ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 340 เม่นน้อยแห่งฟาร์มปลา
วันนี้ถือว่าเป็นวันที่เหนื่อยล้ามากวันหนึ่ง วันนี้เริ่มต้นที่พ่อของฉินสือโอวและคนอื่นๆ พากันบินมาจากเมืองโทรอนโต จากนั้นพวกเขาก็พากันออกเรือไปตกปลาทันที สุดท้ายก็ยังกลับมาทำอาหารเย็นอีกมากมาย คนแก่ทั้งสองคนรวมถึงเด็กน้อยอย่างเสี่ยวฮุยนั้นเหนื่อยกายเป็นอย่างมาก
เมื่อทานอาหารเย็นกันเสร็จ ฉินสือโอวก็พาพวกเขาไปยังห้องนอน ทันทีที่อาบน้ำเสร็จ ทุกคนก็เข้านอนกันทันที
“พวกเขาคงจะเหนื่อยกันมาก” วินนี้พูดขึ้นตามที่เธอรู้สึก
ฉินสือโอวพูดพลางยิ้มออกมาว่า “แบบนี้ถึงจะดีต่ออาการเจ็ทแลก คุณคิดว่าเมื่อวานพ่อกับแม่ผมนอนหลับสนิทเหรอ?”
วินนี่มองไปยังเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย พลางพูดขึ้นว่า “คุณน่ะ ทีเรื่องแบบนี้ล่ะรู้เยอะเชียว…”
โดยที่ไม่ต้องรอให้เธอพูดจบ ฉินสือโอวก็เข้าไปช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมา วินนี่หัวเราะคิกคักอยู่ที่ลำคอของเขาพลางพูดขึ้นมาด้วยความตกใจว่า “คนบ้า คุณคิดจะทำอะไรน่ะ?”
“คนบ้าคนนี้อยากจะแกล้งองค์หญิงเสียหน่อย”
ฉินสือโอวไม่ได้โยนวินนี่ลงพื้น เขาพาเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำและทั้งสองคนก็อาบน้ำร่วมกัน ยังไม่ทันที่จะได้ออกมาจากห้องน้ำ วินนี่ก็เคลิ้มหลับไปเสียก่อน
คนที่เหนื่อยไม่ได้มีแค่พ่อแม่ของฉินสือโอว สองวันมานี้วินนี่ก็ไม่ค่อยได้นอนเท่าไรนัก แม้ว่าก่อนหน้านี้การคุยวิดีโอคอลกับพ่อแม่ของฉินสือโอวนั้นจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าเวลาที่อยู่ต่อหน้าท่านสองคนจริงๆ แล้ว จะเหมือนกับตอนที่คุยกันผ่านวิดีโอคอลหรือไม่?
เทียนสีแดงในเรือนหอถูกจุดขึ้น เจ้าสาวเฝ้ารอให้สามีเข้ามาเชยชม เมื่อแต่งหน้าเสร็จก็ถามสามีขึ้นมาเบาๆ ว่า เธอเพรียบพร้อมแล้วหรือไม่?
