ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 433 แหล่งรวมล็อบสเตอร์
ภายในวันเดียว เรือฮาวิซทก็ได้ล็อบสเตอร์มาเพิ่มอีกหนึ่งพันกว่าปอนด์ในการเก็บเกี่ยวรอบสอง ถือว่าประสบความสำเร็จงดงาม
เหล่าชาวประมงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น แลนซ์คาบกล้องยาสูบสุดที่รักพลางฮัมเพลงพื้นบ้านของนิวฟันด์แลนด์ ‘สัญจรเคียงทะเล’ ทุกๆ คนต่างเพลิดเพลิน
ฉินสือโอวพิงหัวเรือมองเมฆสายัณห์สีชมพู ในมือถือโทรศัพท์ดาวเทียมเครื่องใหญ่โทรหยอดคำหวานกับวินนี่ไม่หยุด
ผ่านไปสักพัก วินนี่จึงเรียกหาหู่จือเป้าจือฉงต้าซึ่งพวกมันก็พากันส่งเสียงระงม เจ้าเด็กพวกนี้เชื่อฟังกันมาก ยกเว้นบางตัว ตอนฉินสือโอวไม่อยู่บ้าน เจ้าพวกนี้ก็เริ่มทำตัวเป็นจิ้งจอกแอบใช้บารมีเสือใช้อำนาจข่มเหงชาวบ้านกัน วินนี่ปล่อยให้พวกมันร้องไป แต่ฉินสือโอวไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
พอเห็นฉินสือโอวยังไม่วางโทรศัพท์ดาวเทียมเสียที บูลก็อุทานว่า “กัปตันนี่รวยจริงๆ นั่นมันโทรศัพท์ดาวเทียมเลยนะ! เขาโทรมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย? ใช้เงินไปตั้งเท่าไรแล้ว?”
ใครคนหนึ่งหัวเราะพลางเอ่ยขึ้นว่า “กัปตันกำลังโทรคุยกับแฟนอยู่ จะเท่าไรก็คุ้มทั้งนั้นแหละ บูล มิน่าล่ะแกถึงทนเมียไม่ได้ ปกติแกก็ขี้เหนียวขนาดนี้เลยเหรอ?”
บูลได้ยินก็หน้าแดงก่ำ ตะโกนว่า “เฟอร์บัค นายต้องขอบคุณกัปตันนะ ถ้าไม่ใช่ว่ากำลังอยู่บนเรือเขา ฉันได้ซัดปากเสียๆ ของแกแน่!”
“อย่างนายน่ะไปอัดกับอีวิลสันดีกว่า อัดตาแก่อย่างฉันไปจะได้แสดงฝีมืออะไรกัน?” เฟอร์บัคหัวเราะ
ได้ยินดังนั้นบูลก็ก้มหน้าลงอย่างคับแค้นใจ เขาสู้อีวิลสันไม่ได้จริงๆ
ฉินสือโอวคุยโทรศัพท์เสร็จ เรือประมงลำหนึ่งก็ขับเข้ามา ความยาวประมาณสิบเมตรหน้าตาเหมือนเรือตกปลาที่มีเบ็ดตกปลาห้อยอยู่รอบๆ เบ็ดค่อนข้างสั้นและไม่ได้ใช้สายเบ็ดในการตกแต่เป็นเชือกหนาเท่านิ้วแทน
“พวกเขากำลังทำอะไรน่ะ?” ฉินสือโอวถาม
“มาตกล็อบสเตอร์กันครับ เป็นวิธีตกล็อบสเตอร์แบบหนึ่งของชาวประมงเก่าในรัฐนิวบรันสวิก เชือกหนึ่งเส้นสามารถจับล็อบเตอร์ยักษ์ได้ทีละครั้ง เพียงแค่ต้องดึงเชือกขึ้นมาบ่อยๆ แต่ก็เป็นวิธีเก็บเกี่ยวที่ไม่เลว” ชาร์คอธิบาย
เมื่อคนวางกรงดักกุ้งเห็นการเก็บเกี่ยวของเรือฮาวิซท พวกเขาก็เข้ามาวางเบ็ดตกปลาใกล้ๆ เพื่อตกกุ้งด้วย
เห็นดังนั้นบูลก็ตะโกนด้วยความโมโหทันที “เฮ้ย! เฮ้ย! เฮ้ย! พวกนายน่ะ ดูให้ดีหน่อยสิ นี่มันอาณาเขตของเรือฮาวิซทนะ! เห็นแก่พระเจ้า อย่าคิดจะมาหาเรื่องพวกเราเชียว!”
