ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 258 เหรียญทองเอ๋ยมาทางนี้
ชายหาดน้ำตื้นจอร์จ พืดหินดำครึ้ม สัตว์ประหลาดทะเลย่างกราย
ฝูงเงาดำที่อุกอาจแอบซุ่มอยู่ใต้ท้องทะเลอย่างเงียบๆ นี่คืองูทะเลที่มีความยาวและหน้าตาที่น่าเกรงขาม ตัวที่เป็นจ่าฝูงนำทีมมีความยาวลำตัวที่ยาวอย่างน่าตกใจถึงสิบห้าเมตร นี่แหละที่เรียกว่าขนาดตัวเท่ากับถังน้ำ ในการกะพริบตาไปมานั้น เผยให้เห็นถึงดวงตาสีเหลืองทองที่เปล่งรัศมีที่เยือกเย็นออกมา
ด้านหลังของงูทะเลจ่าฝูงนั้น เป็นฝูงลูกน้องที่ลำตัวเล็กลงมาหน่อย ความยาวของพวกมันแต่ละตัวไม่เกินสิบเมตร ไม่รู้ว่าเพราะฉินสือโอวถ่ายเทพลังโพไซดอนให้จ่าฝูงมากเกินไป หรือว่ามันกลายพันธุ์กันแน่ ถึงได้มีขนาดลำตัวที่น่ากลัวเช่นนี้
ฉลามพอบิเกิลตัวใหญ่ตัวหนึ่งว่ายผ่านมา หากเทียบกับตัวที่เคยสู้กับปลาทูน่าแล้ว เจ้าตัวนี้ถือว่าเป็นระดับคุณแม่เลย ขนาดลำตัวยาวถึงหกเจ็ดเมตร ลำตัวแข็งแรงอ้วนมน รอยแผลเป็นมากมายบนผิวนั้น เป็นหลักฐานชั้นดีว่ามันเคยผ่านสงครามมามากมาย
ฉลามพอบิเกิลตัวนี้ก็ถูกปลาทูน่าดึงดูดมาเหมือนกัน มันจู่โจมมาแต่ไกล แต่สุดท้ายเมื่อว่ายมาถึงบริเวณใกล้ๆ ทันใดนั้นทรายใต้น้ำก็ตลบขึ้นมา พร้อมกับมีน้ำหมึกสีดำมืดปล่อยออกมา
จากนั้น ในน้ำหมึกสีดำนั้น ก็มีมือจำนวนมากมายโผล่ออกมาจากผืนทรายพวกนั้น ซึ่งดูเหมือนมือผีจากมัจจุราชในนรกอย่างไรอย่างนั้น ต่างก็ยื่นเข้ามาพันอยู่บนตัวของฉลามพอบิเกิล
หลังฉลามพอบิเกิลตกอยู่ในน้ำหมึกดำนั้นก็ตกใจไปชั่วขณะ มันตื่นตระหนกอยากหนีไป แต่ว่าไม่ทันแล้ว มือเรียวยาวพวกนี้พันติดกันทำให้มันหนีไม่ได้
จากนั้น ก็มีเงาอันน่ากลัวมากมายพุ่งออกมาเร็วปานสายฟ้า พันไปรอบตัวมันแล้วเริ่มรัดอย่างบ้าคลั่ง ฉลามพอบิเกิลตัวใหญ่ตัวนั้นสะบัดอยู่ครู่หนึ่ง ก็โดนรัดจนมีเลือดออกทางปาก ดวงตาเบิกโพลน สิ้นใจทันที!
ปลามาร์ลินและปลาทูน่ามุงเข้าไป ค่อยๆ ใช้ฟันที่แหลมคมนั้นจิกกัดลำตัวของมัน เริ่มอาหารมื้อใหญ่อันโอชะกัน
ฉินสือโอวที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบรู้สึกตรึงใจอย่างมาก ที่แท้ตัวเขามีฝูงลูกน้องที่น่ากลัวพวกนี้อยู่กับตัวด้วย!
