ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 410 เสน่ห์ของเด็กสาว
ฉินสือโอวพูดขึ้นมาว่า “จะทำอย่างนั้นได้ยังไงล่ะ?”
เจี้ยนผานโฮ่วโบกมือปัดอย่างแรง เขาหัวเราะแหะๆ พร้อมทั้งตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร จริงๆ นะพี่ ของเก่าพวกนี้ที่ตงเป่ยมีอยู่เยอะแยะเลย ถ้าพี่เบิ้มคนนี้เขาชอบก็ให้เขาไปเถอะ แหะๆ”
ฉินสือโอวจึงไม่ได้ปฏิเสธอีก เขาพูดกับอีวิลสันว่า “ยังไม่ขอบคุณพี่เขาอีก”
อีวิลสันส่งยิ้มไร้เดียงสาพร้อมกับยกมือขึ้นมาตบไหล่ของเจี้ยนผานโฮ่ว เขาพูดพึมๆ พำๆ ว่า “อีวิลสันขอบคุณพี่ใหญ่ครับ”
พอโดนอีวิลสันตีไหล่ ขาทั้งสองข้างของเจี้ยนผานโฮ่วก็สั่นจะแทบจะลงไปกองอยู่กับพื้น ต่อมาเขาแอบถามฉินสือโอวว่า “พี่ใหญ่ ทำไมพี่เบิ้มคนนี้ถึงเรียกผมว่าพี่ล่ะ?”
“อีวิลสันเพิ่งจะอายุสิบแปดปีเอง”
“เวร ผมนึกว่าเขาอายุสามสิบแปดแล้ว!”
พอมาถึงวิลล่าฉินสือโอวก็ชงกาแฟร้อนให้เจี้ยนผานโฮ่วก่อนหนึ่งแก้ว เพราะอากาศที่หนาวเย็น จึงทำให้เจี้ยนผานโฮ่วรู้สึกซาบซึ้งมาก “พี่ใหญ่เป็นคนดีจริงๆ พวกเราได้มาพบกันโดยบังเอิญ แต่พี่ก็ดีกับผมขนาดนี้ๆ เป็นเหมือนพี่ชายแท้ๆ ของผมเลยจริงๆ”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าเจ้าเด็กนี่เป็นคนตลกมาก ช่วงนี้เขารู้สึกเบื่อเกินไป เพราะอยู่ที่นี่มานานแล้วลักษณะนิสัยของเขาจึงค่อนข้างนิ่งเงียบ ได้เที่ยวเล่นกับคนที่ทำอะไรตลกๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเขาก็คงขี้เกียจจะสนใจนักท่องเที่ยวพวกนี้
ถึงแม้ว่าในใจจะคิดอย่างนี้ แต่ปากของฉินสือโอวก็พูดออกไปว่า “การบังเอิญพบกันก็อาจจะไม่ใช่โอกาสที่หาได้ยากนักหรอก ขอแค่ถูกชะตาก็พอแล้ว หรือบางทีพวกเราอาจจะมีวาสนาทำให้ได้เจอกันก็ได้ นั่นน่ะ นายรีบดื่มกาแฟหน่อย เดี๋ยวพวกเราต้องไปทำปลาดุกตุ๋นกระทะเหล็กต่อ”
โหวจื่อเซวียนสะบัดมือแล้วพูดกับเขาว่า “พี่วางใจเถอะ ปลาพวกนั้นปล่อยให้ผมจัดการเอง ผมทำปลาเก่งนะ เอาปลาทองไปทำซุปดีไหม? ปลาดุกตุ๋นกระทะเหล็ก? ปลากะพงนึ่งน้ำใส? ผมเห็นว่ามีปลาคาร์ฟด้วย ถ้าอยากนั้นก็ทำปลานึ่งพริกอีกจาน แล้วก็ยังมีปลาสากใหญ่อีกตัว เดี๋ยวผมทำปลาราดน้ำแดงให้พี่กิน ดีไหม?”