“นายหัวร้อนเกินไปแล้ว บูล ใจเย็นลงหน่อย ที่นี่คืออ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ ไม่ใช่ฟาร์มปลาของพวกเรานะ เราไม่มีสิทธิ์กำหนดพื้นที่ในทะเลตามใจชอบ” ฉินสือโอวกล่าวกับบูลอย่างใจเย็น
เรือตกปลาที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยินฉินสือโอวพูด คนหนุ่มคนหนึ่งก็เอ่ยยิ้มๆ “คุณนี่ ช่างเป็นคนที่มีเหตุผลเสียจริง…”
“เรือฮาวิซท? เรือฮาวิซทที่มาจากเซนต์จอห์นนั่นน่ะเหรอ?” เรือตกปลาของชายร่างยักษ์ลำหนึ่งขับเข้ามาถาม
บูลตอบอย่างอารมณ์เสีย “ก็แน่ล่ะสิ นอกจากพวกเราจะมีเรือฮาวิซทไหนอีก?”
ทุกคนต่างตกตะลึง พอได้ยินเขายืนยันเช่นนั้นคนบนเรือตกปลาก็พากันมองตัวเรือฮาวิซทและชื่อเรือภาษาจีนด้านบน แล้วซุบซิบพูดคุยกันก่อนจะถอนสมอจากไป
พวกฉินสือโอวงุนงง หมายความว่าอย่างไรกัน? พวกตัวเองฉาวโฉ่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ทำไมแค่ได้ยินชื่อเรือพวกเขาถึงกับหนีเลย?
จากนั้นก็มีเรือเข้ามาอีกเรื่อยๆ แต่ทันทีที่รู้ชื่อเรือ เรือพวกนั้นก็พากันถอยกลับหมด
สักพักพวกฉินสือโอวถึงเริ่มเดาออก คนพวกนี้ไม่ได้กลัวพวกเขา แต่เคารพพวกเขาต่างหาก เพราะเรือที่ถอยไปนั้นได้ชักธงขึ้นพร้อมเปิดหวูดเรือประมงด้วย ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพของชาวประมงในทะเล
นอกจากที่เคยช่วยเรือแนสแกสไว้ ฉินสือโอวก็ไม่นึกว่าตัวเองจะทำให้ใครมานับถือได้ แต่ชัดเจนแล้วว่า คนพวกนี้น่าจะรู้เรื่องวีรกรรมที่พวกเขาฝ่าพายุเมื่อคืนนั้นกัน
ใช้เวลาถึงสองวันครึ่งในการจับฝูงเมนล็อบสเตอร์ที่เดินผ่านมา เรือฮาวิซทจึงถอนสมอกลับ
จากทั้งหมดสามวันสี่คืน เรือฮาวิซทก็เก็บเกี่ยวได้สำเร็จในที่สุด บนเรือนอกจากล็อบสเตอร์หกพันปอนด์ ยังมีปลาทะเลชนิดต่างๆ อีกสี่สิบกว่าตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลาแฮดดัค แค่ราคาจากปลาทะเลพวกนี้ก็ได้ไม่ต่ำกว่าสี่แสนแล้ว!
เหล่าชาวประมงเริ่มชินชากับความสามารถในการหาปลาของฉินสือโอว ตะลึงไปหลายครั้งจนหายประหลาดใจแล้ว
หลายวันมานี้พวกเขาเหนื่อยล้ามาก เพราะปลาเยอะเกินไป กลางวันก็ลากอวนกลางคืนก็แยกปลา พวกแลนซ์และบูลแทบจะทำงานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทีเดียว!
