ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 413 สมุนเทพโพไซดอน
เพราะประมาทคู่ต่อสู้เกินไป ฉลามกบเจ็ดพี่น้องจึงกลายเป็นเจ็ดพี่น้องหน้าโง่ พากันทำอะไรโง่ๆ!
ศัตรูตัวฉกาจของกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีก็คือสัตว์จำพวกปลา ในระหว่างการต่อสู้พวกมันได้สะสมประสบการณ์การต่อสู้ไว้มากมาย ดังนั้นเมื่อฉลามกบเจ็ดพี่น้องปรากฏตัวขึ้น กั้งพวกนี้จึงไม่ได้รู้สึกกลัว แต่กลับยกกำลังออกตีโต้อย่างกล้าหาญ
กระแสน้ำที่ถูกจิตสำนึกแห่งโพไซดอนควบคุมกวาดเอาพวกกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีเข้ามารวมอยู่ด้วยกัน จนกั้งตัวเล็กๆ หลายร้อยตัวดูเหมือนกองกำลังทหารหนึ่งกอง แย่งชิงกันนำขึ้นหน้า บุกเข้ามาหาฉลามกบเจ็ดพี่น้อง
พี่ใหญ่มันเดย์เข้าเผชิญหน้า มันอ้าปากออกแล้วเริ่มงับเข้าไป แค่ครั้งเดียวก็กลืนกั้งลงไปได้ถึงสิบกว่าตัว
กั้งตั๊กแตนเจ็ดสีมีความปรารถนาต่อการอยู่รอดที่รุนแรงมาก กั้งที่ถูกมันเดย์กลืนเข้าไปในปากไม่ได้ถูกเคี้ยวจนแตกเป็นชิ้นตั้งแต่แรก พวกมันจึงออกหมัดด้วยความรวดเร็ว โจมตีฟันและปากของมันเดย์อย่างรุนแรง
มันเดย์เหมือนกับถูกไฟฟ้าช็อต ตาของมันเบิกโพลงขึ้นมาทันที เคี้ยวอยู่แค่ครู่เดียวก็คายกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีที่กินเข้าไปออกมา
โคตรเจ็บเลย! มันเดย์เจ็บจนน้ำตาไหล!
ครั้งนี้เป็นถือว่าเป็นกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีที่เป็นฝ่ายพลาด ถึงอย่างไรฉลามกบก็มีซี่ฟันที่แหลมคมกับแรงกัดที่ทรงพลัง ถ้าหากเป็นปลาทูน่าทั่วไป หรือพวกปลาเเซลมอนแปซิฟิก โดยพื้นฐานแล้วพวกมันจะไม่สามารถกำจัดเปลือกของกั้งตั๊กแตนได้ จึงมักจะกลืนเข้าไปและหลังจากนั้นก็ทำได้แค่คายกั้งตั๊กแตนออกมาด้วยสภาพที่เหมือนเดิมทุกประการ
เป็นเหมือนเพลง ‘พาฉันมาก็เอาฉันกลับไป กินฉันเข้าไปก็คายฉันออกมา!’ ท่ามกลางมหาสมุทรอย่างแท้จริง
เจ็ดพี่น้องล้มลุกคลุกคลานจากการโจมตี หลังจากที่รู้แล้วว่าสัตว์น้ำตัวเล็กๆ พวกนี้รับมือได้ยาก พวกมันก็ไม่ลังเลเลยที่จะหันหัวว่ายหนีไป
สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ เมื่อสักครู่พวกมันบุกเร็วไปหน่อย จึงเบรกไม่อยู่ชั่วขณะ เพราะไม่ว่าอย่างไรน้ำทะเลก็มีแรงเสียดทานน้อยอยู่แล้ว ไม่เหมือนกับบนบกที่อยากจะหยุดก็หยุดได้เลยทันที
เมื่อเป็นเช่นนี้เจ็ดพี่น้องจึงมุดเข้าไปในฝูงกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีทันที พวกกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีผ่านการวิวัฒนาการมามากกว่าสิบล้านปี ก้ามด้านหน้าของพวกมันวิวัฒนาการจนกลายเป็น “กำปั้นสปริงเหล็ก” ที่ทรงพลังหนึ่งคู่ หลังจากปิดล้อมเจ็ดพี่น้องเอาไว้แล้ว พวกกั้งตั๊กแตนที่ฉลาดในการเอาตัวรอด ก็โบกหมัดด้านหน้าที่มีแรงยืดหยุ่นอย่างเต็มเปี่ยม ทุบลงไปบนตัวฉลามกบอย่างรุนแรงและรวดเร็ว…
ด้วยเหตุนี้เจ็ดพี่น้องจึงถูกช็อตไม่หยุด ผิวด้านนอกที่อ่อนนุ่มมีเลือดไหลออกมา เนื้อในหลายบริเวณก็ถูกเจาะออก เรียกได้ว่าน่าอนาถจนทนดูไม่ได้!