ดื่มกาแฟอุ่นท้องเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็เริ่มลงมือทำอาหาร
โหวจื่อเซวียนเตรียมตัวทำปลาดุกตุ๋นกระทะเหล็กก่อน นี่เป็นเมนูอาหารจานเด็ดของชาวฮั่นที่มีรสชาติดีและหน้าตาน่าทานจานหนึ่ง เป็นอาหารแบบเสฉวน ต่อมาแพร่กระจายไปทั่วทั้งประเทศ อาหารของแต่ละท้องถิ่นก็มีการดัดแปลงสูตรที่ต่างกันออกไป เมนูที่โหวจื่อเซวียนกำลังจะทำก็คือปลาดุกตุ๋นกระทะเหล็กแบบตงเป่ย
ปลาดุกมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งมาก วางไว้บนหิมะมาเกินครึ่งวันแล้วแต่ก็ยังไม่ตาย โหวจื่อเซวียนทอดถอนใจอย่างหนัก เขาพูดขึ้นมาว่าสัตว์ตามธรรมชาติสุดยอดจริงๆ หลังจากนั้นก็กดมันลงบนเขียงแล้วใช้หลังมีดฟันลงไปอย่างแรงหนึ่งครั้ง จนปลาดุกน็อกไป
ต่อจากนั้น เขาก็ถามหาอุปกรณ์ที่ทำมาจากลวด แต่ฉินสือโอวไม่มี เขาจึงบอกให้ซีมอนสเตอร์ไปทำมาสักอัน
พอได้ไม้พันลวดมาแล้ว โหวจื่อเซวียนก็ยัดมันเข้าไปในปากปลาดุก เอาเครื่องในของมันออกมาจากทางปาก ดังนั้นถึงแม้ว่าจะฆ่าปลาดุกแล้ว แต่ก็ยังคงรักษาความสวยงามของตัวปลาเอาไว้ได้
ซีมอนสเตอร์เห็นภาพนี้ก็เบิกตาโต แล้วพูดขึ้นมาว่า “พระเจ้า แบบนี้ผิดกฎหมายนะ!”
โหวจื่อเซวียนฟังไม่เข้าใจ เขาจึงหันไปมองฉินสือโอว ฉินสือโอวก็ยักไหล่น้อยๆ แล้วบอกกับเขาว่า “เขาบอกว่านายเป็นคนละเอียดมาก”
ไม่รู้จะพูดยังไงดี จีนกับแคนาดาไม่เหมือนกัน ที่แคนาดามักจะพูดถึงเรื่องประชาธิปไตยกับพวกสิทธิมนุษยชนอยู่เสมอ แม้กระทั่งปลาที่นี่ก็มีสิทธิเป็นของตัวเอง เวลาฆ่าปลาใหญ่ที่มีความยาวเกินกว่าสี่สิบเซนติเมตร จะฆ่าอย่างทารุณไม่ได้ ต้องใช้วิธีการฆ่าที่เอาเลือดออกได้เร็วที่สุด
ไม่ต้องสงสัยเลย ในสายตาของซีมอนสเตอร์ เขาถือว่าโหวจื่อเซวียนฆ่าปลาอย่างทารุณ ในสายตาของโหวจื่อเซวียน นี่คือสัจธรรมของชีวิต แต่ในสายตาของฉินสือโอว นี่ก็คือเรื่องที่ไม่ได้มีความน่าสนใจอะไร
หลังจากฆ่าปลาดุกแล้ว โหวจื่อเซวียนก็ใช้น้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชูนิดหน่อยล้างทำความสะอาดเมือกที่ติดอยู่บนหนังปลา ฉินสือโอวเรียนรู้เคล็ดลับจากเขามานิดหน่อย บนตัวของปลาทะเลบางชนิดก็มีเมือกอยู่เช่นกัน ขั้นตอนการกำจัดก็วุ่นวาย วิธีของโหวจื่อเซวียนจึงเป็นประโยชน์มาก
ต่อมาก็เป็นการหมักปลาดุก โหวจื่อเซวียนใช้กระเทียมสับขิงหั่นแว่นกับต้นหอมใหญ่ยัดเข้าไปในปากปลาหนึ่งกอง พร้อมทั้งใส่มะแข่นกับซอสที่ปรุงเรียบร้อยแล้วเข้าไปในท้องปลา
