกชะตานัก อยู่ที่อเมริกาเหนือมาครึ่งปี เขาทั้งเมินเฉยและรับรู้ว่าฮิวสตันเป็นแหล่งรวมผับเปลื้องผ้าที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ
การเดินทางในเมืองเล็กค่อนข้างสะดวก ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีจากท่าเรือก็มองเห็นบ้านชั้นเดียวตั้งโดดเดี่ยวอยู่ตรงหน้า บ้านหลังนี้มีเนื้อที่กำลังดีประมาณหนึ่งพันกว่าตารางเมตร หน้าประตูมีป้ายร้านเป็นหลอดไฟนีออนขนาดใหญ่ ด้านบนมีคำว่า ‘สมาคมลูกผู้ชาย’ กะพริบอยู่
ตรงลานจอดรถหน้าบ้าน พวกฉินสือโอวเดินไปถึงหน้าประตูก็เจอชายร่างยักษ์สวมชุดรัดรูปไม่มีแขนเสื้อสองคนนั่งอยู่สองข้างของประตู ท่าทางเหมือนนักเลง
ชาลส์รู้จักกับสองคนนั้น พอเจอกันก็ทักทาย
เมื่อเห็นชาลส์พาคนมาด้วย ชายสองคนก็ทำหน้ายิ้มแย้มดูเจ้าเล่ห์ ถ้าไม่ได้ช่วยชีวิตชาลส์ไว้ ฉินสือโอวคงคิดว่าหมอนี่พาเขามาขายซ่องลับเสียแล้ว
“ชาลส์ วันนี้ตกได้ปลาตัวใหญ่มาเหรอ? ไม่คิดว่าจะพาเพื่อนมาเที่ยวด้วย หายากนะเนี่ย” ชายร่างใหญ่คนหนึ่งเอ่ยเสียงทุ้มในลำคอ
ชาลส์หยอกล้อกับสองคนนั้นแล้วจึงแนะนำฉินสือโอว ฉินสือโอวพยักหน้า ก่อนโยนธนบัตรสีเขียวที่เตรียมไว้ใบหนึ่งให้ชายร่างใหญ่ พร้อมเอ่ยว่า “ด้านหลังเป็นเพื่อนผมเอง ให้พวกเขาเข้ามาด้วย”
ชายร่างยักษ์คว้าธนบัตรมาชั่งน้ำหนักดู เขาผิวปาก “ว้าว แฟรงคลิน ชาลส์นายไปรู้จักเพื่อนเศรษฐีแบบนี้ได้ยังไงกัน? เข้าไปสิพวก สนุกให้เต็มที่เลย”
ฉินสือโอวเดาจากสภาพของบาร์นี้แล้วเตรียมธนบัตรเผื่อไว้ เพราะรู้ว่าที่อเมริกาเหนือ บาร์ผู้ใหญ่มักจะมีการเก็บค่าเข้ากัน เขาไม่รู้ว่าค่าเข้า ‘สมาคมลูกผู้ชาย’ เท่าไร แต่หนึ่งพันดอลลาร์ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ทันทีที่เข้าบาร์มา ก็เห็นว่ามีโต๊ะเหล้าหลายตัวตั้งล้อมฟลอร์เต้นรำตรงกลาง และเวทีบนกลางฟลอร์ก็มีสาววัยรุ่นในชุดสายเดี่ยวสีดำสีขาวสวมส้นสูงหลายคนหมุนรอบเสา
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือผับเปลื้องผ้า