ชื่อนักฆ่าแห่งท้องทะเลของกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีนั้นไม่ได้มาอย่างเสียเปล่า พวกมันชำนาญการโจมตีอีกทั้งยังมีอุบายในการโจมตีที่หลากหลาย มีทั้งใช้หมัดแหลมชกออกไปด้วยความรวดเร็วครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนกันกับนักมวย มีทั้งพวกที่ปิดก้ามเข้าหากันจนกลายเป็นค้อนเหล็ก ทุบฉลามกบ ‘ปังๆๆๆ’ เหมือนนายพลบนสนามรบโบราณ
ฉลามกบเจ็ดพี่น้องไม่มีความสามารถที่จะโต้ตอบกลับได้เลย พวกมันทำได้เพียงส่ายสะบัดอย่างบ้าคลั่งแล้วรีบพุ่งออกมา โชคดีที่พวกมันมีปฏิกิริยาตอบโต้ที่ว่องไว ถ้าหากว่าติดอยู่ในฝูงกั้งตั๊กแตนนานกว่านี้อีกหน่อย คาดว่าพวกมันคงถูกทุบตีจนตาย…
แท้จริงแล้วกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีไม่ได้เก่งกาจขนาดนี้ พวกมันก็เหมือนกับเฉิงเหยาจิน ที่ใช้เป็นแค่ขวานเท่านั้น เป็นความจริงที่การโจมตีด้วยการโบกฉมวกของมันรุนแรงมาก แต่มันก็เป็นการสิ้นเปลืองกำลังกายอย่างมากเช่นกัน ในสถานการณ์ปกติการโจมตีติดต่อกันสี่ห้าครั้งก็นับว่าเกินขีดจำกัดแล้ว
นอกจากนี้กั้งตั๊กแตนเจ็ดสียังไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่อยู่กันด้วยความสามัคคี ปกติแล้วพวกมันจะทำการสู้รบแบบเดี่ยว ดังนั้นเมื่อพบกับปลาใหญ่ถ้าไม่สามารถโจมตีติดต่อกันสี่ถึงห้าครั้งเพื่อขับไล่ศัตรูให้หนีไปได้ พวกมันก็จะเป็นฝ่ายที่ถูกกำจัดเสียเอง
ในครั้งนี้ฉลามกบเจ็ดพี่น้องโชคไม่ดี เพราะฉินสือโอวรวบรวมกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีที่อยู่กระจัดกระจายเข้ามารวมไว้ด้วยกันเสียก่อน เอาล่ะ ถือว่าเขารนหาที่เองจริงๆ กั้งตั๊กแตนเจ็ดสีหนึ่งฝูงรวมกันเป็นกองทัพ ก็ไร้ซึ่งหนทางที่จะเอาชนะพวกมันได้
ฉินสือโอวเป็นห่วงพวกเจ็ดพี่น้องหน้าโง่ พูดกันด้วยเหตุผล เขาจะปล่อยให้เจ้าพวกซื่อบื้อนี่ต้องพบกับผลของความผิดพลาดแทนเขาไม่ได้ เขาจึงถ่ายทอดพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้กับพวกมัน
ฉลามกบเจ็ดพี่น้องฉวยโอกาสนี้ ร้องไห้ขี้มูกโป่งเข้ามาหาเขาเพื่อขอพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเพิ่มอีก เมื่อฉินสือโอวเพิ่มพลังเข้าไปมากพอแล้วเขาก็หยุดการถ่ายทอดพลังลง คิดใคร่ครวญดูว่าจะรับมือกับกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีพวกนี้ยังไง
