ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 337 ออกทะเลด้วยกัน
พาพ่อแม่มาชมคฤหาสน์สักหน่อย จากนั้นฉินสือโอวก็พาชาร์คและคนอื่นๆ ไปจัดของให้พ่อแม่เขา
ตามที่ฉินสือโอวได้สั่งไว้ ครั้งนี้ให้พ่อแม่และพี่สาวเอาเสื้อผ้ามาไม่กี่ชุด เพราะเขาบอกไว้แล้วว่าพอมาถึงแล้วจะซื้อแบรนด์เนมให้ พ่อแม่ของเขาที่ดูข่าวเป็นประจำอยู่แล้วก็เลยรู้ว่าเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่แคนาดาถูกกว่าในประเทศมาก เลยต้องกัดฟันตัดสินใจฟุ่มเฟือยสักครั้ง
ความจริงแล้ว เหตุผลหลักคือพ่อแม่ของฉินสือโอวอยู่บ้านไม่ค่อยมีเสื้อผ้าดีๆ มาเจอลูกสะใภ้ครั้งนี้ยังไงก็ต้องเอาแบรนด์ดีๆ ออกมาใส่
และสิ่งที่พ่อของฉินสือโอวเอามาด้วยคืออาหาร เครื่องปรุง น้ำมันหมู และยังมีถั่วที่ปลูกเองมาจากบ้านเกิด เอามาไม่กี่ห่อ ฉินสือโอวก็สามารถกินได้ถึงปีใหม่เลย
พอเก็บของเสร็จ แม่ของฉินสือโอวก็ไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมทำอาหารให้ลูกชายสุดที่รักและลูกสะใภ้
ฉินสือโอวนั้นก็ไม่ห้ามปรามแต่อย่างใด เพราะเขาเชื่อว่ายังไงซะแม่ของเขาก็ใช้อุปกรณ์ในครัวไม่เป็น
ก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ หลังจากที่แม่ของเขาเข้าไปแม้แต่มีดก็ยังหาไม่เจอเลย
ครัวของวิลล่าเพิ่งจะปรับปรุงเพราะถือโอกาสจากการสร้างห้องทำงานของพนักงานใหม่ ฉินสือโอวได้เปลี่ยนชุดทำครัวใหม่ทั้งหมด ช้อนส้อมและอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารจะล้างทำความสะอาดโดยเครื่องล้างอัตโนมัติจากนั้นค่อยนำไปเก็บใส่ไว้ในตู้กับข้าว และแม้แต่ตู้กับข้าวยังต้องใช้รหัสผ่านเพื่อป้องกันเด็กหรือคนร้ายเข้าไปเอามีดในครัวมาทำเรื่องไม่ดี
“นี่มันใช้ยังไง?” แม่ของฉินสือโอวกลุ้มใจ
ฉินสือโอวเลยอดยิ้มไม่ได้ “แม่ นี่เพิ่งจะกี่โมงเอง ออกไปเที่ยวกันก่อนแล้วค่อยกลับมาทำอาหารเย็นก็ยังทัน”
แม่ของฉินสือโอวตอบอย่างจริงจัง “แบบนั้นไม่ได้หรอก แกดูสิคนกินตั้งเยอะ พวกเราต้องเตรียมแต่เนิ่นๆ ไม่งั้นก็ดึกพอดีกว่าจะได้กินข้าว”
“งั้นเราก็ไปกินข้าวในเมืองกันไง” ฉินสือโอวพูดขึ้น
แม่ฉินสือโอวถอนหายใจแล้วพูดว่า “เสี่ยวโอว แม่ทำใจไปเสียเงินไม่ได้ และที่สำคัญคือแม่อยากทำอาหารมื้อนี้ให้เสี่ยวเวยลองชิมว่ารสชาติพอดีไหม ถ้าไม่ดีคราวหลังแม่ก็จะไม่ทำแล้ว ยังเป็นการลดความตึงเครียดระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ด้วย”
ฉินสือโอวโอบกอดแม่ด้วยความตื้นตัน บนโลกนี้มีแค่แม่ที่ดีที่สุด
พ่อของฉินสือโอวหัวเราะขึ้น “แม่ของแกโดนละครพวกนั้นล้างสมองแล้ว แม่สามีบ้านไหนจะหาเรื่องทะเลาะได้ทั้งวัน? ตอนที่แม่ของพวกเรายังอยู่ คุณก็รับมือได้ดีไม่ใช่เหรอ?”