เมื่อฉินสือโอวคิดถึงท่าทีของวินนี่ที่เธอแสดงออกมาเมื่อวาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงกลอนบทนี้ พอมาคิดดูแล้ว ยิ่งเขามองไปยังดวงตาของวินนี่เท่าไรเขาก็ยิ่งหลงใหลในตัวของเธอ หญิงสาวที่หลับไปอย่างรวดเร็วราวกับเด็กที่ไร้เดียงสาคนนี้ เธอมีคิ้วโก่งสวยงาม ริมฝีปากเป็นกระจับยกขึ้น ราวกับยิ้มอยู่ตลอดเวลา
ฉินสือโอวจูบเข้าที่หน้าผากของวินนี่เบาๆ หลังจากที่เขาปิดไฟ เขาก็ใช้จิตสำนึกโพไซดอนพาตัวเองไปยังฟาร์มปลา
เฮยป้าหวังปรากฏตัวขึ้นที่ใต้ทะเลลึกมานานแล้ว ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกเคลื่อนย้ายตัวไปยังเพรียงหินที่อยู่บริเวณหน้าผากของมัน เขาพบว่ารอบๆ นั้นเป็นโขดหินโสโครกรกร้างที่อยู่ใต้ท้องทะเล พืชพันธุ์และปลาแปลกประหลาดตัวเล็กๆ จำนวนหนึ่งที่ยังไม่มีชื่อเรียกอาศัยกันอยู่ที่บริเวณนี้ เพื่อคอยปกป้องสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อยู่ใต้ท้องทะเลแห่งนี้
เฮยป้าหวังเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ครู่หนึ่ง ร่องลึกที่บริเวณก้นมหาสมุทรก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ลักษณะของร่องลึกนั้นราวกับว่าเกิดจากเอลเดอร์ไททันใช้มีดฟันลงมาทำให้กันมหาสมุทรแห่งนี้แยกออกมาจากกัน ร่องลึกนี้มีความยาวหลายสิบไมล์ จนไม่สามารถเห็นได้ว่าร่องนี้ไปจบที่ตรงไหน
จิตสำนึกโพไซดอนเข้าไปปกคลุมร่องลึกนั้นเพื่อสำรวจคร่าวๆ อยู่ครู่หนึ่ง ร่องนี้มีความลึกที่ค่อนข้างมาก ข้างล่างนั้นมืดสนิทและไม่มีแสงสว่าง อีกทั้งน้ำทะเลบริเวณนั้นยังเป็นน้ำที่เย็นจัด เฮยป้าหวังหยุดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อมันรู้สึกถึงภัยคุกคาม มันก็รีบหนีไปทันที
ฉินสือโอวกลัวว่าเฮยป้าหวังจะได้รับบาดเจ็บ เขาจึงส่งพลังของโพไซดอนให้มันไปบางส่วน เมื่อพลังของโพไซดอนเข้าไปในร่างกายของเฮบป้าหวัง เขาตระหนักได้ว่า สาเหตุที่เฮยป้าหวังสัตว์ทะเลที่กล้าหาญที่สุดหนีออกมาจากร่องลึกนั้น ไม่ใช่เพราะว่าหนาว แต่เป็นเพราะว่ากลัวต่างหาก!
ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่อยู่ในร่องลึกนั้นทำให้มันกลัว
ฉินสือโอวสงสัยจนต้องหันกลับไปมอง ร่องลึกนั้นเขาไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ความมืดมิดที่ลึกลับนั้น ทำให้เขารู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน ฉินสือโอวจึงรีบตามเฮยป้าหวังออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อออกจากร่องทะเลลึกมายังบริเวณน้ำตื้น ที่หน้าของเฮยป้าหวังก็มีฝูงปลาหิมะปรากฏขึ้น ทันใดนั้นเฮยป้าหวังก็ลืมความรู้สึกกลัวร่องลึกที่ทำให้มันต้องรีบหนีออกมาไปในทันที มันรีบพุ่งเข้าไปกินปลาหิมะอย่างตะกละตะกลามราวกับกำลังโอ้อวดพลังของตัวเอง