หลังจากเห็นว่าในครัวมีแป้งข้าวโพดอยู่ ตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา จากนั้นจึงนำไปผสมน้ำทำเป็นตอติญ่าแผ่นเล็กๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แป้งทอดจิ้มหัวปลาตุ๋น ได้เมนูดีๆ อีกจานแล้ว”
ฉินสือโอวรับหน้าที่ทำปลาออร์ฟีสีทองกับปลาบรีม ปลาทั้งสองชนิดนี้มีคุณภาพเนื้อที่ดีมากอยู่แล้ว ดังนั้นวิธีทำจึงไม่ซับซ้อน เพื่อรักษารสชาติความสดอร่อยของเนื้อปลาเอาไว้
ปลาบรีมทั้งตัวนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ วางลงไปบนจานจากนั้นก็ใช้หม้อหนึ่งอบไว้จนสุก ใส่น้ำมันมะกอกลงไปในกระทะเหล็กทอดขิงแก่หั่นเส้นกับต้นหอม จากนั้นก็เติมเหล้าทำอาหาร ซอสถั่วเหลือง ซอสอาหารทะเลใส่ไปบนเนื้อปลาปลาบรีมหั่นชิ้นที่อยู่บนจาน จากนั้นก็นำออกจากเตาได้
พวกเด็กๆ กลับมาจากโรงเรียนแล้ว พาวลิสกำลังทบทวนและเตรียมบทเรียนล่วงหน้าอย่างตั้งใจ มิเชลถือลูกบาสออกไปซ้อมการสัมผัสลูก ส่วนกอร์ดอนก็นั่งเล่นเกมอยู่บนโซฟา อุ้งเท้าสองข้างของหลัวปอก็ขยับปัดไหล่ของเขา มองดูเขาเล่นเกมอย่างเมามัน
เชอร์ลี่ย์สนใจการทำอาหารจีนจึงเข้าไปในครัวเพื่อเรียนรู้วิธีการทำปลา โหวจื่อเซวียนได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวก็เผลอตัวหันกลับไปดู หลังจากนั้นตาของเขาก็เบิกกว้างทันที
เมื่อมองผ่านหน้าต่างห้องครัวออกไป ก็เห็นเด็กสาวกำลังแย้มยิ้มภายใต้แสงอาทิตย์ยามบ่ายที่สาดส่องลงมา ผมยาวตรงสลวยของเธอส่งประกายสีทองระยิบระยับ ผิวนุ่มเนียนละเอียดเหมือนกับหยกสีขาวนวล ดวงตาทั้งสองข้างแวววาวสวยงามเหมือนกับไข่มุกสีดำที่ฉินสือโอวเก็บขึ้นมาจากทะเล อวัยวะบนใบหน้าสวยไปทุกสัดส่วน โครงหน้าก็งดงามจนกินใจ
หายใจกระชั้น ใจเต้นแรงขึ้น เลือดสูบฉีดจนทั่วใบหน้า เขาสั่นสะท้านไปทั่วกาย หนุ่มติดบ้านรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ขนาดตอนที่วินนี่เข้ามาข้างในเขาก็ไม่เห็นจะมีอาการผิดปกติอะไร หันไปมองหนึ่งครั้งก็เลิกสนใจแล้ว
“หนุ่มติดบ้านนี่เป็นโรคอย่างหนึ่งจริงๆ นั่นล่ะ” ฉินสือโอวส่ายหัวอย่างจนปัญญา
สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ เด็กสาวผมบลอนด์เพียงแต่สนใจเทคนิคการทำปลาของหนุ่มติดบ้านเท่านั้น ตอนที่เรียนอยู่ก็เรียกเขาเสียงหวานว่าพี่ชายคะ พี่ชายขา พอเรียนเสร็จแล้วก็สะบัดผมแล้วอุ้มเอากระรอกน้อยเสี่ยวหมิงออกไปเล่นข้างนอกแล้ว