แม่ของฉินสือโอวกลอกตามองบนและพูดขึ้น “ความสัมพันธ์จะดีหรือไม่ดี ใจของฉันรู้ดี ไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาพูดเรื่อยเปื่อยทุกวันได้ไหม? คุณไม่กลัวขายหน้า แต่ฉันยังคงกลัวเพื่อนบ้านหัวเราะเยาะนะ”
ฉินสือโอวลากแม่ออกมาจากห้องครัวแล้วตะโกนไปบอกนีลเซ็น “เตรียมเรือไว้ พวกเราจะออกทะเลไปตกปลากัน ตกได้อะไรตอนเย็นก็จะกลับมากินอันนั้น”
“ปลาจะไปมีอะไรอร่อยกัน?” แม่ของฉินสือโอวพูดอย่างไม่เต็มใจ
“แม่คิดว่าฟาร์มปลาของเราจะมีแค่ปลาเฉาฮื้อกับปลาคาร์ฟเหรอ? ยังมีปลาลิ้นหมา ปลาทูน่าครีบเงิน ปลาแซลมอนชัม ไหนจะปูกับหอยกูอีดั๊กอีก ของพวกนี้ที่บ้านเราไม่มีให้กินนะแม่” ฉินสือโอวยิ้มและพูดขึ้น
เนื่องจากคนในครอบครัวเยอะเกินไป เลยต้องใช้เรือยอชต์ตกปลา พวกเรือหัวกว้าง เรือตกปลา เรือเด็คพวกนี้จะเล็กเกินไป
เรือยอชต์ทรอลเลอร์เป็นทั้งประกอบอาชีพและไว้สำหรับผ่อนคลายได้แบบทูอินวัน แต่ว่าทั้งสองทางจะไม่ค่อยแข็งแรง บวกกับในตอนนั้นฉินสือโอวที่คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะสะสมธุรกิจพันล้านได้เร็วขนาดนี้ ดังนั้นเขาเลยวางแผนจะซื้อน้ำมันไว้ยามฉุกเฉิน
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นแล้ว ครอบครัวใหญ่และคนก็เยอะมาก ส่วนครอบครัวของวินนี่ที่ยังไม่มาอีก ตัวเองเลยต้องลงมือกับเรือสำราญนี้เอง
ทั้งคนและหมาที่พากันขึ้นมาบนเรือยอชต์แล้ว นีลเซ็นก็เริ่มออกเรือ ส่วนฉินสือโอวก็เริ่มปล่อยคันเบ็ดตกปลา
และวินนี่ก็พาพี่สาวและแม่มานั่งหลบแดดให้ลมทะเลพัด ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แสงแดดจึงไม่ค่อยรุนแรงนัก จากนั้นฉินสือโอวก็พามิเชลและเชอร์ลี่ย์ยืนบนแคมเรือโปรยเหยื่อตกปลาลงไป หลังจากนั้นก็ยื่นคันเบ็ดตกปลาส่งให้มิเชล ให้เขามาตกปลา
ตอนนี้ปลาในฟาร์มก็มีเยอะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นปลาค็อด ปลาซาบะยิ่งปลาแฮร์ริ่งนี่ไม่ต้องพูดถึง แต่แค่เพียงได้ค่อยๆ ตกปลาทะเลพวก ปลากะพงทะเล ปลาแซลมอนชัม ปลาเหล็กใน ปลาไหลทะเล ปลากระโทง และปลากระโทงดาบ พวกนี้ก็ทำให้มีความสุขได้แล้ว
แนวคิดการพัฒนาของฉินสือโอวนั้นถูกต้องทั้งหมด ตราบใดที่ลานบ้านปลูกต้นอู๋ถงก็อย่ากลัวว่าจะไม่ดึงดูดหงส์ และตราบใดที่ฟาร์มปลามีสาหร่ายทะเล แพลงก์ตอน ทรัพยากรพื้นฐานที่อุดมสมบูรณ์พวกนี้ ยังกลัวว่าปลาจะมาไม่ถึงฟาร์มอีกเหรอ?
พ่อของฉินสือโอวเตรียมที่จะโยนลงไป ชาร์คเดินมาโบกมือและพูดว่า “เหยื่ออันนี้ไม่เหมาะนะ จะทำให้ตกไม่ได้ปลา”
ชาร์คที่พูดภาษาอังกฤษ พ่อของฉินสือโอวเลยฟังไม่เข้าใจ ดูจากที่เขาโบกมือก็นึกว่าไม่ให้ตกปลาเลยเอาตะขอเบ็ดออก
วินนี่ยิ้มและพูดขึ้น “คุณลุง ชาร์คหมายถึงว่าเหยื่อของคุณลุงไม่มีแรงดูงดูดพอ เขาเลยเปลี่ยนเหยื่อที่ดีกว่าให้แล้วค่ะ”
ชาร์คพยักหน้า ถือกล่องปูเสฉวนที่ขุดมาจากชายหาด จากนั้นก็ดึงตัวปูออกจากกระดองแล้วเกี่ยวไว้บนตะขอและพยักหน้าพูดขึ้น “อันนี้ดีกว่า นี่เป็นความลับของเราชาวเกาะแฟร์เวล”