แต่ปรากฏว่าฉลามกบเจ็ดพี่น้องนี่เอาแต่ว่ายวนไปเวียนมาอยู่ตรงหน้าเขา จนเขารู้สึกรำคาญแทบทนไม่ไหว เขาจึงไหลเวียนกระแสน้ำออกไปด้วยความโมโห พาเจ็ดพี่น้องฉลามติ๊งต๊องลอยออกไปไกล
พอไล่ฉลามกบไปแล้ว กองกำลังทหารพันธมิตรกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีที่ดูเหมือนกับสายรุ้ง ก็เล็งเป้าหมายไปที่ไอซ์สเกตกับบอลหิมะต่อ
น่าสงสารจัง ไอซ์สเกตกับบอลหิมะยังเป็นเด็กอยู่เลยนะ…
ฉินสือโอวเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว เขาจึงต้องเรียกทหารองครักษ์ให้ออกปฏิบัติการ พอเขาออกคำสั่ง เฮยป้าหวังกับกองทัพงูเหลือมทะเลก็แยกกันบุกเข้ามาสมทบ จากบริเวณทะเลลึกและดงสาหร่ายสีน้ำตาลในฟาร์มปลาด้วยความกำแหง
มองเห็นคู่ต่อสู้ที่เมื่อเทียบกับตัวเองแล้วเรียกได้ว่ามีขนาดใหญ่มหึมากว่ามาก กั้งตั๊กแตนเจ็ดสีกลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย พวกมันยกหมัดขึ้นสูง บุกสู้ต่ออย่างไม่กลัวตาย!
ฉินสือโอวถึงกับเสียขวัญ นี่มันเรื่องอะไรกัน? ความกระหายในการต่อสู้แบบนี้ หรือว่าพวกมันจะเป็นเผ่าพันธุ์แห่งการต่อสู้ในตำนาน?
อากาศหนาวเหน็บจนพื้นดินจับตัวกันเป็นน้ำแข็ง กำลังสู้รบของกองทัพงูเหลือมทะเลก็ลดจากระดับแม็กซ์มาสู่ระดับพลังอันน้อยนิด เดิมทีพวกมันซ่อนตัวอยู่ในดงสาหร่ายสีน้ำตาล พอถูกฉินสือโอวเรียกมา พวกมันแต่ละตัวก็แทบจะหนาวจนแทบจะกลายเป็นท่อนไม้ในทะเลอยู่แล้ว
จนปัญญาจริงๆ ฉินสือโอวจึงทำได้แค่ปล่อยให้กองทัพงูเหลือมทะเลหนีกลับไป เห็นจิตใจที่แน่วแน่ต่อการสู้รบของกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีที่เยี่ยมยอดขนาดนี้ เขาก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที ถ้าหากเขาฝึกกั้งตั๊กแตนพวกนี้ให้ออกไปรุกรานที่อื่นๆ ได้ ก็ดูจะเป็นเรื่องน่าสนใจอยู่เหมือนกัน
จุดมุ่งหมายที่เขาต้องการจะรุกรานไม่ใช่พวกปลาชนิดอื่นที่อยู่ในทะเล แต่เป็นของบางอย่างที่อยู่บนพื้นดินต่างหาก อย่างเช่น ฟาร์มปลาแกธเธอริง…
ลองคิดๆ ดูแล้ว พอเริ่มการก่อสร้างในบริเวณวิลล่าของฟาร์มปลาแกธเธอริง ถ้าอยู่มาคืนหนึ่ง มีฝูงกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีขึ้นฝั่ง แล้วมุดเข้าไปในวิลล่าพวกนั้น จะน่าสนุกขนาดไหน!
