ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 409 ฟอสซิลอยู่ที่นี่
ได้เห็นแร่หินรูปหน้าปลา คราวนี้ฉินสือโอวก็เริ่มจริงจังขึ้นมาแล้ว เขาใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทำความสะอาดบริเวณรอบๆ พอตะกอนทรายถูกกระแสน้ำพัดออกไป ฟอสซิลปลาขนาดห้าเมตรกว่าๆ หนึ่งก้อนก็เริ่มปรากฏให้เห็นรางๆ!
ฟอสซิลปลาชิ้นนี้ไม่ได้มีลักษณะที่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากมันฝังอยู่ในก้อนหินใต้ทะเลสาบ และเพราะว่าสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ริมแอ่งน้ำขนาดใหญ่ใต้ทะเลสาบ มันจึงปรากฏโฉมหน้าออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แค่ดูจากส่วนที่ปรากฏออกมา ฉินสือโอวก็สามารถตัดสินตัวตนของฟอสซิลชิ้นนี้ได้ ฉลามปลาทู!
ใช่แล้ว นี่คือฟอสซิลฉลามปลาทูนั่นเอง! มันคือฟอสซิลฉลามปลาทูที่เขากับแฮมเล็ตเคยตามหาอย่างยากลำบากแต่ก็ต้องพบกับความล้มเหลว!
มองดูฟอสซิลฉลามปลาทูที่มีท่าทางโอหังชิ้นนี้ ฉินสือโอวก็อดนึกถึงคำสอนประโยคหนึ่งของบรรพบุรุษขึ้นมาไม่ได้ ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย!
เรื่องน่ายินดีนี้มาหาเขาอย่างไม่ทันได้คาดคิด เดิมทีฉินสือโอวแค่อยากลงมาดูจำนวนปลาบรีมในฝูงเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะค้นพบสมบัติจากริมแอ่งน้ำใต้ทะเลสาบที่พวกมันอาศัยอยู่
เขาใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนขจัดหอยที่ติดอยู่บนขอบแอ่งน้ำขนาดมหึมาแห่งนี้ออกจนหมด จากนั้นก็ควบคุมกระแสน้ำให้สาดเข้ามาชะล้างตะกอนทรายจนสะอาดหมดจด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ภาพเงาร่างที่เต็มไปด้วยความน่าระทึกของมันก็ค่อยๆ ปรากฏออกมา
ฉลามปลาทูตัวแล้วตัวเล่าที่พัวพันกันอย่างยุ่งเหยิง ท่ามกลางฉลามปลาทูก็มีร่างของไดโนเสาร์ที่แตกหักอยู่หนึ่งตัว ฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นนี้โผล่พ้นออกมาเพียงไม่ถึงครึ่ง ทว่าต่อให้โผล่ออกมาไม่ถึงครึ่งก็นับว่ามีขนาดใหญ่มหึมาแล้ว ดูจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นเจ้าแห่งโลกบาดาลโมซาซอรัสที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากยุคครีเทเชียส
นอกจากฉลามปลาทูกับโมซาซอรัสแล้ว ก็ยังมีปลาขนาดใหญ่บางส่วนที่ฉินสือโอวไม่รู้จักชื่ออยู่ด้วย แต่ก็พอจะดูออกว่าปลาใหญ่พวกนี้คืออาหารของฉลามปลาทูนั่นเอง ขนาดร่างกายของพวกมันก็มีขนาดมหึมาเช่นกัน น่าจะยาวถึงสี่ห้าเมตรเลยทีเดียว หน้าตาดูดุร้าย ถ้าอยู่ในมหาสมุทรยุคปัจจุบัน ย่อมต้องเป็นสิ่งมีชีวิตอีกชนิดที่ทรงพลังอย่างแน่นอน
ใช้แอ่งยักษ์เป็นจุดศูนย์กลาง บริเวณรอบๆ ล้วนแต่เป็นฟอสซิลทั้งสิ้น โดยเฉพาะฟอสซิลของปลาขนาดเล็กกับฟอสซิลสาหร่ายใต้ทะเลในยุคนั้นก็ยิ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
