ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 253 ฉินเจ้าพ่อประมง
“เมนูนี้ทำง่ายมาก ผมช่วยพวกคุณแล้วกันนะ”อาร์ม็องพูดด้วยรอยยิ้มอย่างตรงไปตรงมา
เนื้อหอยเชลล์ควักออกมาล้างหมดแล้ว แบบนี้ก็สามารถเอามาใช้ได้เลย ในกล่องเครื่องครัวของอาร์ม็องมีเครื่องปรุงแทบทุกอย่าง แล้วยังมีขวดไวน์ทำอาหารทะเลเล็กๆ ด้วย
เขาเอาเนื้อหอยเชลล์มาหมักกับไวน์และเกลือครู่หนึ่ง ใช้เปลือกหอยเป็นกระทะผัด พอน้ำมันมะกอกร้อนแล้วก็ใส่พริกซอย กระเทียมลงไปผัดแล้วใส่ซีอิ๊วกับน้ำส้มสายชูและเอาออกมาพักไว้
อาร์ม็องเอาวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปที่เจอได้ทั่วไปในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตแคนาดาออกมา หลังจากใช้น้ำร้อนแช่จนพองแล้วก็ใส่ลงไปในเปลือกหอย จากนั้นก็ใส่เนื้อหอยเชลล์ที่หมักเรียบร้อยแล้วลงไป ตามด้วยการโรยพริกที่ผัดสุกแล้ว กระเทียมสับ เครื่องปรุงลงบนเนื้อ
สุดท้ายเจ้านี่ก็เอากาน้ำอัดเล็กที่แบนราบแบบที่ใช้ในค่ายทหารออกมา ฉินสือโอวนึกว่าข้างในเป็นเหล้า ปรากฏว่าที่เทออกมาคือซุปไก่สีเหลืองอ่อน…
อาร์ม็องยังยิ้มแล้วพูดกับฉินสือโอวด้วยว่า “นี่เป็นไม้ตายของผม ใช้ซุปไก่ต้ม รสชาติจะดีกว่า”
ฉินสือโอวมองกล่องใบเล็กน่าพิศวงนั้นด้วยสีหน้าตะลึงงัน พักหนึ่งถึงพูดขึ้น “เพื่อน นั่นคือกล่องสารพัดอย่างหรือไง?”
อาร์ม็องหัวเราะออกมาแล้วอธิบาย “ผมพกกล่องสองกล่องติดตัวตลอด กล่องหนึ่งเป็นกล่องยาเล็กๆ ส่วนอีกกล่องเป็นกล่องเครื่องปรุง กล่องหนึ่งรักษาชีวิต อีกกล่องรักษาวิถีชีวิต”
ไม่ต้องใช้หม้อนึ่ง วางไว้บนเตาย่างก็เหมือนกัน ไม่นานกลิ่นหอมของหอยเชลล์ก็โชยออกมา อาร์ม็องชิมนิดหน่อยแล้วพยักหน้าให้ฉินสือโอว หยิบกล่องเล็กนั้นขึ้นมาแล้วก็กลับลงไปที่แพของเขา
ฉินสือโอวชวนเขาให้กินด้วยกัน อาร์ม็องปฏิเสธว่า “ผมไปหาปลามาร์ลินแถวนี้ดีกว่า ถ้าโดนพวกอเมริกันตกได้ไป น่าเสียดายน่าดู”
นั่นทำให้ฉินสือโอวแอบรู้สึกผิด ปลามาร์ลินตัวนั้นในตอนนี้ก็กำลังซ่อนตัวอยู่ก้นทะเลใต้เรือหาปลาเงียบๆ นั่นล่ะ นายหาไม่เจอหรอก
ส่งอาร์ม็องกลับไป ฉินสือโอวก็หันกลับมาเห็นทั้งสี่คนรวมนีลเซ็นที่กำลังก้มหน้าก้มตาเริ่มกินหอยเชลล์คนละตัว เขาเลยโกรธขึ้นมาทันที “ไอ้พวกขี้โกง ไหนว่าจะเริ่มกินพร้อมกันไง?”