แต่ว่าจู่ๆ เฮยป้าหวังก็ได้เผชิญหน้ากับยุทธการวอเทอร์ลู ในขณะที่มันพุ่งเข้าไปถึงวงล้อมด้านนอกของปลาหิมะนั้น ก็มีฝูงปลาสีส้มแดงตัวเล็กๆ ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของมัน
แต่แผนการเหล่านั้นใช้ไม่ได้กับเฮยป้าหวัง มันอ้าปากกว้างแล้วดูดน้ำทะเลเข้าไปอย่างไม่รีรอ มันตั้งใจที่จะให้ปลาเล็กๆ พวกนั้นเข้าไปอยู่ในปากของตัวเอง
ปลาตัวเล็กๆ เหล่านั้นเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเจอกับอันตรายถึงชีวิตต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก พวกมันเลียนแบบท่าทางของเฮยป้าหวังทันที พวกมันเริ่มอ้าปากของตัวเองเพื่อดูดน้ำทะเลเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง แต่ว่าหลังจากที่พวกมันดูดน้ำทะเลเข้าไป ไม่นานตัวแบนๆ ของพวกมันก็พองขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้บริเวณผิวหนังของพวกมันก็มีเข็มแหลมปรากฏขึ้นรอบตัว ตัวของพวกมันพองกลมราวกับเม่นแคระตัวใหญ่
เพราะแบบนี้ เฮยป้าหวังเหมือนกำลังดูดลูกบอลปลาตัวเล็กๆ เข้าไปในปาก ทันใดนั้นหลังจากที่ดูดเจ้าพวกนั้นเข้าไป มันก็ไม่สามารถปิดปากตัวเองได้
ฉินสือโอวรู้สึกตลกกับภาพตรงหน้าอย่างมาก เขารีบใช้จิตสำนึกโพไซดอนสร้างพายุลูกเล็กๆ ขึ้น เพื่อให้เจ้าปลาลูกบอลเล็กๆ พวกนั้นปล่อยลมออกมา ไม่เช่นนั้นวันนี้เฮยป้าหวังคงได้ตกอยู่ในที่นั่งลำบากเป็นแน่
เจ้าเม่นแคระพวกนี้เป็นปลาที่ประหลาด พวกนั้นอาศัยอยู่ในมหาสมุทรทั้งสามแห่งบนโลกใบนี้ แต่ในมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดียนั้นพบพวกมันได้เยอะที่สุด ส่วนมหาสมุทรแอตแลนติคนั้นพบเจอพวกมันได้น้อยมาก แต่ก็ยังสามารถพบได้ในบริเวณน้ำตื้น
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของพวกมันคือปลาปักเป้า ฉินสือโอวไม่รู้ว่าภาษาจีนท้องถิ่นนั้นเรียกมันว่าอย่างไร แต่ในชื่อภาษาอังกฤษนั้นพวกมันมีชื่อเรียกมากมาย เช่น ปลาปักเป้าหนามทุเรียน ปลาเม่น ปลาลูกบอลหนาม ปลาเม่นสีน้ำตาล ปลาฟองเม่น ปลาเม่นกระโดดและอื่นๆ
คำเรียกปลาปักเป้าพวกนี้ ต่างเรียกตามรูปร่างลักษณะของพวกมัน เวลาที่พวกมันรู้สึกผ่อนคลายพวกมันก็เป็นเพียงปลาธรรมดา แต่เมื่อพวกมันถูกโจมตีพวกมันก็จะพองลมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้กลายเป็นเหมือนลูกบอลหนาม และพวกมันยังสามารถขยายตัวให้ใหญ่ได้ถึงห้าเท่าอีกด้วย!
ฉินสือโอวจำปลาชนิดนี้ได้ นั่นก็เพราะว่าพวกมันแปลกประหลาด พวกมันไม่มีกระเพาะอาหาร อาจเป็นเพราะว่า กระเพาะของพวกมันนั้นค่อยๆ หายไประหว่างการวิวัฒนาการหลังจากที่รู้ว่าพวกมันไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากกระเพาะ อาหารที่พวกมันกินไม่จำเป็นต้องใช้กระเพาะย่อย สามารถไหลผ่านกระเพาะเข้าไปยังลำไส้ได้เลย
หากอยากเห็นกระเพาะของปลาปักเป้า ก็ต้องรอให้พวกมันพองลมเสียก่อน สำหรับพวกมันแล้ว หน้าที่หลักของกระเพาะของพวกมันคือการทำหน้าที่ขยายตัวหลังจากที่พวกมันดูดน้ำทะเลเข้าไป จนทำให้ผิวหนังตึงจนเหมือนลูกบอล เกล็ดบนผิวหนังของพวกมันนั้นค่อนข้างแข็ง ถ้าหากว่าผิวหนังถูกกระเพาะทำให้ตึงเมื่อไหร่ เกล็ดพวกนั้นก็จะตั้งขึ้นมา กลายเป็นหนามแหลมทันที