โดยทั่วไป นักตกปลาต่างก็จะมีวิธีการทำเหยื่อตกปลาและสำหรับชาวประมงพวกเขาไม่สามารถไปซื้อหรือประดิษฐ์เหยื่อตกปลาได้ แต่จะหาเหยื่อฟรีที่มีประโยชน์ตามริมทะเลเอา จะมีตั้งแต่หนอนทะเลทรายไปจนถึงหอยหลอด รวมถึงตั๊กแตนและไส้เดือนดินที่ใช้กันทั่วไปในการตกปลาในแม่น้ำ ซึ่งพวกนี้ต่างก็เป็นเหยื่อสดที่เห็นได้ทั่วไป
ชาวประมงของเกาะแฟร์เวลชอบใช้ปูเสฉวนกัน แต่เหยื่อที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือปูนิ่ม ซึ่งใช้มาตกปลาทะเลตัวแบน ปลาค็อดและปลาแซลมอนชัมและนี่ก็เป็นวิธีมาตรฐาน เพียงแต่ว่าปูตัวเล็กชอบอาศัยอยู่ตามบริเวณปากแม่น้ำซึ่งทางฝั่งนิวฟันด์แลนด์จะมีไม่เยอะ
ฉินสือโอวแนะนำพ่อเขาไปเล็กน้อย และแน่นอนว่าเขาก็ไปถามชาร์ค จากนั้นชาร์คเลยพูดกับเขาว่า “ปูนิ่ม? ที่นี่พวกเราก็มี อยู่ที่ปากแม่น้ำอ่าวเคอร์บัลน่ะ เดี๋ยวรอตอนน้ำลดแล้วพวกเราถึงไปหากันได้”
หลังจากที่พ่อของฉินสือโอวโยนเบ็ดลงไป เขาก็หันไปเห็นเชอร์ลี่ย์ที่มองด้วยความประหลาดใจอยู่ข้างๆ เขาเลยยื่นคันเบ็ดให้เธอ จากนั้นก็หัวเราะและพูดว่า “สาวน้อยคนนี้หน้าตาเป็นเอกลักษณ์ดีจริงๆ ช่างเป็นเด็กต่างชาติที่สวยงดงามมาก”
และพี่สาวก็พูดต่อ “พอเชอร์ลี่ย์โตขึ้น จะต้องสวยสง่าเหมือนกับเสี่ยวเวยแน่ๆ เลย”
เชอร์ลี่ย์หันกลับไปยิ้มหวาน “ขอบคุณคุณน้าที่ชมค่ะ”
“สาวน้อยคนนี้พูดจีนกลางได้ดีจังเลย” พ่อของฉินสือโอวหัวเราะพลางลูบหัวเธอ “ผมก็นุ่มสลวย ใช้เฮดแอนด์โชว์เดอร์ใช่ไหมเนี่ย?”
เมื่ออยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ จิตใจของคนก็กว้างตามไปด้วย พ่อของฉินสือโอวก็เริ่มที่จะพูดเล่นขึ้น
เชอร์ลี่ย์ยิ้ม จากนั้นเบ็ดในมือก็กระตุก มีปลาติดเบ็ดแล้ว
ส่วนพ่อของฉินสือโอวที่กลัวว่าเธอจะคุมเบ็ดไม่อยู่ก็เข้ามาช่วย แต่ด้วยทักษะเก่าของเชอร์ลี่ย์เธอเลยจับเอาคันเบ็ดไปเสียบไว้ตรงกราบเรือที่เอาไว้เสียบคันเบ็ด จากนั้นก็ลองหมุนรอกวัดน้ำหนักดูและส่ายหัวแล้วพูดว่า “ปลาตัวเล็กๆ เอง”
พูดจบเธอก็รีบหมุนรอกด้วยความเร็ว เพื่อเป็นการหมุนเส้นเอ็นที่ตกปลาตัวนี้ได้ขึ้น
ส่วนหู่จือและเป้าจือที่นอนหมอบอยู่บนแคมเรือก็ส่ายหางไปมามองดูคนตกปลา พอพวกมันเห็นทางเชอร์ลี่ย์ปลาติดเบ็ดแล้ว ก็คิดว่าได้โอกาสที่จะจะแสดงความสามารถ แต่สุดท้ายเป็นแค่ปลาซาบะขนาด 25-26 เซนติเมตรเอง พวกมันเลยร้องออกมาสองครั้งอย่างผิดหวัง
พ่อของฉินสือโอวพอใจมาก เขาหัวเราะคิกคักแล้วพูดขึ้น “ปลาตัวใหญ่นะเนี่ย”
จากนั้นฉินสือโอวเลยหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วให้พ่อของเขาดูรูปที่เขาตกพวกปลาทูน่าครีบน้ำเงินและปลาทูน่าครีบเหลือง ก่อนจะพูดว่า “พ่อ นี่สิถึงจะเรียกว่าปลาใหญ่”
พ่อของฉินสือโอวมองดูก็ถึงกับร้องออกมา “ปลาทะเลตัวใหญ่กว่าปลาแม่น้ำอีก แม่น้ำไป๋หลงของพวกเราไม่มีปลาแบบนี้เลยนะ ยาวถึง 30 เซนติเมตรก็เรียกว่าปลาตัวใหญ่แล้ว”
เนื่องจากอิทธิพลของพลังงานโพไซดอนทำให้ปลาในฟาร์มมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ หลังจากที่ปลาซาบะตัวนี้ติดเบ็ดแล้วมันยังคงดิ้นสุดกำลัง เสี่ยวฮุยที่ไปจับด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็โดนหางของมันฟาดเข้าให้ที่ปากทำให้ปากเขาบวมใหญ่ขึ้น
………………………………………