แน่นอนว่าเป็นความยุ่งอย่างมีความสุข ถ้าเกิดว่างขึ้นมานั่นหมายถึงเก็บเกี่ยวอะไรไม่ได้เลย
“กลับท่าเรือแล้วไปพักกัน!” ฉินสือโอวเอ่ยขึ้นหลังตรวจดูปริมาณปลากุ้งในถังน้ำแข็ง
ล็อบสเตอร์ต้องนำขึ้นฝั่งไปทั้งเป็นๆ ไม่ใช่ว่าพวกมันจะอยู่ได้แค่หนึ่งร้อยกว่าชั่วโมง แต่เพราะปริมาณล็อบสเตอร์ที่อัดแน่นอยู่ในถังน้ำแข็งนั้นจะทำให้พวกมันขาดอากาศหายใจตายกันได้
พอได้ยินว่ากลับได้แล้ว ทุกคนก็ผ่อนคลายทันที บูลไม่ได้คัดค้าน เพียงเดินไปหามุมหนึ่งในห้องบังคับการแล้วซุกตัวผล็อยหลับไป
ชาร์คไม่พูดอะไรเกี่ยวกับการที่ฉินสือโอวจะให้ราคาสูง แต่เอ่ยด้วยความเลื่อมใสแทน “พวกเขาเป็นคนดีทั้งนั้นเลย! ผมไม่ได้เห็นคนหลายคนที่ตั้งใจทำงานขนาดนี้มานานแล้ว ผมรู้ว่านี่ออกจะน่าอายสักหน่อย แต่ผมก็ต้องขอชมคุณนะบอส คุณเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำจริงๆ”
ฉินสือโอวค่อนข้างกระอักกระอ่วน คุณพี่ตอกหน้าผมมากครับ ผมเป็นผู้นำบ้าอะไรล่ะ กลางวันกินลมอาบแดดกลางคืนก็ได้กินดื่มเต็มที่แล้วยังวิ่งไปนอนในห้องโดยสารเสียเต็มตื่นอีกเนี่ยนะ?
ขณะที่พวกชาวประมงเหนื่อยแทบตาย เขากลับยังมีพลังล้นเหลือ
หลังประสานเรื่องเส้นทางกับชาร์ค ฉินสือโอวก็ขับเรือประมงไปยังท่าเรือที่ใกล้ที่สุด
สโนว์ดิคเป็นแค่ท่าเรือเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐนิวบรันสวิก ก่อนศตวรรษที่ยี่สิบ สิ่งที่โดดเด่นของสถานที่นี้มีเพียงทิวทัศน์อันน่าหลงใหลของทะเลแอตแลนติกและพวกหินรูปทรงประหลาดเท่านั้น แต่เมื่อราคาล็อบสเตอร์แอตแลนติกทะยานสูงขึ้น หมู่บ้านประมงเล็กๆ แห่งนี้จึงกลายเป็นแหล่งรวมของล็อบสเตอร์ไป เพราะข้อได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์
เขาขับเรือมุ่งสู่ทิศตะวันตกไปแผ่นดินของรัฐนิวบรันสวิกที่ยื่นออกมาเหมือนจะงอยปากเหยี่ยวทะเล ส่วนหน้าของชายฝั่งนี้ก็คือหมู่บ้านและท่าเรือปัจจุบันของสโนว์ดิคนั่นเอง
ตกเย็นแสงสายัณห์สาดส่อง เรือฮาวิซทก็เข้าเทียบท่าอย่างเป็นทางการ
ทุกครั้งที่ถึงฤดูตกปลา สโนว์ดิคจะดูอลังการเป็นพิเศษ ตอนเรือประมงเข้าจอดใกล้ๆ ท่าฉินสือโอวเห็นแต่ไกลว่ารอบข้างเต็มไปด้วยเรือประมงมากมายทั้งสีแดง สีดำ สีขาว ตั้งแต่เรือตกปลาเล็กสิบกว่าตันจนถึงเรือประมงห้าพันตัน แทบจะมีทุกอย่างเลย!
หลังนอนพักสามสี่ชั่วโมง สติและเรี่ยวแรงของพวกชาวประมงก็เริ่มกลับมาบ้าง ฉินสือโอวเตรียมน้ำยาบ้วนปากกลิ่นมินต์เข้มข้นให้พวกเขา พอชาวประมงแต่ละคนได้บ้วนปากก็รู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมาก
แลนซ์และคนอื่นๆ มักมาทำงานที่เซนต์ลอว์เรนซ์กันบ่อยๆ เลยค่อนข้างคุ้นเคยกับท่าเรือสโนว์ดิค พอฉินสือโอวถามว่าจะไปขายปลาที่ไหน ทุกคนก็ต่างตอบเป็นเสียงเดียว “เคลียร์วอเตอร์!”
ชื่อบริษัทเคลียร์วอเตอร์ ถ้าให้แปลก็หมายถึง ‘บริษัทน้ำใส’ เป็นบริษัททางทะเลเกี่ยวกับล็อบสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดาหรือทั่วโลก แน่นอนว่าพวกเขาขายผลิตผลทางทะเลอื่นๆ เช่นกัน เพียงแค่มีล็อบสเตอร์เป็นตัวหลัก ซึ่งราคาล็อบสเตอร์ที่พวกเขาจะให้นั้นถือว่ายุติธรรมที่สุด
………………………………………………