เห็นฟอสซิลพวกนี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขาอดที่จะหัวเราออกมาไม่ได้
ฟอสซิลพวกนี้อาจจะไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาเลย กฎหมายของแคนาดากำหนดไว้ว่าบุคคลทั่วไปไม่สามารถครอบครองฟอสซิลตั้งแต่ช่วงก่อนยุคครีเทเชียส
อีกทั้งเขายังซื้อพวกฟอสซิลไดร์วูล์ฟกับสลอธบกที่ไม่มีการควบคุมทางกฎหมายมาจากทะเลสาบแอสฟัลท์แล้ว เนื่องจากฟอสซิลพวกนั้นมาจากยุคไพลสโตซีน อยู่ในยุคควอเทอร์นารีตามมาตราทางธรณีกาล เป็นยุคที่เกิดหลังจากยุคจูแรสซิกมานานมาก สัตว์บางชนิดจากยุคนั้นก็ยังคงหลงเหลืออยู่ในยุคปัจจุบัน อย่างเช่นหมีแพนด้า
แต่สำหรับเมืองแฟร์เวลแล้ว ฟอสซิลพวกนี้จะทำประโยชน์ได้มาก อย่างแรก ถ้าหากรัฐบาลจะขุดฟอสซิลจากทะเลสาบแห่งนี้ ก็ต้องรวบรวมแรงงานคนจากในพื้นที่ ต่อมาถ้าหากพิพิธภัณฑ์ต้องการเก็บรักษาฟอสซิลพวกนี้ไว้ ก็ต้องแบ่งเงินให้กับเมืองแฟร์เวลด้วยส่วนหนึ่ง และอย่างสุดท้าย เทศบาลเมืองแฟร์เวลสามารถยื่นคำร้องเพื่อขอสร้างพิพิธภัณฑ์ไว้ใกล้ๆ กับทะเลสาบได้
ทางฝั่งฉินสือโอวกำลังฮึกเหิมตื่นเต้นอยู่ แต่เจี้ยนผานโฮ่วที่อยู่ข้างๆ กลับเริ่มรู้สึกหวาดกลัว พี่ชายคนนี้เป็นอะไรไปแล้วเนี่ย? คงไม่ได้เสียสติไปแล้วหรอกนะ? อยู่ๆ ก็ทำท่าทางพิลึกพิลั่นเงยหน้ามองฟ้าแล้วแหกปากหัวเราะออกมา มันแปลกๆ นะโว้ย!
โหวจื่อเซวียนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขาถลกแขนเสื้อขึ้นแล้วตัดสินใจใช้นิ้วมือบีบร่องตรงกลางริมฝีปากของฉินสือโอว โชคดีที่ฉินสือโอวมีปฏิกิริยาตอบรับที่ว่องไว จึงจับมือเขาทันพอดี เขาถามด้วยความงงงันว่า “นายทำอะไรน่ะ?”
รุ่นน้องเจี้ยนผานโฮ่วถามเขาด้วยท่าทางอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “พี่ใหญ่ ผมเห็นท่าทางพี่เหมือนกับคนเสียสติ เลยจะช่วยหยิกร่องปากให้พี่ไง”
ฉินสือโอวกลอกตาบน เขาหาข้ออ้างอื่นมาใช้แก้ตัว “ฉันแค่ดีใจที่วันนี้ตกปลาได้เยอะก็แค่นั้น เสียสติอะไรกันล่ะ ไป ไปบ้านฉันกัน นายทำปลาดุก เดี๋ยวฉันทำปลาบรีมเอง วันนี้กินข้าวเย็นด้วยกันเถอะ”
พอได้ยินอย่างนี้ โหวจื่อเซวียนก็ร่าเริงขึ้นมาทันที เขายกนิ้วโป้งขึ้นมาแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ พี่ใจกว้างมาก! ไม่ใช่คนถือตัวเลยจริงๆ ถ้างั้นก็ตกลง ผมขอเก็บของก่อนแล้วเดี๋ยวผมตามพี่ไปกินข้าวฟรี”
“ไม่ได้มีแต่ข้าวฟรีนะ นายชอบทหารไม่ใช่เหรอ? ถ้าไปที่บ้านฉันแล้วเดี๋ยวฉันจะเอาปืนเอดับเบิลยูพีให้นายดู!” เวลาตื่นเต้นฉินสือโอวก็พูดแบบไม่ทันระวังเหมือนกัน
โหวจื่อเซวียนก็ถึงกับตาโตขึ้นมาทันที “อะไรนะ ปืนเทพรุ่นแรกของซีเอส เอดับเบิลยูพี น่ะเหรอ?! ที่บ้านพี่มีเหรอ?!”