พวกเขากินหอยเชลล์รสเลิศ ส่วนเหล่านักตกปลาก็กำลังวุ่น และต้นเหตุของทั้งหมดก็มาจากปลามาร์ลินตัวโตที่กำลังซ่อนอยู่ก้นทะเลพักผ่อนสบายใจเฉิบ
ฝีมืออาร์ม็องดีมาก ปรุงรสได้พอดี วุ้นเส้นที่แช่ซุปไก่ทั้งนุ่มและหอม หอยเชลล์สดมากๆ กินคู่กับพริกและกระเทียมสับ เนื้อหอยไม่มีกลิ่นคาวเลย มีแต่รสสดอร่อยและกลิ่นหอม
พอกินอิ่ม ฉินสือโอวก็ไปตามรวบรวมทูน่าครีบน้ำเงินในบริเวณรอบๆ ต่อ
เหล่านักตกปลาหาปลามาร์ลินไม่เจอเลยพากันคอตกกลับไปตกปลาในเขตทะเลตัวเอง พวกเขากรุ่นในใจ โยนเหยื่อลงทะเลต่ออย่างสุดแรงเพื่อล่อปลาใหญ่ออกมา
แต่ว่าตกปลาได้เสียที่ไหนล่ะ? พอปลาทูน่าพวกนี้โผล่หน้ามา ไม่ว่าเล็กใหญ่ฉินสือโอวก็เอาไปหมด ไม่เหลือแม้แต่เกล็ดปลาให้พวกเขาสักอันเดียว
แน่นอนว่าฉินสือโอวไม่ทำอะไรสุดโต่งเกินไป นักตกปลาเยอะขนาดนี้อยู่ที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จมาสองวันแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ปลาเลย แบบนี้ก็แปลกเกินไปแล้ว
ตอนบ่ายเขาเห็นฉลามหนามตัวหนึ่ง เลยใช้จิตสำนึกโพไซดอนควบคุมให้ไปอยู่ใต้เรือตกปลาลำหนึ่งแล้วดึงจิตสำนึกโพไซดอนกลับมา
นี่คือวิธีสร้างโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่เขาหาได้ ในสถานการณ์แบบนี้ พลังของหัวใจโพไซดอนไม่ได้ถูกลด เพราะจิตสำนึกโพไซดอนไม่ได้ควบคุมมันให้ไปตาย
คนพวกนั้นบนเรือตกปลาตื่นเต้นกันเสียเป็นส่วนใหญ่ นึกว่าจะเจอทูน่าครีบน้ำเงินจึงโยนเหยื่อลงน้ำเอาเป็นเอาตาย มีคนเอาปลาแฮลิบัตเสียบใส่ตะขอแล้วโยนลงน้ำพลางร้องตะโกน “อย่าปล่อยมันไป! จับปลาทูน่าสมควรตายนั่นให้ได้! ให้ไอ้คนแคนาดานั่นหน้าแตกไปเลย!”
ฉลามหนามก็เป็นปลาที่ค่อนข้างโลภ เห็นเหยื่อล่อเยอะขนาดนี้ก็ดีใจ อ้าปากโตกินอย่างตะกละ กินทุกชิ้นตั้งแต่ต้นยันจบจากนั้นก็กินปลาแฮลิบัตตัวนั้น
พวกชาวประมงเห็นเรือตกปลาวุ่นกันขึ้นมาก็พากันหยิบกล้องโทรทรรศน์มาส่องดู ชาลส์มาหาฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “เพื่อน สถานการณ์ไม่ดีแล้ว พวกนั้นดูเหมือนจะเจอทูน่าครีบน้ำเงินแล้ว”
ฉินสือโอวยิ้มก่อนจะตอบ “เหรอ งั้นก็ถือว่าพวกนั้นโชคดี วันนี้นายได้อะไรมาบ้าง?”