ถ้าพวกมันอยู่ในสถานการณ์ปกติ กระเพาะก็จะถูกพับย่อขนาดลง กระเพาะที่ถูกพับจะถูกรวมอยู่ในที่เดียวกัน ในรอยพับพวกนั้นยังมีรอยพับเล็กๆ อยู่ด้วย แต่รอยพวกนั้นต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องเท่านั้นจึงจะสามารถเห็นได้
ดังนั้น เมื่อตอนที่เหล่านักชีววิทยาทางทะเลเห็นพวกมันครั้งแรก จึงได้คิดว่าพวกมันนั้นไม่มีกระเพาะอาหาร
หลังจากที่ปลาปักเป้าพองตัวพวกมันดูดุร้ายมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วตราบใดที่พวกมันไม่ได้ถูกคุกคาม พวกมันก็เป็นปลาแสนเชื่องน่ารักๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น สีสันของพวกมันสดใสสวยงาม นอกจากนี้ฟันขนาดใหญ่สองซี่ที่อยู่ด้านหน้ายังทำให้พวกมันดูซื่อๆ อีกด้วย ตอนนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงพวกมันเป็นปลาสวยงาม
ฉินสือโอวครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นเขาจึงใช้จิตสำนึกโพไซดอนควบคุมฝูงปลาปักเป้าไว้ แล้วคิดจะนำพวกมันกลับไปยังแนวปะการังที่ฟาร์มปลา
เขาคิดแล้วว่า เขาจะใช้พวกมันเป็นอาวุธป้องกันบริเวณแนวปะการัง ปลาชนิดนี้การว่ายน้ำไม่ใช่จุดแข็งของมัน ดังนั้นพวกมันจะไม่ว่ายออกไปไกลจากแนวปะการังแน่นอน แบบนี้ถ้าหากมีศัตรูเข้ามาบุกรุล่ะก็ พวกมันก็จะกลายเป็นลูกบอลหนามทันที
ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้เป็นอาวุธป้องกันแต่ก็สามารถเลี้ยงพวกมันเพื่อความสวยงามได้ เมื่อปลาชนิดนี้พองตัวจนเต็มที่พวกมันจะลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ ราวกับลูกเกาลัดที่ยังไม่ได้แกะเปลือกลอยอยู่ในน้ำ นอกจากนี้พวกมันยังขยับปากจนเกิดเสียง ‘บุ๋งบุ๋ง’ ตลอดเวลา ช่างน่ารักยิ่งนัก
เฮยป้าหวังว่ายน้ำไปมาที่ก้นทะเลอยู่ครู่หนึ่ง มันไม่พบเจออะไรที่แปลกประหลาดเป็นพิเศษเลย ฉินสือโอวหันไปเห็นฉลามวาฬปากกว้างตัวหนึ่ง เขาจึงบังคับฉลามวาฬตัวนั้น ให้อ้าปากออกแล้วใช้จิตสำนึกโพไซดอนเข้าไปจัดการปลาปักเป้าที่น่ารักทั้งหลายให้เข้าไปอยู่ในปากของมัน แล้วใช้พลังบังคับให้มันว่ายไปยังฟาร์มปลา
ฉลามวาฬตัวนี้ไม่ได้ถือว่ามีขนาดที่ใหญ่มาก เมื่อเทียบกับฉลามประเภทเดียวกันที่อยู่ในมหาสมุทรและมีความยาวถึงยี่สิบเมตรแล้วนั้น ฉลามวาฬที่ยาวหกเมตรกว่าตัวนี้นั้นถือว่าเป็นเพียงเพื่อนตัวเล็กเท่านั้น แต่ว่าปากของฉลามวาฬนั้นใหญ่มาก ฉลามวาฬตัวนี้มีขนาดเล็กกว่าเฮยป้าหวังครึ่งหนึ่ง แต่ปากของมันนั้นใหญ่เกือบจะเท่ากัน
เดิมทีฉินสือโอวจะใช้เฮยป้าหวังนี้ในการขนส่งปลาปักเป้า แต่เมื่อมีฉลามวาฬตัวเล็กนี้แล้ว เขาก็จะปล่อยให้เฮยป้าหวังอยู่ในทะเลลึก และปล่อยให้มันว่ายน้ำตามหาคู่รักของมันต่อไป
……………………………………………..