จ่าฝูงงูเหลือมทะเลมองดูอยู่ข้างๆ อย่างเยือกเย็น ไม่ได้ออกโรง ตัวที่ฆ่าฉลามพอบิเกิลนั้นเป็นเพียงลูกน้องมันเท่านั้น ส่วนมือที่โผล่ออกมาจากผืนทรายและน้ำหมึกดำที่พ่นออกมานั้น ก็คือผลงานของทีมไร้กระดูกนั่นเอง
พลังโพไซดอนแผ่คลุมไปที่งูเหลือมทะเลและทีมไร้กระดูกเหล่านี้ พวกมันตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที สายตาที่เยือกเย็นของงูเหลือมทะเลเปลี่ยนไปเป็นสายตาที่เป็นมิตร ลำตัวสั่นไปมาเบาๆ เพื่อน้อมรับพลังโพไซดอน
เหล่าทีมไร้กระดูกค่อยๆ มุดออกมาจากผืนทราย ทรายที่ติดตัวพวกมันออกมาบัดนี้ได้ลอยคลุ้งไปในน้ำทะเล ทำให้ดูเหมือนพื้นทะเลถูกขุดจนหายไปชั้นหนึ่ง
นี่แหละคือผลลัพธ์ที่ฉินสือโอวต้องการ!
หลังให้งูเหลือมทะเลและทีมไร้กระดูกได้พักผ่อนแล้ว ฉินสือโอวได้ส่งพลังโพไซดอนให้พวกมัน จากนั้นก็เริ่มทำงานข้ามวันข้ามคืนกัน
หากให้เปรียบเทียบแล้ว กองกำลังทหารธงฟ้านั้นทำได้เพียงการปะทะเล็กๆ น้อยๆ ทีมไร้กระดูกต่างหากถึงจะเป็นมืออาชีพด้านขุดทราย ส่วนงูเหลือมทะเลที่ชอบเลื้อยและมุดในผืนทราย นั่นแหละที่ได้ดั่งใจเป็นอย่างมาก
ใช้เวลาไม่นาน เม็ดทรายลอยว่อน พื้นใต้ทะเลถูกขุดออกหลุมแล้วหลุมเล่า งูเหลือมทะเลที่ว่ายเรียงตัวกันหางต่อหาง ทำให้เรียงกันเป็นแถวเดียว เหมือนกับไถดิน พวกมันตามอยู่ข้างหลังทีมไร้กระดูกทำหน้าที่กวาดผืนทรายที่ทีมไร้กระดูกขุดให้คลุ้งอีกที
เมื่อไถได้ประมาณสี่กิโลเมตร ฉินสือโอวเหนื่อยอยากจะพักผ่อนแล้ว แต่ในตอนนี้นี่เอง ในผืนทรายที่บางลงนั้น ก็มีสิ่งของทรงแบนและหนักถูกทีมไร้กระดูกงัดขึ้นมาแล้วจมลงไป
สายตาของฉินสือโอวจ้องไปที่ของสิ่งนี้ ไม่ผิดแน่นอน นี่คือเหรียญทอง!