ในเมื่อพูดออกไปแล้ว ฉินสือโอวจะคืนคำก็คงไม่ดีนัก เขาจึงพยักหน้าแล้วตอบกลับไปว่า “ใช่แล้ว เพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกันเป็นคนให้มาน่ะ เอ้อ เพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกันกับฉันก็คือเจ้าของร้านปืนของเมืองนี้ที่ชื่อว่าพอล ซาโกรนั่นแหละ”
“โอ้โห คุณซาโกรเจ้าของร้านเขาเป็นคู่ค้าของพี่เหรอ?” โหวจื่อเซวียนก็อ้าปากค้าง
“ร้านปืนที่เขาเปิดอยู่ตอนนี้ก็เป็นเงินที่ฉันลงทุนเองแหละ ฉันถือหุ้นอยู่แปดสิบเปอร์เซ็นต์น่ะ” ฉินสือโอวพูดอย่างเรียบๆ
เรื่องนี้มีแรงสั่นสะเทือนต่อความอดทนของโหวจื่อเซวียนที่สุด ปืนกระสุนขนาด .50 ดอกเบญจมาศของเขาก็ผลิบานแล้ว เขาลากมือฉินสือโอวแล้วพูดขึ้นมาด้วยความเทิดทูนอย่างแรงกล้าว่า “พี่ใหญ่ พี่โคตรเท่เลย พี่เท่โคตรๆ เท่ระเบิดเลย!”
ร้านปืนในเมืองเพิ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ไม่นาน ช่วงก่อนหน้านี้ก็สร้างขยายอยู่ตลอด เพิ่งจะเปิดให้บริการเมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา ตั้งชื่อว่า ‘ร้านคิว-เอสผลิตภัณฑ์อาวุธและเครื่องใช้กลางแจ้ง’ คิวมาจากตัวอักษรแรกของนามสกุลของฉินสือโอว ส่วนเอสก็มาจากตัวอักษรแรกของนามสกุลซาโกร
พิธีเปิดกิจการของชาวแคนาดาต่างจากที่จีน พวกเขาใช้การโฆษณาไม่ได้ใช้การจัดงานเลี้ยง ซาโกรซื้อพื้นที่หนึ่งในสี่ส่วนบนหน้าหนังสือพิมพ์เซนต์จอห์นเอาท์ดอร์เพื่อโฆษณาร้านปืน หลังจากนั้นก็เปิดกิจการเลย ไม่ได้เชิญฉินสือโอวที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ไปตัดริบบิ้นด้วยซ้ำ
แน่นอนว่า ตอนที่เจ้าคนติ๊งต๊องอย่างฮิวจ์คนน้องเปิดร้านขายของชำก็ยิ่งไม่มีข่าวอะไรเลย ก็แค่อยู่มาวันหนึ่งก็เปิดประตูร้านแล้วติดป้ายไว้ว่า ‘เปิดให้บริการแล้ว’ จากนั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น…
เมื่อค้นพบฟอสซิลแล้ว ปัญหาต่อไปก็คือการขุดขึ้นมา เรื่องนี้จะเร่งรีบไม่ได้ อย่างน้อยต้องรอให้ถึงฤดูใบไม้ผลิจนน้ำแข็งในทะเลสาบเฉินเป่าละลายก่อน
นอกจากนี้ยังต้องหาจุดพลิกสถานการณ์ที่เหมาะสม อยู่ดีๆ จะไปประกาศให้คนนอกรู้ว่าเขาเจอฟอสซิลในทะเลสาบแบบเซ่อๆ ก็คงไม่ได้หรอกใช่ไหม? ต้องรู้ก่อนว่าตำแหน่งที่ตั้งของแอ่งยักษ์ใต้ทะเลสาบอยู่ในจุดที่ลึกถึงสี่สิบห้าสิบเมตร
เมื่อเป็นเช่นนี้ฉินสือโอวจึงเก็บความรู้สึกตื่นเต้นไว้ แล้วพาเจี้ยนผานโฮ่วกลับไปที่ฟาร์มปลาก่อน
เจี้ยนผานโฮ่วเกาะหน้าต่างรถแล้วมองออกไปข้างนอก หลังจากที่รถเข้ามาข้างในฟาร์มปลาแล้วเขาก็พูดด้วยความตื่นตะลึงว่า “พี่ใหญ่ฟาร์มปลาที่นี่เป็นของพี่เหรอ? ตอนที่ผมมาถึงเมืองนี้ก็เคยได้ยินคนพูดกันว่ามีฟาร์มปลาที่สุดยอดมากชื่อฟาร์มปลาคิง ที่แท้ก็เป็นฟาร์มปลาต้าฉินนี่เอง ผีฝรั่งพวกนี้ติ๊งต๊องจริงๆ!”