เขาใช้จิตสำนึกโพไซดอนคุมทะเลในเขตชายหาดน้ำตื้นจอร์จมาตลอด ปลาที่เรือทุกลำตกได้ก็รู้ดี ชาลส์โชคดีไม่เบา ตอนกลางวันได้ปลาขนาดกลางประมาณสี่ร้อยปอนด์มาตัวหนึ่ง
เป็นอย่างที่คิด พอได้ยินเขาถามแบบนั้น ชาลส์ก็ตอบกลับมาอย่างภูมิใจ “ฉันได้โชคจากนายมา เพื่อน โชคดีของนายแบ่งมาหาฉันด้วย เมื่อตอนกลางวันเซรีน่าตกได้ตัวหนึ่ง ฮ่ะ ไอ้เจ้านั่นน่ะโง่สุดๆ ตอนนั้นในตะขอเบ็ดเสียบปลาหมึกชิ้นหนึ่งไว้ แต่เจ้านั่นก็ติดเบ็ดจนได้ ฮ่ะๆ ”
ฉินสือโอวพูดว่า “งั้นก็ยินดีด้วย”
ชาลส์กลัวว่าฉินสือโอวจะไม่สบายใจจึงอธิบายว่า “ฉันก็ยังต้องขอบคุณนายมากๆ เหยื่อปลาพวกนี้ฉันทำตามสูตรที่นายให้ไว้ ใช้น้ำมันงาผสมเลือดวัวโรยหน้าไว้ ต้องบอกว่าล่อปลาได้ดีมากจริงๆ ”
ฉินสือโอวใบ้กินยิ้มไม่ออก นี่มันสูตรลับอะไรที่ไหน เขาพูดมั่วๆ ต่างหากล่ะ
ทั้งสองคุยเล่นกันครู่หนึ่ง จู่ๆ ทางเรือตกปลาอาร์บีเอฟเอฟก็สงบลง ฉินสือโอวรู้ว่าพวกเขารู้แล้วว่าที่ตกได้ไม่ใช่ทูน่าครีบน้ำเงินแต่เป็นฉลามหนาม ตะขอก็เก็บแล้ว
ชาลส์ไม่รู้ ฉะนั้นพอมีคนพูดว่าพวกนักตกปลานึกว่าฉลามหนามเป็นทูน่าครีบน้ำเงินในช่องวิทยุสาธารณะ เขาก็หัวเราะเสียงดังออกมาว่า “เจ้าพวกโง่พวกนั้น แค่ทูน่าครีบน้ำเงินกับฉลามหนามก็แยกไม่ออกเหรอ?”
ไม่ได้อะไรกลับมาเลย เหล่านักตกปลาค่อยๆ สูญเสียแรงผลักดันไป การโปรยเหยื่อช้ากว่าเดิมลงเยอะ
ความเร็วที่ทางฉินสือโอวหาปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็ช้าลง เพียงแต่พอถึงตอนเย็น นับรวมแล้ววันนี้ก็ยังหาทูน่าครีบน้ำเงินได้ยี่สิบสองตัว ส่วนมากเป็นปลาเล็กที่ความยาวไม่พอ
เพราะคืนนี้ต้องค้างคืนกลางทะเล ฉะนั้นฉินสือโอวเลยไม่ได้เก็บเบ็ดตกปลาขึ้นมา ตอนที่เขานั่งดูพระอาทิตย์ตกบนดาดฟ้านั้นเอง เอ็นเบ็ดก็เริ่มถูกดึงออกไป
ชาร์คกดวงล้อไว้พลางตะโกน “มีปลาติดเบ็ดแล้ว ปลาติดเบ็ดแล้ว!”