ไม่ต้องพูดแล้ว ฉินสือโอวแผ่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปปกคลุม ควบคุมฝูงนักฆ่าให้ขยับออกก่อน ถ้ายังอยู่ที่นี่ก็คงจะทำลายล้างความเป็นอยู่ของหอยนางรมลอย
เมื่อพาพวกกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีออกห่างจากแนวปะการังแล้ว เขาก็พาพวกมันเข้าใกล้ชายฝั่งก่อนเป็นอันดับแรก ฉินสือโอวถ่ายทอดพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้แก่พวกมันไปบางส่วน จากนั้นค่อยให้พวกมันกินลูกกุ้งมังกร ยังไงก็มีลูกกุ้งมังกรอยู่ตั้งหลายล้านตัว ค่อยๆ กินไปเถอะ
กั้งตั๊กแตนไม่ได้กินแค่หอย แต่ยังกินกุ้งเป็นอาหารอีกด้วย ถ้ากันพูดจริงๆ ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีคำว่า ‘กุ้ง’ อยู่ในชื่อ (ในภาษาจีน) และจัดอยู่ในสัตว์จำพวกกุ้ง แต่ความจริงแล้วพวกมันไม่ใช่กุ้ง แต่เป็นสัตว์ประเภทมาลาคอสตราคา
นี่สามารถดูได้จากโครงสร้างส่วนดวงตาของพวกมัน พวกมันเหมือนกับแมลงและสัตว์ประเภทครัสเตเชียน มีโครงสร้างดวงตาแบบประกอบ โครงสร้างดวงตาแบบนี้ต่างกันกับดวงตาของกุ้งโดยสิ้นเชิง
ทุบ ‘กร๊อบๆ’ แค่แป๊บเดียว เป็นกุ้งแดงที่ดวงซวยก่อนตัวอื่น พอถูกทุบจนตายแล้วก็ถูกกินเข้าไปอย่างตะกละตะกลาม หลังจากนั้นกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีที่รวมตัวกันเป็นกองทัพนักฆ่าก็มุ่งหน้าไปหาลูกกุ้งมังกร
เมนล็อบสเตอร์ฉลาดเฉียบแหลม พอเห็นผู้ไม่ประสงค์ดี พวกมันก็ไม่ลังเลที่จะหนีเอาชีวิตรอด…
พาพวกกั้งตั๊กแตนไปส่งไว้บริเวณรอบๆ ท่าเรือแล้ว ฉินสือโอวก็กลับมาที่แนวปะการัง เพิ่มพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนแล้วแผ่ขยายมันไปทางทิศเหนือ
ตอนแรกเขาวางแผนไว้ว่าจะควบคุมการเคลื่อนย้ายของหอยนางรมลอย แต่พวกหอยนางรมลอยกับกั้งตั๊กแตนมีการสู้รบที่ดุเดือดเกินไป กีบเท้าของหอยนางรมลอยจำนวนมากถูกตัดจนขาดออกจากตัว ตอนนี้จึงเคลื่อนย้ายไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงขยายทิศทางการเจริญเติบโตของแนวปะการัง
ฉินสือโอวแบ่งพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปเป็นส่วนๆ แบ่งให้แนวปะการังไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งก็ถ่ายทอดให้กับกองทัพกั้งตั๊กแตนนักฆ่าทั้งหมด
ช่วยไม่ได้ สติปัญญาของกั้งตั๊กแตนต่ำเกินไป ยกเว้นว่าจะใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนบังคับ นอกจากนั้นก็จะไม่สามารถออกคำสั่งได้แล้ว จึงทำได้แค่ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการของมัน ถึงจะทำให้มันสามารถรับคำสั่งของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนได้ในเร็ววัน
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าตั้งแต่ต้นจนจบ ฉินสือโอวจัดการเรื่องกองทัพนักฆ่าจนเรียบร้อยแล้ว ถึงได้กลับไปนอน
พอนอนพลิกตัวอยู่บนเตียง ตัวของฉินสือโอวก็เข้ามาใกล้กันกับวินนี่ ปรากฏว่าเขายังไม่ทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น หลัวปอที่กำลังฝันหวานอยู่ก็หูผึ่งขึ้นมาทันที ทันใดนั้นมันก็เงยหน้าขึ้นแล้วกัดฉินสือโอวอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
แม่เอ็งบึ้ม! ฉินสือโอวโมโหเจ้าตัวแสบจะตายอยู่แล้ว เขาสุดจะทนแล้ว พรุ่งนี้ต้องจัดการเจ้าเด็กแสบตัวนี้ให้ได้!
…………………………………………………