ใช่แล้ว มีชาวแคนาดาหลายคนที่เรียกฟาร์มปลาต้าฉินว่าฟาร์มปลาคิง สาเหตุของเรื่องนี้ก็เป็นเพราะการออกเสียงของคำว่า ‘ฉิน’ คล้ายกับคำว่า ‘จิน’ ชาวแคนาดาบางส่วนเวลาออกเสียงคำว่าฟาร์มปลาต้าฉินก็จะอ่านเป็น ‘ฟาร์มปลาต้าจิน’
เนื่องจากในภาษาอังกฤษ วิธีการเขียนแซ่จินก็คือ ‘King’ อีกทั้งคำศัพท์คำนี้นอกจากจะแปลว่า ‘จิน’ จากนามสกุลแล้ว ก็มีความหมายประมาณว่า ‘ราชา’ ‘จักรพรรดิ’ ‘จ้าว’ อีกด้วย
และก็ไม่ต้องสงสัยเลย ชื่อคิงฟาร์มปลาก็ยิ่งสอดคล้องกับการแปลของชาวแคนาดามากกว่าชื่อฟาร์มปลาต้าจิน ดังนั้นที่นครเซนต์จอห์นจึงมีชาวแคนาดาหลายคนที่ออกเสียงชื่อฟาร์มปลาต้าฉินว่า ‘คิงฟาร์มปลา’
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉินสือโอวแก้ไขอะไรไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากชื่อนี้มีมาได้หลายสิบปีแล้ว เริ่มตั้งแต่รุ่นของคุณปู่นู่น เมื่อก่อนตอนที่นักข่าวมาสัมภาษณ์เขาเรื่องการกว้านซื้อฟาร์มปลารอบๆ ครั้งนั้นก็ใช้การแปล คำศัพท์เช่นกัน ซึ่งใช้ชื่อว่า ‘คิงฟาร์มปลา’ นั่นเอง
พอรถจอดแล้ว อีวิลสันก็ออกมาขนกล่องใส่ปลาย้ายเข้าไปไว้ในตู้แช่แข็ง เห็นคนตัวผอมๆ แบบเจี้ยนผานโฮ่ว เขาก็มองตาปริบๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น เขายิ้มแหยๆ แล้วยื่นมือออกไปจับหมวกทหารใบนั้นขึ้นมาเล่น
ฉินสือโอวขมวดคิ้วแล้วพูดกับเขาว่า “อีวิลสัน ทำแบบนี้ไม่ได้นะ มันเสียมารยาท”
เจี้ยนผานโฮ่วถูกภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูเหี้ยมโหดของอีวิลสันทำให้ตกใจจนฉี่แทบราด เขารีบโบกมือปัดแล้วพูดขึ้นมาว่า “อะ เอ่อ พี่ใหญ่ ถ้าหากว่าคุณ… พี่เบิ้มคนนี้เขาชอบก็ยกให้เขาก็ได้ แหะๆ หมวกแบบนี้ที่บ้านผมยังมีอยู่อีกเป็นโหล ที่จริงผมยังหารายได้เสริมด้วยการขายของในเถาเป่าด้วยนะ ขายพวกของเกี่ยวกับทหาร…”
……………………………………………..