“โอ๊ย อย่าไปเลย ฉันยังทำอาหารจีนเป็นอีกหลายอย่างเลยนะ” หนุ่มติดบ้านพูดด้วยความเสียดาย
“หนูแค่เรียนวิธีทำปลาก็พอแล้วล่ะ เรื่องอื่นหนูทำได้เยอะกว่าพี่ซะอีก แล้วหนูก็มีพี่ฉินช่วยสอนหนูด้วย” เด็กสาวผมบลอนด์พูดทิ้งท้ายไว้อย่างภาคภูมิใจแล้วเดินจากไป
หนุ่มติดบ้านมองฉินสือโอวด้วยความอิจฉาแล้วพูดกับเขาว่า “พี่ชาย…”
“พี่ฉิน ไม่ใช่พี่ชาย!” วินนี่เข้ามาแก้ พร้อมทั้งส่งสายตาดุๆ ให้กับฉินสือโอวไปด้วย
เด็กสาวผมบลอนด์ยิ่งโตก็ยิ่งสวยจนเหลือเชื่อ วินนี่เริ่มเป็นห่วงแล้วล่ะ
อาหารเย็นมื้อนี้เป็นเมนูปลาน้ำจืดเลิศรสที่หลากหลาย วินนี่ทานปลาดุกตุ๋นกระทะเหล็กเข้าไปหนึ่งคำ เธอพยักหน้าแล้วพูดขึ้นมาว่า “อืม ไม่เลวเลย เจ้าลิงน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าทักษะการทำปลาของนายจะดีขนาดนี้”
โหวจื่อเซวียน “พี่สะใภ้ ผมเคยอธิบายไปแล้วนี่ เจี้ยนผานโฮ่วมาจาก ‘อ๋องกับโหว’ ไม่ได้มาจากคำว่าลิงสักหน่อย”
วินนี่ป้อนปลากะพงนึ่งให้ลูกหมาป่าขาวกิน เจ้าตัวเล็กเคี้ยวอยู่สักพักก็คายออกมา สายตาที่มันใช้มองปลาก็มีแต่การดูแคลน
“ลูกหมาสีขาวตัวนี้เลือกกินจริงๆ” โหวจื่อเซวียนพูดพร้อมทั้งหัวเราะออกมา
ลูกหมาป่าขาวกับสุนัขแลบราดอร์ต่างก็สัมผัสได้ถึงคำสบประมาท จึงพากันจ้องเขาด้วยสายตาดำมืด
ถึงจะยอมรับว่าปลาน้ำจืดที่เอามาทำอาหารจีนนั้นจะมีรสชาติอร่อย แต่คนขาวอย่างชาร์คกับซีมอนสเตอร์ก็ไม่สนใจพวกมันอยู่ดี พวกเขาชิมแค่พอเป็นมารยาทจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ตั้งแต่ภรรยากับลูกของพวกเขามาอยู่ที่ฟาร์มปลาด้วยกัน พวกเขาก็ไม่ค่อยอยู่ทานข้าวกับพวกฉินสือโอวแล้ว
ในตอนท้ายฉินสือโอวก็ตะโกนบอกพวกเขาว่า “เตรียมตัวให้ดีล่ะ อีกไม่กี่วันพวกเราจะไปจับกุ้งมังกรที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์กัน”
“จะออกเดินทางเมื่อไรเหรอครับ?” นีลเซ็นที่กำลังทานปลาบรีมทอดใส่ขิงกับหอมอย่างเอร็ดอร่อยก็ถามขึ้นมา เขากับเบิร์ดเป็นทหารเก่า เลยไม่ได้สนใจเรื่องอาหารมากนัก ขอแค่ทานได้ก็พอแล้ว
“นายกับเบิร์ดอยู่ดูแลที่นี่แล้วกัน ฉันกลัวจะมีคนเข้ามาวุ่นวายที่ฟาร์มปลา” ฉินสือโอวกล่าว
ครั้งนี้เขาจะพาชาร์คกับอีวิลสันไปด้วย เพราะไม่ว่ายังไงชาวประมงพวกนั้นก็ขับเรือเป็นกันทุกคนอยู่แล้ว จึงเหลือเบิร์ด ซีมอนสเตอร์กับนีลเซ็นไว้ช่วยดูแลบ้าน
…………………………………………………