เขาเข้าไปมองดูอย่างละเอียด เหรียญทองพวกนี้มีสีเหลืองเข้ม แต่มีสนิมเขียวอ่อนและสนิมเหล็กตรงขอบเล็กน้อย เมื่อเห็นภาพนี้ ทำให้เขามั่นใจถึงระยะเวลาที่เหรียญทองพวกนี้จมอยู่ใต้ทะเลโดยประมาณได้ ก็คือประมาณหนึ่งศตวรรษ
เนื่องด้วยทักษะการหลอมทองในสมัยนั้นไม่ค่อยดีนัก บวกกับการที่จงใจเพิ่มโลหะเข้าไปหลอมด้วย ทำให้เหรียญทองนี้ไม่ใช่เหรียญทองแท้ แต่ประกอบไปด้วยเงิน ทองแดงและเหล็ก
เมื่อจมอยู่ใต้ทะเลเป็นเวลาสองศตวรรษแล้ว ทองแดงและเหล็กในเหรียญที่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับน้ำทะเล ทำให้มีทั้งสนิมเขียวและสนิมเหล็กเกาะอยู่
เหรียญที่จมอยู่ในผืนทรายพวกนี้มีความหนาประมาณสองมิลลิเมตร ด้านหัวคือรูปเทพีสันติภาพที่เดินย่ำเท้าไปข้างหน้า มือข้างหนึ่งถือคบไฟ อีกข้างถือสาขามะกอก ส่วนด้านก้อยคือภาพแสงอาทิตย์สาดส่อง ด้านล่างขวามีเลขโรมันสลักอยู่ว่า ‘MCMVII’
ฉินสือโอวรู้ว่าเลขโรมัน MCMVII นั้นคือเลข 1907
ด้านก้อยของเหรียญเป็นรูปนกอินทรีกางปีกบิน นี่คือนกอินทรีหัวขาว หรือก็คือภาพลักษณ์ของบุชนั่นเอง ด้านบนนกอินทรีหัวขาวมีพิมพ์ชื่อประเทศ USA กับมูลค่าของเหรียญคือ 20 ส่วนด้านล่างมีตัวหนังสืออยู่หนึ่งประโยคว่า ‘IN-GOD-WE-TRUST’ คำพูดนี้แปลได้ว่า ‘เราเชื่อมั่นในพระเจ้า’
ไม่เพียงเท่านี้ ตรงขอบเหรียญยังมีรูปดาว50ดวงที่หมายถึงรัฐ 50 รัฐ และมีตัวหนังสือละตินแทรกอยู่ประโยคหนึ่งว่า E-Pluribus-Unum
ประโยคนี้นั้นดังมาก เป็นคำขวัญของสหรัฐอเมริกา มีความหมายว่า ‘หลากหลายรวมเป็นหนึ่ง’ ประธานาธิบดีของสหรัฐทุกคนที่ขึ้นแท่นประกาศสาบานตน ล้วนก็ต้องพูดประโยคนี้
เมื่อได้เห็นเหรียญพวกนี้แล้ว ฉินสือโอวรู้สึกโล่งใจขึ้นมา ความพยายามของเขาไม่ได้เสียเปล่า ในที่สุด เหรียญทองคำนกอินทรีปี 1907 ก็ได้โผล่ออกมาให้เห็นแล้ว!
เหรียญพวกนี้ก็คือยาบำรุงชั้นดี หลังฉินสือโอวได้เห็นพวกมันแล้ว ทั้งเอวทั้งหลังต่างก็ไม่ปวดไม่เมื่อยแล้ว เขาแผ่พลังโพไซดอนไปให้กับงูเหลือมทะเลและทีมไร้กระดูกอีก ให้พวกมันล้อมรอบจุดที่เจอเหรียญทองแล้วเริ่มขุดต่อไปอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
เมื่อผืนทรายถูกขุดไปมา เผยให้เห็นกระเป๋าเหล็กที่ขอบมีรอยแตกออกมากล่องหนึ่ง นี่คือกล่องที่มีรหัสล็อค มีความกว้างประมาณแปดสิบเซนติเมตร ยาวแปดสิบเซนติเมตร สูงครึ่งเมตร ถูกผลิตมาเพื่อให้ทั้งหนาและทนทาน