ฉินสือโอวไม่ได้ใช้จิตสำนึกโพไซดอนไปดู ไม่จำเป็น ออกมาแล้วก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้าง ไม่อย่างนั้นคงไม่สมเหตุสมผล ถ้าปลาตัวนี้เป็นทูน่าครีบน้ำเงินก็ถือว่ามันซวยไปแล้วกัน ตอนแรกอยากจะใช้ปลามาร์ลินเป็นผลงาน แต่ตอนนี้ปลามาร์ลินมีประโยชน์สำคัญอย่างอื่น
ปรากฏว่าหลังจากสู้กัน สุดท้ายที่ดึงขึ้นมาก็เป็นทูน่าครีบเหลือง เป็นแบบเดียวกับต้าหวงที่เขาเลี้ยงไว้ที่ฟาร์มปลา ขนาดก็พอๆ กัน ยาวถึงสองเมตร อวบอ้วนกำยำ น้ำหนักอย่างน้อยสี่ร้อยห้าสิบปอนด์
ชาวประมงคนอื่นๆ เห็นความวุ่นวายบนเรือประมงสโนว์บอล รอจนตกปลาขึ้นมาได้ก็มีคนถามฉินสือโอวว่าเป็นปลาอะไร ฉินสือโอวตอบ “โอ้ โชคของฉันโดนชาลส์เอาไปแล้ว เป็นปลาทูน่าครีบเหลืองไม่ใช่ทูน่าครีบน้ำเงิน”
ในหมู่ปลาทูน่า ที่มีค่าหน่อยก็คือทูน่าครีบน้ำเงิน ปลาทูน่าครีบน้ำเงินใต้ ปลาทูน่าตาโต และทูน่าครีบเหลืองสี่ประเภทนี้ การจัดลำดับมูลค่าก็จัดตามนี้ ทูน่าครีบน้ำเงินแพงที่สุด ส่วนทูน่าครีบเหลืองถูกที่สุด
ปลาทูน่าเหล่านี้สามารถเอามาพวกทำซาชิมิ ปลาดิบได้ คุณภาพเนื้อที่ดีที่สุดก็คือทูน่าครีบน้ำเงิน ที่นิยมที่สุดในตลาดคือทูน่าครีบเหลือง ร้านอาหารหลายที่ใช้เนื้อปลาทูน่าครีบเหลืองแล้วบอกว่าเป็นทูน่าครีบน้ำเงิน
ถ้าน้ำหนักเท่ากัน ราคาของทูน่าครีบเหลืองเทียบไม่ได้ในหนึ่งส่วนสี่ของทูน่าครีบน้ำเงิน หลักๆ ก็เพราะผลผลิตเยอะเกินไป อนุรักษ์ไว้ได้ดี
จับทูน่าครีบเหลืองได้สักตัวก็ยังดี ยังไงก็ได้ปลาแล้ว ดีกว่าพวกนักตกปลาที่ไม่ได้อะไรเลยตั้งเยอะ
น่าสงสารพวกนักตกปลาที่วันนี้ทำงานให้ฉินสือโอวฟรีๆ พรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ต้องไปทำงานแล้ว คนพวกนี้ได้แต่กลับท่าเรือในตอนบ่ายอย่างหงุดหงิด เตรียมตัวรับความกดดันจากเจ้านาย
พอเรือตกปลาของนักตกปลาพวกนี้แล่นออกไป เหล่าชาวประมงที่ยังอยู่ในเขตทะเลต่างโห่ร้องดีใจในทันที มีคนไม่น้อยที่เปลี่ยนฉายาให้ฉินสือโอว ไม่เรียก ‘กัปตันโชคช่วย’ แล้ว เรียก ‘กัปตันกระดูกแข็ง’ แทน
ฉินสือโอวคุยเล่นกับพวกเขาผ่านช่องวิทยุสาธารณะครู่หนึ่ง ตอนกลางคืนไม่เหมาะที่จะตกปลาทูน่า เขาเลยเตรียมคุมกองกำลังทหารธงฟ้าไปหาเหรียญทอง
ปรากฏว่าพอจิตสำนึกโพไซดอนของเขาเคลื่อนไปอยู่ที่ร่างปลาในกองกำลัง เขาก็ต้องตกใจสุดขีด!
………………………………….