ในอเมริกามีการตรวจสอบเรื่องการค้าประเวณีเข้มงวดมาก แต่ไม่ได้ใส่ใจผับเปลื้องผ้าเท่าไร จึงมีหลายที่อย่างแคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และแมสซาชูเซตส์ที่วัฒนธรรมแบบผู้ใหญ่นี้พัฒนาไปไกล หลังเลิกงานพวกคนแรงงานมักมาเที่ยวที่นี่กัน รวมถึงลูกค้าขาประจำที่ขาดไม่ได้อย่างพวกตำรวจข้าราชการ
ทว่าบาร์แห่งนี้ไม่ใช่ซ่อง คนอเมริกันล้วนชินชากับเรื่องพวกนี้และมากันอย่างเปิดเผย ตอนพวกฉินสือโอวเดินเข้ามา ก็พบว่าด้านในมีคนอยู่แล้วห้าสิบหกสิบคน คนพวกนี้พิงโต๊ะเหล้ารอบเวทีมองสาวๆ ที่เต้นบนฟลอร์พลางพูดคุยกันเงียบๆ
นีลเซ็นท่าทางคุ้นชินกับเรื่องนี้ทีเดียว ชายหนุ่มไม่มีแฟน ด้วยเงินเดือนที่ฉินสือโอวจ่ายให้เขาสูง เขาจึงไปเซนต์จอห์นแทบทุกอาทิตย์ ซึ่งไปทำอะไรนั้นฉินสือโอวรู้ดี
ทันทีที่ถึงฟลอร์เต้นรำ นีลเซ็นก็เข้าไปสั่งพวกเครื่องดื่มราคาแพง บาร์เทนเดอร์รีบเชิญเขาไปยังโต๊ะเหล้าที่ใกล้เวทีที่สุดอย่างนอบน้อม ซึ่งเป็นมุมที่ดีที่สุด
ฉินสือโอวเพิ่งเคยมาครั้งแรกเลยค่อนข้างรู้สึกแปลกๆ เขามองสาวๆ ที่กำลังเต้น ในใจแอบตะลึง เพราะพวกเธอดูอายุน้อยมาก ทั้งรูปร่างสูงเซ็กซี่ หน้าตาสะสวย มีเด็กสาวผมยาวสีแดงกุหลาบท่าทางไม่เลวคนหนึ่ง สวมกระโปรงยาวเหมาะเป็นสาวงามประจำโรงเรียน
พอเห็นฉินสือโอวกำลังมองมาที่ตน สาวผมกุหลาบงามก็หมุนควงเสารอบหนึ่งพร้อมส่งจูบให้
ชาลส์หลุดหัวเราะ หยิบสองดอลลาร์มาม้วนแล้ววางไว้บนเวทีตรงหน้า เด็กสาวก้าวเข้ามาแบบนางแบบก้มลงหยิบเงิน แสดงให้เห็นถึงความน่าทึ่งของธุรกิจต่อหน้าฉินสือโอวในระยะประชิด
นีลเซ็นกระซิบอธิบายให้ฉินสือโอวฟัง “พวกสาวนักเต้นจะคอยทำท่ายั่วเย้าไปรอบๆ เวลาชี้ไปที่ใครปกติคนนั้นต้องจ่ายทิปให้ จะหนึ่งหรือสองดอลลาร์ก็ได้ แน่นอนว่ายิ่งเยอะพวกเธอยิ่งชอบ ถ้าคุณยื่นพันดอลลาร์ให้ คืนนี้บอกได้เลยว่าเธอยินดีไปกับคุณแน่”
ฉินสือโอวตอบเสียงเบา “แบบนั้นไม่เรียกว่าซื้อกินหรือ?”
นีลเซ็นหัวเราะหึหึตอบว่า “ไม่ๆๆ จะเป็นการซื้อกินได้ยังไง? คุณจ่ายทิป เธอก็ตามคุณไปเพราะคาดหวังคุณ เซ็กซ์เป็นเรื่องอิสระ เหมือนอดัมกับอีฟนั่นแหละ”
ต่อมาเริ่มมีชาวประมงคนอื่นทยอยเข้ามาเรื่อยๆ คนเยอะขึ้น บรรยากาศก็ครึกครื้นตาม ฉินสือโอวรู้สึกว่าคงได้เวลาถามข้อมูลที่ตัวเองต้องการรู้เสียที
………………………………………………………….