ถึงแม้จะอยู่ใต้ท้องทะเลมาเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษแล้ว ก็ยังสามารถเห็นได้ถึงความทนทานนั้นอยู่
แต่น่าเสียดาย ไม่ว่าสิ่งของนั้นจะแข็งแรงทนทานแค่ไหนก็ไม่สามารถต้านทานการผุพังตามกาลเวลาได้ กล่องล็อครหัสใบนี้เขรอะไปด้วยสนิม แถมยังมีรอยแตกร้าวตรงขอบฝั่งหนึ่งด้วย ทำให้มีเหรียญทองหล่นออกมา เหรียญที่เจอเมื่อกี้ ก็หล่นออกมาจากรอยนี้เหมือนกัน
จากข้อมูลที่ฉินสือโอวรู้มา กล่องใส่รหัสแบบนี้คือกล่องเก็บเหรียญทองที่ใช้กันแพร่หลายของธนาคารในอเมริกา แต่ละกล่องสามารถบรรจุเหรียญทองได้ถึง 4000 เหรียญ
ตอนนั้นโรงกษาปณ์นิวยอร์กเพิ่งผลิตเหรียญอินทรีปี 1907 ออกมาจำนวนสี่หมื่นเหรียญ แต่ละเหรียญมีมูลค่า 20 ดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่ารวมทั้งหมดแปดแสนดอลลาร์สหรัฐ แน่นอนว่าเงินก้อนนี้ถือเป็นเงินจำนวนมหาศาลในตอนนั้น ที่ต้องถูกส่งไปยังรัฐเมนเพื่อใช้ในการจัดซื้อสินค้าครั้งใหญ่
แต่ทว่า เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เรือที่ขนส่งเหรียญทองในตอนนั้นเกิดไปชนกับพืดหินปะการังจนเรือจม ทำให้เหรียญทองสี่หมื่นเหรียญนี้หายไปในทะเลจนถึงปัจจุบัน จนได้ฉินสือโอวที่ทำให้มันออกมาเจอโลกอีกครั้ง!
หลังเจอกล่องใส่เหรียญทองแล้ว ฉินสือโอวคิดว่าเพียงแค่ใช้จุดนี้เป็นจุดศูนย์กลางแล้วหาบริเวณรอบๆ ก็คงสามารถหาเจออีกห้ากล่องได้อย่างรวดเร็ว เพราะน่าจะยังมีอีกสองกล่องที่มีเหรียญอีกแปดพันเหรียญอยู่ข้างใน แต่ว่าไม่ว่าหาอย่างไรก็หาไม่พบ
ฉินสือโอวได้ใช้พลังโพไซดอนไปจำนวนมาก เขาในตอนนี้เหนื่อย เหงื่อท่วมตัวแถมเปิดตาแทบไม่ไหวแล้ว พึ่งก็แต่จิตสำนึกในการมีสติเท่านั้น
เขายังคงหาต่อไปในสภาพร่างกายแบบนี้แต่ก็ยังหากล่องเหรียญทองอีกสองกล่องไม่เจอ เขาทนไม่ไหวแล้ว จึงดึงพลังโพไซดอนกลับแล้วพักผ่อนทันที
ในคืนเดียวกันนั้น ฉินสือโอวนอนหลับไม่ค่อยดี ถึงแม้เขาจะเคยมีประสบการณ์การค้นพบทองคำขาวร้อยตันกับเรือดังเคิลออสเตียสมาแล้ว แต่เมื่อได้รู้ถึงเหรียญทองที่มีมูลค่าเกินกว่ายี่สิบล้านดอลลาร์นี่แล้ว ทำให้เขาไม่สามารถเก็บความกะตือรืนร้นนี้ไว้ได้
เขาตื่นมาตอนเช้าตรู่ เรื่องที่เขาทำเป็นเรื่องแรกก็คือรีบกลับไปดูว่าเหรียญพวกนั้นยังอยู่หรือเปล่า พวกมันถูกผืนทรายพัดปิดไปหมดแล้วหรือไม่? จะมีคนที่บังเอิญไปดำน้ำแล้วเจอเหรียญทองพวกนั้นไหม? เมื่อคืนเป็นแค่ภาพหลอนที่เขาเห็นหรือเปล่า?
………………………………..